ชาวเน็ทวิจารณ์สนั่น จริงหรือที่J Lo ไม่happyที่ต้องแชร์เวที halftime กับ Shakira?

ลองสังเกตกันสิว่า เมื่อเหล่า superstar จับมือกับ Netflix  ส่ง documentary  เผยชีวิตเบื้องหลังspotlight ที่คนนอกไม่เคยพบเห็น   ช่วงเวลาไม่นานก่อนที่จะเปิดตัว streaming อย่างเป็นทางการ    เราก็มักจะได้พบกระแสความสนใจจนฮือฮาจากการปล่อยเนื้อหาเพียงบางส่วนของ documentary  ออกมาก่อน   นัยว่านี่อาจจะเป็นเครื่องมือ boost เรตติ้ง ด้วยการจุดประกายความอยากรู้อยากเห็นให้กับสังคม 


เช่นเดียวกับ   HALFTIME      documentary  ที่นำเสนอเส้นทางอันเรืองรองของJennifer Lopez   เพื่อพิสูจน์ให้โลกได้เห็นกว่า สิ่งที่อยู่เบื้องหลังภาพที่แสนเลอเลิศของศิลปินระดับโลก  เธอต้องฟันฝ่ากับแรงกดดันและอุปสรรคมามากมายเพียงใด

แต่หลังจากบรรดาสื่อพร้อมใจพาดหัวข่าวว่า  Jennifer Lopez  ไม่ happy ที่ต้องขึ้นเวที Super Bowl halftime  show ในรูปแบบ co-headlining  กับ  Shakira เมื่อสองปีก่อน  กระแสตอบรับจากสังคมก็อื้ออึงเลยทีเดียว!

เพราะอะไร  J Lo จึงคิดว่า การแบ่งเวลาแสดงกับ  Shakira ที่เวลที Super Bowl Halftime คือไอเอียยอดแย่ที่สุดในโลก?

ความสำเร็จของ Pepsi Super Bowl Halftime Show ของ Shakira & J. Lo ด้วยตัวเลขผู้ติดตามชมการแสดงสดจากในประเทศ 103 ล้าน ทำให้ศิลปิน Latina สาวทั้งสองได้รับเสียงชื่นชมกระหึ่ม และยังสร้างความตราตรึงใจให้แฟนๆ ทั้งในแง่ของความบันเทิง และ message ในการแสดงออกทางการเมือง

แต่เมื่อสื่อได้เปิดเผยส่วนหนึ่งจากเนื้อหาของ HALFTIME หนัง documentary ของ J. Lo ที่ฉายรอบปฐมทัศน์ Tribeca Film Festival เมื่อไม่กี่วันก่อน   ผู้คนจำนวนมากก็ต้องประหลาดใจ เมื่อพบว่า เริ่มต้น เธอไม่พอใจกับแนวคิดบริหารเวลาอันจำกัดเพื่อแสดงบนเวทีนี้กับ Shakira   เหตุผลสำคัญคือ  'เวลาที่น้อยนิดเกินไป ไม่เพียงพอต่อเจตนารมณ์เพื่อสื่อสารเรื่องสำคัญ'

 เธอโวยกับ music producer ในเรื่องที่ต้องแบ่งเวลาคนละหกนาทีกับ Shakiraเพื่อแสดงเมดเลย์เพลงบนเวทีเดียวกันว่า

"เรามีเวลาแสดงกันคนละแค่หกนาทีนะ คิดแล้วแต่ละเพลงก็ใช้เวลาได้สามสิบวินาทีเท่านั้น ถ้าเพลงหนึ่งต้องใช้หนึ่งนาทีก็จบกัน เหลือแสดงได้แค่ห้านาที แต่เราต้องเลือกเพลงเด่นมาร้องด้วย เราจะต้องโมเมนท์ที่ต้องโชว์การขับร้อง"

"มันจะต้องไม่เป็นมหกรรมการแสดงโชว์เต้น เราจะต้องโชว์การร้องเพลงเพื่อสื่อสารเจตนารมณ์ให้ผู้คนรับรู้"

และเธอก็ได้ฟาดฟันว่า "เรื่องจะให้ศิลปินสองคนมาแสดงร่วมกันใน Super Bowl เป็นความคิดที่ยอดแย่ที่สุดในโลก"


