เปลี่ยนไปแค่ไหน? หนุ่มหล่อ boy band สุดที่รักแห่งยุค Y2K

25 14
ความสำเร็จอย่างต่อเนื่องของอุตสาหกรรม K-Pop ที่กอบโกยรายได้มหาศาลจากหลายภูมิภาคทั่วโลกนั้นมีความแตกต่างจากวงการดนตรีตะวันตกจากรูปแบบการปั้นไอดอลกรุ๊ปนั่นเอง   วงชื่อดังต่างล้มหายตายจากไปจาก mainstrem hit และไม่ค่อยมีใครปั้นศิลปินเพื่อเดบิวท์เป็นวงใหม่   อาจจะไม่ต้องนำตัวเลขสถิติต่างๆมากางพิสูจน์  แต่นับตั้งแต่รายการ The X Factor สร้างกระแสความนิยมจนกำเนิดเป็นวง One Direction ที่ได้สร้างปรากฏการณ์ความคลั่งไคล้ในช่วง  2010s จนหลายฝ่ายฟันธงว่า ยุคแห่งความรุ่งโรจน์ของ boy band จบสิ้นลงไปนานแล้ว และดูไม่มีทีท่าว่าจะฟื้นคืนชีพขึ้นมาง่ายๆ  เมื่อเหล่าไอดอลหันมาโลดแล่นสร้างชื่อในวงการในฐานะศิลปินเดี่ยว  ความเปลี่ยนแปลงตามสมัยอาจจะทำผู้ใหญ่ Gen Y แอบรำลึกถึงบรรยากาศที่เคยคลั่งไคล้ดนตรี glossy pop ในช่วง Y2K      อัตราการแข่งขันของ boy band ที่สูงลิบลิ่วในยุคนั้นทำให้พวกเราเลือกติ่งทั้งวงจากอเมริกา แคนาดา อังกฤษ ไอร์แลนด์  เรียกว่าเลือกกรี๊ดกันไม่ทันเลยทีเดียว    แต่ตอนนี้จะได้ยินเพียงแต่ข่าวประกาศ reunion กันบ้างนานทีีปีหน หรือกลับมาสร้างความเซอร์ไพรส์ใน TV showบ้าง   ช่างแตกต่างกระแสที่ร้อนแรงเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนจริงๆ

หนุ่ม  boy band ที่เคยเป็นสุดที่รักของพวกเราจะเปลี่ยนไปเช่นไร  ตอนนี้พวกเค้ากำลังทำอะไรอยู่  มาติดตามกันเลยค่ะ


Ronan Keating  แห่ง Boyzone
อายุ 46  
ยัง active ในวงการดนตรี และทำให้แฟนๆอึ้งเพราะกลายเป็นคุณปู่ไปซะแล้ว

พอพูดถึงไอดอลหนุ่มหล่อจากช่วง 90s - millennium ก็อาจจะทำให้หลายคนนึกถึงมหาอำนาจ boy band อย่าง Backstreet Boys และ Nsync แต่บอกเลยว่า มีโอกาสค่อนข้างน้อยที่ศิลปินโด่งดังระดับสร้างปรากฏการณ์ยอดขายในระดับ platinum จะมาเยือนเมืองไทยและประเทศแถบใกล้เคียง หากกระแสตอบรับสวยงามในบ้านเกิดและมีทีท่าว่ายอดขายในเอเชียนจะไปได้ดี ก็มีความเป็นไปได้ว่า boy band จะเดินทางมาโพรโมทผลงาน ในระยะเวลาสั้นๆจะต้องให้สัมภาษณ์สื่อ ทั้ง talk show ดังๆ และรายการวิทยุที่ต้องคว้าคิวทองของพวกเค้าให้ได้ แสดงดนตรีทั้งในรูปแบบของ free concert และโชว์ตัว แจกลายเซ็นต์ กิจกรรมเหล่านี้นี่เองที่ทำให้แฟนๆผู้โชคดีสามารถเข้าถึงตัวไอดอลได้อย่างใกล้ชิด และหนึ่งในวงที่มาเยือนบ้านเราหลายครั้งก็คือ Boyzone นั่นเอง



 


