เจาะลึกความเป็นมาของเทรนด์รองเท้า Platform

36 12
กระแสความนิยมรองเท้า platform ที่ฮิตกระหน่ำมาตั้งแต่ปีที่แล้วยังไม่มีทีท่าว่าจะแผ่วลงไปแม้แต่น้อย    บรรดาอิทเกิร์ลทั้งหลายต่างประชันความสูงด้วยรองเท้าพื้นหนา  ไม่ว่าจะ  Prada   Valentino   Bottega หรืออีกหลากหลายแบรนด์ก็ต้องส่ง platform มาสู้กัน  คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า  แม้ความสูงของรองเท้าจะดูชวนหวาดเสียวว่าจะขาพลิกหรือชวนเมื่อยสักเท่าใด  ก็ยังยั่วใจเหล่า fashionista จนต้องสอยมาเดินสูงปรี๊ดกันขวักไขว่

บางคนอาจจะคิดว่า รองเท้า platform น่าจะเป็นไอเท็มคู่ใจของสาวตัวเล็กอย่าง Ariana Grande หรือ Lady Gaga เพราะนอกจากจะเพิ่มความสูงให้พุ่งพรวดเกิน 10 cm มันยังสื่อถึงความท้าทายทักษะการทรงตัว เพิ่มดีกรีความเปรี้ยวแซ่บมาอีกหลายขั้น


แต่เทรนด์ที่ร้อนแรงอย่างต่อเนื่องก็พิสูจน์แล้วว่า นี่คือรองเท้าที่สาวๆจับมาสวมได้ในหลากหลายโอกาส ลองดูได้จาก The IT shoes ล่าสุด นั่นคือ platform รัดข้อเท้าที่ใครๆก็ต้องหามาใส่


Olivia Rodrigo ใส่ Giuseppe Zanotti สูง 6 นิ้วไปเยือนทำเนียบข่าวเพื่อร่วมรณรงค์ให้คนรุ่นใหม่ฉีดวัคซีน COVID สร้างความฮือฮาด้วยลุคเป็นทางการนิยาม Gen Z

สองนางแบบสุดhot แห่งยุค ยิ่งสูงตระหง่านจนถูกเปรียบด้วยคำว่า sky high     Kendall ใส่ Bottega Veneta รุ่น Tower Python Print Platform Pump สูง5 นิ้วครึ่
  และ Gigi ใส่ Valentino รุ่น Discobox สูง 6 นิ้ว  (ใส่แล้วทำให้ Bella ที่ยืนข้างๆกันตัวเล็กไปเลย)   หรือง่ายๆก็คือ คำนวณออกมาแล้ว  รวมกับพื้นรองเท้าแล้วพวกเธอจะสูง 193 - 195  cm เลยล่ะ!

เมื่อข้ามมาส่องเทรนด์สุด mainstream จากวงการ K- Pop  แน่นอนว่า  สี่ไอดอลสาวทรงอิทธิพลก็ยิ่งตอกย้ำเทรนด์รองเท้า platform   โดยเฉพาะฉากการเปิดตัว  Jennie ที่สับขาบนรองเท้า GCDSสูงปรี๊ดถึง 6 นิ้วด้วยความมั่นใจ 200%

เทรนด์ร้อนแรงถึงขนาดนี้ เรามาเจาะวิวัฒนาการของรองเท้า platform กับเราได้เลยค่ะ

ยุคกลาง  
 platform ได้ยืนหยัดคู่กับโลก fashion มาเนิ่นนานก่อนที่พวกเราจพได้รู้จักกับrunway ใน fashion week   แต่สิ่งที่ดูแตกต่างออกไปคือวัตถุประสงค์ในการใช้งาน  ลองจินตนาการถึงยุคกลางที่ผู้คนยังต้องเดินทางไปตามท้องถนนที่มีแต่โคลน  แม้จะเป็นชนชั้นสูงที่พักอาศัยในอาคารหรูหรา  แต่เมื่อย่างเท้าลงไปตามพื้นเฉอะแฉะ   คราบสกปรกย่อมมาเยี่ยมเยือนชุดงามกรุยกรายที่มีมูลค่าแพงระยับ     สำหรับหลายประเทศแถบยุโรป นี่คือไอเท็มยอดนิยมสำหรับเหล่าผู้ดี, นางคณิกาชั้นสูงและนักแสดงละคร ปรากฏให้เห็นตามผลงานภาพวาดศิลปะจากร้อยร้อยปีก่อน (ส่วนในเอเชีย  ก็มีOkobo หรือ Pokkuri ที่สืบทอดกันมาในประเทศญี่ปุ่น หรือ Qixie ของผู้หญิงแมนจู)




