โลกออนไลน์ถกสนั่น หรือว่าจะเป็นขาลงของยุค BBL
candy 28 11อาณาจักรอันเรืองโรจน์ของครอบครัว KarJenner ได้สร้างเม็ดเงินสะพัดให้กับธุรกิจความงามหลายประเภท โดยเฉพาะคลีนิคเสริมความงามที่เติบโตอย่างพุ่งพรวด ทั้งเทรนด์ filler ริมฝีปากให้อวบอิ่ม และ BBL เนรมิตก้นให้ขยายไซส์ใหญ่โต พวกเธอคือต้นแบบของผู้คนที่ต้องการสร้างความประทับใจจากความงามในรูปแบบที่เรียกกันว่า slim thick ซึ่งกลายมาเป็นเทรนด์ดึงดูดความสนใจได้ล้นหลามบน social media ติดต่อกันหลายปี และแม้ว่าพี่น้องบ้านนี้จะยืนกรานหนักแน่นว่าไม่เคยพึ่ง BBLเพื่อปั้นรูปร่างเว้าโค้งที่เปรียบเสมือนแบรนด์ประจำครอบครัว แต่เหล่า influencers ที่สร้างชื่อเสียงจากรูปร่าง slim thick อีกหลายคนก็ได้เปิดเผยเส้นทางการเปลี่ยนแปลงตัวเองด้วย BBL ให้ผู้คนติดตามโดยไม่ยึดติดว่า นี่คือสิ่งที่จำเป็นต้องอำพรางเป็นความลับ ความสำเร็จของสาวslim thick เหล่านี้อาจจะเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ BBL กลายมาเป็นธุรกิจการศัลยฺกรรมที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก!
อย่างไรก็ตาม shape แบบขวดโค้กที่โดดเด่นด้วยความอวบแน่นไปเกือบทั้งตัวแต่เล็กบางเฉพาะช่วงลำตัวนั้นไม่ได้เรียกเสียงชื่นชมไปซะหมด แม้ว่าผู้หญิงที่มีรูปร่างแบบนาฬิกาทรายมักจะถูกยึดถือเป็นความงามในอุดมคติของผู้คนจำนวนมากมาย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า การใช้วิธีศัลยฺกรรมเนรมิตรูปร่างแบบ slim thick แบบ'จัดเต็ม' นั้นส่งผลให้ proportion ของร่างกายดูแตกต่างไปจากภาพที่พวกเราคุ้นเคย จนทำให้เกิดเสียงวิจารณ์ในด้านลบ ไม่ว่าจะเป็นการเปรียบเทียบให้เจ็บใจว่า ดูผิดสัดส่วนราวกับเซนทอร์หรือกำลังใส่ผ้าอ้อมสำเร็จรูป แต่ถึงจะต้องเผชิญกับคำพูดแรงๆ influencers บางคนก็ยอมรับตรงๆว่า ส่วนเว้าส่วนโค้งที่เกิดจาก BBL คือเครื่องมือ boost ทั้งยอดผู้ติดตามและ likes ปูเส้นทางเข้าสู่วงการนางแบบ Insta หรือ platform อื่นอย่าง TikTok และ OnlyFans
แต่ช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ทั้งสื่อและชาวเน็ทก็ได้ตั้งข้อสังเกตว่า ไม่แน่ว่า พวกเราอาจจะได้เห็นอีกช่วงขาลงของ BBL effect
แต่เพราะอะไรกันล่ะ?
มาติดตามกับพวกเราได้เลยค่ะ!
BBL คืออะไร?
