จับตามองนางเอก Gen Z ที่ก้าวสู่ทำเนียบA List
candy 37 13
จะสิ้นปี 2022 อีกไม่กี่วันมานี้ เทศกาลงานประกาศรางวัลต่างๆที่เริ่มใกล้เข้ามาได้เปิดเผยรายชื่อนักแสดงผู้ได้รับการนำเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลการันตีความสามารถ และน่าจะพูดได้เต็มปากว่า ดาวรุ่งพุ่งแรงที่ยังอยู่ในช่วงวัย zoomers หรือ Gen Z ผงาดขึ้นมาเป็นคู่แข่งสำคัญของดาว Hollywood เจ้าบทบาท
มาติดตามเส้นทางสู่ความเป็น A List ของพวกเค้าได้เลยค่ะ
* รู้ได้เช่นไรว่าเป็น Gen Z?
Wikipedia สรุปว่า สื่อและนักวิจัยได้ระบุว่าเป็นคนรุ่นใหม่ที่เกิดช่วงกลางถึงปลายยุค 90s ไปจนถึงต้นยุค 2010s
The Pew Research Center ระบุตรงตัวว่า เป็นผู้ที่เกิดหลังปี 1996 - ปี 2012
ส่วนเว็บดิคชันนารี่ Merriam- Webster ให้คำนิยามว่า เป็นผู้ที่เกิดในช่วงปลาย 1990s จนถึงต้น 2000s
ดังนั้น นักแสดงดังบางคนในที่นี้จึงอยู่ในกลุ่มคาบเกี่ยวของ Millennials และ Gen Z
มาติดตามเส้นทางสู่ความเป็น A List ของพวกเค้าได้เลยค่ะ
* รู้ได้เช่นไรว่าเป็น Gen Z?
Wikipedia สรุปว่า สื่อและนักวิจัยได้ระบุว่าเป็นคนรุ่นใหม่ที่เกิดช่วงกลางถึงปลายยุค 90s ไปจนถึงต้นยุค 2010s
The Pew Research Center ระบุตรงตัวว่า เป็นผู้ที่เกิดหลังปี 1996 - ปี 2012
ส่วนเว็บดิคชันนารี่ Merriam- Webster ให้คำนิยามว่า เป็นผู้ที่เกิดในช่วงปลาย 1990s จนถึงต้น 2000s
ดังนั้น นักแสดงดังบางคนในที่นี้จึงอยู่ในกลุ่มคาบเกี่ยวของ Millennials และ Gen Z
Millie Bobby Brown
ผลงานสร้างชื่อ The Stranger Things
เข้าชิงรางวัล นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมจากเวที Emmy สองปีซ้อน ( 2017-2018) และยังคว้ารางวัลจาก Teen Choice Awards, MTV Movie & TV Awards, Nickelodeon Kids' Choice Awards และอีกหลายรางวัล
Millie Bobby Brown อาจจะถูกเปรียบเทียบว่าเป็นเจ้าหญิงแห่งวงการ Hollywood ที่ผู้คนมากมายตกหลุมรัก บท Eleven แห่ง Stranger Things ที่ได้นำชื่อเสียงและแรงสนับสนุนจากฐานแฟนคลับอันแข็งแกร่งทำชื่อของเธอพุ่งสู่ทำเนียบนางเอกดาวรุ่งตั้งแต่ยังมีวัยเพียง 13 ปี แต่หนึ่งในความท้าทายโหดหินที่ดาราเด็กทุกคนจะต้องเผชิญนั่นคือการก้าวจากกรอบความสำเร็จของผลงานแจ้งเกิด แม้จะได้รับความนิยมจนได้รับความคาดหวังว่าจะกลายเป็นนักแสดงอนาคตไกล แต่ช่วงเวลาแห่งความ peak ของบทบาทที่สร้างชื่อกระฉ่อนจะไม่คงอยู่อย่างถาวร ดาราเด็กเหล่านั้นต่างต้องฟันฝ่าอุปสรรคของความยึดติดภาพเดิมๆของผู้ชม เมื่อพวกเค้าเริ่มเติบโตจนมีรูปลักษณ์และบุคลิกที่ห่างไกลจากบทวัยเด็กใสกิ๊งที่เป็น signature ดังที่ปรากฏว่า อดีตดาราเด็กจำนวนไม่น้อยได้เงียบกริบจากกระแส จนดูเหมือนว่าผู้คนหลงลืมไปแล้วว่าพวกเค้าเคยสร้างความฮือฮาได้มากแค่ไหน แม้จะยังวนเวียนรับงานแสดงใน Hollywood แต่ก็ยังห่างไกลจากความนิยมในระดับปรากฏการณ์เมือครั้งยังเป็นวัยใส
และสิ่งนั้นไม่ได้เกิดขึ้นกับ Millie ...
