เส้นทางอันเปล่งประกายสู่วัย30 ของ Selena Gomez

เมื่อได้ยินข่าวว่า Selena Gomezได้ฉลองวันคล้ายวันเกิดครบ 30 ปีไปเมื่อไม่กี่วันก่อน ก็น่าจะสร้างปฏิกิริยาsurpriseไม่น้อยเลย เพราะถึงเธอจะครองตำแหน่ง superstar หน้าเด็กมานานหลายปี แต่รูปลักษณ์อ่อนเยาว์ไม่เปลี่ยนไปจากตอนเป็น teen idol นั้นคงทำให้หลายคนยึดมั่นเธอเป็นสาวใสกิ๊งตลอดกาล

จากยุคสมัยหมุนเวียนเปลี่ยนผัน สำหรับผู้คนมากมายในสังคม วัย 30 นี่แหละคือช่วง prime ที่แสนสดใสซาบซ่าน ไม่ได้สื่อถึงความร่วงโรย หรือต้องคอยคร่ำครวญเรื่องการหาคู่เหมือนกับพล็อทนิยายยุคเก่า แต่เส้นทางชีวิตของแต่ละคนย่อมมีความแตกต่างกันหลากหลายรูปแบบ Selena อาจจะดูสวยแบ๊วซะจนหากไม่ติดตามกันก็คงทายอายุกันไม่ถูก แต่กว่าจะขึ้นเลข 3 เธอก็ผ่านอะไรมามากมายจนแฟนๆต้องคอยร่วมส่งกำลังใจให้ฝ่าฟันแบบทดสอบหนักหน่วงของชีวิตไปให้ได้

แล้วตัวเธอเองล่ะ   รู้สึกอย่างไรที่ก้าวสู่วัย30?

"ช่วงวัยยี่สิบ ฉันได้พบกับเรื่องราวดีๆ ความยากลำบาก และช่วงเวลาอันงดงามที่ฉันจะไม่มีวันลืม แต่ล่ะสิ่งได้หล่อหลอมตัวตนของฉันจนเป็นดังทุกวันนี้ ฉันคือบุคคลที่ยังเฝ้าเรียนรู้ แต่ตั้งใจแน่วแน่ต่อสิ่งที่มีความสำคัญและสิ่งที่ปรารถนาจริงๆ เป็นผู้ที่รู้สึกซาบซึ้งต่อของขวัญที่ได้รับและทุกๆบทเรียนที่ผ่านมา ฉันก้าวไปข้างหน้าด้วยแรงสนับสนุนและการสร้างเสริมพลังใจจากผู้คนรอบข้าง   ฉันปรารถนาจะพยายามเต็มที่ในการปรับตัวเข้ากับช่วงที่สวยงามและเลวร้ายแล้วก้าวเข้าสู่ด้านที่ดีที่สุดเท่าที่ตัวฉันสามารถทำได้เพื่อตัวของฉันเอง เพื่อคนอื่น และเพื่อคุณ   หลังจากทีไ่ด้ฉลองมาหลายวัน หัวใจของฉันล้นปรี่ไปด้วยความตื้นตันใจ และบอกได้เลยว่า ฉันเริ่มจะชอบวัยสามสิบเข้าแล้วจริงๆ    ขอบคุณมากที่ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของฉัน   ไชโยให้กับอีกสิบปีที่เพิ่มขึ้น!"

Selena ฉลองวัยสามสิบพร้อมกับครอบครัวและเพื่อนฝูงคนสนิทอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา รวมถึงเพื่อนร่วมวงการอย่าง   Kim Petras, Camilla Cabello, และ Ava Max   หรือที่ดูจะขาดไม่ได้คือ Taylor Swift  ที่รักษามิตรภาพแนบแน่นมานาน

คนดังวงการ Hollywood มักจะถูกวิกพากษ์วิจารณ์เรื่องวิถีอภิสิทธิ์ชนที่เต็มไปด้วยพลัง connection ผลักดันตัวเองสู่ความสำเร็จ แต่จุดเริ่มต้นของ Selena นั้นมาจากความยากลำบาก Mandy แม่ของเธอยังเป็นเพียงเด็กสาววัย 16 ตอนที่ให้กำเนิดเธอ และหลังจากนั้นเพียง 5 ปี พ่อแม่ก็หย่าร้างกัน ทำให้แม่ต้องรับหน้าที่แม่เลี้ยงเดี่ยวฝ่าฟันอุปสรรคทางการเงินที่ขาดแคลน Selena ก็ยังจดจำเรื่องความยากจนได้ดี