ทุกวันนี้ แฟนๆสามารถออกโรงสนับสนุนปกป้องไอดอลคนโปรดได้อย่างเต็มที่ เมื่อได้เห็นเมนมีกิจกรรมออกสื่อน้อย หรือมีเนื้อร้องไม่ทัดเทียมกับสมาชิกคนอื่นในวง ก็ทำให้แฟนๆ call out ต้นสังกัดและโพรดิวเซอร์ที่ไม่ดันไอดอลอย่างยุติธรรม แต่หากเป็นไอดอลสากลเมื่อหลายปีก่อน นี่คือเรื่องที่พบกันได้เป็นปกติ หลายๆวง เมมเบอร์ที่รับบทบาท the แบก นั้นมีอยู่ไม่เกินสองคน แม้จะฟังดูไม่ fair สำหรับคนที่ถูกมองว่าไม่ใช่ลูกรัก เพราะพวกเค้ามักถูกจัดให้ยืนอยู่ในตำแหน่งไม่โดดเด่นและรับหน้าที่ร้องคลอรัสเสมอ ส่วนพระเอกของวงก็ปล่อยโชว์พลังเสียงท่อนฮุค ได้รับแสงแบบเต็มๆไป ทุกวันนี้ บางคนที่เคยนิยมชมชอบเพลง boy band อาจจะจำชื่อเมมเบอร์กันได้ไม่ครบซะด้วยซ้ำ


 และปฏิเสธไม่ได้ว่า Ronan Keating เมมเบอร์ที่อายุน้อยที่สุดแห่ง Boyzone ที่รับตำแหน่งนักร้องนำควบคู่ไปกับ Stephen Gately เปรียบเหมือนกับจุดศูนย์กลางความสนใจจากแฟนๆ มาตั้งแต่เริ่มแจ้งเกิดในยุค 90s   เขาดังที่สุด เด่นที่สุด ขายดีที่สุด  ยี่สิบกว่าปีผ่านไป เมมเบอร์ที่ยัง  active ที่สุดก็คือ Ronan   เพราะไม่ได้มีแต่ไม่ได้มีแต่การเข้ารวมตัวออกทัวร์กับ Boyzone เพื่อเอาใจแฟนๆยุคบุกเบิก  แต่ได้ออกผลงานดนตรีใหม่ๆมาโดยตลอด  และยังได้รับการทาบทามให้เข้าร่วมเป็นกรรมการในรายการประกวดร้องเพลงโด่งดัง The X Factor และโค้ชในรายการ  The Voice      ไม่ว่าจะผ่านไปนานเท่าใด เขาก็ยังรักษาภาพลักษณ์พ็อพไอดอลตัวพ่ออยู่เสมอ
แต่เมื่อพูดถึงชีวิตส่วนตัว    Ronan ใจเด็ดมากพอที่จะประกาศสละโสดในวัยเพียง 21 ปี  ในขณะที่อยู่ในช่วง peak ของอาชีพศิลปิน  เนื่องจากตอนนั้นยังไม่มี Twitter   เราจึงจำกระแสตอบรับจากสังคมไม่ได้  แต่ก็พอจะเดาออกว่า  มันคือข่าวสุดช็อคของแฟนๆที่หวงไอดอลไม่แพ้ยุคนี้   แต่การแต่งงานและกลายมาเป็นพ่อคนของ Ronan ที่ยังอายุน้อยอยู่นั้นไม่ได้ฉุดรั้งให้ความนิยมของเขาตกต่ำลงไป   เพราะในเวลาต่อมา  เพลง  When You Say Nothing At All ที่ใช้บรรเลงประกอบ Notting Hill  หนังหวานในตำนานเป็นเหมือนกับการประกาศศักดาเจ้าชายแห่งเพลงรัก  แค่ซิงเกิ้ลเดียวก็โกยยอดขายแผ่นไปถึงระดับแพลตตินั่มในอังกฤษ ออสเตรเลีย เดนมาร์กและสวีเดน   ทั้งๆที่เพลงนี้ไม่ได้แต่งขึ้นมาใหม่   แต่ถูกขับร้องมาแล้วหลายเวอร์ชั่น    แต่ผลงานเดบิวท์ในฐานะศิลปินเดี่ยวที่ประสบความสำเร็จอย่างอลังการทำให้เขาขึ้นแท่นไอดอลตัว top ต่อยอดด้วยการอัดเสียงทำเวอร์ชั่นภาษาสเปนและโปรตุเกสและออกทัวร์อีกยาวๆหลายปี





ล่าสุด ข่าวที่ทำให้แฟนๆอึ้งคือ Jack ลูกชายคนโตวัย 23 ของ Ronan เพิ่งจะประกาศต้อนรับลูกน้อยที่เพิ่งลืมตาดูโลกไปไม่กี่วันมานี้เอง นั่นหมายความว่า ด้วยวัย 46 ปี Ronan สมาชิก boy bandที่เราเคยปลื้มสุดๆเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนก็กลายเป็นปู่ไปซะแล้ว!