ไม่เพียงแต่บทนำ Stranger Things จะทำให้เธอกลายมาเป็นนางเอกวัยทีนที่เนื้อหอมสุดๆใน Hollywood การเข้าชิงรางวัลชั้นนำเบียดกับนางเอกที่มีประสบการณ์ในวงการเป็นสิบๆปียิ่งการันตีฝีมือทางการแสดงทีดึงดูดใจนักสร้างหนัง โดยเฉพาะยักษ์ใหญ่อย่าง Netflix ที่จองตัวเธอยาวเหยียดตั้งแต่เป็นเด็กหญิงจนกลายมาเป็นสาวสะพรั่งวัย 18 นอกจากหนัง Enola Holmes ที่คว้าเรตติ้งสวยๆ ทั้งสองภาค เธอยังได้รับการทาบทามให้มารับบทนำในโพรเจคท์ใหญ่ ทั้งบทเจ้าหญิง Elodie แห่งหนังแฟนตาซี Damsel และ Michelle แห่ง หนังไซไฟ The Electric State เมื่อมองทุนสร้างและทีมนักแสดง A List ที่ร่วมประชันบทบาทกันก็ยืนยันได้เลยว่า เส้นทางสู่ดวงดาวของ Millie ยังห่างไกลกับคำว่าแผ่ว
แต่ชื่อเสียงที่ถาโถมเข้ามา ก็ไม่ได้มีแต่พลังงานด้านบวก...
"คุณจะเป็น Millie Bobby Brown ได้ยังไงงั้นเหรอ? ก็ตื่นขึ้นมา คว้ากาแฟมาดื่ม ไปทำงานอย่างน้อย 14 ชั่วโมงต่อวัน นี่คือวิธีที่คุณจะเป็นเหมือนฉันได้นะ ขอให้โชคดีแล้วกัน" เธอเคยตอบคำถามของชาวเน็ทที่ปรากฏขึ้นมาจากการพิมพ์คำถามที่ถูกถามบ่อยที่สุดใน google แต่ที่จริง เธอเป็นหนึ่งในคนดังที่ออกมาต่อสู้กับ online bullying และ sexualisation ที่ไม่เหมาะสม (การถูกมองหรือตีค่าทางเพศแม้จะอยู่ในวัยผู้เยาว์) และเมื่อถูกรุมเร้าด้วยคำพูดรุนแรงที่เกิดจากความเกลียดชัง เธอจึงต้องได้รับการบำบัดเพื่อเยี่ยวยาจิตใจ และตั้งนโยบายเคร่งครัดว่า จะไม่ใช้social media app ผ่านโทรศัพท์ และมอบหมายให้ผู้ที่วางใจได้เป็นผู้ดูแลบัญชีของเธอแทน
หนึ่งในช่วงเวลาที่มืดมนที่สุดของเธอคงหนีไม่พ้นตอนที่ถูกอดีตแฟนหนุ่มออกมาแฉเรื่องความสัมพันธ์ หนักกว่านั้นยังบอกใบ้เรื่องใต้สะดือจนชาวเน็ทวิพากษ์วิจารณ์อย่างอื้ออึง
"ปีที่ผ่านเป็นช่วงเวลาแห่งการเยียวยาตัวเองจากการถูกประจานให้อับอายต่อสาธารณชนแบบนั้น ฉันรู้สึกระส่ำระสายและสิ้นท่าไปหมด เมื่อได้ก้าวออกจากความสัมพันธ์เก่าและรับรู้ถึงคุณค่าของตัวเองและรู้ว่าคนๆนั้นจะไม่สามารถพรากสิ่งใดไปจากฉันได้ มันได้เรียกพลังใจได้มากมาย ฉันได้รู้สึกว่า ในที่สุดชีวิตของฉันก็พบกับจุดเปลี่ยนและฉันก็ได้ปิดฉากบทชีวิตที่มันยาวนานเกินทนไปได้เสียที"
"ถึงที่สุดแล้ว สิ่งที่ฉันปรารถนาจากการทำอาชีพนักแสดงก็คือช่วยเหลือกลุ่มคนหนุ่มสาว เพื่อชี้ให้พวกเค้าได้รับรู้ว่า ฉันได้ผ่านเรื่องราวย่ำแย่มาเช่นกัน และฉันไม่ได้เป็นคนสมบูรณ์แบบที่ทำผลิตภัณฑ์บำรุงผิวออกขายและแสดงซีรีส์ Stranger Things ฉันเคยตัดสินใจผิดพลาดไปอย่างมหันต์ได้เช่นเดียวกัน"
นอกจากความ toxic ของโลกออนไลน์ หลายคนน่าจะได้พบกับเสียงวิจารณ์เรื่องรูปลักษณ์ของเธอว่าดูอายุมากเกินวัยมาแล้วหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการแต่งกายที่ fashionable บนพรมแดง หรือภาพจาก social media และผู้ที่ปรามาสเธอด้วยเรื่องนี้ก็ไม่ได้มีแต่ชาวเน็ท แต่เป็นฝ่าย casting ที่เคยทำให้เธอต้องหลั่งน้ำตา
"ฉันรู้ตัวอยู่เสมอว่าดูโตกว่าวัย และมันเป็นสิ่งที่แก้ไม่ได้ ตอนที่ฉันได้เล่าว่า ตัวตนที่ฉันเป็นทำให้เกิดความหงอยเหงาโดดเดี่ยว และรู้สึกว่า เด็กคนอื่นๆที่โรงเรียนไม่เหมือนกับฉันสักเท่าไรและไม่มีใครดูโตแบบนี้ เมื่อได้ยินมันก็ทำใจลำบาก เพราะฉันเคยคิดว่า การเป็นผู้ใหญ่นั้นเป็นเรื่องดีเสียอีก"
"จากนั้นก็มีคนบอกว่า มันไม่ใช่ข้อดีอะไรเลย และมันทำให้ฉันไปไม่ถึงไหนในวงการบันเทิง คำพูดนี้ทำให้เจ็บปวดมาก และฉันเศร้าหนักไปเลยค่ะ"
แม้จะหมดกำลังใจกับเรื่องนี้ พ่อแม่ของเธอชักจูงให้ส่งเทปออดิชั่นบทเป็นครั้งสุดท้าย และบทนั้นก็คือ Eleven แห่ง Stranger Things ที่พลิกชีวิตของเธอนั่นเอง!