"ฉันจำได้ว่า รถของแม่น้ำมันหมดถังบ่อยๆ และเราก็ต้องค้นทุกซอกทุกมุมของรถเพื่อรวบรวมเศษเหรียญมาจ่ายค่าน้ำมัน เพราะแม่ไม่อยากเอ่ยปากขอเงินจากยาย"

"แม่ยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อฉัน แม่ทำงานสามที่ไปพร้อมกัน ทั้งให้การเลี้ยงดูและเสียสละทั้งชีวิตเพื่อฉันได้"

"ฉันโศกเศร้าใจสลายเมื่อพ่อแม่แยกทางกัน แม่ต้องทำงานหนักเพื่อจะมอบชีวิตที่ดีกว่าให้กับฉัน  แล้วฉันก็มองไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์แต่อย่างใด  ฉันหวาดหวั่นว่าหากอยู่ใน Texas ต่อไปก็คงไม่มีอะไรดีขึ้น"

ในขณะที่พ่อแม่ต้องไปเรียนเพื่อวุฒิการศึกษาและทำงานเพื่อหาเลี้ยงลูกน้อย ตายายของเธอได้ยื่นมือเข้ามาช่วยดูแล และสนับสนุนให้เธอเข้าร่วมการประกวดนางงามตัวจิ๋ว เพราะ Selena ปลาบปลื้มการแสดงคอนเสิร์ต แม่ของเธอจึงต้องกระเบียดกระเสียรหาเงินมาจ่ายค่าตั๋ว สาวน้อยวัยหกขวบเริ่มฉายแววความเป็น star ให้แม่ได้ประจักษ์ เมื่อเธอเรียกเด็กๆในชุมชนเดียวกันมาทดสอบบทเพื่อสร้าง home movie ในแบบฉบับตัวเอง เมื่อเธอไปชมการฝึกซ้อมการแสดงกับแม่ ก็ออกความเห็นเรื่อง รูปแบบ acting อย่างคล่องแคล่ว

Selena เริ่มตระเวณauditionจนได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งนักแสดงเด็กในรายการ Barney & Friends นี่คือจุดเริ่มต้นแห่งการเรียนรู้เรื่องการแสดงที่ปูทางไปสู่ความโด่งดังอีกหลายปีต่อมา

ถึงกระนั้น ภาพของดาราเด็กค่าย Disney ก็ไม่ใช่สิ่งการันตีความสำเร็จให้กับเด็กๆทุกที่ได้รับเลือก Selena ไม่ได้มาจากครอบครัวที่มีชื่อเสียง หลังจากที่เริ่มเข้าสู่วัยทีนก็ต้องโบกมือลาBarney เพราะดูโตเกินไป ไม่ตรงใจ producer แล้ววนเวียนรับบทสมทบและแขกรับเชิญในผลงานช่อง Disney ระหว่างที่ Miley Cyrus สร้างปรากฏการณ์จาก Hannah Montana Selena ก็ได้รับโอกาสให้เปล่งประกายมากขึ้นจากบท Mikayla ไอดอลคู่แข่งของนางเอก ในที่สุดก็พิสูจน์ความสามารถจนคว้าบทนางเอกจาก Wizards of Waverly Place ถึงสี่ซีซันและจนกลายมาเป็นนักแสดงขวัญใจวัยใสอย่างเต็มตัว

หากไม่ใช่แฟนประจำของซิทคอมจากช่อง Disney ก็อาจจะไม่คุ้นกับบทแม่มดสาวหน้าใสแห่ง Wizards of Waverly Place  แต่ซีรีส์เรื่องนี้ได้เป็นประตูเปิดประตูแจ้งเกิดแบบเต็มตัว   นอกจากชนะหลายรางวัลก็ยังสร้างเรตติ้งสวยงาม (ตอนอวสานดึงดูดผู้ชมได้ถึง 9.76ล้าน)  แม้ช่วงออนแอร์จะทับกับ Hannah Montana ผลงานที่ทำให้ Miley Cyrus กลายมาเป็น teen idol ที่ประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลาย   แต่มันก็ช่วยให้เธอขยาย fanbase  ให้แข็งแกร่ง  และผลักดันให้เธอได้เซ็นสัญญากับ Hollywood Records ค่ายเพลงจากDisney Music Group ที่ส่ง idol มาสั่นสะเทือนวงการหลายคน 