นอกจาก Jack เขายังมีลูกสาวกับภรรยาคนแรกอีกสองคน และหลังจากแต่งงานใหม่ ก็มีลูกสาวลูกชายวัยน่ารักอีกสองคน (ลูกสาวคนเล็กของเขาอายุมากกว่าหลานที่เพิ่งเกิดไม่มากนัก เหมือนเป็นพี่น้องมากกว่าอาหลาน) ส่วนลูกชายลูกสาวที่โตแล้วก็พยายามสร้างชื่อเสียงด้วยการเข้าร่วมรายการ dating สุดแซ่บอย่าง Love Island

วันเวลาที่ช่างผ่านไปไวจนรู้สึกเฒ่าชะแรแก่ชรากันไปตามๆกัน!

Taylor Hanson แห่ง  Hanson
อายุ 40 ปี
ยังทำดนตรีร่วมกับพี่น้องในชื่อวง  Hanson

สำหรับเรา   Taylor  Hanson คือ boy band ที่สวยที่สุดแห่งยุค  สวยจริงจัง สวยกว่าดาราวัย  teen จาก Hollywood ซะอีก  ช่วงที่ยังเป็นหนุ่มใส puberty ยังไม่มาเต็มขั้น  ก็แทบจะแยกจากผู้หญิงไม่ออก จนอายุราวๆ 16 ปี เปลี่ยนทรงผมและเป็นหนุ่มเต็มตัว จากที่ถูกมองด้วยความเอ็นดูจนอยากหยิกแก้ม ก็กลายมาเป็นเสียงกรี๊ดเพราะลุคที่หล่อแซ่บสุดๆ   
ช่วงที่แจ้งเกิด Hanson จะไว้ผมยาวสลวย หากมองตอนพวกเค้าแสดงบนเวทีนั่้นอาจจะเข้าใจผิดได้ว่า เป็นวงที่มีนักร้องนำหญิงที่สวยน่ารักไม่แพ้ Britney Spears  เพราะเสียงของ Taylor ยังไม่แตกห้าว  ผิวพรรณก็เปล่งปลั่งเป็นสีชมพูไม่ต่างจากเด็กสาวที่สวยใสตามธรรมชาติ   เมื่อเริ่มแตกเนื้อหนุ่ม ก็สร้างความเร้าใจด้วยเบ้าหน้าขั้นเทพ  และมีภาพลักษณ์แบบคลีนๆ กันทั้งสามคน นอกจากจะเป็นขวัญใจเด็กสาว ผู้ใหญ่ก็ชอบใจ  

แม้หลายคนจะจัดให้เพลง MMMBop  เป็น  one hit wonder  แต่เสน่ห์ยกแพ็คของวงพี่น้องมันก็ทำให้พวกเขาสร้างเสียงกล่าวขวัญได้พักใหญ่เลยทีเดียว    พวกเค้าไม่ได้มาตามสูตรสำเร็จ boy band  ที่เต้นเรียงแวหว่านเสน่ห์ใส่แฟนๆวัยรุ่น แต่เล่นดนตรี pop rock กันแบบมืออาชีพ   พวกเค้าก็ต้องรับมือกับความคลั่งไคล้ของสาววัยรุ่นเช่นเดียวกัน    Taylor ได้แชร์ประสบการณ์ไว้ว่า  สาวๆพยายามติดสินบนพนักงานรักษาความปลอดภัยเพื่อจะเข้ามาดักรอในห้องในโรงแรม  แต่พวกเค้ายังเป็นเพียงเด็กวัยรุ่นที่ไม่รู้ประสีประสาและไม่รู้จะแสดงออกอย่างไรกับเพศตรงข้าม   โดยเฉพาะ Taylor ที่ทุ่มเทกับงานดนตรีอย่างเดียว ไม่สนใจเรื่องความสัมพันธ์ จนกระทั่งได้พบกับภรรยาและมีลูกด้วยกันถึง 7 คน  (ไม่ได้พิมพ์ผิดค่ะ ทั้งสามพี่น้องลูกเพียบ  ตั้งทีมฟุตบอลได้เลย)  
Taylor ที่เติบโตขึ้นมาดูห่างไกลจากภาพของ teen idol หน้าสวยในความทรงจำของแฟนๆ   ไม่น่าเชื่อว่าศิลปินหนุ่มพี่น้องที่อยู่ในวัยฉกรรจ์จะรวมวงกันเหนียวแน่นไม่ต่างจากตอนที่พวกเค้ายังเป็นเด็กตัวเล็กๆ ตอนนี้พวกเค้าก็ยังออกอัลบั้มเพลงใหม่และเดินสายทัวร์ แทบไม่มีปีที่เว้นพักเลย   แม้กระแสตอบรับจากวงการ mainstream อาจจะห่างจาก  chart เพลงที่พวกเคยทำได้ในตอนวัยรุ่น    แต่ความรักในดนตรีที่ซึมเข้าสู่สายเลือดและสายใยความเป็นพี่น้องที่ทำให้พวกเค้ารักษาวง Hanson เป็นสิบๆปี  ในขณะที่วงอื่นๆที่โด่งดังขึ้นมาในช่วงเดียวกันแตกกระจายกันไปนานแล้ว