หลักการของ BBLที่ย่อมาจาก Brazilian butt lift ที่คุณผู้อ่านอาจจะได้ยินกันมานักต่อนักก็คือ การดูดไขมันจากบริเวณที่มีส่วนเกินไม่พึงประสงค์เช่น หน้าท้อง ปีกแขน ต้นขา นำไขมันมาผ่านกระบวนการ purification แล้วฉีดกลับเข้าไปยังบั้นท้ายเพื่อปรับเปลี่ยนsize และ shape
BBL จะแตกต่างจากการเสริมก้นแบบ implants ซึ่งขยายsize ก้นด้วยการผ่าตัดใส่siliconeเข้าไป
จะเห็นได้จากการแชร์ประสบการณ์สวยด้วยแพทย์ล่าสุดของ Anastasia Karanikolaou หรือ Stassie เพื่อนซี้ของ Kylie Jenner ที่ค่อยๆเปลี่ยนแปลงตัวเองในช่วงหลายปีมานี้ให้กลายเป็นสาว slim thick เธอยืนยันว่า เธอเสริมหน้าอกก็จริงแต่ไม่ได้ผ่าตัดเสริมก้นด้วยซิลิโคน แต่ก็ยอมรับด้วยคำพูดเป็นนัยๆว่า 'ไม่ขอปฏิเสธว่าเคยใช้อีกวิธีหนึ่งหรือโยกย้ายบางอย่างในร่างกายมาใส่ส่วนนั้นส่วนนี้' (หลัก fat transfer ของ BBL นั่นเอง)
Stassie ได้รับเสียงชื่นชมจากชาวเน็ทที่มองว่าการเปิดใจพูดถึงเส้นทางการศัลยฺกรรมตรงๆ โดยไม่ต้องคอยเฉไฉว่าสวยธรรมชาติ หรือเปลี่ยนไปได้เองโดยไม่พึ่งมีดหมอจากภาพ before-after ค้านสายตา ทั้งมีผู้ลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่าStassie ได้เนรมิตรูปร่างได้เหมือนกับKylie จริงๆ ยิ่งนัดกันแต่งตัวมาเข้าเซ็ทยิ่งเห็นว่าเหมือนชัดราวกับ copy and paste!
อีกวงการที่ได้รับอิทธิพลของ BBL effect คือ กลุ่มเซเลบสาวจาก reality show หลังจากสร้างกระแสจากรายการดังแล้ว พวกเธอต่างก็เข้าสู่เส้นทางการ makeover จนดูเปลี่ยนแปลงไปเป็นคนละคน และส่วนใหญ่แล้วก็ชัดเจนเรื่องการศัลยฺกรรมกันทั้งนั้น ดังกรณีของ Sarah Roza จากรายการ Married At First Sight ที่เผยประสบการณ์ปั้นหุ่นในฝันด้วย BBLแบบหมดเปลือก ถึงขั้นถ่ายภาพตอนนอนบนเตียงผ่าตัด และระบุขั้นตอนว่า แพทย์ได้ดูดไขมันจากต้นแขน ปีกหลัง และลำตัวของเธอ แล้วฉีดกลับเข้าไปที่ก้นจนดูงอนเด้ง เธอยังอธิบายว่า ตัวเองสามารถรับมือกับความเจ็บปวดได้ดีในระยะเวลาหกสัปดาห์ที่ต้องพักฟื้นนั้นอาจจะรู้สึกอึดอัด แต่ก็ไม่ทรมานนัก และสร้างความเข้าใจกับผูติดตามว่า BBL ไม่ใช่วิธีลดน้ำหนัก แต่เป็นการปั้นหุ่นที่ให้ผลอย่างถาวร
หากฟังดูแล้ว BBL อาจเปรียบเป็นทางลัดที่ทำให้สาวๆก้าวไปสู่รูปร่างแบบนาฬิกาทรายโดยไม่ต้องเหนื่อยแรงฟาดฟันออกกำลังใน gym แต่ก็มีคำแนะนำจากแพทย์ออกมาว่า มีปัจจัยหลายอย่างที่อาจจะทำให้ผลลัพธ์ของ BBLไม่ตรงกับความคาดหวัง เช่น เทคนิคของแพทย์ที่จะทำให้เซลล์ไขมันคงอยู่บริเวณก้นไปอีกนาน ไม่สลายไปจนต้องกลับมาทำเพิ่มให้เจ็บตัวซ้ำ สุขภาพร่างกายของคนไข้และการปฏิบัติตัวตามคำแนะนำหลังทำBBLอย่างเคร่งครัด
ไม่เพียงเท่านั้น BBL ก็ไม่ต่างจากการศัลยฺกรรมรูปแบบอื่นที่มาพร้อมกับความเสี่ยง...