ครั้งหนึ่ง เราเคยได้ยิน comment ที่แสดงความฉงนใจว่า เพราะอะไร Selena จึงครองความโด่งดังแบบไม่แผ่ว ตามมาด้วยเสียงวิเคราะห์ว่า นอกจากความสามารถที่โดดเด่นแล้ว fanbase ของเธอยังแข็งแกร่งยิ่งนัก เรื่องขาลงเพราะหมดกระแสอาจจะเป็นเรื่องสัจธรรมวงการ idol แต่ Selena ยังก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงด้วยพลังสนับสนุนจาก Selenators แม้ธอจะถูกเปรียบเทียบกับเพื่อนซี้อย่าง Taylor Swift ในเรื่องยอดขาย ยอดเข้าชม MV และรางวัลการันตีความสามารถทางดนตรีมาแล้วหลายครั้ง เธอก็ยังห่างไกลจากคำว่าขาลง ตัวเลขสถิติต่างๆก็ชี้ความสำเร็จแจ่มแจ้ง นอกจากผลงานดนตรีแล้ว อาชีพนักแสดงของเธอยังมีพัฒนาการอย่างชัดเจน จากที่ถูกมองว่าเป็นสาว Disney ที่ถนัดแต่สาย comedy ใสๆ ล่าสุด ซีรีส์ Only Murders in the Building ก็ทำให้เธอก้าวสู่ทำเนียบนางเอกคุณภาพด้วยการเข้าชิงรางวัลนักแสดงนำยอดเยี่ยมจาก Critics' Choice Television Award และ Screen Actors Guild Award 

ความคลั่งไคล้ของ Selenators นั้นไม่แพ้ด้อมอื่นๆ Selena เจอมาหมดทั้งเรื่องการแห่แหนเพื่อสัมผัสตัวจริงของเธอจนห้างแทบแตกหรือปิดการจราจร ที่สำคัญ เธอยังมีชื่อเสียงการให้ความเป็นกันเองกับแฟนๆ ว่ากันว่า หากไม่เร่งรีบหรือเหน็ดเหนื่อยมากเกินไป หากพบเจอเธอที่เตร็ดเตร่แถวกองถ่าย หรือแม้แต่ช่วงที่กำลังใช้เวลาส่วนตัว เธอก็จะหยุดถ่ายselfie ด้วยตามคำร้องขอ รวมถึงสวมกอดพวกเค้า ถึงทุกวันนี้ ก็ยังมีคนที่แชร์ภาพคู่กับ superstar สาวเยอะแยะไปหมด บางครั้งเธอนั่งรถมาก็หยุดลดกระจกเพื่อถ่ายรูปกับแฟนที่มารอคอย หรือแม้แต่ตอนหน้าสดก็ดูจะไม่เป็นอุปสรรคต่อการทำความฝันแฟนๆให้เป็นจริง
   

เปิดโอกาสให้แฟนๆเข้าถึงตัวขนาดนี้ อาจจะมีคนสงสัยว่า นอกจากจะต้องใช้เวลาทักทายและถ่ายรูปกับแฟนๆ เธอไม่ต้องเหนื่อยกับพฤติกรรมล้ำเส้นหรือ stalker บ้างหรือไร?      Selena ไม่สามารถหลบเลี่ยงการคุกคามไปได้   พวก  stalker เคยพยายามบุกรุกบ้านของเธอจนตกเป็นข่าวมาแล้วหลายครั้ง  (ล่าสุดตำรวจเพิ่งจับผู้ชายที่กระโดดข้ามรั้วบ้านเธอไปไม่กี่วันก่อน)  แต่ด้วยทีม security ที่แน่นหนาก็น่าจะสร้างความอุ่นใจให้เธอในระดับหนึ่ง การเปิดโอกาสให้แฟนๆเข้าถึงตัวอย่างเป็นกันเองนั้นจะต้องมี  guard คอยดูแลอยู่ไม่ห่าง

เรื่องราวชีวิตส่วนตัวที่เคยปรากฏเป็น scandal สร้างเสียงวิจารณ์เกรียวกราวตาม social media ทำให้หลายคนฟันธงว่า '๋Jelena' คือคู่รักวนเวียนกับความสัมพันธ์แบบ toxic แต่ถึงกระนั้น ก็ยังมีกลุ่มคนที่ไม่ยอมปล่อยวางว่า พวกเค้าได้เลิกรากันอย่างเด็ดขาดยากจะหวนคืน และคนเหล่านั้นมักถูกมองว่าเป็นแฟนของ Selena ที่ฝังใจกับความรักของ superstar วัยใสจนไม่สามารถแยกแยะความจิ้นกับโลกแห่งความเป็นจริงได้