ใครว่าดูเป็นผู้ใหญ่กว่าวัยแล้วเป็นเรื่องแย่ไปหมด?
"ฉันรู้ตัวอยู่เสมอว่าดูโตกว่าวัย และมันเป็นสิ่งที่แก้ไม่ได้ ตอนที่ฉันได้เล่าว่า ตัวตนที่ฉันเป็นทำให้เกิดความหงอยเหงาโดดเดี่ยว และรู้สึกว่า เด็กคนอื่นๆที่โรงเรียนไม่เหมือนกับฉันสักเท่าไรและไม่มีใครดูโตแบบนี้ เมื่อได้ยินมันก็ทำใจลำบาก เพราะฉันเคยคิดว่า การเป็นผู้ใหญ่นั้นเป็นเรื่องดีเสียอีก"
"จากนั้นก็มีคนบอกว่า มันไม่ใช่ข้อดีอะไรเลย และมันทำให้ฉันไปไม่ถึงไหนในวงการบันเทิง คำพูดนี้ทำให้เจ็บปวดมาก และฉันเศร้าหนักไปเลยค่ะ"
แม้จะหมดกำลังใจกับเรื่องนี้ พ่อแม่ของเธอชักจูงให้ส่งเทปออดิชั่นบทเป็นครั้งสุดท้าย และบทนั้นก็คือ Eleven แห่ง Stranger Things ที่พลิกชีวิตของเธอนั่นเอง!
ใครว่าดูเป็นผู้ใหญ่กว่าวัยแล้วเป็นเรื่องแย่ไปหมด?
Sydney Sweeney
อายุ 25ผลงานสร้างชื่อ Euphoria
เข้าชิงรางวัล Emmy จาก Euphoria และ The White Lotus พร้อมกันสองสาขาในปีเดียวกัน
เราเคยได้ยินเสียงวิจารณ์ว่า บทบาทที่ร้อนแรงของ Sydney Sweeney ทำให้เธอเป็นจุดขายสำคัญของซีรีส์ Euphoria และทำให้เธอได้รับความนิยมอย่างสูงจากผู้ชมเพศชาย หลายคนโฟกัสกับฉากโป๊เปลือยจนละเลยการให้เครดิตเรื่องฝีมือการแสดงที่โดดเด่นจนได้รับการเสนอเข้าชิงรางวัล Emmy แต่เธอยืนยันว่า เรือนร่างที่เย้ายวนใจไม่ได้เป็นเครื่องตีคุณค่าอาชีพการงานของเธอในวงการแสดง และนั่นทำให้เรานึกถึง Scarlett Johansson ขึ้นมาทันที
เธอชี้ว่า การเข้าถึงบท Cassie นั้นเป็นเรื่องท้าทาย การขายความเซ็กซี่ไม่ใช่จุดมุ่งหมายในการสร้างชื่อในฐานะนักแสดง
"ฉันย้อมผมเป็นสีบลอนด์และแต่งตัวสวยเริ่ดเพื่อถ่ายแบบ ผู้คนคิดกันไปว่านั่นตรงกับตัวตนของฉัน ฉันพยายามอย่างหนักที่จะเปลี่ยนแปลงภาพพจน์ของตัวเอง โดยเฉพาะช่วงที่ยังเรียนมัธยม"
"ฉันมีหน้าอกก่อนเด็กผู้หญิงคนอื่นๆ และมันทำให้ฉันรู้สึกไม่เป็นที่ยอมรับ ฉันอับอายและไม่อยากจะเปลี่ยนเสื้อในห้องล็อกเกอร์ ฉันว่าได้สร้างภาพลักษณ์แปลกๆให้คนอื่นได้เห็นเพราะร่างกายของฉัน ฉันเล่นกีฬาทุกประเภทและท่มุเทเรียนอย่างหนัก และทำกิจกรรมทุกอย่างที่คนอื่นไม่คาดคิดว่าฉันจะทำ มันเป็ยการพิสูจน์ว่า เรื่อนร่างนี้ไม่ได้กำหนดตัวตนที่แท้จริงของฉัน ตอนนี้ฉันก็ยังทำมันอยู่นะคะ แต่เป็นการยกระดับขึ้นมาเป็นระดับโลก"
บทสาวแซ่บทรงโตแห่ง Euphoria อาจจะทำให้เธอขึ้นแท่นนางเอกสุด hot ของวงการตั้งแต่ยังอายุยี่สิบเศษๆ แต่บทสนับสนุนจาก The Whie Lotus ที่ได้รับเสียงชื่นชมจากนักวิจารณ์และยังทำให้เข้าชิงรางวัล Emmy เช่นเดียวกันนั้นก็ได้พิสูจน์แล้วว่า เธอไม่ได้ปังจากบทเซ็กซี่เท่านั้น
"ฉันภูมิใจกับผลงานใน Euphoria มาก ฉันคิดว่าแสดงไว้อย่างดีเยี่ยม แต่ไม่มีใครให้เครดิตชื่นชมเรื่องการแสดงของฉันเพราะต้องเล่นบทเปลือย แต่พอเป็นบทในThe Whie Lotus นักวิจารณ์กลับสนอกสนใจขึ้นมาทันทีซะงั้น"
