คนดังเปิดใจ fashion failที่ทำให้คิดว่าไม่น่าเลย
candy 51 14ไม่ว่าใครก็เคยพานพบกับโมเมนท์อันแสนสนุกสนานกับการแต่งตัวจัดเต็ม แต่ในบางครั้ง เมื่อได้มองย้อนกลับไปมอง fashion ที่เราเคยภาคูมิใจนักหนาก็อาจจะทำให้สับสนว่า อะไรไปดลใจให้แต่งตัวแบบนั้นออกจากบ้าน!
แม้แต่คนดังที่มี glam team และ stylist ร่วมวางแผนเตรีมพร้อมเพื่อเนรมิตลุคสุดเริ่ดก็เคยมีความทรงจำแบบ fashion fail จนต้องยอมรับออกมาตรงๆว่าพลาดจริงๆ หลายคนได้เรียนรู้เพื่อเก็บเป็นประสบการณ์ไม่ให้ซ้ำรอย หลายคนก็ทั้งอายทั้งขำ
มาติดตามชุดที่คนดังคิดว่า fail จริงๆกันได้เลยค่ะ
That naked dress: Bella Hadid
ชุดที่ที่เปิดเผยเรือนร่างจนถูกตั้งชื่อให้ว่า the naked dress เป็นสิ่งที่อยู่คู่กับอีเวนท์พรมแดงเลิศหรูมานาน ไม่ว่าจะเป็น Met Gala, Vanity Fair party หรือเทศกาลหนังเมือง Cannes แน่นอนว่า ดีไซน์ที่ทำให้ผู้สวมใส่ดูเปลือยเปล่าจะดึงดูดแสงแฟลชบนพรมแดงจนเป็นประกายวูบวาบและกลายมาเป็นหัวข้อข่าวกอสสิปในเวลาต่อมา สำหรับนางแบบดังอย่าง Bella Hadid ก็เคยผ่านประสบการณ์ naked dress มาแล้วหลายครั้ง แต่เมื่อเธอปรากฏกายในชุดแดงร้อนแรงในเทศกาลหนังเมืองCannes ปี 2016 แม้เธอจะโพสท่าอย่างมาดมั่นดุจนางพญา แต่ก็มีอยู่หลายช็อทที่ทำให้ผู้ชมสัมผัสได้ว่า เธอดูอึดอัดและคอยกังวลใจกับชุดที่ดูโป๊เปลือยจนเผยออกมาทางสีหน้าท่าทาง
"ชุดนี้เป็นผลงานของ Alexandre Vauthier ฉันรู็สึกประหม่าตอนที่ได้สวมใส่มัน ฉันดูเย้ายวนทางเพศอะไรแบบนั้นน่ะค่ะ ฉันกังวลกับบรรดากล้องถ่ายรูปและ makeup ที่จัดเต็ม และไหนยังมีชุดที่ผ่าข้างสูงอีก ฉันเห็นว่ามีภาพที่หลุดออกมาอยู่อันหนึ่ง ถึงตอนนี้ก็ยังอายกับโมเมนท์นั้นอยู่ แม้ว่าชุดจะสวยเริ่ดมากก็ตาม"
ช็อทที่ Bella พูดถึงก็น่าจะเป็นตอนที่ตากล้องจับภาพในมุมที่เผยให้เห็นชั้นในเว้าสูงเพื่อทำหน้าที่เซฟและอำพรางให้ชุดผ่าข้างดูเหมือนกับไม่ได้ใส่อะไรไว้ด้านใน นั่นเอง
เจ้าแม่ fashion ยุค 2000s : Ashley Tisdale
content creator หลายเจ้าได้หยิบเอา 'ความเยอะ' ของ fashion ยุค 2000s มาล้อเลียนอย่างสนุกสนาน และจะต้องหยิบเอาหลากหลายลุคของ Ashley Tisdale นักแสดงสาวทีนแห่งค่าย Disney มายืนยันความฮาเสมอ ที่จริงแล้วหลายคนยกให้เธอเป็นราชินีแห่งความมั่นซะด้วยซ้ำ เพราะ energy ที่เปล่งประกายจากภายใน ไม่ว่าเธอจะใส่ชุดที่ดูเหวอมากแค่ไหนก็สดใสีชีวิตชีวาจนต้องชม
"stylist จะแต่งตัวให้พวกเราให้เหมือนกับบทบาทของพวกเราใน TV show เวลาออกงานหรือไปไหนฉันก็จะดูเหมือนกับตัวละครเสมอ (Maddie แห่งSuite Life of Zac & Cody)
