[ Review ] มัดรวมรีวิวเปรียบเทียบ 5 กันแดดคุมมันแห่งปี 2022 พลีชีพให้ดูกันจะจะ! แบรนด์ไหนจะปังที่สุด ☀️✨

สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ วันนี้เจนจะมารีวิวสกินแคร์ที่ใคร ๆ ก็ต้องมีแบบขาดไม่ได้เลย ก็คือ “ครีมกันแดด” นั่นเองค่า โดยวันนี้เจนจะมารีวิว ครีมกันแดดคุมมัน ที่มีในกรุ 5 ตัวด้วยกัน ด้วยความที่เจนเป็นคนผิวมัน เป็นสิว ครีมกันแดดที่ชอบก็จะต้องเด่นเรื่องการคุมมันยาวนาน ตลอดทั้งวันหน้าไม่มันเยิ้ม เนื้อกันแดดไม่เหนอะหนะหน้า คนเป็นสิวใช้ได้หายห่วง

ด่านที่ 1 : ทดสอบเนื้อสัมผัสกันแดดคุมมัน 

เริ่มกันที่พาส่องคุณสมบัติของกันแดดทั้ง 5 ตัว เค้าจะมีความแตกต่างกันยังไงบ้าง ทั้งค่ากันแดด ส่วนผสมบำรุงผิว เนื้อสัมผัสกันแดดหลังทาลงบนผิวหน้าจะเป็นยังไงบ้าง กลิ่น ไปดูกันเลยค่ะ

Biore UV Aqua Rich Watery Essence SPF50+ PA++++

15 g. / 129 THB

ครีมกันแดดเนื้อเอสเซ้นส์บางเบา ปกป้องผิวจากแสงแดดลึกถึงชั้นคอลลาเจน ไม่ให้ผิวแก่ก่อนวัย กันน้ำกันเหงื่อ ไม่เป็นคราบ มีส่วนผสมบำรุงผิวอย่าง Hyaluronic Acid, Royal Jelly Extract ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ผ่านการทดสอบการระคายเคืองผิว (Allergy Tested) และผ่านการทดสอบว่าไม่ก่อให้เกิดสิว (Non-comedogenic Tested)

เนื้อสัมผัส : กันแดดเนื้อเจลฉ่ำๆ เกลี่ยง่าย ตอนเกลี่ยจะกลายเป็นน้ำ ทำให้ซึมเข้าผิวได้ไวมากๆ สามารถทาทับเมคอัพได้ ต้องใช้วิธีตบๆ ให้เข้าผิว ถ้าปาดกันแดดเมคอัพก็มีหลุดนะ

กลิ่น : กลิ่นจะค่อนข้างแรงเลยค่ะ ตอนทาบนหน้าจะได้กลิ่นน้ำหอมชัดเลย

ความรู้สึกหลังทา : เนื้อเบาสบายผิวดีค่ะ หลังทากันแดดแรกๆ ผิวจะดูฉ่ำสุดพลัง รอสักแป๊บนึงถึงจะเซตเข้ากับผิว ให้ความรู้สึกผิวชุ่มชื้นขึ้นค่ะ ไม่ได้ให้ฟินิชผิวแมตต์นะ

NIVEA Sun Extra Protect Oil Control Sun Care SPF50+ PA+++

15 ml. / 149 THB

ครีมกันแดดที่มี L-Carnitine ช่วยให้คุมมันได้ยาวนาน ล็อคเมคอัพนาน 8 ชั่วโมง เนื้อเซรั่มบางเบา ใช้ได้ทุกวัน มีส่วนผสมของ Licorice Extrac (สารสกัดจากชะเอมเทศ) ช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้น เป็นสูตร Non-Comedogenic ไม่อุดตันรูขุมขน และไม่มีส่วนผสมของพาราเบน น้ำหอม

เนื้อสัมผัส : กันแดดเนื้อเซรั่ม เนื้อลื่นๆ เกลี่ยง่าย ซึมไว

กลิ่น : กลิ่นหอมเอกลักษณ์ของนีเวียเลยค่ะ กลิ่นถือว่าอ่อนๆ ไม่ฉุน

ความรู้สึกหลังทา : ผิวจะดูเงาๆ ขึ้นนิดหน่อยค่ะ ทาบนหน้าแล้วไม่เป็นคราบนะ ให้ความรู้สึกเหมือนทาสกินแคร์ค่ะ