ไม่เพียงเท่านั้น BBL ก็ไม่ต่างจากการศัลยฺกรรมรูปแบบอื่นที่มาพร้อมกับความเสี่ยง...
รู้หรือไม่ ?
สถิติตัวเลขผู้เสียชีวิตจากการศัลยฺกรรมที่สูงสุดในอเมริกามาจากการทำ BBL!BBL อาจจะเป็นการศัลยฺกรรมที่เติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่ต้องนำมาพิจารณา หลายสื่ออาจจะจุดกระแสความสนใจจากผู้คนด้วยการพาดหัวข่าวว่า นี่คือการศัฺลยกรรมที่เป็นภันต่อชีวิตมากที่สุด จากการสำรวจตัวเลขการเสียชีวิตจากหลายหน่วยงานที่ชี้ว่า มีผู้เสียชีวิตจากBBL มากกว่าการศัลยกฺรรมอื่นๆ และเคยปรากฏข่าวคราวของหญิงสาวที่สิ้นใจระหว่างทำBBL ตามหน้าสื่อมาแล้วหลายครั้ง
ดังกรณีของ Joselyn Cano สาวงามเชื้อสายละติน่าจาก California ที่ได้รับฉายาว่า Kim Kardashian เวอร์ชั่น Mexican เธอสร้างชื่อเสียงจากรูปร่าง slim thick จนมีผู้ติดตามมากกว่าสิบสองล้านคน แต่ในปี 2020ก็มีนางแบบที่เผยข่าวน่าเศร้าว่า เธอเสียชีวิตกะทันหันระหว่างที่กำลังศัลฺยกรรมก้นแบบBBL ที่Colombia แม้จะไม่มีการยืนยันสาเหตุการเสียชีวิตอย่างชัดเจนจากครอบครัว แต่ก็ไม่มีการส่งคำแถลงการณ์ปฏิเสธข่าวที่แพร่กระจายตามหน้าสื่อดังแต่อย่างใด
แต่แม้จะมีการให้ความรู้เรื่องความเสี่ยงจาก BBL แต่ในช่วงไม่กี่ปีไม่ที่ผ่านมา กระแสความนิยมของรูปร่างslim thick ก็ดูไม่แผ่วลงไป แล้วจะมีสิ่งอื่นใดที่ทำให้ผู้คนเปลี่ยนใจ?
หลายสื่อร่วมวิเคราะห์
เป็นไปได้หรือไม่ว่าเทรนด์ BBL กำลังจะจืดจางหายไป
ย้อนไปเมื่อ 8 ปีก่อน Vogue เคยประกาศไว้ว่า 'เราได้ก้าวสู่ยุคแห่งก้นใหญ่ตู้มอย่างเป็นทางการ' ชี้ถึงถึงการพลิกเทรนด์รูปร่างยอดนิยมไปในแบบตรงกันข้าม จากในอดีตก้นใหญ่ไม่ใช่สิ่งที่พึงปรารถนา แม้แต่ดีไซน์เนอร์ที่ขึ้นชื่อลือชาเรื่องการนำเสนอผลงานสร้างสรรค์ไร้ขีดจำกัดในวงการแฟชั่น บั้นท้ายใหญ่โตก็ยังเป็นสิ่งที่ถูกเมินหน้าหนี (บทความนี้ถูกชาวเน็ทรุมวิจารณ์ร้อนแรงว่าล้าหลัง เพราะเทรนด์ก้นใหญ่ได้รับความนิยมมาหลายปีก่อนหน้านี้แล้ว)
แต่ไม่นานต่อมารูปร่าง slim thick ก็ผงาดสู่ความ mainstream คุณจะได้เห็นสารพัดก้นบน social media ท่าบังคับของสาวหนีไม่พ้นการหามุมที่ก้นดูใหญ่ที่สุด จิกเท้าด้านหน้าให้สัดส่วนดูตีโค้งใหญ่ขึ้นมาอีกหลายนิ้ว แต่เมื่อได้เห็นเทรนด์ก้นใหญ่แบบ BBL กันมาติดต่อกันหลายปี พวกเราอาจจนรู้สึกเฉยๆไม่ว้าวซ่าไปแล้วก็เป็นได้!