"ฉันเคยใส่กระโปรงลายพรางและอะไรบางอย่างที่เป็นขนปุกปุยสีชมพู ฉันไม่รู้ว่ามันด้วยซ้ำไปว่ามันคืออะไรกันแน่ แต่ฉันก็บอกออกไปว่าจัดเต็มมาได้เลย แล้วแทนที่จะใส่แบบปกติ ฉันก็เลือกจะจับมันคาดเฉียงไปตามลำตัว ดูพิลึกพิลั่นสุดๆ มันอยู่ในจุดที่คุณต้องขำตัวเองที่ทำไปได้"
The Oscar' 'Nipple dress': Anne Hathaway
ในปี 2011 เธอคือนางเอกตัวเก็งที่จะคว้ารางวัล Oscar ถึงขั้นที่ว่า หากพลาดรางวัลอาจจะช็อควงการกันไปเลยก็ได้ แน่นอนว่า ตัวเลือกของชุดจะใส่ขึ้นรับรางวัลย่อมหนีไม่พ้นความหรูหราหมาเห่าที่แสดงถึงความเป็นนางเอกของงาน แต่เมื่อได้รับรู้ว่า ชุดที่เธอหมายมั่นปั้นมือว่าจะใส่เฉิดฉายให้งามสะกดใจกลับดูคล้ายคลึงกับเพื่อนนักแสดงหนังเรื่องเดียวกัน การเปลี่ยนใจนาทีสุดท้ายนั้นลงเอยด้วชุดที่เธอต้องจดจำไปอีกนาน เพราะแทนที่ผู้คนจะโฟกัสกับเรื่องการคว้ารางวัลอันทรงเกียรติ พวกเค้ากลับเอาแต่โจษจันเรื่อง nipple dress จาก Prada ที่ทั้งสีสันและดีไซน์จับจีบบนหน้าอกก็ทำให้ Anne Hathaway ดูเหมือนกับมีหัวนมที่ชูชันแย่งซีนทั้งงาน!
ประเด็นสำคัญคือAnne ได้เปลี่ยนจากชุดValentino ดีไซน์เนอร์ที่เธอสร้างสัมพันธภาพอันดีวงามมาตลอดหลายปีมาเป็น Prada เพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนจะเดินพรมแดง เสียงวิพากษ์วิจารณ์ ทำให้เธอต้องออกมาแสดงความเสียใจที่ทำให้เกิดผู้เกี่ยวข้องต้องผิดหวัง (น่าจะเป็นการส่งคำขอโทษไปยัง Valentinoมากกว่าชาวเน็ทที่วิจารณ์เรื่อง nipple dress )
หลายคนอาจจะลืมเลือนไปแล้วว่า เมื่อหลายปีก่อนได้มีการรวมตัวของกลุ่มคนที่หมั่นไส้ Anne อย่างหนัก และเรียกตัวเองว่า Hathahaters แม้ว่าเธอจะไม่ใช่ดาราที่ใช้คำพูดไม่เหมาะสม หรือเป็นแบบอย่างไม่ดีแต่อย่างใด บางคนออกมายอมรับภายหลังว่า แค่หมั่นไส้ว่าเธอดูกระหายความสำเร็จจากผลงาน Les Miserables และแสดงออกมากว่าต้องการคว้ารางวัลOscar และยังโจมตีเรื่อง speech ตอนรับรางวัลจนเป็นเรื่องราวใหญ่โต (หลายปีต่อมาจึงมีผู้ประกาศขอโทษ Anne ที่ไล่ล่าโจมตีเธออย่างไร้เหตุผล)
nipple dress นี่เองที่เป็นอีกหนึ่งตัวการสุมไฟให้เหล่า Hathahaters เยาะเย้ยถากถางเธออย่างไร้ความปราณี
"ฉันต้องเปลี่ยนชุดออกงาน Oscarในนาทีสุดท้ายและมันก็ดูเหมือนว่าหัวนมของฉันแข็งชูชัน ฉันป่วยเป็นปล่องเสียงอักเสบและต้องร้องเพลง บรรดา haters ที่ตามจิกกัดฉันก็ดึงกระแสความสนใจจากสื่อ แต่รู้อะไรไหม มันก็ยังเป็นสิ่งที่เยี่ยมยอดอยู่ดี"