MizuMi UV Water Defense SPF50+ PA++++

30 g. / 890 THB

ครีมกันแดดที่ไม่มีสารกันแดดแบบเคมี 100% สูตรกันน้ำกันเหงื่อ สำหรับวันที่ออกแดดจัด อย่างเล่นกีฬากลางแจ้ง ว่ายน้ำ เที่ยวทะเล หรือคนที่มีเหงื่อออกเยอะ ทาแล้วออกแดดได้ทันทีไม่ต้องรอ มีส่วนผสมบำรุงผิวจาก สารสกัดจากดอกยูคิโนะชิตะ วิตามิน C-IP และ วิตามินอี เป็นต้น ไม่มีน้ำมัน น้ำหอม แอลกอฮอล์ พาราเบน และสีสังเคราะห์

มีแนะนำจากทางแบรนด์ว่า ตอนที่ทากันแดดตัวนี้ต้องล้างด้วย Cleansing ล้างเครื่องสำอาง และตามด้วยใช้ Cleansers ล้างหน้าค่ะ เพราะกันแดดเค้าทนน้ำม้ากกส่วนตัวรู้สึกว่าอาจจะไม่เหมาะกับ Everyday เท่าไหร่

เนื้อสัมผัส : กันแดดเนื้อน้ำนมสีขาว เนื้อเค้าค่อนข้างเข้มข้น ตอนเกลี่ยเลยต้องใช้เวลานิดนึง คนที่มีผิวสองสีอาจจะต้องเลือกใช้หลอดสีฟ้าเนื่องจากความเข้มข้นของเนื้อที่เป็นสีขาวอาจจะทำให้หน้าลอยได้ค่ะ มีความเป็นลักษณะของครีมกันแดดสำหรับทาออกกลางแจ้งเลย ที่เนื้อจะทำให้ผิววาวๆ หน่อย

กลิ่น : ไม่มีกลิ่นเลยค่ะ 

ความรู้สึกหลังทา : ทาแล้วผิวจะดูขาวขึ้นเป็นสีของครีมกันแดด ถ้าดูจากรูปจะเห็นได้ค่อนข้างชัด ตอนแรกจะรู้สึกตกกะใจนิดนึง ต้องใช้เวลาให้กันแดดเซตตัว ถึงจะกลืนเข้ากับผิวมากขึ้นค่ะ แต่แอบยังมีความวาวๆ เคลือบที่ผิวไว้เล็กน้อยนะ

Nu Formula Sun Real Dry Touch Milk SPF50+ PA++++

40 g. / 750 THB

กันแดดงานผิว บางเบา คุมมัน ผิวสวย เหมาะสำหรับคนเป็นสิวหรือผิวระคายเคืองง่าย มีค่ากันแดดที่สูง ไม่ทำให้หน้าหมองคล้ำ ออกแดดแล้วไม่แสบผิว ปกป้องผิวจากแสงแดดทั้งรังสี UVA, UVB, Blue Light และมลภาวะ เป็นกันแดดแบบ Hybrid ช่วยดูดซับและสะท้อนรังสียูวีไม่ให้เข้ามาทำร้ายผิว และเป็นกันแดดคุมมันนาน 12 ชั่วโมง และยังมีนวัตกรรม Soft Focus Effect ช่วยเบลอรูขุขนพร้อมปรับผิวให้สวยเนียนหลังทาทันที ทาได้ 2 ข้อนิ้ว ไม่วอก ไม่ลอย ไม่เป็นคราบ และยัง High Anti Oxidant จาก Vitamin E และ C จากผล Kakadu Plum ที่มีมีความเข้มข้นมากกว่าผลส้มถึง 10 เท่า 

และเค้าอ่อนโยนกับผิว ไม่มีน้ำหอม สี พาราเบน และน้ำมัน ผ่านการทดสอบการระคายเคืองโดยแพทย์ผิวหนัง ผิวแพ้ง่าย เป็นสิวใช้ได้สบายใจค่า

เนื้อสัมผัส : กันแดดเนื้อน้ำนมสีขาว เนื้อเหลว เกลี่ยง่ายมาก ชอบตรงที่เค้าเบาสบายผิวมากค่ะ ทาแล้วผิวไม่มีหนึบๆ กันแดดเลย แถมผิวเนียนสวยตามคำเคลมเลย