นับจากปีที่แล้ว คีย์เวิร์ด BBL effect บน Tiktok ดึงดูดผู้เข้าชมกว่า 274.9 ล้านครั้ง ซึ่งผู้สร้างmemeจำนวนมากนำเสนอคอนเทนท์ล้อเลียนจิกกัดก้นใหญ่ตู้มที่เห็นแล้วฟันธงได้ทันทีว่าเป็นผลลัพธ์จากปลายเข็มของหมอ แม้จะยังห่างไกลกับแฮชแทก BBL ที่เต็มไปด้วยการแชร์ประสบการณ์ BBLของusers ที่มีผู้เข้าชมเกินกว่า 5,200 ล้านครั้ง แต่ก็อาจจะเป็นสัญญาณบ่งบอกว่า กระแสความคลั่งไคล้ก้นใหญ่อาจจะมีความเปลี่ยนแปลงไปสู่รูปแบบใหม่
แต่ไม่นานต่อมารูปร่าง slim thick ก็ผงาดสู่ความ mainstream คุณจะได้เห็นสารพัดก้นบน social media ท่าบังคับของสาวหนีไม่พ้นการหามุมที่ก้นดูใหญ่ที่สุด จิกเท้าด้านหน้าให้สัดส่วนดูตีโค้งใหญ่ขึ้นมาอีกหลายนิ้ว แต่เมื่อได้เห็นเทรนด์ก้นใหญ่แบบ BBL กันมาติดต่อกันหลายปี พวกเราอาจจนรู้สึกเฉยๆไม่ว้าวซ่าไปแล้วก็เป็นได้!
นับจากปีที่แล้ว คีย์เวิร์ด BBL effect บน Tiktok ดึงดูดผู้เข้าชมกว่า 274.9 ล้านครั้ง ซึ่งผู้สร้างmemeจำนวนมากนำเสนอคอนเทนท์ล้อเลียนจิกกัดก้นใหญ่ตู้มที่เห็นแล้วฟันธงได้ทันทีว่าเป็นผลลัพธ์จากปลายเข็มของหมอ แม้จะยังห่างไกลกับแฮชแทก BBL ที่เต็มไปด้วยการแชร์ประสบการณ์ BBLของusers ที่มีผู้เข้าชมเกินกว่า 5,200 ล้านครั้ง แต่ก็อาจจะเป็นสัญญาณบ่งบอกว่า กระแสความคลั่งไคล้ก้นใหญ่อาจจะมีความเปลี่ยนแปลงไปสู่รูปแบบใหม่
บทวิเคราะห์หนึ่งที่น่าสนใจจาก i-D คือ BBL กลายมาเป็นสิ่งที่ใครๆก็ทำกัน และแม้แต่ผู้ที่มีงบน้อย ก็ยังเลือกบินไปทำที่ต่างประเทศเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย เมื่อเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ก็ดูจะเป็นเรื่องปกติจนไม่ได้กลายมาเป็นจุดขายที่สร้างความตกตะลึงได้เหมือนเดิม
