งานประกาศรางวัลที่ยิ่งใหญ่และเก่าแก่ที่สุดอย่าง Oscars หรือ The Academy Awards ปีที่ 94 นี้ ต้องลุกเป็นไฟ เมื่อพิธีกร Cris Rock เมคฟัน Will Smith ด้วยการล้อเลียนภรรยา Jada Pinkett Smith ที่ผมโล้นจากการป่วยเป็นโรค Alopecia หรือผมร่วงเป็นหย่อม ทำให้ Will Smith ฟิวส์ขาดขึ้นไปตบหน้าเพื่อนซี้กลางเวที

ความรุนแรงไม่ใช่ทางออกที่ดี เช่นเดียวกับการบูลลี่และ Make Jokes คนอื่น โดยเฉพาะเรื่องที่ Sensitive มากๆ คงไม่มีใครแฮปปี้กับการต้องสูญเสียผม โดยเฉพาะกับการเป็นคนดัง และเส้นผมเป็นอีกหนึ่งสิ่งจำเป็นในการประกอบอาชีพ

ผู้หญิง 1 ใน 3 ป่วยเป็นโรค Alopecia

โรคผมร่วงเป็นหย่อม เกิดจากการอักเสบบนศีรษะและทำลายรูขุมขน สาเหตุและการรักษายังไม่แน่ชัด โรคนี้สามารถเกิดได้ทุกที่ๆ มีขน ไม่ใช่แค่ผมเท่านั้น แต่สามารถรักษาให้หายได้ พบได้ในทั้งชายและหญิง อายุเฉลี่ย 30 ปี

Harvard รายงานว่าผู้หญิงประมาณ 1 ใน 3 จะป่วยเป็นโรค Alopecia ในช่วงใดช่วงหนึ่งของชีวิต ผู้หญิงวัยทอง 2 ใน 3 จะเผชิญกับอาการผมร่วง และหัวล้าน ซึ่งส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตมากกว่าผู้ชาย

โรคผมร่วงเป็นหย่อมอาจไม่ได้กระทบต่อสภาพร่างกาย แต่กระทบต่อสภาพจิตใจของผู้ป่วยเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะผู้หญิงที่นอกจากจะสูญเสียความมั่นใจแล้ว Stereotype ของคนในสังคมนั้น ผู้หญิงต้องมี "ผม" หากป่วยเป็นโรคนี้แล้วทำการโกนผม ก็จะถูกมองว่าป่วยเป็นมะเร็งหรือใกล้ตายทันที (คือใครๆ ก็รักเส้นผมแหละ แต่ในบริบทของการเป็นผู้หญิง การโกนหัวโล้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย) 

Jada Smith เปิดใจถึงโรค Alopecia

ช่วงที่ Chris Rock เมคฟันกับผมของ Jada ในงานประกาศรางวัลนั้น สังเกตได้ว่าในขณะที่คนในงานขำไปกับมัน Jada ได้กลอกตาและมีท่าทีกระอักกระอ่วนอย่างเห็นได้ชัด

Jada ป่วยเป็นโรคนี้มาหลายปี และได้เริ่มเปิดเผยเมื่อปี 2018 "มีหลายคนถามว่าทำไมฉันถึงเอาแต่ใส่ผ้าโพกหัว ฉันไม่เคยพูดถึงมันเลย และไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะพูดถึง มันเป็นเรื่องที่สะเทือนใจ"

ในตอนที่ผมร่วงครั้งแรก เธออยู่ในห้องน้ำพร้อมมือที่เต็มไปด้วยผม เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ตัวสั่นไปด้วยความกลัว "นี่ฉันกำลังจะหัวล้านหรอ?" นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้เธอตัดผมเรื่อยๆ

จนในที่สุดก็โกนผมทั้งหมด และเผยกับสาธารณะเพื่อ Empower ให้ผู้คนที่ป่วยเป็นโรคนี้ และช่วงปลายปี 2021 Jada ก็ได้ตัดสินใจอัปคลิปวิดีโอลงอินสตาแกรมส่วนตัว โชว์ศีรษะของตัวเองที่ไร้เส้นผม "อย่างที่ทุกคนรู้ ฉันเป็นโรค Alopecia และมันก็เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน" พร้อมชี้ให้ดูบริเวณที่ผมร่วงเป็นหย่อม

"มันยากที่จะมองไม่เห็น ฉันคิดว่ามาแชร์ให้ทุกคนดูดีกว่า และไม่ต้องถามอะไรเพิ่มนะ" แม้จะไร้เส้นผม แต่ Jada ก็ทำให้เห็นว่าเราสามารถสวยและมั่นใจได้เหมือนเดิม

และไม่ได้มีเพียง Jada ที่ต้องประสบกับโรคนี้ ยังมีคนดังหญิงอีกหลายคนที่เคยเผชิญกับโรคนี้ แต่มีเพียง Jada ที่ตัดสินใจ Empower คนอื่นด้วยการโกนผมออก และเผยรายละเอียดตอนที่กำลังเผชิญกับโรคนี้

Viola Davis

นักแสดงนำจาเรื่อง How to Get Away With Murder เผยว่าเธอต้องใส่วิกเดินพรมแดงบ่อยครั้ง จากการเป็นโรค Alopecia และตอนนี้ผมก็กลับมาขึ้นเป็นปกติแล้ว ไม่ต้องพึ่งวิกอีกต่อไป

Jesy Nelson 

อดีตนักร้องเกิร์ลกรุ๊ป Little Mix ก็เคยเผชิญกับโรค Alopecia ตอนเป็นเด็ก ผมเริ่มกลับมาขึ้นเป็นปกติอีกครั้งตอนอายุ 13 ปี เธอบอกว่าความเครียดก็ทำให้เกิดโรคนี้ได้ และนั่นไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย

Keira Knightley

หลังจากที่ทำสีผมมาหลายปี ก็ทำให้เธอเริ่มมีอาการผมร่วงอย่างหนัก จนทำให้เธอต้องใส่วิกเป็นเวลาถึง 5 ปี และผมเพิ่งกลับมางอกอีกครั้งหลังจากคลอดลูกคนแรกในปี 2015

Tyra Banks

ไทร่ามีอาการของโรค Alopecia จากความเครียด ทำให้หัวล้านเป็นหย่อมๆ ความเครียดพีคสูงสุดในปี 2011 เมื่อเธอต้องเขียนหนังสือ Modelland เธอบอกว่าการพูดถึงเรื่องนี้โดยไม่ร้องไห้เป็นเรื่องที่ยากจริงๆ

คงไม่มีใครอยากให้ผมร่วงจำนวนมาก หรือร่วงเป็นหย่อมเกิดขึ้น แต่ถ้าต้องเผชิญกับโรคนี้แล้ว ก็ยังมีโอกาสที่ผมจะกลับมาขึ้นเหมือนเดิม ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังเผชิญกับโรคนี้หรือผมร่วงอย่างหนักอยู่ ถ้าใครเคยเป็นสามารถมาแชร์ประสบการณ์กับเพื่อนๆ ได้นะคะ 

Ref : Harvard