Jeban's LAB กันแดดบางเบา อันไหนใช้แล้วไม่วอก ไม่เหนอะ?
sweetsong13 38 16
สวัสดีค่าาา ตอนนี้เราก็เข้าสู่หน้าร้อนอย่างเป็นทางการกันแล้ว ซึ่งหน้าร้อนแบบนี้จะขาดกันแดดไปไม่ได้เด็ดขาด ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ออกไปเที่ยวที่ไหน ก็ควรทากันแดดทุกวันแม้จะอยู่บ้านนะจ๊ะ
และพูดถึงกันแดดที่เราจะทาตอนอยู่บ้าน โดยเฉพาะอากาศร้อนๆ แบบนี้ นอกจากจะต้องเป็นกันแดดที่มีประสิทธิภาพ (เรื่องประสิทธิภาพเราคงไม่สามารถวัดได้น้า มาวัดด้านการใช้งานจริงกันดีกว่า) ก็ต้องเป็นกันแดดที่เนื้อบางเบา ทาแล้วไม่ทำให้หน้าวอก หรือเหนอะด้วยใช่มั้ยล่ะ
วันนี้เราก็เลยหยิบกันแดดที่ขึ้นชื่อเรื่องความบางเบามาทดสอบซะเลย ว่าจะบางเบา ไม่มัน ไม่เหนอะ ไม่วอก จริงอ๊ะเปล่าาา
และพูดถึงกันแดดที่เราจะทาตอนอยู่บ้าน โดยเฉพาะอากาศร้อนๆ แบบนี้ นอกจากจะต้องเป็นกันแดดที่มีประสิทธิภาพ (เรื่องประสิทธิภาพเราคงไม่สามารถวัดได้น้า มาวัดด้านการใช้งานจริงกันดีกว่า) ก็ต้องเป็นกันแดดที่เนื้อบางเบา ทาแล้วไม่ทำให้หน้าวอก หรือเหนอะด้วยใช่มั้ยล่ะ
วันนี้เราก็เลยหยิบกันแดดที่ขึ้นชื่อเรื่องความบางเบามาทดสอบซะเลย ว่าจะบางเบา ไม่มัน ไม่เหนอะ ไม่วอก จริงอ๊ะเปล่าาา
กันแดดที่ใช้ทดสอบ
กันที่เราเลือกมาทดสอบนี้ ได้มาจากการเทียบว่าในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา คนเสิร์ชกันแดดแบรนด์ไหนเยอะสุดใน Google, Jeban และจากการสอบถามชาวจีบันว่าตอนนี้กำลังสนใจหรือใช้กันแดดตัวไหนอยู่ ได้ออกมาเป็น 6 กันแดดแบรนด์ดังสุดฮิตนี้เลยค่าาา
- La Roche-Posay Anthelios Invisible Fluid SPF 50+ PA++++
- LANCÔME UV Expert Aqua Gel SPF50 PA++++
- Eucerin Sun Dry Touch Acne Oil Control Face SPF50+ PA+++
- FYNE Hybrid Light Hydrating Sunscreen Broadspectrum SPF 50 PA+++
- HER HYNESS Royal Hya Water Sunscreen SPF50+ PA++++
- ISDIN Fusion Water SPF 50
ทดสอบความเหนอะ
ทากันแดดที่มือทิ้งไว้ 1 นาที ให้กันแดดได้เซ็ตตัว จากนั้นก็เอามือจุ๊บกองกระดาษชิ้นเล็กๆ ดูสิว่าจะมีกระดาษติดมาขนาดไหน ถ้าติดมากก็แสดงว่าเนื้อยังมีความเหนอะมากอยู่ ติดน้อยก็แสดงว่าซึมไวไม่ทิ้งความเหนอะเอาไว้นั่นเอง
จะเห็นได้ว่าหลังผ่านไป 1 นาที Her Hyness แทบไม่ทิ้งความเหนอะไว้เลย รองลงมาคือ Fyne, La Roche-Posay และ ISDIN ที่ใกล้เคียงกัน ส่วน LANCÔME ยังมีความเหนอะผิวอยู่ และ Eucerin จะทิ้งความเหนอะไว้เยอะที่สุด
ทดสอบการปล่อยน้ำมัน
ดูเบื้องต้นว่ากันแดดแต่ละตัวมีน้ำมันที่ปล่อยออกมามากขนาดไหน ซึ่งปล่อยน้ำมันออกมาเยอะก็ไม่ได้แปลว่าผิวจะมันเยอะ เช่นเดียวกับน้ำมันออกมาน้อยก็ไม่ได้หมายความว่าผิวจะไม่มันเสมอไปน้าา
ทดสอบบนหน้าจริง 3 สภาพผิว
ทดสอบลงบนผิวจริงของทั้ง 3 สภาพผิว โดยไม่ทาสกินแคร์อะไรเลยนอกจากกันแดด ใช้กันแดดในปริมาณ 1/4 ช้อนชา เทียบหน้าก่อนทากันแดด หลังลงกันแดดทันที และหลังจากผ่านไป 2 ชั่วโมง ดูสิว่าหน้าจะวอก หรือมันเพิ่มกันขนาดไหน!