J. Lo พยายามต่อรองกับ producer ผู้จัดงานจนได้เวลาเพิ่มมาอีกเล็กน้อย แบ่งกันแบบแฟร์ๆอีกคนละหนึ่งนาที แต่เธอก็ชี้ว่า ถ้าจะให้ศิลปินสองคนร่วมกันแสดง ก็ควรจัดเวลาให้เต็มๆสัก 20 นาที

 "นี่ต่างหากเป็นสิ่งที่พวกเขาควรจัดการให้เรา"

Benny Medina    ผู้จัดการที่ร่วมงานกับJ. Lo มาเนิ่นนาน (เธอเคยประกาศว่าเขาคือเพื่อนแท้ที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน)  ได้ให้ความเห็นในประเด็นการแชร์เวที Super Bowl ใน documentary ว่า

"โดยทั่วไป จะมีศิลปินคนเดียวหรือกลุ่มเดียวที่ขึ้นโชว์ Super Bowl ศิลปินผู้นั้นก็จะแบกโชว์ไว้ทั้งหมดและหากจะมีศิลปิลรับเชิญมาร่วมแสดงด้วย ก็เป็นสิ่งที่พวกเค้าเลือกเอง มันจึงเป็นการดูถูกกันหากจะบอกว่า จำเป็นต้องใช้ศิลปิน Latina สองคนมาขึ้นเวทีแสดงดนตรีครั้งประวัติศาสตร์ ทั้งๆที่เคยมีศิลปินเดี่ยวเคยแสดงมาก่อน"

กระแสโจมตีจากโลกออนไลน์

แม้ HALFTIME จะมีกำหนด streaming ในวันพรุ่งนี้ และผู้คนต่างยังไม่รู้เนื้อหาความคิิดเห็นของ J. LO เรื่องการแชร์เวทีกับ diva สาวจาก Colombia อย่างครบถ้วนชัดเจน แต่ชาวเน็ทจำนวนมากก็ได้แสดงความไม่พอใจ กล่าวหาเธอไปต่างๆนานา

• แม้จะเคยมีศิลปินที่ได้ขึ้นแสดงแบบ solo ที่มีความยาวสิบกว่านาที  (เช่น Justin Timberlake, The Weeknd, Lady Gaga  และ  Katy Perry)     แต่การแสดงรูปแบบ co-headlining ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ    ในปีนี้ศิลปิน hip hop ระดับตำนานก็แบ่งเวลากันเพียงคนละไม่กี่นาทีเท่านั้น แต่โชว์ก็ประสบความสำเร็จ ส่วนsuperstar คนอื่นได้ชื่อว่าเป็น headliner เพียงผู้เดียวก็จริง แต่เชิญศิลปินคนอื่นๆมาแสดงเพลงเด่นของพวกเค้าเองให้เห็นตลอด มีเพียงส่วนน้อยที่จะมีการแสดงเพลงของ headliner ล้วนๆ
• ใครๆต่างก็รู้อยู่แล้วว่า  การแสดง halftime  มีเวลาให้เพียงจำกัด 12–16 นาที หาก producer จัดงานให้เวลาเพิ่มตามที่เธอเรียกร้อง ก็ถือว่าเป็นการปฏิบัติที่ไม่เท่าเทียมกับศิลปินคนอื่น และจะกระทบไปถึงการแข่งขันกีฬาที่ผู้ชมเฝ้ารออีกด้วย  
• หลายคนยังเยาะเย้ยว่า ลำพังตัว J. Lo  เอง ไม่มี power ที่จะทำให้โชว์ได้รับเสียงชื่นชมขนาดนี้  เพราะ Shakira มีพรสวรรค์กว่าเธอทุกด้าน และเป็นนางเอกของการแสดงตัวจริง
• รวมถึงอีกหลากหลายความเห็นที่ขุดคุ้ยเอาข่าวลือเรื่องพฤติกรรม diva จอมบงการของ  J. Lo มาซ้ำเติม  และฟันธงว่า ถึงเธอจะสวยเป๊ะและทุ่มเทอย่างหนักจนก้าวมาเป็นคนดังชื่อก้องโลก แต่ก็เป็นคนดังนิสัยแย่ หลงตัวเอง และไม่ให้เกียรติศิลปินที่แชร์เวทีแสดงดนตรีด้วย

มีดราม่าชิงดีชิงเด่นระหว่างดิว่าทั้งสองจริงหรือ?