Taylor เป็นทีนไอดอลที่แต่งงานเร็ว ยังไม่ยี่สิบก็มีครอบครัวแล้ว  แต่เขาแตกต่างจากเคสคนดังในวงการบันเทิงเพราะความรักมั่นคงกับภรรยาผู้เดียวมาเกินยี่สิบปี  ตอนนี้ลูกชายคนโตก็จะถึงวัยดื่มเหล้าได้อย่างถูกกฎหมายแล้วค่ะ    ส่วนเด็กๆแต่ละคนจะได้รับการปลูกฝังเรื่องความรักในดนตรีและเคยติดตามพ่อไปแสดงร่วมกันบนเวทีคอนเสิร์ตในชุมชนมาแล้วหลายครั้ง

Ben Adam แห่ง A1
อายุ 41 ปี
ฟอร์มวงดูโอเข้าประกวด Eurovision

จากที่ Boyzone และ Take That นำหน้าสร้างชื่อไปในช่วง 90s อุตสาหกรรมไอดอลก็ปรับให้เข้ากับความล้ำสมัยแบบ cybercore ตรงคอนเสปท์สหัสวรรษใหม่ A1 คือหนึ่งในไอดอลกรุ๊ปที่ฟอร์มตัวขึ้นมาในช่วงY2K แม้ว่ายอดขายของพวกเค้าจะไม่พุ่งปรี๊ดทำลายสถิติใน Billboard chart เหมือนกับวงคู่แข่งจากอเมริกา แต่ก็มีเพลงฮิตที่ DJ สถานีเพลงสากลเปิดวันละหลายรอบเช่นเดียวกัน ถึงจะถูกจับไปเปรียบเทียบว่าดูคล้าย NSYNC ทั้งซาวด์และท่าเต้น แต่ก็กวาดความนิยมจากแฟนๆภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ไปอย่างงดงาม ตอนที่พวกเค้าโพรโมทผลงานที่บ้านเราก็มีโมเมนท์ห้างแตกเช่นเดียวกัน ความคลั่งไคล้ของแฟนๆ นั้นนำไปสู่เหตุสลดที่จาการ์ตา เพราะมีเด็กสาวหลายคนต้องสังเวยชีวิตในเหตุการณ์เหยียบกันตายในห้างท่ามกลางฝูงชนที่แห่แหนกันเข้ามาเพื่อสัมผัสใกล้ชิดหนุ่มๆทั้งสี่ ก่อนหน้านั้นไม่นานก็ต้องยกเลิกอีเวนท์แจกลายเซ็นต์ที่มะนิลา เพราะผู้จัดงานคาดการณ์ไว้ว่าจะมีผู้ร่วมกิจกรรมหลักพันคน แต่กลับพบกับฝูงคนที่แห่นแหนมามากกว่าสองหมื่น จนเป็นไปไม่ได้ที่จะรับมือไหว   สิ่งเหล่านี้ได้ชี้ชัดว่า พวกเค้าเคยโด่งดังและเป็นที่รักมากมาย