Anne ยังอธิบายว่า เมื่อกระจกก่อนออกงานก็สังเกตเห็นจีบหัวนมอยู่แล้ว สามียังออกปากว่า หัวนมดูแหลมพุ่งจัง แต่มันก็ไม่มีเวลาเหลือจะคิดเปลี่ยนใจอีก
ชุดไปร่วมพิธีแต่งงานที่ปราสาทที่ทำให้ผู้คนโจษจัน: Sophie Turner
อีกหนึ่งในผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในนาทีสุดท้ายก็คือ Sophie Turner หากเธอสวมใส่ชุดนี้ไปชม fashion show หรือออกเทอาจจะไม่ได้เป็นข่าวใหญ่โต แต่นี่คือลุคไปร่วมงานแต่งของKit Harington และ Rose Leslie คู่ขวัญแห่ง Game Of Thrones ซึ่งตัวเจ้าสาวมีเชื้อสายขุนนางจึงเลือกจัดงานที่ปราสาทที่เคยเป็นสมบัติตกทอดของครอบครัว เมื่อ Sophie เข้าร่วมงานในสูทแดงแปร๊ดตัวสั้นและบู๊ทยาวเหนือเข่า ก็ทำให้เธอถูกตำหนิว่าไม่รู้จักกาลเทศะ หรือแรงไปกว่านั้นก็คือ คำกล่าวว่าเธอจงใจแต่งตัวแรงมาแย่งซีนจากเจ้าสาวและแขกเหรื่อคนอื่น!
ภายหลัง Sophie ก็ได้อธิบายที่มาที่ไปของลุคนี้ไว้ว่า...
"ฉันจะนึกเสียใจกับลุคนี้อยู่เสมอไปค่ะ"
"นี่เป็นหนึ่งในลุคที่แย่ที่สุดของฉัน มันเป็นชุดที่ใส่ไปงานแต่งของt Kit และ Rose แล้วก็เกิดสถานการณ์ฉุกเฉินทางfashion ฉันเลือกชุดที่ดูดีมีระดับไว้แล้วสองชุด แต่เมื่อมันมาถึงวันเดียวกันกับงานแต่งก็พบว่า ชุดมันไม่พอดีตัวค่ะ ก่อนหน้านี้ฉันไม่มีโอกาสจะลองใส่ก่อน"
ตัวเลือกที่เหลือของเธอคือ blazerสีแดงตัวนี้
"มันมีให้เลือกแค่ว่า จะใส่บู๊ทยาวเหนือเข่าหรือใส่ส้นสูงสวยๆ แต่ตอนนั้นฉันคิดว่า ถ้าใส่ส้นสูง ก็ต้องโชว์ขาเต็มที่น่ะสิ งั้นก็ปกปิดมันด้วยรองเท้าบู๊ทละกัน มันจึงเป็นหายนะดีๆนี่เอง เป็นตัวเลือกทางfashion ที่แย่สุดๆเลยค่ะ"
ชุดที่ผสมปนเปยุ่งเหยิงจนละเหี่ยใจ: Paris Hilton
ยุต 2000s เป็นช่วงเวลาอันเรืองรองของ Paris Hilton fashionของเธอมีทั้งสวยล้ำและหลายครั้งก็ไปไกลชวนอึ้ง แต่เมื่อถามไถ่ถึงลุคที่เจ้าตัวมองว่าดูไม่ได้เอาซะเลย นี่คือคำตอบของเธอค่ะ
"ฉันได้ชุดนี้มาจาก Patricia Fields(stylist หลักของSex And The City) มันเป้นชุดเกาะอกสีดำกับกระโปรงฟูฟ่องสีชมพู มันดูเยอะเกินไปค่ะ ฉันต้องใส่บู๊ทกันหนาวเพราะตอนนั้นหิมะกำลังตก จะใส่รองเท้าส้นสูงก็ไม่ได้ และอากาศที่หนาวยะเยือกก็ทำให้จำเป็นต้องใส่หมวกบีนนี่"
นอกจะมีหมวกจาก Armani Exchange Paris ยังใส่ปลอกแขน ผ้าคลุมไหล่ และพกมงกุฎเพื่อร่วมสนุกสุดเหวี่ยงใส party
"มันไม่มีอะไรที่เข้ากันสักอย่างเดียว เยอะจนเกินรับไหว เราก็ต้องใช้ชีวิตเพื่อเรียนรู้กันต่อไปค่ะ"
ลุคที่ดูสูงวัยทั้งๆที่ยังเป็นสาวสะพรั่งยุค 90s: Jennifer Lopez