อย่างไรก็ตาม การถูกตีตราจากการเข้าฉาก nude รวมถึงประสบการณ์ก่อนจะสร้างชื่อเสียงโด่งดังที่ยังไม่สามารถต่อรองเรื่องดีกรีความโป๊เปลือยกับนักสร้างหนังได้ก็ทำให้เธอต้องรู้สึกย่ำแย่ ชาวเน็ทคุกคามเธอถึงขั้นที่ tag เรียกครอบครัวของเธอมาชมภาพเปลือยในฉากหนังที่ capture มา และเย้ยหยันเธอว่าประสบความสำเร็จจากการขาย sex มันทำให้ Sydney ระบายความขุ่นข้องหมองใจจากเรื่องสองมาตรฐานไว้ว่า
"มีนักแสดงชายที่ถ่ายฉาก nude แล้วคว้ารางวัล Oscar และได้รับคำชมเรื่องการแสดงเยอะจนสามารถร่ายรายชื่อยาวติดต่อกันได้เป็นชั่วโมง แต่พอนักแสดงหญิงถ่าย nude บ้าง มันกลับเป็นสิ่งที่บั่นทอนคุณค่าของพวกเธอ สองมาตรฐานกันถึงขนาดนั้น และฉันหวังว่าตัวเองจะเป็นส่วนเล็กๆที่สร้างความเปลี่ยนแปลงขึ้นมาได้"
ผลงานฟอร์มยักษ์เรื่องต่อไปของSydney คือ Madame Web ที่อยู่ในจักรวาลเดียวกับ Spider-Man ของ Sony
"มีนักแสดงชายที่ถ่ายฉาก nude แล้วคว้ารางวัล Oscar และได้รับคำชมเรื่องการแสดงเยอะจนสามารถร่ายรายชื่อยาวติดต่อกันได้เป็นชั่วโมง แต่พอนักแสดงหญิงถ่าย nude บ้าง มันกลับเป็นสิ่งที่บั่นทอนคุณค่าของพวกเธอ สองมาตรฐานกันถึงขนาดนั้น และฉันหวังว่าตัวเองจะเป็นส่วนเล็กๆที่สร้างความเปลี่ยนแปลงขึ้นมาได้"
ผลงานฟอร์มยักษ์เรื่องต่อไปของSydney คือ Madame Web ที่อยู่ในจักรวาลเดียวกับ Spider-Man ของ Sony
Jenna Ortega
อายุ 20
ผลงานสร้างชื่อ Wednesday
เข้าชิงรางวัล นักแสดงหญิงนำยอดเยี่ยมสาขาซีรีส์คอเมดี้และมิวสิคคัล Golden Globe ปี 2023
แรงจนฉุดไม่อยู่ Wednesday เพิ่งจะออนแอร์ใน Netflix กวาดชั่วโมงชมเป็นพันล้านในเวลาไม่ถึงหนึ่งเดือน นางเอกสาวละติน่าก็กลายมาเป็นหนึ่งในตัวเก็งที่จะเป็นผู้คว้ารางวัลสาขานักแสดงนำหญิงจากซีรีส์คอเมดี้แห่ง Golden Globes ไปซะแล้ว และที่ผ่านมา มีนักแสดง Gen Z เพียงน้อยคนที่เอื้อมถึงรางวัลนี้
เมื่อไล่เรียงผลงานหนังเลือดสาดเขย่าขวัญหลายเรื่องติดต่อกันทำให้สื่อบางเจ้ายกให้ Jenna เป็น IT girl แห่งวงการ Horror แต่แม้จะมีประสบการณ์ในวงการ Hollywood มาตั้งแต่เป็นเด็กหญิง และยังยืนยันว่า ตัวตนในโลกแห่งความจริงก็ถูกยกจับไปเปรียบเทียบกับ Wednesday มาโดยตลอด แต่กำแพงบททดสอบที่เธอจะต้องฟันฝ่าคือการนำเสนอภาพของ Wednesday ตัวละครสุด iconic ที่แฟนๆยึดติดจากการแสดงของ Christina Ricci ในหนังยุค 90s และหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยที่จะถูกเปรียบเทียบว่า เวอร์ชั่นใดที่สร้างความประทับใจได้มากกว่า? และสำหรับเธอ มันคือผลงานที่ไร้ที่ติ เล่นเอาเธอถูกข่มขวัญไปเต็มๆ เจ้าตัวได้ออกปากถึงความกังวลใจไว้ว่า
" ความโหยหาถึงอดีตช่างเป็นสิ่งที่ทรงพลัง และมันเป็นเหตุผลที่หนัง super hero และ horrorได้สร้างความน่าเชื่อถือและยังได้รับความนิยมจนถึงปัจจุบันนี้"
แต่มันเป็นโอกาสสำคัญที่ทำให้เธอได้พิสูจน์ตัวเองเพื่อสร้างสรรค์ Wednesday ในแบบของเธอเองขึ้นมา และการทุ่มเททำงานสร้างสรรค์ก็นำสู่ผลงาน iconic ในที่สุด (รอคอยซีซันต่อไปกันไมไ่หวแล้ว!)