1. La Roche-Posay Anthelios Invisible Fluid SPF 50+ PA++++
- เนื้อสัมผัส: เนื้อเหลวมาก บางเบา เกลี่ยง่ายและซึมไว
- ฟินิชหลังทา: หน้าไม่ขาว ไม่วอก และไม่เป็นคราบเพิ่มเลย ผิวหลังทาเป็นผิวแบบธรรมชาติ ไม่ได้ทำให้ผิวแมตต์ หรือมันขึ้น
- ความเหนอะ: หลังเซ็ตตัวแล้ว แทบไม่ทิ้งความเหนอะไว้บนผิว
- ขุย/แสบ: ทาแล้วไม่เป็นขุยเพิ่ม เข้าตาแล้วอาจแสบนิดหนึ่ง และอาจจะระคายเคืองผิวหน้า ทำให้รู้สึกแสบได้ (อลิซผู้มีผิวผสม ไม่ใช่คนแพ้ง่าย แต่ใช้แล้วแสบหน้าตอนเกลี่ยเสร็จใหม่ๆ + ตอนที่มีเหงื่ออก)
2. LANCÔME UV Expert Aqua Gel SPF50 PA++++
- เนื้อสัมผัส: เนื้อเหลวปานกลางเหมือนเอสเซนต์กึ่งโลชั่น ใช้เวลาเกลี่ยผิวสักพักกว่าจะซึมลงผิวดี
- ฟินิชหลังทา: ให้ลุคผิวโกลว ช่วงเกลี่ยเสร็จใหม่ๆ ผิวจะขาวขึ้นเล็กน้อย แต่พอเริ่มซึมผิวดีแล้ว ก็ไม่ทิ้งความขาว หรือคราบไว้
- ความเหนอะ: เนื้อค่อนข้างชุ่มชื้น ใช้แล้วผิวจะมีความมันขึ้น เหนอะขึ้นเล็กน้อย
- ขุย/แสบ: ไม่เป็นขุย แต่เข้าตาแล้วจะมีความแสบเล็กน้อย
3. Eucerin Sun Dry Touch Acne Oil Control Face SPF50+ PA+++
- เนื้อสัมผัส: เป็นครีมกึ่งเจลบางเบา เกลี่ยแล้วซึมไว สบายผิว
- ฟินิชหลังทา: ไม่ทำให้หน้าวอกหรือขาวขึ้น ไม่เป็นคราบ ช่วงทาใหม่ๆ หน้าจะแมตต์ ไม่มันเลย แต่พอผ่านไปสักพักหน้าก็เริ่มกลับมามัน
- ความเหนอะ: เมื่อกันแดดเซ็ตตัวแล้ว ให้ความรู้สึกสบายผิว ไม่เหนอะหนะ
- ขุย/แสบ: เข้าตาอาจแสบเล็กน้อย ไม่ทำให้เป็นขุยเพิ่ม
4. FYNE Hybrid Light Hydrating Sunscreen Broadspectrum SPF 50 PA+++
- เนื้อสัมผัส: เนื้อโลชั่นกึ่งครีม เนื้อบางเบา เกลี่ยค่อนข้างยาก ใช้เวลานานมากกว่าจะซึมลงผิว ไม่เหมาะกับการทาทีเดียวในปริมาณเยอะ
- ฟินิชหลังทา: ทาลงผิวแล้วแล้วหน้าจะวอกอย่างเห็นได้ชัด ทำให้หน้าสว่างขึ้น พอเนื้อซึมแล้วก็ยังทิ้งความขาวไว้อยู่ ทาใหม่ๆ ผิวจะโกลว (จะเป็นเหมือนรูปปกเลยจ้ะ)
- ความเหนอะ: เมื่อซึมลงผิวแล้ว ผิวไม่เหนอะเลย จะเซ็ตตัวแมตต์ ผิวมีความตึงขึ้น และคุมมันได้ดีมาก หน้าแทบไม่มันเพิ่ม
- ขุย/แสบ: ไม่แสบตา แต่อาจเป็นขุยตอนเกลี่ย