หรือหากจะมองอีกมุมก็คือ เมื่อสาวๆจำนวนมากลุกมาเปลี่ยนแปลงตัวเองให้มีรูปร่าง slim thickด้วยการBBL (หรือจะเป็นการใส่แผ่นเสริมก้นและตัวช่วยอื่นๆ) กลับกลายเป็นว่า ในที่สุด มันอาจจะไม่ใช่จุดเด่นที่ชวนใฝ่หา ไม่แตกต่างจากในยุค 90s ที่เทรนด์Heroin Chic ที่นำมาโดย Kate Moss สร้างอิทธิพลส่งผลให้วัฒนธรรมไดเอทบูมขึ้นมาเต็มที่ ความผอมบางจนเห็นกระดูกนั้นคือสุดยอดแห่งความชิคที่ผู้หญิงจำนวนมากยอมทนหิวเพื่อจะได้รูปร่างเช่นนั้นมา แต่เทรนด์นี้ก็ถูกแทนที่ด้วยslim thickในเวลาต่อมา
เมื่อ Miu Miu เปิดตัวกระโปรงเอวต่ำและดึงดูดความสนใจจากคนดังและ influencers จนสร้างความฮือฮาไปทั่ว Nylon เป็นหนึ่งในสื่อที่จับประเด็นความนิยมเทรนด์ยุค 2000sที่กำลังร้อนแรงในปีนี้มาวิเคราะห์ว่า นี่จะเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้หมดยุคแห่ง BBL ได้จริงหรือ
หากพูดถึง Y2K คุณอาจจะนึกถึง Paris Hilton และ Britney Spears ที่ใส่กางเกงเอวต่ำหวาดเสียวโชว์หน้าท้องเรียบแบบดุจกระดาน Nicole Richie ที่สร้างชื่อในฐานะอิทเกิร์ลผู้นำแฟชั่นและความผอมจนตกเป็นข่าวฮือฮา วงจรของเทรนด์ดังในอดีตที่หวนมาทวงความนิยมนั้นปรากฏขึ้นมาแล้วหลายครั้ง และคงพูดไม่ได้อย่างเต็มปากว่า เทรนด์ใดจะเสื่อมความนิยมไปอย่างสิ้นเชิง
หากพูดถึง Y2K คุณอาจจะนึกถึง Paris Hilton และ Britney Spears ที่ใส่กางเกงเอวต่ำหวาดเสียวโชว์หน้าท้องเรียบแบบดุจกระดาน Nicole Richie ที่สร้างชื่อในฐานะอิทเกิร์ลผู้นำแฟชั่นและความผอมจนตกเป็นข่าวฮือฮา วงจรของเทรนด์ดังในอดีตที่หวนมาทวงความนิยมนั้นปรากฏขึ้นมาแล้วหลายครั้ง และคงพูดไม่ได้อย่างเต็มปากว่า เทรนด์ใดจะเสื่อมความนิยมไปอย่างสิ้นเชิง
ร่ำลือทั่ว social media
จริงหรือที่ Kim K เอาก้น BBL ออก?