ในยุคกลาง ช่างรองเท้ายุโรปจะสร้างสรรค์ platform พื้นไม้หรือใช้หนังเย็บติดกันหลายชั้นจนแน่นหนา  ช่วงศตวรรษที่ 15 ไม่เพียงแต่ผู้หญิงเท่านั้นที่จะหลีกเลี่ยงพื้นสกปรกด้วยรองเท้าสูงปรี๊ด   แม้แต่ผู้ชายก็นำมาใช้ในหลายโอกาส     เมื่อเวลาหมุนเวียนเปลี่ยนไป style ของ platform ก็ดูแปลกใหม่หลากหลายยิ่งขึ้น  สามัญชนก็เอื้อมถึงรองเท้าplatform ได้เช่นกัน   แต่นั่นก็ขึ้นอยู่กับ lifestyle  บรรดาชาวไร่ชาวนาหรือกรรมกรแบกหามก็คงไม่หาเรื่องใส่ตัวด้วยการใส่รองเท้าสูงปรี๊ดไปทำงาน  ส่วนชนชั้นสูงก็ย่อมจัดหนักจัดเต็ม gimmick ที่แสดงถึงความหรูหรา  ทั้งใช้หนังหรือผ้าไหมชั้นดี ประดับอัญมณี รวมถึงโชว์ความ'เหนือ' ด้วยความสูงเป็นฟุต!



ในศตวรรษที่ 15-17 ที่กรุง Venice รองเท้าที่เรียกว่า Chopines คือสิ่งที่ที่สื่อถึง status ของผู้หญิง ยิ่งรองเท้าสูงมากเท่าใดก็ยิ่งเริ่ด หญิงสาวตระกูลสูงส่งต่างประชันใส่ Chopines โดยไม่หวั่นว่าจะเดินเหินลำบาก หลายคู่สูงมากซะจนต้องมีสาวใช้หรือสามีคอยประคับประคอง นึกแล้วดูทุลักทุเลและมีอันตรายเสี่ยงที่จะล้มหัวหาดพื้นทางการจึงออกกฎหมายควบคุมความสูงของ platform ออกมา แต่อย่าคิดว่าเค้าจะฟังกันง่ายๆ ความสวยแพงต้องมาก่อนสิ่งอื่นใดอยู่แล้ว

Chopines ยังได้รับความนิยมใน Spain ในช่วงเวลาเดียวกันนักวิชาการบางคนสันนิษฐานว่า รองเท้า Nalins ที่ชาวTurkish ใช้ใส่กันเท้าเปียกหรือเปื้อนในห้องอาบน้ำรวม (Turkish Bath) คือต้นแบบของเทรนด์นี้นั่นเอง

platform มีชื่อเรียกกันไปแตกต่างกันไปตามภูมิภาคและยุคสมัย บางท้องที่จะตั้งชื่อจากเสียงที่เกิดขึ้นจากพื้นรองเท้ากระทบพื้น บ้างก็ตั้งตามรูปทรงของรองเท้า แต่ในยุคกลางจะเป็นที่รู้จักกันในชื่อ Pattens ซึ่งอาจจะ มาจากคำฝรั่งเศส pate ที่หมายถึงอุ้งเท้าหรือกีบ ชาวอังกฤษจะใส่รองเท้าซ้อนด้วย Pattens อีกทีเพื่อความสะอาด และถือธรรมเนียมถอดPattens เมื่อในบ้าน หรือเข้าร่วมพิธีทางศาสนาในโบสถ์ เนื่องจากเสียงก็อกๆ ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องผิดมารยาทและรบกวนผู้อื่น



ผู้คนในยุโรปยังนิยมใส่รองเท้า platform หรือ pattenมาเรื่อยๆจนถึงศตวรรษที่ 19 ความเจริญทางวัตถุทำให้ผู้คนเดินทางไปตามถนนได้สะดวกขึ้นโดยไม่ต้องลุยโคลนให้เลอะเปรอะเปื้อน ทั้งพัฒนาการทาง fashion ที่ผู้คนไม่ต้องใส่เสื้อผ้ายาวลากพื้นอีกต่อไป Bootsได้เข้ามาครองใจทั้งคุณผู้ชายและคุณผู้หญิง เมื่อเข้าสู่ยุคสงครามโลกครั้งที่ 1 ผู้หญิงที่เคยทำหน้าที่แม่บ้านแม่เรือนก็ต้องปรับเปลี่ยนบทบาทมาทำงานนอกบ้านแทนที่ผู้ชายที่ถูกเกณฑ์ไปรบ รองเท้าพื้นสูงย่อมเป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิตที่ต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด ส่วนผู้หญิงชั้นสูงเองก็หันมาใส่รองเท้าหุ้มส้นที่มีส้นเตี้ยที่ดูคล่องตัว