กลิ่น : ไม่มีกลิ่น ดมแล้วไม่รู้สึกถึงกลิ่นกันแดดเลย

ความรู้สึกหลังทา : กันแดดเกลี่ยปุ๊บ ซึมเข้าสู่ผิวปั๊บ เซตตัวไวมากกก ทาแล้วให้สัมผัสผิวที่เนียนสวย โทนผิวให้ดูเรียบเนียนขึ้น เหมือนใส่ฟิลเตอร์เบาๆ โดยที่ผิวไม่วอก เป็นคราบขาว ทา 2 ข้อนิ้วได้สบายผิวสุดๆ ค่ะ ให้ฟินิชผิวแมตต์ เนื้อสัมผัสไม่มันเยิ้มเลย โดยรวมแล้วผิวสวยขึ้นจริงเลยแหละ 

L'OREAL PARIS UV Defender SPF50+/PA++++ Long UVA

50 ml. / 599 THB

ตัวนี้ก็เป็นกันแดดเนื้อเซรั่ม ช่วยปกป้องผิวจาก Long UVA ปกป้องผิวไม่ให้เกิดริ้วรอย จุดด่างดำ ความหมองคล้ำ ที่เจนใช้จะเป็นสูตร Matte & Fresh สำหรับคนผิวมันค่ะ เนื้อบางเบา ไม่ทำให้ผิวแมตต์ ไม่มันวาว ด้วยส่วนผสมของแอร์ลิเซียม และช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะ ฝุ่นควันได้ด้วย

เนื้อสัมผัส : กันแดดเนื้อเจล เกลี่ยง่าย เนื้อละมุนไปกับผิว เซตตัวกับผิวหน้าได้เร็ว

กลิ่น : มีกลิ่นหอมอ่อนๆ กลิ่นจะเป็นแนวดอกไม้ค่ะ

ความรู้สึกหลังทา : ทาแล้วรู้สึกว่าเค้าปรับผิวให้ดูเนียนขึ้น ให้ฟินิชผิวเป็นกำมะหยี่ค่ะ ก็คือไม่แมตต์ แต่ก็ไม่ฉ่ำวาว ผิวโกลว์นิดๆ คนมันผิวแอบต้องซับหน้าระหว่างวันเล็กน้อย

ด่านที่ 2 - ทดสอบการวัดประสิทธิภาพของกันแดด ออกแดดแรงเปรี้ยงก็ต้องรอดนะวิ!

ครีมกันแดดที่ปังแน่นอนว่าก็ต้องกันแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ออกแดดแล้วผิวไม่ไหม้ หมองคล้ำ เนอะ ซึ่งเจนก็จะมาทดสอบด้วยการทาครีมกันแดดแต่ละแบรนด์ลงบนท้องแขนแล้วลองออกไปเจอแดด แต่ละแบรนด์จะกันแดดได้ดีแค่ไหน ไปดูผลลัพธ์กันค่ะ

เวลาผ่านไปแล้วประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งค่ะ เจอทั้งแดดแรงๆ (มากกกก) และเหงื่อ เจนดูแล้วกันแดดแต่ละตัวยังอยู่ครบนะ

ถ้าดูเรื่องผิวยังแมตต์อยู่ กันแดดไม่ไหลเยิ้มจะเป็น Nu Formula เลยค่ะ แมตต์สนิทตั้งแต่ตอนที่ทาแล้ว โดนเหงื่อก็ไม่ไหลเป็นคราบ สบายผิวดีด้วย รองลงมาจะเป็น L'OREAL PARIS ค่ะ ตัวนี้จับผิวแล้วจะไม่ได้แมตต์สนิทขนาดนั้นไม่รู้ว่าเป็นเพราะมีเหงื่อหรือกันแดดทิ้งความชุ่มชิ้นไว้นิดนึง 

Nivea จะเห็นความเงาที่ผิวขึ้นมานิดหน่อย Biore จะเห็นผิวฉ่ำๆ ขึ้นมาเลย ส่วน MizuMi จะเห็นผิวยังเป็นสีขาวของกันแดดอยู่จางๆ ค่ะ