" ความโหยหาถึงอดีตช่างเป็นสิ่งที่ทรงพลัง และมันเป็นเหตุผลที่หนัง super hero และ horrorได้สร้างความน่าเชื่อถือและยังได้รับความนิยมจนถึงปัจจุบันนี้"
แต่มันเป็นโอกาสสำคัญที่ทำให้เธอได้พิสูจน์ตัวเองเพื่อสร้างสรรค์ Wednesday ในแบบของเธอเองขึ้นมา และการทุ่มเททำงานสร้างสรรค์ก็นำสู่ผลงาน iconic ในที่สุด (รอคอยซีซันต่อไปกันไมไ่หวแล้ว!)
"ฉันได้เห็นคนในวัยเดียวกันสร้างชื่อในอุตสาหกรรมบันเทิง ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้เพื่อเขียนบท กำกับ และโพรดิวซ์กันในวัยที่อ่อนกว่าเดิม ฉันเชื่อว่ามันช่วยเพิ่มขีดความสามารถและมีความสำคัญ เพราะทุกวันนี้ ส่วนใหญ่แล้ว เรื่องราวการแสดงออกของเด็กวัยรุ่นมักจะถูกชายผิวขาวที่เป็นผู้ใหญ่เป็นผู้ตีความนำเสนอ"
"ยิ่งมีเด็กรุ่นใหม่ได้ออกมาเป็นปากเป็นเสียงมากเท่าไร ก็ทำให้พวกเราได้ตระหนักว่า เหล่าเด็กสาววัยรุ่นสามารถไปได้ไกลกว่าการถูกเหมารวมแบบแย่ๆ "
ฟังดูแล้วทรงพลังคล้ายกับ Wednesday จริงๆ
"ยิ่งมีเด็กรุ่นใหม่ได้ออกมาเป็นปากเป็นเสียงมากเท่าไร ก็ทำให้พวกเราได้ตระหนักว่า เหล่าเด็กสาววัยรุ่นสามารถไปได้ไกลกว่าการถูกเหมารวมแบบแย่ๆ "
ฟังดูแล้วทรงพลังคล้ายกับ Wednesday จริงๆ
Zendaya
อายุ 26 ปี ( คาบเกี่ยว Millennials และ Gen Z )
ผลงานสร้างชื่อ Euphoria, Spider-man
ได้รับรางวัล นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมแห่งซีรีส์ดราม่าในปี 2020 (เป็นผู้ชนะที่อายุน้อยที่สุดของเวทีนี้) และสองปีต่อมาก็ได้รับรางวัลเดียวกัน ล่าสุด ติดอยู่ในโผตัวเก็งที่มีสิทธิ์คว้ารางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมแห่งซีรีส์ดราม่า Golden Globe
วันเวลาที่ผ่านไปเร็วจนแทบZendaya ได้ครองภาพลักษณ์สาววัยทีนมาติดต่อกันถึง 12 ปี นับตั้งแต่ที่เธอแจ้งเกิดในวงการในฐานะเด็กปั้นของค่าย Disney แม้ตอนนี้เธออยู่ในวัย young adult แต่ด้วยรูปลักษณ์ที่ดูอ่อนวัยและการรับบทสาวมัธยมจากผลงานหลายเรื่องติดต่อกัน ก็ยังทำให้หลายคนยังรู้สึกว่าเธอเหมือนกับเป็นน้องสาววัยใสอยู่ไม่เปลี่ยน แม้แต่ตอนที่รับบทที่มีฉากหวิวก็ยังมีแฟนๆออกมาประท้วงว่ารับไม่ได้ แม้ในตอนนั้นเธอจะอายุ 24 แล้ว แต่หลังจากตัดสินใจรับบทนำใน Euphoria มันก็ได้เปลี่ยนแปลงภาพเธอจากไอดอลสาวแสนสดใสแห่ง Disney Channel ไปอย่างสิ้นเชิง
ซีรีส์ดังที่ได้ตีแผ่ปัญหาความสัมพันธ์สุด toxic, ความรุนแรง, เพศ และยาเสพติดในสังคมวัยรุ่นจากย่านชานเมืองได้ทำให้ทีมนักแสดง Gen Z ได้แจ้งเกิดอย่างสวยงามในวงการ แต่สำหรับ Zendaya นี่คือผลงานที่ทำให้เธอก้าวเข้าสู่ทำเนียบนางเอก A List อย่างเต็มภาคภูมิ ไม่เพียงแต่การแสดงทรงหลังจะทำให้คว้า Emmy มาถึงสองตัว เธอยังมีโอกาสชิงชัยใน Golden Globes ที่จะประกาศผลตัดสินกันเร็วๆนี้