ศตวรรษที่ 20
platform ในยุคโบราณอาจจะดู extreme มากไปสำหรับชีวิตประจำวันของผู้คนยุค modern   นักประวัติศาสตร์ fashion ผู้ที่ทำให้เทรนด์เสริมส้นสูงปรี๊ดหวนสู่โลก fashion อีกครั้งคือ Moshe (Morris) Kimel ดีไซน์เนอร์ชาว German ที่สร้างรองเท้า platform เพื่อนางเอก A List   Marlene Dietrich 






ตามมาติดๆด้วย Salvatore Ferragamo ดีไซน์เนอร์รองเท้าชื่อชาว Italian ชื่อดังที่ได้สร้างสรรค์ Zeppe หรือ Wedge (คนไทยอาจจะเรียกว่ารองเท้าส้นเตารีด) ที่เรียกว่ารองเท้าสายรุ้งในปี 1938 เพื่อมอบให้กับ Judy Garland ซุปตาร์ผู้มีชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วโลกจากบทนำใน The Wizard of Oz ซึ่งดีไซน์และชื่อของรองเท้าก็สอดคล้อง Over the Rainbow ที่เธอขับร้องไว้ แม้เธอจะไม่ได้ใส่รองเท้าสายรุ้งในฉากหนัง แต่รองเท้า platform นี้ก็ถูกยกให้เป็น item ที่มาก่อนกาล เพราะแม้ว่าผลงานนี้จะไม่ได้รับความนิยมในวงกว้างในยุค 30s เหมือนกับรองเท้า T-strap หรือ Mary Jane แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็ถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในผลงานที่ดีที่สุดของ Ferragamo และเป็นรองเท้าในตำนานของศตวรรษที่ 20 และยังนำกลับมาดีไซน์ใหม่เพื่อวางจำหน่ายให้ fashionista ยุค digital ได้ร่วมอิน


Carmen Miranda นักร้อง/นักเต้นรำ samba/นางเอกค่าตัวสูงสุดแห่ง  Hollywood ยุค 40s  เจ้าของฉายา The Brazilian Bombshell ได้ประกาศความรักที่มีต่อรองเท้า platform อย่างภาคภูมิใจ เธอเป็นสาวงามไซส์มินิที่สูงเพียง 152 cm แต่มี skill การเต้นบนรองเท้า platform สูงปรี๊ดที่พริ้วไหวราวกับกำลังใส่รองเท้าflats  เธอได้แรงบันดาลใจมาจากรองเท้าเสริมส้นของชนชาติ Portuguese  เจ้าของฉายา The Brazilian Bombshell  ได้จับมือร่วมงานกับ Ferragamo สร้างสรรค์ collection  รองเท้า  platform  (บางคู่สูงเกือบ 8 นิ้ว!)  จนเป็น signature ของเธอคู่กับผ้าโพกหัว

ความ Peak ในยุค 70s

ผู้นำเทรนด์รองเท้า platform ในช่วง Golden Hollywood คือ sex symbol ที่แหวกแนวคิดดั้งเดิมอย่าง Mae West และ Marilyn Monroe ซึ่งผู้คนจำนวนไม่น้อยได้มองว่า นี่เป็นลุคที่ดู 'แรง'เกินไป แต่เมื่อก้าวสู่ยุค 70s รองเท้า platform ก็เปรียบเหมือนกับหนึ่งในuniform สำคัญของหนุ่มสาว

 ไม่ได้มีแต่ผู้นิยมชมชอบดนตรี disco เท่านั้นที่ปลาบปลื้มรองเท้าส้นหนาสูงปรี๊ด บอกเลยว่ามาทุกแนว! จะ funk, rock, soul, jazz หรือแนวไหนก็เห็นได้จากศิลปินดนตรีดังระดับโลกที่นำเสนอรองเท้า platform     ไม่จำเป็นต้องมี social media   เทรนด์นี้ก็ระเบิดความฮิตไปหลายประเทศ

