เรื่องขนตานี่เป็นปัญหาหนักใจสำหรับคนเอเชียเหมือนกันนะ ด้วยกรรมพันธ์ุส่วนใหญ่คือขนตาจะสั้น และบางทีสั้นอย่างเดียวไม่พอยั๊งขนตาทิ่มลงอีก ต่อให้งัดดัดขนตางอนขนาดไหน สุดท้ายก็กลับมาตกแบบเดิม นอกจากต้องพึ่งมาสคาร่าที่ช่วยงัดขนตาให้งอนเด้งแล้ว ต้องอาศัยทริคและเทคนิกในการงัดด้วย!

How to งัดขนตาให้งอนเด้งยาวนาน

1.  ใช้ไม้ลนไฟ แบบสาวเกาหลี

วิธีนี้เป็นเทคนิกที่ช่างแต่งหน้าเกาหลีส่วนใหญ่ใช้กัน นั่นก็คือเอาไม้เสียบลูกสิ้น หรือไม้จิ้มฟัน มาลนไฟให้มีความร้อน จากนั้นก็เอาไม้ค่อยๆ ปัดไปตามขนตาที่ดัดและปัดแล้ว ความร้อนจะทำให้ขนตางอนมากยิ่งขึ้น

วิธีนี้ต้องอาศัยความชำนาญ มือต้องนิ่งสุดๆ ถ้าใครจะลองอย่าลืมหักด้านที่เป็นไม้แหลมให้ทู่ ป้องกันอันตรายด้วยนะ

2. ที่ดัดขนตาไปอังไฟ

วิธีนี้มาจากคิมเซจองหรือชินฮารีของเรานั่นเองค่า คิมเซจองดัดแปลงมาจากทริคที่ช่างแต่งหน้าเกาหลีใช้ตามข้อหนึ่ง แต่ทำแบบง่ายๆ คือเอาที่ดัดไปอังไฟจากเตาแก๊สซะเลย วิธีนี้อาจต้องระวังอย่าอังนานมาก เดี๋ยวที่ดัดขนตาส่วนที่เป็นเหล็กจะร้อนเกินไปเมื่อโดนเปลือกตา 

หรือไม่ต้องเปิดเตาแก๊สให้ลุ้นระทึก ใช้ไฟแช็กจุดเป็นอันจบ วิธีนี้เป็นที่นิยมมากของชาวตะวันตก ใครจุดไฟแช็กไม่คล่องระวังอันตรายไฟลนมือด้วยนะ และอย่าเผานานเกินไปเดี๋ยวที่ดัดขนตาจะร้อนและลวกเปลือกตาได้

3. เป่าไดร์เป่าผมที่ดัดขนตา

วิธีสุดคลาสสิก แสนง่าย ไม่ยุ่งยาก และไม่ต้องไปไหนไกล หยิบเอาไดร์เป่าผมบนโต๊ะเครื่องแป้งนี่แหละมาเป่าที่ดัดขนตาสักพักให้พออุ่น จากนั้นก็มาดัดขนตาได้เลย งอนไม่แพ้วิธีอื่นๆ เลยล่ะ

4. เป่าไดร์เป่าผมที่ขนตา

วิธีนี้คล้ายวิธีก่อนหน้า แต่แทนที่จะเอาไดร์ไปเป่าที่ดัดขนตา ก็เอามาเป่าขนตาที่ดัดเสร็จแล้วแทน เปิดลมร้อนเบาๆ แล้วจ่อไปที่ขนตาในแนวดิ่ง เมื่อขนตาโดนความร้อนก็จะงอนและยาวขึ้น แต่ต้องระวังลมร้อนเข้าตา อาจทำให้ตาระคายเคืองหรือแห้งได้

5. ที่ดัดขนตาจุ่มน้ำอุ่น

วิธีนี้สุดจะง่าย และไม่ต้องลุ้นว่าที่ดัดขนตาจะร้อนเกินไปหรือเปล่า ก็เอาน้ำอุ่นอุณหภูมิที่เราต้องการมา แช่ที่ดัดขนตาลงไปสักพัก แล้วนำมาดัดขนตาได้เลย ดูแล้ววิธีนี้น่าจะปลอดภัยและไม่ยุ่งยากมากที่สุด!

จะเห็นได้ว่าแต่ละวิธี ส่วนใหญ่อาศัยความร้อนช่วยให้ขนตาโค้งงอนตามที่ดัดขนตา แต่การอาศัยความร้อนก็ต้องระวัง อย่าให้ที่ดัดขนตาร้อนจนเกินไป เพราะบริเวณดวงตาค่อนข้างบอบบาง

ส่วนยางซิลิโคนของที่ดัดขนตานั้น ส่วนใหญ่เป็นยางชนิดพิเศษ ที่ทนความร้อนได้ถึง 200 องศา ทางที่ดีอย่าให้ถึงกับร้อน เอาแค่พอ "อุ่น" เพื่อความปลอดภัยนะจ๊ะ เพื่อนๆ ใช้ทริคไหนกันอยู่มาแชร์กันได้น้า