หากมองกันแต่ภายนอก คุณอาจจะพบว่า เพื่อจะสวมบท Rue ได้อย่างสมจริง Zendaya ต้องสลัดลุคสวยเริ่ดออกไปแล้วเผยด้านที่ดูโทรมผิดหูผิดตา แต่สิ่งที่ทำให้แฟนๆกล่าวขวัญ คือฝีมือการแสดงที่พวกเราอาจจะไม่เคยสัมผัสกันมาก่อน ห่อนหน้านี้ หลายคนอาจจะจินตนาการไม่ถูกว่า Zendaya จะกลายมาเป็นนางเอกดังจากบทเด็กสาวที่จมดิ่งกับปัญหาในจิตใจจนหันมาใช้ยาเสพติดร้ายแรงเป็นที่พึ่งพิง
หากมองกันแต่ภายนอก คุณอาจจะพบว่า เพื่อจะสวมบท Rue ได้อย่างสมจริง Zendaya ต้องสลัดลุคสวยเริ่ดออกไปแล้วเผยด้านที่ดูโทรมผิดหูผิดตา แต่สิ่งที่ทำให้แฟนๆกล่าวขวัญ คือฝีมือการแสดงที่พวกเราอาจจะไม่เคยสัมผัสกันมาก่อน ห่อนหน้านี้ หลายคนอาจจะจินตนาการไม่ถูกว่า Zendaya จะกลายมาเป็นนางเอกดังจากบทเด็กสาวที่จมดิ่งกับปัญหาในจิตใจจนหันมาใช้ยาเสพติดร้ายแรงเป็นที่พึ่งพิง
หลายตัวละครใน Euphoria คือคำนิยามของคำว่าเหลวแหลกและแรงจนต้องจัดเรท Mature Audience Only แต่ชื่อของ Zendaya ได้พุ่งฉลุยสู่โผผู้เข้าชิงรางวัลใหญ่ด้วยบท Rue เด็กสาวที่พยายามใช้ชีวิตต่อหลังจากเกือบตายเพราะเสพยาเกินขนาด ทั้งๆที่ครอบครัวพยายามหยิบยื่นความช่วยเหลือด้วยความรักและห่วงใย เธอกลับไม่สามารถถอนตัวจากสิ่งที่เป็นภัยต่อตัวเองและยิ่งถลำลึกไปสู่ความมืดมน
"เธอต้องอยู่ท่ามกลางโรคภัยแห่งความเสื่อมสลายและความพยายามที่จะจัดการชีวิตให้เข้ารูปเข้ารอย และเธอกลับพบว่าไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เธอไม่สามารถควบคุมอารมณ์ ร่างกาย และเธอกำลังเจ็บปวดทรมานอย่างหนัก และฉันคิดว่าเราอยากจะทำให้คนเห็นความเจ็บปวดจนถึงแก่น และยังมีความขัดแย้งที่เกิดขึ้นกับคนที่จำเป็นต้องให้ความรักกับผู้ที่ประสบปัญหาติดยาเสพติด"
หลายคนออกอาการสะพรึงกับฉากที่เธออยากยาขาดสติจนพุ่งเข้าไปโจมตีครอบครัวอันเป็นที่รัก(Zendaya ทุ่มสุดตัวกับฉากสุดช็อคนี้ เพื่อเผยถึงด้านป่านเถื่อนรุนแรง เธอเจ็บตัวจนมีรอยแผลเป็น) แต่แม้ว่าจะการได้ติดตามภาพของเด็กสาววัยรุ่นที่กำลังแตกสลายจะสร้างความสะเทือนใจ เพราะไม่เพียงแต่เธอกำลังทำลายชีวิตตัวเอง แต่ยังทำลายคนรอบข้างให้พังย่อยยับตามไปด้วย แฟนๆจำนวนมากต่างชื่นชมเป็นเสียงเดียวกันว่า การแสดงของ Zendaya ได้ชี้ให้ตระหนักถึงพิษร้ายของยาเสพติดและส่งสารให้สังคมได้ร่วมแก้ไขปัญหานี้
"นิสัยที่คอยเห็นอกเห็นใจผู้อื่นคือเหตุผลที่ฉันเลือกเป็นนักแสดง หลายครั้งฉันได้แบกรับความเจ็บปวด ความเครียด ความหวาดกลัวและความวิตกกังวลจากคนอื่นราวกับว่าเป็นความรู้สึกของฉันเอง ฉันมองว่า การแสดงฉากนี้ทำให้ปลดปล่อยความรู้สึกภายในใจให้พร่างพรู ฉันรู้สึกขอบคุณที่ได้ทำงานในพื้นที่ที่ทำให้รู้สึกปลอดภัยและสบายใจ และได้ร่วมงานกับนักแสดงที่ฉันสนิทสนม ทุกครั้งที่บอก take เราจะกอดกันและพูดคุยถึงประเด็นนี้ เราคอยห่วงใยและเช็คกันเสมอ นั่นเป็นเพราะว่าการแสดงฉากนี้เหมือนกับอยู่ในสนามรบเลยค่ะ"