ดูผลทดสอบการออกแดดแบบชัดๆเจนล้างโฟมล้างหน้าและซับผิวจากเหงื่อ บอกเลยว่า MizuMi พีคมากค่ะ ในภาพอย่าคิดว่าผิวขาวขึ้นนะคะ ที่ขาวเพราะกันแดดล้างไม่ออกกก ยังเห็นเป็นเนื้อกันแดดขาวๆ ที่ผิว 😂 ต้องใช้คลีนซิ่งเช็ด (แต่ที่จริงแล้วทุกครั้งที่เราทาครีมกันแดดก็ควรคลีนหน้าด้วยคลีนซิ่งเพื่อความสะอาด เพื่อลดการอุดตันสำหรับคนเป็นสิวนะ) เจนมองดูจากผิวจริงแล้ว Nivea จะแอบดูหมองกว่าเพื่อนแบบเห็นได้ชัดค่ะ น้องเค้าอาจจะเหมาะกับใช้วันเบาๆ วันทำงานออฟฟิศ ไม่ใช่วันที่ออกแดดจัด  ตามมาด้วย L'OREAL PARIS และ Biore จะมีความเข้มขึ้นเล็กน้อย ส่วน NU FORMULA แทบจะเป็นสีผิวเดิม ไม่ค่อยเห็นความเปลี่ยนแปลงเลยค่ะ

ด่านที่ 3 - ทดสอบการคุมมัน หน้ามันเอาอยู่ไหม?

ด่านนี้เราจะมาทดสอบกันค่ะว่าหลังจากที่ทากันแดดไป 12 ชั่วโมงแล้ว ครีมกันแดดแต่ละแบรนด์จะได้ผลเรื่องการคุมมันเป็นยังไงบ้าง ด้วยกระดาษซับมันค่ะ เจนจะเป็นคนหน้ามันพอสมควร ปกติซับมันทีคือเปียกแทบทั้งแผ่นแล้ว ฮือออ T T ถ้าไม่ปังจริงเอาไม่อยู่นะบอกเลย และเจนจะลองทดสอบน้ำมันในเนื้อกันแดดของแต่ละแบรนด์ดู ด้วยการเทเนื้อกันแดดลงบนกระดาษซับมันค่ะ ผลลัพธ์เรื่องการคุมมันจะออกมาเป็นยังไงบ้าง ไปดูกัน

Biore - เรื่องคุมมันน้องเค้าอาจจะเอาผิวมันมากแบบเจนไม่ค่อยอยู่ค่ะ ระหว่างวันหน้ามันขึ้นเรื่อยๆ จนถึงตอนเย็นเลย ซับมันออกมาจะเห็นความมันเยอะมากก เกือบเต็มกระดาษซับมันเลยแหน่ะ แต่ด้วยครีมกันแดดตัวนี้หลังทาเค้าจะมีความฉ่ำประมาณหนึ่งอยู่แล้ว

Nivea - ระหว่างวันคุมมันได้โอเคเลยค่ะ ประมาณ 6-7 ชั่วโมง แต่ช่วงท้ายของวันจะเห็นผิวมันขึ้นมาบ้างช่วงจมูก หน้าแก้มที่ใกล้ๆ จมูก ลองซับมันแล้วมีความมันติดมาบ้างค่า

MizuMi - กันแดดตัวนี้คือผิวมันวาวตั้งแต่หลังทาเสร็จแล้ว เนื้อกันแดดเค้าติดทนมากๆ จะเห็นเลยค่ะว่าโทนผิวของเจนยังคงสว่างจากเนื้อกันแดดอยู่เลย หน้าจะมันขึ้นช่วงจมูกตามปกติของผิวเจน ซับความมันออกมาพอๆ กับบีโอเรค่ะ

Nu Formula - เธออออ กันแดดตัวนี้ตอนใช้จริงคือคุมมันดีมากกก!! ผิวแมตต์นานตลอดทั้งวัน 12 ชั่วโมงตามคำเคลม ขนาดตรงจมูกยังไม่มันเลยอ่ะ งงมาก ซับหน้าแล้วความมันติดขึ้นมานิดหน่อยเอง ตั้งแต่ด่านทดสอบการกันแดดแล้วถึงเจอเหงื่อเนื้อเค้าก็ยังแมตต์อยู่ แถมผิวยังดูเรียบเนียนสวย แถมเนื้อเบาสบายผิวตลอดทั้งวันด้วยค่ะ เหมาะกับเป็นกันแดดคุมมันทาได้ทุกวันเลย

L'OREAL PARIS - เรื่องคุมมันถือว่าทำได้ดีเลยค่ะ เค้าจะให้ฟินิชผิวที่ไม่ได้แมตต์สนิทมาก ยังมีความผิวโกลว์ๆ เงาๆ บ้างนิดหน่อย ผ่านไป 12 ชั่วโมงแล้วผิวก็ยังดูโอเค ไม่ถึงกับมันเยิ้มค่ะ