สำหรับเด็กๆที่เกิดไม่ทัน  boy band ยุค Y2K หากได้คลิกไปชมเพลงดังของพวกเค้าอาจจะรู้สึกตงิดในใจถึงท่าเต้นที่ดูยึกยัก ขนาดท่าเต้นไม่ซับซ้อนก็ยังดูไม่หนักแน่นคล่องแคล่วเหมือนกับไอดอลที่ได้รับการเทรนมายาวนานที่เห็นกันจนชินตาจากไอดอล K-Pop   บางวงก็ไม่ออกสเต็ปซะด้วยซ้ำ  โบกมือไหวๆ ขยับแข้งขานิดหน่อยก็ทำให้สาวๆกรี๊ดกันสุดขั้วปอดแล้ว 

A1 อาจจะแตกต่าง boy band ชื่อดังวงอื่นที่แบ่ง airtime ให้เมมเบอร์ค่อนข้างใกล้เคียงกัน ไม่ถึงขนาดเจาะจงตำแหน่งนักร้องนำ หรือดันเมมเบอร์แบบลำเอียงจนคนอื่นถูกออร่าลูกรักบดบัง  แต่คงไม่ผิดที่จะบอกว่า Ben คือเมมเบอร์ที่โดดเด่น  ไม่เพียงแต่เสียงขับร้องที่นุ่มนวลตามมาตรฐาน boy band ยุคนั้น   แต่ยังดึงดูดใจด้วยคิ้วคมเข้ม ดวงตาสีฟ้ากลมโต รอยยิ้มที่ดูเหมือนเด็กไร้เดียงสา และผมแสกกลางกริบที่ดูราวกับว่าจะกรีดร้องคำว่าY2K ออกมา

ไม่ใช่ว่า UK boy band จะยึดตำแหน่งตัวพ่อเหมือนกับ  Ronan Keating กันไปหมด  หลายๆวงแยกทางกันเพราะความเครียดและเหน็ดเหนื่อยจากตารางงานและการออกทัวร์  เมื่อหันมาทำงานโซโล่  แม้จะมีฐานแฟนจากช่วงยังเป็นไอดอลกรุ๊ปอยู่  แต่ก็ไม่สามารถเอื้อมถึงความสำเร็จที่เคยทำไว้ได้   บางคนหันไปทำงานเบื้องหลังเพื่อช่วยสร้างสรรค์ผลงานให้กับศิลปินคนอื่น บางคนก็เปลี่ยนเส้นทางออกนอกวงการไปเลย   สำหรับ  Ben  เขายอมรับว่าเจ็บปวดอยู่บ้างที่ถูกมองว่าเป็นอดีตไอดอลตกยุคหากจะปรากฏอยู่หน้าสื่อ ก็จะอยู่ภายใต้หัวข้อ 'อดีต boy band ชื่อดัง พวกเค้าไปอยู่ไหนแล้ว?' ซึ่งมันห่างไกลจากชื่อเสียงที่เคยมี แต่ถึงจะไม่โด่งดังเหมือนเดิม เขาก็ไม่ได้ยอมแท้ทิ้งงานดนตรีที่มีความหมายต่อชีวิตไป      Ben ยังได้ติดต่อกับเพื่อนร่วมวงที่แยกย้ายจากกันไปหลายปีเพื่อกลับมารวมตัวกันเพื่อเปิดคอนเสิร์ตอีกครั้งและสร้างสรรค์เพลงใหม่ร่วมกัน     ในคอนเสิร์ตของ A1 เต็มไปด้วยผู้ใหญ่วัยหลัก 4 ขึ้นไปจูงลูกจูงหลานมาชม และยังร้องเพลงเก่าคลอตามสี่หนุ่มได้เป๊ะ 

Ben ยังเสาะหาเส้นทางใหม่ในวงการดนตรีด้วยการฟอร์มวง  Subwoolfer กับ Gaute Ormåsen อดีตไอดอลชาวนอรเวย์เจียนและเข้าประกวดในรายการใหญ่ Eurovision   การประกวดใหญ่ประจำยุโรปที่มีตัวแทนจาก 52 ประเทศเข้าร่วมชิงชัย  แต่ไปได้ไกลที่สุดในลำดับที่  10 

