เราเคยคิดมาตลอดว่า ถ้าเราผิวมัน ความชุ่มชื้นไม่ต้องจัดเต็มก็ได้ 

และคิดว่าไม่น่ามีวันที่เราจะผิวแห้ง ก็พื้นฐานเราผิวมันมาตั้งแต่เด็กแล้ว

 แต่เมื่อทำความเข้าใจองค์ประกอบของผิวให้ลึกซึ้งขึ้น

 ว่าผิวที่มีสุขภาพดี ผิวก็ต้องมีสมดุลย์ด้วย ไม่แห้งไม่มันเกินไป 

แล้วก็เริ่มเจอปัญหาผิวที่เป็นไปตามวัยด้วย แต่มันคือธรรมชาติ ^^

 เคยได้ยินกันมั้ย ว่ายิ่งโต ผิวยิ่งแห้ง ถ้าวันนึงไม่ได้เจอด้วยตัวเอง เอาจริงเราไม่เข้าใจประโยคนี้นะ นั่นคือเมื่ออายุมาขึ้น น้ำมันในผิวจะค่อยๆลดลง และเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา ผิวเราแห้งหลังจากอากาศเปลี่ยนแปลง เดี๋ยวเย็น มาร้อน แล้วก็มีการลอกจากการรักษาสิว  ทำให้เข้าใจเลยว่าผิวมันก็มีปัญหาผิวแห้งได้ ที่มาของปัญหาทำให้ค้นพบสกินแคร์ที่ไม่คิดว่าเราจะใช้ได้ ใช้แบบต่อเนื่องจนจะหมด

​
แค่ชื่อก็รู้สึกถึงความเข้มข้นแบบจัดเต็มได้เลย แล้วสิ่งนี้ที่เปลี่ยนความคิดเราได้ว่าไม่ใช่แค่คนผิวแห้งที่ต้องการความชุ่มชื้น เขามีชื่อเล่นเรียกง่ายๆว่า “ครีมบาล์มปราบผิวแห้ง” เราจะแทนด้วยชื่อเล่นแล้วกัน เข้าใจง่ายดี  เขาเป็นครีมที่ออกแบบเนื้อมาเพื่อเอาใจคนผิวแห้งถึงแห้งมาก ยังไม่พอ คนที่ผิวระคายเคืองเก่ง เช่น แดง แสบ คัน ลอก ฯลฯ ก็ใช้ได้ประมาณว่าพกหลอดเดียวครอบคลุมจริงๆ ส่วนผสมที่ชูโรงของหลอดนี้คือ

2% Ectoin

 5% Niacinamide

คุณสมบัติของครีมบาล์มปราบผิวแห้ง

• ปลอบประโลม (Soothing) 
• เติมความชุ่มชื้น (Hydrating) 
• ล็อคความชุ่มชื่น (Moisture Locking) 
• เสริมเกราะป้องกันผิว (Barrier Strengthening)
• คงสมดุลชีวนิเวศจุลินชีพของผิว (Microbiome Improving)

บอกก่อนว่าถ้าไม่มีปัญหาผิวลอก เราอาจจะไม่หยิบมาใช้บ่อยๆ แต่มากกว่าการเติมความชุ่มชื้น เขาช่วยในการลดการระคายเคืองได้ดีมาก มันครอบคลุมปัญหาสิวผด สิวอักเสบของเราด้วย เลยกลายเป็นว่าต้องมีใช้ในรูทีน เมื่อช่วงที่อากาศเย็นตัวลงเราใช้ทุกวัน แต่ตอนนี้อากาศเปลี่ยน ก็ปรับการใช้เป็นกลางคืน 3-4วัน/สัปดาห์ ถ้ามีอาการผิวลอกจะเน้นแต้มเฉพาะจุด ดูแลเป็นพิเศษ

วิธีใช้
ถ้าคนผิวแห้งมาก ย้ำ แห้งมากจริงๆ ใช้ทาแบบครีมทั่วไปได้ ส่วนตัวเราผิวมัน ช่วยกลางวันจะบีบออกมาทีละเม็ดถั่วเขียวแล้ววอร์มครีมใช้บางที่สุด เกลี่ยให้ทั่วหน้า ส่วนกลางคืน อยากบำรุงเป็นพิเศษก็เพิ่มเลเยอร์ได้

วิธีวอร์มครีมช่วยให้ใช้ครีมได้ง่ายขึ้น ผิวจะได้ความชุ่มชื้นพอดี ไม่เยิ้ม ไม่มัน ในช่วงกลางวัน เราใช้ทาแทนอายครีมด้วยนะ ถ้าคืนไหนนอนดึกมากๆ แล้ววันต่อมา ใต้ตาจะไม่โทรม ไม่แห้ง เวลาลงคอนซีลเลอร์จะไม่ตกร่องด้วย

เอาภาพ Close Up มาให้ดูความเปลี่ยนแปลง ก่อนใช้คือผิวที่คางแห้งมาก และลอกเป็นขุย ที่เน้นช่วงคางเพราะเรามีสิวบริเวณนั้นบ่อย แล้วเวลารักษาสิว หลังสิวยุบ มักจะเจอปัญหาผิวลอกทีละนิด ถ้าวันปกติมันไม่ได้เป็นปัญหา เพราะเราเปลือยหน้าสด แต่ถ้าวันไหนต้องแต่งหน้า นี่ล่ะคือปัญหาเลย

ครีมบาล์มช่วยทั้งรักษาความชุ่มชื้น ลดการระคายเคือง เมื่อปลายปีที่ผ่านมาเราไปอยู่ต่างจังหวัดหลายวัน เจอสภาพอากาศที่เย็นตัวมากสุด 17องศา หน้าแมทท์แบบออโต้ 555555 คิดไม่ผิดที่พกครีมบาล์มของ FYNE ไปด้วย ไม่งั้นผิวไม่รอดแน่ เลยค้นพบอีกอย่างว่า โชคดีแล้วล่ะที่เราผิวมัน 55555 ไม่ชินกับผิวแห้งเลยจริงๆ

พอใช้ต่อเนื่องช่วยให้ผิวเราดูสุขภาพดีขึ้น ดูฉ่ำไปทั้งวัน เนื้อครีมที่ลองมาตอนแรกเราก็กลัวอุดตันนะ แต่การใช้ในปริมาณที่พอดี เลยไม่มีปัญหานี้

อันนี้ภูมิใจนำเสนอ เคยลงIG สตอรี่ไป คนชอบมาก เพราะเราทาให้ดูเรียลๆเลย อินฟลูคนสวยเป็นคุณย่าเราเอง 5555555 ย่าในวัย 85 ผิวแห้งตามวัย แล้วสภาพอากาศที่เดี๋ยวร้อนสุด เย็นสุด ทั้งลม ทั้งฝุ่น เราลองให้ย่าทาครีมบาล์มปราบผิวแห้งดู ใช้ติดต่อกันประมาณ 7วัน ผิวที่แห้งๆกร้านๆ ดีขึ้นมาก อาการคันที่ผิวของย่าก็ดีขึ้นเช่นกัน เลยให้คุณย่าเอาไว้ใช้บำรุงไว้ซะเลย อิอิ

สำหรับค่าตัวครีมบาล์มปราบผิวแห้ง 40 กรัม 1490  บาท

พิกัด Facebook : fyneskinofficial

Line@ : @fyneskin

Shopee : FYNE Skin Official Store

Lazada: FYNE Skin Official Store

Instagram : fyne_skin

Website : www.fyneskin.com