𝐂𝐡𝐚𝐧𝐞𝐥 𝐏𝐥𝐚𝐭𝐢𝐧𝐮𝐦 𝐄𝐠𝐨𝐢𝐬𝐭𝐞

เป็นน้ำหอมที่ผมอยากให้แมสมากๆครับ น้ำหอมที่ให้ลุคที่แพงมากๆ หอม สะบายไม่เวียนหัว ความติดทนคือ 10/10

𝐃𝐢𝐨𝐫 𝐇𝐨𝐦𝐦𝐞 𝐄𝐃𝐓

กลิ่นนี้ให้ความสงบ นิ่ง อบอุ่น เป็นการก้าวเข้าสู่วัยผู้ใหญ่อย่างสมบูรณ์ Dior Homme EDT ตัวนี้การติดทนคือ 10/10 เช่นเดียวกันครับ การกระจายก็ทำได้ดีเช่นกัน

𝐌𝐨𝐬𝐜𝐡𝐢𝐧𝐨 𝐓𝐨𝐲 𝐁𝐨𝐲

น้ำหอมที่ผมมองว่า ราคาสวนทางกับคุณภาพมากๆครับ ตัวนี้คือราคาน่ารัก แต่คุณภาพเกินเอื้อมไปมากๆ ผมลองแล้วคิดถึงแบรนด์น้ำหอมนีชราคาหลายพัน แต่ผมจ่ายมาในราคาแค่หลักร้อย มีความสดชื่นของกุหลาบ บวกความเขียว ช่วงเปิดอาจจะหนักนิดนึง แต่ถ้าผ่านช่วงเปิดได้จะเจอกับความแป้งละมุนๆ กลิ่นดีจริงๆครับตัวนี้ เช่นเดียวกัน ความทนคือ 10/10 เช้าถึงดึกเลย

𝐂𝐡𝐚𝐧𝐞𝐥 𝐍𝐨.𝟓 𝐋'𝐞𝐚𝐮

น้ำหอมที่ลบภาพความแก่ของ No.5 ไปจนหมดเลย น้ำหอมตัวนี้ผมว่าให้ความ Modern Cozy Classy ทันสมัย สบาย แต่มีความหรูหราอัดอยู่ในทุกอณู เป็นแป้งที่มีความซีตรัส ซึ่ง Unisex มากๆครับ ความติดทนผมให้ที่ 7/10

𝐃𝐢𝐩𝐭𝐲𝐪𝐮𝐞 𝐅𝐥𝐞𝐮𝐫 𝐝𝐞 𝐏𝐞𝐚𝐮

สุดท้ายจะขาดลูกรักไปได้ไง น้ำหอมตัวนี้ผมคิดอยู่นานมากๆครับ ว่ามันโอเคมั้ยที่จะแนะนำ ด้วยราคาที่สูงมากๆของเค้า เทียบกับความทน ความกระจาย ซึ่งหลายๆคนมองว่าเป็นจุดสำคัญ แต่สุดท้าย ผมมองว่า ราคาที่จ่ายไปทั้งหมด คือแลกกับกลิ่นที่หาที่ไหนไม่ได้แบบนี้ผมว่าคุ้มครับ กลิ่นแป้ง ที่มีความสดใส สว่าง สะอาด หอมอ่อนๆ ความทนความกระจาย ผมให้ที่ 6/10 ครับ คือตัวผมเองใช้แล้วอยู่ทั้งวัน แต่ไม่กระจาย

และนี่คือทั้งหมดของปีนี้ที่ชอบครับ การเดินทางในโลกน้ำหอมของผมปีนี้พยายามเลือกกลิ่นที่ Out of comfort zone มากขึ้น หลายๆกลิ่นกลายเป็นความมหัศจรรย์มากๆที่ได้ลอง และเป็นปีที่ซื้อน้ำหอมมาเยอะมากๆครับ ขอบคุณเพื่อนๆทุกคนที่เข้ามาอ่านกระทู้ของผมซึ่งพื้นที่แชร์สิ่งที่ผมชอบนะครับ ปีหน้าหวังว่ายังคงติดตามกัน เพราะมีคอนเท้นหลายๆอันเลยที่อยากแชร์ 

ขอขอบคุณทุกท่านอีกครั้ง และขออวยพรให้ปี 2023 เป็นปีที่ดีของทุกๆคนนะครับ ❤️