ความงามอมตะของ Jennifer Lopez ในยุค 2020s ทั้งรูปลักษณ์ที่สวยพริ้งไม่ต่างจากช่วงสร้างชื่อเสียงในฐานะ diva จากยุค 2000s และstyle ที่ได้รับเสียงชื่นชมเสมอทำให้ยากจะเชื่อว่าเธอก้าวสู่วัยหลัก 5 แล้ว แต่ J Lo ก็เคยยอมรับว่า เธอเคยมี fashion fail moment เหมือนกัน
"จำได้ว่าตอนที่เริ่มงานวงการบันเทิงช่วงแรกๆ มันมีภาพของฉันที่พิลึกเอามากๆ ใส่ชุดติดกระดุมหน้าสีน้ำตาลและใส่รองเท้าclogที่ขี้ริ้วขี้เหร่นั่นอีก มันทำให้ฉันถามตัวเองว่า อะไรมาดลใจให้คิดว่าชุดนั้นมันดูดี หรือว่าจับมาใส่ด้วยกันแล้วสวยนะ"
หายนะผิวแทน: Selena Gomez
เมื่อเอ่ยถึง Met Gala ที่มีชื่อเสียงเรื่องกำหนด fashion theme สำหรับแขกผู้ร่วมงานนั้น พวกเราคงไม่แปลกใจที่จะได้เห็นบรรดาคนดังแปลงโฉมให้เข้ากับหัวข้อที่แตกต่างกันไปในแต่ล่ะปี และไม่ได้จำกัดอยู่ที่ความสวยหรูดูแพงเหมือนกับงานพรมแดงชื่อดังอื่นๆ พวกเค้าอาจจะปรากฏตัวบนเสลี่ยงที่มีชายกำยำหามขึ้นบ่า ใส่ชุดที่ยาวหลายเมตร หรือจะเป็นดีไซน์เรืองแสง มีกลไกอีกสารพัด นับเป็นอีเวนท์ที่เปิดโอกาสดให้เปลี่ยนลุคกันอย่างสนุกสนานอย่างไร้ขีดจำกัด
แต่ในบางครั้ง ผู้ร่วมงานแสนโด่งดังก็ต้องยอมรับว่า เคย fail เหมือนกัน Selena Gomez คือหนึ่งในนั้น หลังจากที่ชาวเน็ทและ fashion guru หลายเจ้าแปะให้เธอติดอยู่ใน list ลุคที่ดูแย่ที่สุดของ Met Gala เจ้าตัวก็ได้ออกมายอมรับว่า มันดูแย่จนเธอไม่อยากอยู่ร่วมงานต่อด้วยซ้ำไป
"เมื่อหลายปีที่แล้วที่ฉันเตรียมตัวเพื่อจะร่วมงาน พวกเราใช้ tanning lotionทาผิว ซึ่งตอนแรกมันดูสวยเชียว สีผิวก็สม่ำเสมอด้วยค่ะ แต่ในคืนวันงาน สีผิวก็ดูเข้มขึ้นเรื่อยๆ แล้วฉันกำลังอยู่ใน Met Gala ที่แสนเลิศหรู ตอนที่เดินเข้างานก็พยายามวางท่าสวยเฉิดฉาย"
"เมื่อได้นั่งลงชมรูปตัวเองที่ดูส้มไปทั้งตัวเท่านั้นแหละ ฉันก็ได้แต่คิดว่า แย่แล้ว ฉันจะต้องโดน(internet)เล่นงานจนอ่วมแน่"
"ฉันขอให้พนักงานรักษาความปลอดภัยถ่ายคลิปตอนวิ่งหนี เพราะปฏิกิริยาแรกของฉันก็คือ จะต้องออกจากที่นี่โดยด่วน"
"ฉันวิ่งไปที่รถสุดชีวิต แล้วตั้งใจโพสต์คลิปออนไลน์เพื่อจะบรรยายความรู้สึกหลังจากได้เห็นรูปตัวเองในMet Gala นั่นเองคะ"
หลายคนลงความเห็นว่า ผิวที่เข้มขึ้นมาหลายเฉดนั้นอาจจะไม่ดูแย่นัก หากเธอจับคู่กับmakeup ที่ส่งเสริมกัน แต่ลิปสติคสู้นู้ดและดูแมทกลับทำให้เธอดูหมองหม่นลงไป ส่วน bronzer ที่วาวทั้งใบหน้าและลำตัวก็ไม่ได้ช่วยเหลือให้ดีขึ้น เพราะผิวแทนผิดเฉดเป็นสีส้มไปซะแล้ว
ชุดออกงานสุดจี๊ดสมัยวัยรุ่น: Robert Pattinson