สื่อพาดข่าวให้ผู้ติดตามคิดต่อแบบนี้ ก็ทำให้หลายคนนึกสงสัยขึ้นมาว่า หรือนี่จะเป็นศึกดิว่าของสองเสือสาวที่ไม่สามารถอยู่ร่วมถ้ำดียวกันได้? แม้พวกเธอจะตกลงรับการแสดงในฐานะ co- headliner แต่ก็ไม่ได้มีสัมพันธภาพแนบแน่น บางคนที่มีอคติต่อตัวJ. Lo ยังวิพากษ์วิจารณ์ว่า เธออาจจะเกิดความระแวงหาก Shakira จะดูเปล่งประกายจนดึงดูดเสียงชื่นชมได้มากกว่า!


อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้ที่เชื่อว่า นี่เป็นวิธีการ 'เสี้ยม'ให้ผู้คนเข้าใจว่า ศิลปินหญิงชื่อดังนั้นเอาแต่อิจฉาริษยา ไม่อยากให้คู่แข่งได้ดีเกินหน้า ซึ่งเป็นวิธีที่สื่อบันเทิงสร้างกระแสความสนใจมานาน จากข้อมูล documentary ที่ถูกเผยแพี่อออกมานั้น ไม่มีจุดใดเลยที่ J. Lo ทิ้งความหมายเป็นนัยหรือแสดงออกว่ารับไม่ได้ที่ต้องแชร์เวทีกับ Latina superstar อีกคน แต่เธอมุ่งมั่นเพื่อจะใช้เวลาการแสดงให้มีคุณค่ามากที่สุด และต้องการเวลาที่เหมาะสมที่จะโชว์ความสามารถของศิลปินตัวจริง และใช้พื้นที่เพื่อแสดงอุดมการณ์ทางการเมืองในระหว่างที่อเมริกากลายเป็นข่าวฉาวโฉ่เรื่องสถานกักกันผู้อพยพเด็กที่ถูกพรากจากพ่อแม่หลังจากถูกจับกุมข้อหาลักลอบเข้าประเทศบริเวณพรมแดนติดเม็กซิโก

แฟนๆ J Lo โต้   สื่อจงใจตีความหมายคำพูดเธอในทางที่แย่เพื่อปั่นกระแสความเกลียดชัง

การจั่วหัวข้อข่าวว่า  J. Lo   คิดว่าการแชร์เวทีแสดงกับ  Shakira เป็นไอเดียแย่ๆ โดยไม่ระบุชัดเจนว่า  เธอไม่พอใจที่ระยะเวลาของโชว์น้อยเกินไป   ได้กลายมาเป็นประเด็นข้อขัดแย้งแฟนๆของศิลปินสาวทั้งสอง  หลายคนเข้ามาถกเถียงกันว่า   ใครกันแน่ที่โด่งดังมากกว่าและมีความสามารถครบเครื่องควรค่าเวที Super Bowl  halftime

แต่ยังมีหลายเสียงที่เข้ามาทัดทานดราม่าร้อนว่า  นี่คือ clickbait  ที่ให้ผู้คนคิดไปว่า   J. Lo  ต้องการจะขึ้นแสดงแบบ solo   จนพูดจาไม่ไว้หน้า Shakira  แต่จริงๆแล้ว  ความตึงเครียดเรื่องการบริหารเวลาการแสดงที่จำกัดต่างหากที่ทำให้เธอต้องระบายความไม่พอใจ  เมื่อต้องทุ่มเทเพื่อ 'ปล่อยของ' ให้เลอเลิศที่สุดภายในระยะเวลาไม่กี่นาทีก็ย่อมสร้างความวิตกกังวล ไม่ได้พาดพิงไปถึงตัว  Shakira  แต่เป็นเสียงเรียกร้องจาก entertainer มืออาชีพว่า พวกเธอสมควรจะได้มีช่วงเวลาที่เปล่งประกายมากกว่าหกนาทีบนเวที