มีผู้ให้ความเห็นว่า  แกลุ่มคนที่ร่ำร้องให้คู่นี้กลับมาสานต่อฉายา Jelena   เกิดความผูกพันเพราะได้เห็นพัฒนาการของพวกเค้าตั้งแต่ยังเป็นผู้เยาว์ และต้องคอยเอาใจช่วยกับอุปสรรคต่างๆ   นับตั้งแต่กระแสโจมตี  Selena ซึ่งมีอายุมากกว่า JB เพียงสองปี แต่ในช่วงที่ผู้คนจับตามองความสัมพันธ์ของพวกเค้าแบบเกาะไม่ปล่อย เธอก็อายุถึง 18 ปี หรือage of consent  ของรัฐ California แล้ว   ส่วน  Justin เองก็เป็นหนุ่มค่อนข้างช้า มองหลายๆมุมก็ดูเหมือนกับกับเด็กที่เพิ่งเข้าเรียนมัธยม  ถึงSelenaจะขึ้นชื่อเรื่องหน้าเด็กก็ยังตัวสูงกว่า JB พอประมาณ    ในขณะที่เธอเคยยืนยันว่ามองอีกฝ่ายเป็นแค่น้องชาย ไม่คิดจะเกินเลยไปมากกว่านั้น  แต่ในที่สุดก็เปิดตัวเป็นคู่รัก teen idol ที่มีทั้งเสียงเชียร์อย่างสมหวังและเสียงวิจารณ์ว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม

ไม่ว่าพวกเค้าจะรักกันหวานชื่น, แตกหักจนยากจะเยียวยา หรือกลับมาคืนดีกันกี่ครั้งก็สร้างกระแสตอบรับอย่างร้อนแรงมาโดยตลอด  จนกระทั่ง Justin ได้ก้าวสู่การสร้างชีวิตคู่กับ Hailey  ประเด็นความขัดแย้งที่เกิดจากแฟนๆที่ไม่ปรารถนาจะเห็นเขาสมหวังกับใครอื่นนอกจาก Selena ก็ยังไม่จางหายไป   แม้สามีภรรยาชื่อดังจะไม่โต้ตอบด้วยการระบุชื่อว่าเป็ร fandom ใดตรงๆ  แต่บรรดาสื่อก็ชี้ชัดด้วยความมั่นใจว่า กลุ่มคนที่ตามว่าร้าย Hailey ไม่หยุดหย่อน คือแฟน Selena ที่ยังแค้นเคืองที่ Justin แต่งงานกับคนอื่นที่ไม่ใช่ขวัญใจของพวกเค้านั่นเอง

ย้อนไปเมื่อปี 2016   Selena ได้สร้าางสถิติคนดังที่มีผู้ติดตามทาง Instagram มากที่สุดในโลก (เธอเป็นคนแรกในโลกที่มีผู้ติดตามเกินร้อยล้าน)   แม้ปัจจุบัน จะเป็นรอง Christiano Ronaldo, Kylie Jenner และ Lionel Messi  แต่เธอก็ยังติดอันดับTOP 5 และยังรักษาตำแหน่งศิลปินดนตรีที่มีผู้ติดตามมากที่สุดไว้ได้  แซงหน้า Ariana Grande Beyonce  รวมถึง Justin Bieber   นอกจากอาชีพนักร้องนักแสดง   ก็ยังพ่วงบทบาทของคนดังทรงอิทธิพลแห่งโลก social media   ถึงเธอจะเก็บตัวเงียบหายไปจากการสร้างปฏิสัมพันธ์ online ไปสักพัก แต่เมื่อกลับมา post ก็ดึงดูดยอด likesได้หลายล้านแทบทุกครั้งไป

หลายคนอาจจะมองว่า Selena คือ superstar ที่วางตัวห่างจากเรื่องฉาวโฉ่ และเป็นที่รักของแฟนๆไม่แปรเปลี่ยน แต่เธอก็ไม่สามารถรอดพ้นจากความ toxic ของ internet ไปได้ แม้ว่าเธอจะตัดสินใจออกมาเปิดเผยปัญหาทางสุขภาพจากโรค Lupus ที่ร้ายแรงจนเสี่ยงต่อชีวิต และต้องผ่าตัดปลูกถ่ายไต และยังทุกข์ทรมานจากจิตใจจากโรคซึมเศร้าและ Bipolar แต่บรรดา trollก็คอยตามสาดคำพูดร้ายกาจไม่หยุดพัก  โดยเฉพาะ body-shaming เมื่อเธอดูไม่ผอมเพรียวเหมือนในอดีต