ข้อถกเถียงที่ว่า เทรนด์ slim thick จาก BBL นั้นกำลังout ไปแล้วหรือไม่ น่าจะเริ่มแพร่หลายมากขึ้นหลังจากมีการตั้งข้อสังเกตบนTiktok และ platform อื่นๆว่า สัดส่วนที่สร้างชื่อลือชาให้กับKim K นั้นดูแตกต่างไปจากเดิมอย่างชัดเจน หลังจากที่เธอถูกโจมตีบ่อยครั้งว่า ทำBBL จนรูปร่างดูผิดส่วน (แรงสุดๆก็น่าจะเป็นดราม่า Tyson Beckford จิกกัดว่าหมอทำก้นให้เธอพลาดจนสะโพกขวาดูบิดเบี้ยว) แต่ในช่วงปีหลังๆ ภาพของ Kim ที่ถูกเผยแพร่ทั้ง social media และสื่อต่างๆทำให้ชาวเน็ทมั่นใจว่า เธอได้ไปเอา 'filler' ออกไปจนก้นดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
ชาวเน็ทชี้
Kim มักนำเสนอภาพในมุมที่สะโพกดูแคบลง และมีอิทธิพลต่อผู้ติดตามให้เปลี่ยนแนวคิดไปด้วยอย่างไรก็ตาม มีเสียงเล่ามาจากวงใน paparazzi ว่า Kim ได้เจรจาตกลงกับเอเจนซี่เพื่อควบคุมคุณภาพรูปของเธอที่จะถูกส่งต่อไปถึงสื่อ ซึ่งรูปเหล่านั้นต้องได้รับไฟเขียวจากเธอก่อนแล้วว่า จะต้องดูสวยงามตามมาตรฐานที่ตั้งไว้ เช่น ไม่ดูเหวอ หรือเผยส่วนเกิน หรือเป็นมุมไม่สวยเป๊ะ แม้จะมีภาพที่หลุดรอดการควบคุมไปได้บ้าง แต่ก็เป็นส่วนน้อย หรือแม้แต่กระทั่งข่าวลือที่ว่า เธอพ่วง paparazzi ส่วนตัวไปยังทริปต่างๆเพื่อให้มั่นใจว่า ภาพในชุดว่ายน้ำจะต้องสวยเริ่ด ผ่านการรีทัชแบบมืออาชีพ จะแตกต่างจากรูปที่ถูกถ่ายจากด้านหลังตรงๆหรือตอนที่ไม่ได้ตั้งใจ รวมถึงการยืนยันจากผู้กำกับรายการ This Is Paris ที่เจาะเรื่องราวชีวิตของ Paris Hilton ว่า เมื่อได้เชิญ Kim มาร่วมถ่ายทำรายการ ก็ได้รับ request ไม่ให้ถ่ายภาพให้เห็นร่างกายท่อนล่างของเธอ เพราะหวั่นเกรงเรื่องความกว้างของเลนส์กล้อง และไม่ยอมให้สัมภาษณ์จนกว่าจะเปลี่ยนเลนส์
ยังมีหลายฝ่ายที่เชื่อว่า แม้แต่ Kim ที่ถูกยกให้เป็นผู้นำในการเปลี่ยนมุมมองเรื่องมาตรฐานความงามจากความคลั่งผอมให้กลายมาเป็นส่วนเว้าส่วนโค้งสะดุดตา ก็ยังยังเข้มงวดกับภาพของสัดส่วนที่ปรากฏในสื่อ แตกต่างจากช่วงที่เริ่มสร้างชื่อเสียงในวงการที่มักถูกพาดหัวข่าวเรื่องบั้นท้ายที่ใหญ่โตชวนตะลึงจากหลายมุม
การเชิดชูเรื่อง body positivity อาจจะเปิดเส้นทางใหม่ให้กับผู้มีที่รูปร่างแตกต่างไปจากเทรนด์ดัง แม้ว่าการเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องให้สังคมยอมรับความความงามที่หลากหลายจะไม่ได้มีจุดประสงค์ต่อต้านการศัลยกฺรรมเพื่อสร้างเสริมความมั่นใจเรื่องรูปลักษณ์ แต่ก็ช่วยทำให้หลายคนเปิดใจได้ว่า ผู้หญิงจะสวยเฉิดฉายได้แม้จะไม่ได้มีส่วนเว้าส่วนโค้งแบบ slim thick รวมไปถึงทิศทางของBBL ที่อาจจะเปลี่ยนแปลงไปเหมือนกับความนิยมในศัลยกฺรรมเสริมหน้าอก ซึ่งปัจจุบัน ผู้หญิงจำนวนมากที่ต้องการปรับเปลี่ยนทรวดทรงหน้าอกมัก request ความเป็นธรรมชาติที่ดูเหมือนกับไม่เคยผ่านมีดหมอ และในอนาคตก็ BBL ที่เน้นสัดส่วนที่ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น ก็อาจจะเข้ามาแทนที่เทรนด์ในปัจจุบันก็เป็นได้