ย้อนไปก่อนที่จะขึ้นเวที J. Lo ได้บอกเล่าให้มุ่งหมายในการแสดงครั้งสำคัญครั้งนี้กับ Varietyไว้ว่า

"ฉันว่านี่เป็นช่วงเวลาที่สำคัญเมื่อผู้หญิง Latin สองคนจะได้ยืนบนเวทีนั้น   ในขณะที่บรรดาชาวLatinos ได้รับการปฏิบัติหรือถูกมองด้วยสายตาที่มีอคติในประเทศนี้   เราจะได้แสดงให้เห็นว่าเรามีวัฒนธรรมอันงดงามและเปี่ยมไปด้วยคุณค่า และเราสามารถมอบสิ่งที่จำเป็นต่อประเทศนี้ได้   ฉันคิดว่ามันจะเป็นโมเมนท์ที่ยอดเยี่ยม ในค่ำคืนนั้น ฉันจะแสดงความชื่นชมยินดีกับตัวตนของพวกเรา  ทุกๆคนเลยค่ะ   เพราะพวกเราต่างรวมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน"

มีคนกล่าวหาว่าเธอว่าอีโก้แรงจนดูเป็นนางร้าย และไม่ได้มีความสามารถทางดนตรีโดดเด่นเข้าขั้น แค่สร้างกระแสเก่งบวกกับงานแสดงที่ทำให้ยังสร้างเสียงกล่าวขวัญ

มีเสียงสนับสนุนหนักแน่นว่า หากเธอไม่เก่งกาจจริง คงไม่ประสบความสำเร็จยาวนานจนกระทั่งอายุขึ้นหลัก 5

รวมถึงผู้ที่แสดงความเข้าใจว่า เธอต้องมุ่งมั่นทุ่มเทอย่างยาวนานกว่าจะได้มาถึงเวทีนี้ ไม่น่าแปลกใจที่เธอจะกดดันเพื่อนำเสนอการแสดงที่ดีที่สุด

ในขณะที่มีคนปรามาสเธออย่างแรง แต่ก็มีคนที่เห็นด้วยว่า ศิลปินระดับ J. Lo และ Shakira คู่ควรที่จะขึ้นแสดงแบบเต็มๆ ไม่ควรหารเวลากัน

อย่างไรก็ตาม  ผลลัพธ์ของการแสดงก็เป็นตามที่พวกเรารู้กันดี   มันกลายเป็นหนึ่งในการแสดงที่สร้างความฮือฮาติด trending ไปในหลายประเทศ    และยอดติดตามจากเข้าชมการแสดงทางYoutube พุ่งไปมากกว่า 236 ล้านครั้ง  (เป็นยอดเข้าชมhalftime showที่สูงที่สุดใน platformนี้)     

 HALFTIME ที่กำลังจะได้ลงจอผ่าน Netflix เป็นครั้งแรกในวันที่ 14 นี้ไม่ได้เจาะลึกเรื่องการแสดงยนเวที Super Bowl เมื่อสองปีก่อนเท่านั้น  แต่เปิดเผยเส้นทางอาชีพศิลปินเกินกว่าสามสิบปีของ J. Lo   จากที่พยายามดิ้นรนหาเลี้ยงชีพด้วยการเป็น backup dancer  ก็ผงาดสู่เส้นทางดนตรีและการแสดงจนขึ้นชื่อว่าเป็น superstar เต็มขั้น    จากภาพหนังตัวอย่าง  ก็เผยถึงการรับมือกับแรงกดดันที่มาพร้อมกับชื่อเสียงเงินทอง  ไม่ว่าการถูกติดตามจับจ้องเพื่อขายข่าวเรื่องชีวิตรัก และข่าวลือยาวนานเรื่องพฤติกรรมดิว่าผู้เย่อหยิ่งไม่เห็นหัวใคร    แต่หัวใจของหนังสำคัญคือพัฒนาการของศิลปิน Latina ที่แม้ว่าจะผ่านร้อนหนาวมามากมายจนก้าวเข้าสู่ครึ่งหลังของชีวิต เธอกลับพบกับความท้าทายจนทำให้รู้สึกว่า มันเพิ่งเป็นจุดเริ่มต้นเท่านั้น..