Ritchie Neville  แห่ง  Five
อายุ 43 ปี  
ผันตัวไปเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์ และยังเขียนเพลงร่วมกับเพื่อนร่วมวง
หนึ่งในความโดดเด่นของ boy band ยุคY2k คือ วงกระแสเริ่ดๆเค้าจะมี beef กันเป็นสีสันบนแทบลอยด์  อาจจะไม่ได้แต่ง diss track มาด่ากันแบบวงการ hip hop    แต่ก็จิกกันแรงๆแบบระบุชื่อ ไม่ต้องมี Twitter ก็ดราม่าจนไฟแทบลุกในเว็บบอร์ดที่แฟนๆรวมตัวกัน    5ive  นับเป็นวงที่เกี่ยวข้องกับ scandal อยู่หลายครั้ง   โดยเฉพาะ Jason แร็พเพอร์ประจำนั้นขึ้นชื่อลือชาว่าเป็นหนุ่มทรงอย่าง bad  และก็เคยต้องขึ้นโรงขึ้นศาลจากคดีทะเลาะวิวาทมาแล้ว  เรื่องฉาวพวกนี้ฟังดูสวนทางภาพลักษณ์ boy band ที่ทำยอดขายไปถึง  20 ล้านก็อปปี้ทั่วโลก    แต่เราคงต้องยอมรับว่า สาวๆจำนวนไม่น้อยกลับปลาบปลื้ม vibe แบบร้ายๆ   อีกอย่างหนึ่ง เค้าก็ไม่ได้มาแนว bad boy กันทั้งวง   ดาวเด่นอีกคนของวงคือ Rich สามารถเรียกเสียงกรี๊ดด้วย character หนุ่มขี้เล่นซุกซนและมีออร่าหล่อละมุนทำให้สาวๆใจบาง  ส่วนดีกรีความ hot ก็น่าจะพิสูจน์จาก dating profile ที่มีรายชื่อไอดอลหญิง นางเอกและนางแบบเรียงมาติดๆกัน   เป็น boy band อีกรายที่สื่อมักกล่าวถึงเสมอ

5ive อาจจะเคลมว่า สไตล์ของพวกเค้าแตกต่างจากอื่น แต่ที่จริง ก็ยังอยู่ในสูตรสำเร็จของ UK boy band นักปั้นไอดอลคัดเลือกพวกเค้าจากผู้สมัครจำนวนมาก ใช้เวลา audistion แค่ไม่นานก็ลงตัว   member ถูกจับมาสวม character ต่างๆเพื่อดึงดูดความสนใจจากสาวๆวัยรุ่น เลือกเพลงดังในอดีตมาทำเป็นเวอร์ชั่นใหม่ให้เปรี้ยงปัง พวกเค้าสร้างกระแสฮือฮาจากเพลง We will rock you ที่มีต้นฉบับจาก Queen วงร็อคระดับตำนาน ส่วนการเต้นกระกอบเพลงก็มีแต่พองาม ก้าวซ้ายขวาหน้าหลัง โยกเบาๆ   ถึงจะบอกว่านำเสนอความ edgy ที่ทั้งเผ็ดและสนุกสนาน ไม่เน้นความหวานเลี่ยน แต่เพลง ballad อ้อนแฟนๆก็ต้องมี

ในขณะที่วีรกรรมของ Jason (เจาะคิ้ว) ทำให้คนอื่นมองว่าภาพลักษณ์ของ 5ive ดูจะแรงกว่า boy band ทั่วไป แต่ออร่าหนุ่มละมุนของ Rich ก็น่าจะลดบรรยากาศที่ดูดุดันลงไปได้บ้าง พวกเค้าสร้างผลงานยอดฮิตด้วยการผสานเนื้อ rap ที่ความเร้าใจลงไปในเพลง pop ที่มีเนื้อร้องทำนองติดหู แต่ถ้าเป็นเพลง ballad หวานๆก็จะได้ยินเสียงออดอ้อนของ Rich นำหน้า ยิ่งได้จ้องดวงตาสีฟ้าเจิดจ้าของเขาประกอบการชม MV แล้วต้องมีอาการใจละลายกันบ้างล่ะ