5. HER HYNESS Royal Hya Water Sunscreen SPF50+ PA++++
- เนื้อสัมผัส: บางเบามากและสบายผิวมาก พอเกลี่ยแล้วเป็นน้ำซึมเข้าผิวทันที แต่ใช้เวลาเกลี่ยนิดหนึ่งกว่าจะซึมลงผิวทั้งหมด
- ฟินิชหลังทา: ผิวจะดูโกลวขึ้นเล็กน้อย แต่ไม่ทำให้ผิวมันหรือแมตต์เพิ่มขึ้น ได้ลุคผิวแบบธรรมชาติ
- ความเหนอะ: ไม่เหนอะ จับผิวแล้วไม่มีความมันติดที่มือเลย
- ขุย/แสบ: ไม่เป็นขุยและไม่แสบเลย
6. ISDIN Fusion Water SPF 50
- เนื้อสัมผัส: เนื้อค่อนข้างเหลว เป็นโลชั่นกึ่งฟลูอิด มีความบางเบาปานกลาง ใช้เวลาในการเกลี่ยสักพักกว่าจะซึมลงผิวดี
- ฟินิชหลังทา: ผิวไม่วอกหรือขาวขึ้น แต่เป็นคราบได้เล็กน้อย ผิวโกลวดูชุ่มชื้นขึ้น แต่ไม่มัน
- ความเหนอะ: เหนอะเล็กน้อย ไม่หนักผิว หน้าจะมีความมันประมาณหนึ่ง
- ขุย/แสบ: ค่อนข้างแสบตา และเป็นขุยเล็กน้อยตอนเกลี่ย
ตารางสรุป
เรียงจากมากไปน้อย
เนื้อบางเบา: HER HYNESS > LA ROCHE-POSAY > ISDIN > FYNE >
กันแดด 6 ตัวดัง แต่ละตัวก็มีข้อดีและจุดเด่นที่ต่างกันออกไป คนผิวแห้งที่ต้องการความชุ่มชื้มก็เหมาะกับลังโคมมากที่สุด ส่วนคนผิวมันที่ไม่อยากให้ผิวมันเพิ่มก็เหมาะกับ Fyne มากที่สุด แต่ถ้าอยากคุมมันแต่หน้าไม่วอกก็ต้องไป La Roach-Posay ส่วนเรื่องขุยกับแสบก็แตกต่างกันไปในแต่ละคน
แต่ถ้าใครผิวมัน ไม่ได้แคร์ว่าหน้าจะมันเพิ่มเพราะอยู่แต่บ้านอยู่แล้ว เพื่อนๆ เลือกใช้ตามชอบได้เลย ใครเคยใช้ตัวไหนบ้าง มาเม้าท์กันเร้ววว!
เนื้อบางเบา: HER HYNESS > LA ROCHE-POSAY > ISDIN > FYNE >
LANCÔME > Eucerin
คุมมัน: FYNE > HER HYNESS > ISDIN > LA ROCHE-POSAY > Eucerin LANCÔME
กันแดด 6 ตัวดัง แต่ละตัวก็มีข้อดีและจุดเด่นที่ต่างกันออกไป คนผิวแห้งที่ต้องการความชุ่มชื้มก็เหมาะกับลังโคมมากที่สุด ส่วนคนผิวมันที่ไม่อยากให้ผิวมันเพิ่มก็เหมาะกับ Fyne มากที่สุด แต่ถ้าอยากคุมมันแต่หน้าไม่วอกก็ต้องไป La Roach-Posay ส่วนเรื่องขุยกับแสบก็แตกต่างกันไปในแต่ละคน
แต่ถ้าใครผิวมัน ไม่ได้แคร์ว่าหน้าจะมันเพิ่มเพราะอยู่แต่บ้านอยู่แล้ว เพื่อนๆ เลือกใช้ตามชอบได้เลย ใครเคยใช้ตัวไหนบ้าง มาเม้าท์กันเร้ววว!