จากเดิมที่ platform ถูกมองว่าสื่อถึงความ feminine ที่คู่ควรต่อผู้หญิงเท่านั้น แนวคิดเรื่องfashion ไร้เพศก็เฟื่องฟูจนหนุ่มๆจับรองเท้า platform มาใส่กันทุกหัวระแหง นอกจาก fashion ของศิลปินจะส่งอิทธิพลให้ ผู้คนเริ่มเปลี่ยนมุมมองต่อรองเท้า platform  ก็ยังมีฉากJohn Travolta ยักย้ายส่ายสะโพกตามดนตรี disco ในหนัง Saturday Night Fever  ยังไงล่ะ

หลายคนอาจจะได้ยินมาว่า เทรนด์จับคู่ platform sandalsกับถุงเท้าmี่เห็นบรรดา IT girls ใส่กันให้พรึ่บนั้นทำให้นึกถึงรองเท้าส้นตึกจากยุค 2000s แต่นี่ถือเป็นลุคที่โดดเด่นย้อนไปในปลายยุค 60s ไปจนถึง 70s สาวแซ่บอาจจะหยิบมันมาใส่กับ mini skirt หรือ hot pants

อีกหนึ่ง fashion moment น่าจดจำอันหนึ่งในยุคนี้คือ  ภาพรองเท้า platformของBianca Jagger ที่ประดับ บัตรเข้าด้านหลังเวทีคอนเสิร์ต  Rolling Stones ในปี 1975 (เธอเป็น fashion icon และภรรยาของ Mick Jagger)




รวมถึงรองเท้าของJodie Foster ใน Taxi Driver แม้เธอจะยังเป็นเพียงสาวน้อยวัยทีนและสร้างกระแสโต้แย้งจากการรับบทบาทโสเภณีเด็ก แต่ความโดดเด่นของ platform สีแดงคู่นี้ก็ทำให้สื่อหลายเจ้าจัดพวกมันให้อยู่ในกลุ่ม The Most Iconic Shoe Moments in Movie History เลยล่ะ

แล้ววใครเล่าจะลืมตำนานแห่ง runway  เมื่อ supermodel จอมสับขาอย่าง Naomi Campbell ล้มจนออร่าความ fierce ล่องลอยหายไปกลางโชว์ของ  Vivien Westwood ในยุค 90s

Y2K/ Millennium

คนที่อยู่ใน Gen Y ก็คงจะยังไม่ลืมเลือนปรากฏการณ์ความนิยมของรองเท้า platform แบบ Spice Girls ในยุค Y2K สิ่งที่ทำให้ดูฉีกจากยุคอื่นคือมันเป็น platform sneakers ที่ทั้งหนาและสูง ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า นี่คือสัญลักษณ์ของ pop culture ในช่วงเวลานั้น เทรนด์นี้ลามมาถึงบ้านเราจนทำให้รองเท้าส้นตึกขายดิบขายดี แม้ sneakers และ bootsจะดูไม่ค่อยเข้ากับพื้นทางเดินแบบไทยๆ หรืออาจจะดูเยอะเกินไปในสายตาผู้ใหญ่ แต่ก็มีประยุกต์กับรองเท้าหุ้มส้นและรองเท้าแตะที่ใส่เดินชนกันเกลื่อนกลาด


ความสูงระดับนี้เสี่ยงอันตรายมากขนาดไหน?  ก็แรงพอที่จะทำให้ Emma  หรือ  Baby  Spice ล้มระหว่างการแสดงทำให้ได้รับความบาดเจ็บที่ข้อเท้าจนต้องใช้ไม้ค้ำเดิน  แม้เธอจะยืนยันว่ารองเท้าไม่ใช่ต้นเหตุ แต่เป็นช่องที่พื้น หลายคนก็ยังเชื่อว่า ข้อจำกัดในการทรงตัวบน platform หลายนิ้วเป็นตัวการสำคัญของอุบัติเหตุ


The IT shoes

platform สูงปรี๊ดยืนหยัดอยู่คู่กับโลก fashionมาเนิ่นนาน  แม้มันจะไม่ได้ชวนฟังนุ่มนวลการย่างก้าวบนปุยเมฆ   แต่ก็เย้ายวนใจเหล่า trendsetters  จากรุ่นสู่รุ่น

เทรนด์นี้ทำคุณตื่นเต้นมากแค่ไหน  มาคุยกันได้นะ



The End


candy

candy

ติดตาม Mouth On The Web แล้วอย่าลืม Mouth On The Face นะคะ ^ ^

FULL PROFILE