ก่อนที่จะโด่งดังอลังการในบทแวมไพร์หนุ่มมากเสน่ห์ แฟนๆ Harry Potter อาจจะสะดุดตา Robert Pattinson ที่แม้ว่าจะไม่ได้รับบทเด่น แต่ก็หล่อวิ้งสม character หนุ่ม hotแห่ง Hogwarts เมื่อเจ้าตัวดังเปรี้ยงปร้างสร้างความคลั่งไคล้ให้กับแฟนๆ Twilight ก็ได้เผยถึงความเซอร์ที่ดูแตกต่างจากheartthrob คนอื่นๆ หลายครั้งเขาปรากฏตัวบนพรมแดงพร้อมกับผมยุ่งเหยิง หรือไม่ก็เป็นทรงที่ดูเหมือนยังตัดไม่เสร็จ หรือบางครั้งก็ใส่เสื้อผ้ายับเหมือนกับไม่ใส่ใจเรื่องรูปลักษณ์มากมายนัก เจ้าตัวเองก็ยอมรับว่า มาพบกับความเปลี่ยนแปลง (ถูกขัดสีฉวีวรรณ) เมื่อได้รับเลือกให้เป็น brand ambassador ให้กับ Dior
และนี่คือลุคที่ทำให้ Robรู้สึกว่าพลาดไปมากที่สุด
Robในวัย 19 ได้บรรยายถึงชุดที่ตัวเองใส่ไปเดินพรมแดงงานฉายหนัง Harry Potter and the Goblet of Fireรอบปฐมทัศน์ที่Londonไว้ว่า
"ผมใส่กางเกงหนังคู่กับบู๊ทคาวบอย แล้วก็ใส่แจ็คเกตผ้ากำมะหยี่ คือว่า ผมดูเหมือนเด็กที่เล่นแต่งตัวเลยครับ"
"ผมล่ะอยากแต่งตัวให้ได้เหมือนกับ A$AP Rocky เขามีstyle ที่เอาเรื่องจริงๆ เราเคยพบกันตอนลองเสื้อผ้ามาหลายหน พอผมเจออะไรที่มันล้ำโดนใจและอยากจะลองใส่ แต่มันทำให้ผมดูเป็นไอบ้างี่เง่า แต่พอได้เห็นRockyมส่เสื้อผ้าพวกนั้น ผมก็ต้องอุทานว่า พระเจ้า คุณนี่ไม่ว่าจะใส่อะไรก็หล่อเท่ไปหมด"
เรียนรู้ที่จะหัวเราะให้กับความ fail: Victoria Beckham
สำหรับผู้ที่เคยชินกับ imageที่เรียบหรูดูแพงรวมถึง minimal style ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Victoria Beckham ก็อาจจะรู้สึกประหลาดใจว่า ในขณะที่เธอสร้างชื่อเสียงพุ่งแรงในฐานะ Posh Spice สื่อมักจิกกัดเรื่อง fashion ว่าดู cheap ไม่สมกับฉายา แม้กระทั่งในปัจจุบันก็ยังหยิบยกภาพในอดีตมาตอกย้ำอยู่บ่อยครั้ง
ภาพที่เธอจับคู่ผ้าโพกหัว ฺBurberryจับคู่กับบิกินี่มักถูกสื่อนำล้อเลียนเปรียบว่าเป็น Chav check* ซึ่งตัวเธอก็ยอมรับว่า ปัจจุบัน แนวคิดในเรื่อง fashion ก็แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง
"หากเป็นทุกวันนี้ ฉันจะโพกหัวด้วยผ้าพันคอ Burberry หรือเปล่า แน่นอนว่าไม่มีทาง! แต่ย้อนไปเวลานั้น มันเป็นอะไรที่ใช่เลย"
*ในยุคนั้น Burberry ต้องตกอยู่ในที่นั่งลำบาก เพราะกลุ่ม chav หรืออาจจะเปรียบเทียบกับสังคมไทยได้ว่าเป็นแวนซ์และสก๊อยของอังกฤษนิยมใส่เสื้อผ้าลายเอกลักษณ์ของBurberry โดยเฉพาะไอเท็มลอกเลียนแบบจนทำให้ Burberry ถูกเหมารวมเป็นสัญลักษณ์ของชนชั่นล่าง ดูไม่แพงสมกับราคาทั้งๆที่สร้างชื่อเสียงมายาวนานนับร้อยปี แบรนด์จะต้องใช้เวลาพักใหญ่ในการพลิกฟื้นภาพความ luxurious กลับมาจนฐานลูกค้าผู้มีอันจะกินเปิดใจต้อนรับเหมือนเดิม ลายของ Burberry ยังได้รับความนิยมในกลุ่มคนดัง จนหลายคนต้องชื่นชมวถึงยุทธวิธีในการเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ที่เสียไป จาก chav ให้กลายเป็น chicได้อีกครั้ง