"เธอต้องอยู่ท่ามกลางโรคภัยแห่งความเสื่อมสลายและความพยายามที่จะจัดการชีวิตให้เข้ารูปเข้ารอย และเธอกลับพบว่าไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เธอไม่สามารถควบคุมอารมณ์ ร่างกาย และเธอกำลังเจ็บปวดทรมานอย่างหนัก และฉันคิดว่าเราอยากจะทำให้คนเห็นความเจ็บปวดจนถึงแก่น และยังมีความขัดแย้งที่เกิดขึ้นกับคนที่จำเป็นต้องให้ความรักกับผู้ที่ประสบปัญหาติดยาเสพติด"
หลายคนออกอาการสะพรึงกับฉากที่เธออยากยาขาดสติจนพุ่งเข้าไปโจมตีครอบครัวอันเป็นที่รัก(Zendaya ทุ่มสุดตัวกับฉากสุดช็อคนี้ เพื่อเผยถึงด้านป่านเถื่อนรุนแรง เธอเจ็บตัวจนมีรอยแผลเป็น) แต่แม้ว่าจะการได้ติดตามภาพของเด็กสาววัยรุ่นที่กำลังแตกสลายจะสร้างความสะเทือนใจ เพราะไม่เพียงแต่เธอกำลังทำลายชีวิตตัวเอง แต่ยังทำลายคนรอบข้างให้พังย่อยยับตามไปด้วย แฟนๆจำนวนมากต่างชื่นชมเป็นเสียงเดียวกันว่า การแสดงของ Zendaya ได้ชี้ให้ตระหนักถึงพิษร้ายของยาเสพติดและส่งสารให้สังคมได้ร่วมแก้ไขปัญหานี้
"นิสัยที่คอยเห็นอกเห็นใจผู้อื่นคือเหตุผลที่ฉันเลือกเป็นนักแสดง หลายครั้งฉันได้แบกรับความเจ็บปวด ความเครียด ความหวาดกลัวและความวิตกกังวลจากคนอื่นราวกับว่าเป็นความรู้สึกของฉันเอง ฉันมองว่า การแสดงฉากนี้ทำให้ปลดปล่อยความรู้สึกภายในใจให้พร่างพรู ฉันรู้สึกขอบคุณที่ได้ทำงานในพื้นที่ที่ทำให้รู้สึกปลอดภัยและสบายใจ และได้ร่วมงานกับนักแสดงที่ฉันสนิทสนม ทุกครั้งที่บอก take เราจะกอดกันและพูดคุยถึงประเด็นนี้ เราคอยห่วงใยและเช็คกันเสมอ นั่นเป็นเพราะว่าการแสดงฉากนี้เหมือนกับอยู่ในสนามรบเลยค่ะ"
Anya Taylor Joy
อายุ 26 ปี ( คาบเกี่ยว Millennials และ Gen Z )
ผลงานสร้างชื่อ The Queen's Gambit
ได้รับรางวัล นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมทั้งจากเวที Golden Globes และ SAG Awards และสำหรับ Golden Globesปี 2023 เธอก็ยังได้เข้าชิงรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากหนังคอเมดี้หรือมิวสิคคัลอีกด้วย
Anya อาจจะไม่ได้มีได้แจ้งเกิดในวงการด้วยบทบาทTeen Queen แต่ได้เริ่มต้นผลงานจอเงินเรื่องแรกในชีวิตด้วยบทนางเอก The Witch หนังสยองจากยุคศตวรรษที่ 17 ก็เผยความสามารถที่เปล่งประกายจนคว้ารางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมและนักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยมจากการประกวดผลงานหนัง independent หลายเวที จะมีนักแสดงสักกี่คนที่ปังตั้งแต่เล่นหนังเรื่องแรก?