"มันมาถึงจุดที่ Instagramกลายมาเป็นโลกทั้งใบของฉัน  และมันเป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก   ตอนที่ฉันอยู่ใยวัยยี่สิบ  ฉันรู้สึกเสมอว่าตัวเองสวยไม่พอ มันเป็นช่วงเวลายาวนานในชีวิตที่ฉันเชื่อว่าต้องแต่งหน้าตลอดและจะให้ใครเห็นหน้าสดไม่ได้"

"เมื่ออายุมากขึ้น ฉันก็ได้พัฒนาตัวเองและเรียนรู้ว่าฉันต้องควบคุมจิตใจให้ได้  ฉันอยากจะมองไปยังกระจกและรู้สึกมั่นใจในสิ่งที่ฉันเป็น  การตัดขาดจาก social media คือการตัดสินใจที่ดีที่สุดที่ฉันทำเพื่อสุขภาพจิตของตัวเอง"


Selena น่าจะเป็นหนึ่งในคนดังที่มีผู้จัดการ account เพื่อติดต่อสื่อสารกับแฟนๆ แต่เพื่อที่จะป้องกันตัวเองจากความเห็นจากความเกลียดชัง เธอจะไม่เข้า account ด้วยตัวเอง และลบ Instagram ออกจากโทรศัพท์ แม้ว่าเธอจะเป็นศิลปิรที่มีผู้ติดตามมาที่สุด แต่ไม่ได้เข้าไปเช็คว่าใครพูดถึงเธออย่างไรในsocial media มาเกินสี่ปีแล้ว

Selena ได้หันมาสนับสนุนหน่วยงานด้านสุขภาพจิต ด้วยความตั้งใจว่าเธอจะใช้ประสบการณ์จากความเจ็บป่วยและสถานะคนดังช่วยเหลือผู้อื่นได้ เมื่อไม่นานมานี้เธอได้ร่วมกับแม่และ Daniella Pierson ก่อตั้ง Wondermind บริษัทสื่อที่นำเสนอคอนเทนท์เพื่อเยียวยาความเจ็บป่วยทางจิตใจด้วยโครงสร้างนวัตกรรมที่เรียกว่า mental fitness ด้วยการดึงการร่วมมือกันของสื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ บทความ podcast และการสร้างผลงานบันเทิงผ่าน streaming service ซึ่งก่อนหน้านี้ Selena ได้พิสูจน์ตัวเองจากผลงาน executive produce จาก 13 Reasons Why มาแล้ว

"โรค lupus การปลูกถ่ายไต ความเจ็บป่วยทางจิตใจ การตกเป็นกระแสสังคมจากเรื่องอกหักใจสลาย สิ่งพวกนี้น่าจะทำให้ฉันพังทลายไปแล้ว ทุกครั้งที่ฉันต้องเผชิญกับอะไรแย่ๆ ฉันก็ถามตัวเองว่า จะมีอย่างอื่นตามมาอีกรึเปล่า?  ฉันต้องรับมือกับอะไรอีก?

"ฉันบอกตัวเองว่า เธอจะต้องช่วยเหลือคนอื่นสิ  นี่เป็นสิ่งที่ทำให้ฉันมุ่งมั่นต่อไปได้ จากที่เคยผ่านสถานการณ์ที่ตัวเองยังเข้มแข็งไม่พอและเสี่ยงต่อการทำร้ายตัวเอง"

แม้จะฝ่าฟันเรื่องราวหนักหน่วงจนก้าวสู่วัยเลข 3 โดยเฉพาะที่ต้องอยู่กับความเจ็บป่วยไปตลอดชีวิต ทั้งโรคทางกายและโรคทางใจที่   แต้คุณอาจจะสัมผัสได้ว่าพลังงานด้านบวกยิ่งทำให้ Selena เปล่งประกายกว่าช่วงเป็นสาวแรกแย้มเสียอีก   เราเชื่อว่าอีกสิบปีข้างหน้า แฟนๆก็คงรักเธอไม่แปรเปลี่ยน

The End