เมื่อ Victoria เลือใช้ผ้าโพกหัวและใส่บิกินี่ Burberry ในช่วงที่แบรนด์ได้รับความนิยมจากกลุ่ม chav ก็ได้สร้างข้อกังขามาถึงตอนนี้ นั่นเป็นเพราะว่า เธอมีchracter ของสาวหรูผู้มีออร่าลึกลับ แต่มักจะใส่เสื้อผ้าที่เรียกร้องความสนใจมากกว่าเพื่อนร่วมวง โดยเฉพาะหลังจากพบรักกับ David Beckham ที่สื่อกล่าวหาเธอว่า ได้เปลี่ยนแปลงstyle ของนักฟุตบอลชื่อดังจนบางครั้งดูเหมือนตัวตลกที่พยายามจะเป็นผู้นำเทรนด์ ถึงขั้นที่เรียกสามีภรรยาคนดังว่าเป็น 'ราชาและราชินีแห่งChavs' รวมถึงจิกกัดเธอว่าเป็นตัวแทนแห่งความปลอม ทั้งfake tan fake breastsและfake hair extension เรียกได้ว่า เส้นทางความเปลี่ยนแปลงจากจุดที่เคยถูกกระหน่ำโจมตีมาเป็นดีไซน์เนอร์สร้างแบรนด์ของตัวเองได้สำเร็จนั้นก็ต้องผ่านคำปรามาสมามากมายทีเดียว
"มีภาพ paparazziอยู่อันหนึ่งที่ฉัน์กำลังเข้าไปในร้าน Marks & Spencers และกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ ฉันใส่กางเกง tracksuit และรองเท้ากีฬาอะไรสักอย่าง แล้วก็ใส่แจ็คเกตพองๆสีเงิน"
" Cruz ส่งรูปนี้มาให้ฉันแล้วบอกว่า แม่ดูเท่มากเลย ทำไมแม่ไม่แต่งตัวแบบนั้นอีกล่ะ ฉันก็คิดว่า ถ้าใส่ชุดแบบนั้น ตำรวจ fashionก็คงลากตัวฉันไปขังคุกแล้วล่ะ"
(ความเห็นส่วนตัวคือ หากเทียบกับอีกหลายลุคในช่วง 90s-2000s ที่ Victoria ถูกวิจารณ์หนักๆ นี่ไม่ได้ดูย่ำแย่จนต้องถูกตำรวจfashionจับผิด แต่เป็นลุคที่กลับมาเป็นที่นิยมในกลุ่ม Gen Z และMillennials ด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตาม แม้ Victoriaจะยอมรับว่า หลายลุคในอดีตไม่ชวนปลาบปลื้มใจนัก แต่เธอก็ไม่ได้รู้สึกอับอายกับภาพเหล่านั้น และมองว่า มันเป็นส่วนหนึ่งในเส้นทางที่หล่อหลอมให้เธอก้าวมาถึงจุดนี้ได้
"เราจะได้ความสนุกสนานกับการเลือกเสื้อผ้า catsuit หนัง PVC โช้กเกอร์ที่ดูเยอะเวิ่นเวอ ทำทรงผมหัวหนามสีบลอนด์โดยที่เราไม่รู้ตัวเลยว่ามันดูน่าหัวเราะสักแค่ไหน"
"หรือจะเป็การร่วมงานประกาศรางวัลด้วยลุคที่เหมือนแดรกควีน แต่ฉันกลับย้อนมองภาพพวกนั้นด้วยรอยยิ้ม สิ่งเหล่านี้ได้เพิ่มความน่าสนใจให้กับชีวิตของคุณ เมื่อได้เปลี่ยนแปลงจากความสุดโต่งมาเป็นอีกรูปแบบหนึ่ง ฉันชอบที่เราแสดงตัวตนได้อย่างอิสระ"
The End