ด่านที่ 4 - สรุปผลการทดลอง กันแดดคุมมันแบรนด์ไหนจะได้มงไปครอง

เจนจะสรุปผลการทดลอง คุณสมบัติต่างๆ ของกันแดดมาในรูปตารางให้คะแนน

โดยจะมีคะแนนเต็ม 5 คะแนน นะค้า

สรุปรีวิวหลังใช้ครีมกันแดดคุมมัน

Biore - เหมาะกับคนที่อยากได้ฟินิชผิวฉ่ำๆ ค่ะ เนื้อเบาสบายผิว เจนจะใช้ช่วงที่มีผิวแห้ง ไม่ได้ต้องการความคุมมันมาก คนผิวแห้งน่าจะชอบเลยเพราะเค้ามีส่วนผสมช่วยให้ผิวชุ่มชื้น

Nivea - กันแดดที่ทาได้ทุกวัน เหมาะกับวันที่ไม่ได้ออกแดดจัดมาก ช่วยให้เมคอัพติดทนขึ้น ฟิลทาไปออฟฟิศค่ะแต่ฝากไว้นิดนึงคือถ้าออกแดดจัดๆเราแนะนำให้ทากันแดดอีกชั้นจะดีกว่าค่ะ 

MizuMi - เหมาะกับพาไปเที่ยวทริปที่กิจกรรมแน่น จัดหนักจัดเต็ม เจอน้ำทะเลเจอเหงื่อเลยค่ะ เพราะเนื้อกันแดดเค้าติดทนมากกกก แต่ถ้าใช้ในชีวิตประจำวันจะรู้สึกหนักผิวไปหน่อยค่า

Nu Formula - กันแดดที่ตอนนี้ใช้ทุกวันเลยค่ะ เนื้อน้ำนมเบาสบายผิว ชนะเลิศเรื่องคุมมันไปเลย ออกแดดแรงก็เอาอยู่ ช่วยให้ผิวเนียนสวย ส่วนผสมก็ดีงามเรียกได้ว่าเป็นกันแดดที่คุ้มค่ามาก อ่อนโยนกับคนเป็นสิวง่ายแบบเจนด้วย

L'OREAL PARIS - ตัวนี้จะคล้ายๆ กับนีเวียเป็นเนื้อเซรั่ม จะได้ฟิลเหมือนทาสกินแคร์มากกว่าใช้ได้ทุกวัน คุมมันอยู่ในระดับที่ OK ให้ฟินิชผิวที่ดูชุ่มชื้นกำลังดี ไม่แมตมาก แต่แอบหักตรงที่ทาแล้วผิวอาจจะยังไม่สวยเท่า NU FORMULA

สุดท้ายเจนขอเลือกให้มงลงที่… 👑 กันแดด Nu Formula Sun Real Dry Touch Milk SPF50+ PA++++ ค่าา กันแดดได้เต็มเบอร์ทั้ง UVA/UVB เค้าเป็นครีมกันแดดคุมมันเนื้อน้ำนมสบายผิว ทาง่ายซึมไว จัดไป 2 ข้อนิ้ว เช้าๆ เวลาเร่งรีบก็ไม่ต้องรอซึมซาบนาน ที่ชอบเลยคือหลังทาผิวเนียนสวย วันชิลๆ ทาแป้งอัดแข็งนิดหน่อย ก็ออกจากบ้านได้เลย หรือวันแต่งหน้าจัดเต็มก็ลงรองพื้นได้สมูท เนื้อกันแดดไม่ทำให้ผิวเป็นคราบค่ะ อยากลุควันนี้คือได้งานผิวเนียนละมุนนน ถ่ายรูปสวยอ่ะ

และที่สำคัญเค้าคุมมันได้เริ่ดมากกก ระหว่างวันผิวไม่มันเลย ได้ตัวช่วยแก้ปัญหาผิวมันเยิ้มแล้ว ปลื้มมม และเราเห็นกันแดดตัวนี้มะปรางเป็นพรีเซ็นเตอร์ด้วยนะ อยากให้ทุกคนได้ไปลองแล้วมา คอนเมนต์บอกเราบ้างน้าว่าชอบเหมือนเราหรือป่าว ครั้งนี้เจนไปก่อนแล้วค่ะ บะบายย 🧡