หากนับกันจริงๆ การเดบิวท์งานแสดงของเธอคือบทตัวประกอบในหนัง Vampire Academy ที่ไร้ความสำคัญ และเป็นฉากที่ถูกตัดออกไปจนไม่ได้มีชื่อในเครดิตนักแสดงด้วยซ้ำ ปีต่อมาเธอก็สอยบทนางเอก The Witch จนเป็นประตูสู่ Hollywood และเธอก็ได้ฝากคำพูดถึงตัวเองที่ยังเป็นนางเอกวัยทีนโนเนมว่า
"ในวันข้างหน้าเธอจะชอบในสิ่งที่ทำซะยิ่งกว่าเดี๋ยวนี้ซะอีก ดังนั้นจงพยายามต่อไปนะ"
มาถึงปี 2020 เธอได้ตอกย้ำว่า การเปิดตัวใน Hollywood อย่างสวยงามนั้นไม่ใช่เรื่อง fluke เพราะบท Emma ผู้ดีสาวจอมจุ้นจับคู่ให้คนอื่นที่สร้างจากบทประพันธ์ของ Jane Austen ได้ทำให้เธอเข้าชิง Golden Globes เป็นครั้งแรก และหากได้ติดตามผลงานของเธอมาก่อนก็น่าจะทำนายกันได้เลยว่า นี่ไม่ใช่การเข้าชิงรางวัลครั้งสุดท้ายแน่ๆ
Emma อาจจะไม่ทำให้เธอคว้ารางวัล Golden Globes ในปี 2020 แต่เป็น The Queen's Gambit หนึ่งในซีรีส์ดราม่า Netflix ที่สร้างความตรึงตราใจให้กับแฟนๆ และหลายคนต่างเฝ้าจับตามองผลงานใหม่ของเธอ
ในปีนี้ เธอมาพร้อมกับ The Menu หนังตลกร้ายที่ได้รับเสียงอวยจากนักวิจารณ์หนัง และเข้าเป็นส่วนหนึ่งของนักแสดงล่ารางวัลอีกครั้ง ดูเหมือนว่า Golden Globes ตัวที่ 2 อาจจะอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
Emma อาจจะไม่ทำให้เธอคว้ารางวัล Golden Globes ในปี 2020 แต่เป็น The Queen's Gambit หนึ่งในซีรีส์ดราม่า Netflix ที่สร้างความตรึงตราใจให้กับแฟนๆ และหลายคนต่างเฝ้าจับตามองผลงานใหม่ของเธอ
ในปีนี้ เธอมาพร้อมกับ The Menu หนังตลกร้ายที่ได้รับเสียงอวยจากนักวิจารณ์หนัง และเข้าเป็นส่วนหนึ่งของนักแสดงล่ารางวัลอีกครั้ง ดูเหมือนว่า Golden Globes ตัวที่ 2 อาจจะอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
รูปลักษณ์ที่โดดเด่นสะดุดด้วยดวงตากลมโต ผมบลอนด์และผิวพรรณที่เรียบเนียนราวกับกระเบื้องที่ดูอ่อนเยาว์นั้นอาจจะทำให้คุณสงสัยว่า เหตุใด เธอจึงไม่รับบทในหนังหรือซีรีส์วัยทีนบ้าง? แม้สวมบท Beth Harmon วัย 15 ใน The Queen's Gambit จนคว้าใจผู้ชม แต่ก็ซีรีส์เรื่องนี้ได้นำเสนอวิวัฒนาการของเด็กสาวอัจฉริยะจนเติบโตสู่วัย young adult ที่ดูเป็นผู้ใหญ่กว่าวัย ซึ่งเธอได้ให้เหตุผลว่า เธอหลงรักบทที่แตกต่างหลากหลายจากหนังเรื่องต่างๆ และมันไม่จำเป็นต้องใกล้เคียงกับตัวตนของเธอ
"ผู้คนมักจะตีกรอบให้กับคนอื่น และฉันก็พูดเสมอว่า ฉันจะยืนอยู่เหนือกรอบนั้น เพราะงานของฉันคือการเปลี่ยนโฉมให้ได้ราวกับกิ้งก่าและเป็นมนุษย์กลายร่าง"
Anya ไม่ได้ตีตัวออกห่างจากการแสดงหนังฟอร์มยักษ์ ข่าวที่สร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนๆคือ การสอยบทนำ Furiosa ผลงานน้องใหม่ในตระกูล Mad Max จากการสร้างของผู้กำกับชื่อดัง George Miller แม้ยังจะไม่มีภาพอย่างเป็นทางการออกมาชัดๆว่า Anya จะนำเสนอบทบาทที่เคยสร้างชื่อให้กับ Charlize Theron ใน Fury Road เมื่อ 7 ปีก่อนในรูปแบบใด แต่บอกได้เลยว่านี่เป็น project ระดับงานช้าง มีค่าใช้จ่าย production ที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์การสร้างหนังใน Australia ส่วนนักแสดงดังที่ประกบคู่กันคือ Chris Hemsworth ที่ถือเป็นพระเอก action ระดับแม่เหล็ก แต่ชื่อหนังก็บอกชัดๆว่าโฟกัสที่ Furiosa (ในวัยสาว) และฟันธงได้เลยว่าต้องยืนหนึ่งเรื่องความ bad-ass และต้องรอถึงปี 2024 กว่าจะได้พิสูจน์กันว่างานดีแค่ไหน
"กว่าที่ฉันจะปรับสมองทำความเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นก็น่าจะใช้เวลาสองปีพอดีกับที่หนังเข้าโรง มันการถ่ายทำหนังที่ยาวเหยียดที่สุดที่ฉันเคยทำมาและเปลี่ยนชีวิตฉันไปเลยค่ะ"
The End