5ive เคยตกเป็นข่าวฉาวจากความปากดีของ J ที่จิกกัด boy band คู่แข่งหลายครั้ง แม้แต่ตอนที่ถูกจับข้อหาทะเลาะวิวาท พยานก็ยังให้การว่า เขาเหยียดวง Westlife จนทำให้คู่กรณีที่อยู่ในผับไอริชไม่พอใจ (Westlife มาจากไอร์แลนด์) และทำให้ Rich ที่อยู่ร่วมเหตุการณ์กระทบกระทั่งครั้งนั้นตกในที่นั่งลำบากไปด้วย ปัญหาภายในนำมาสู่สถานการณ์วงแตกในขณะที่กำลังโด่งดังสุดๆ และกำลังวางแผนจะ go America ซึ่งภายหลังมีการเปิดเผยว่า สาเหตุมาจาก Sean ที่มีปัญหาความเจ็บป่วยทางจิตใจ และพฤติกรรมของ J ที่เป็นพี่ใหญ่ของวง (เขาเคยก้าวร้าวใส่เพื่อนร่วมวงบางคนจนเกิดความกดดันไม่กล้าสู้หน้า) แม้จะพยายามประคับประคองวงไว้ไปจนถึงปี 2006 และแฟนๆยังจองตั๋วทัวร์คอนเสิร์ตกันหนาแน่น แต่มันเป็นช่วงที่ hype ของไอดอลกรุ๊ปกำลังเสื่อมความนิยมลงไป จนไม่สามารถดึงดูดค่ายเพลงให้มาร่วมลงทุน ต้องแยกกันไปคนละทิศละทาง


เมื่อได้รำลึกถึงอดีตอันเรืองรอง Rich มีจุดเริ่มต้นจากโฆษณาหน้าหนังสือพิมพ์ที่เชิญชวนเด็กหนุ่มให้เข้าออดิชั่นเพื่อเซ็นสัญญากับค่ายเพลงใหญ่ ท่ามกลางผู้สมัครหลายพันคน เขากลายเป็นหนึ่งในห้าของว่าที่ boy band ที่ต้นสังกัดหมายมั่นปั้นมือว่าจะทำให้เป็น Spice Girls ในภาคผู้ชาย เขาถูกวางตัวให้แสดง persona แบบ Baby spice ทั้งๆที่เขาชื่นชอบดนตรี alternative rock และเป็นสาย dance ตามเทศกาลดนตรี แต่รูปลักษณ์หนุ่มตาสีฟ้าหน้าสวยน่าจะเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาต้องสวมบทบาทน่ารักใสแบ๊ว ถึงเขาจะพยายามต่อต้านก็ไม่เป็นผล แต่มันก็ทำให้ไต่สู่ความสำเร็จสูงสุดได้สำเร็จ ยอดขายหลายล้านดูจะการันตีอนาคตที่สดใสในวงการดนตรี

แต่ลงท้ายมันไม่ได้เป็นเช่นนั้น หลังจากแยกวง เขาก็บินข้ามประเทศไปอาศัยที่ออสเตรเลีย และเทรนเพื่อทำงานเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์ แต่เมื่อวันเวลาผ่านไป หัวใจที่รักเสียงดนตรีก็เรียกร้องให้หวนคืนสู่วงการ หลังจากขาดการติดต่อกับอดีตเพื่อนร่วมวงไปนาน ก็กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง แม้ว่าจะเหลือกันอยู่เพียงสามคน เพราะอีกสองคนแสดงเจตนารมณ์ชัดเจนว่าจะไม่กลับมาร่วมงานกันอีก แต่เมื่อปีที่แล้วก็เข็นอัลบั้มใหม่ออกมาจนได้ แต่ Rich คงจะไม่ได้คาดหวัง streaming ที่ประสบความสำเร็จสูสีกับไอดอลยุคใหม่ แต่แฟนๆที่ยังไม่ลืมเลือนกันก็ยังจองตั๋วไปชมพวกเค้ากัน ไม่ปล่อยที่นั่งโหรงเหรง


Rich ไม่แตกต่างจากอดีตไอดอลคนอื่นๆที่ได้จะได้รับการทาบทามจากสื่อเพื่อแชร์ประสบการณ์แบบ nostalgic และพยายามผลิตผลงานดนตรีขึ้นมาอีก แต่ generation ที่เปลี่ยนแปลงคือตัวแปรสำคัญที่ทำให้เหล่า boy band ล้มหายตายจากไปจากวงการ ทั้งๆที่ในจุดหนึ่งของชีวิต พวกเค้าโด่งดังซะจนไปไม่สามารถใช้ชีวิตตามปกตินอกบ้านโดยไร้กองทัพสาววัยรุ่นรุมทึ้ง   แต่ตอนนี้ถูกมองว่าเป็นศิลปินที่ถูกลืมเลือน

JC Chasez  แห่ง  NSYNC
อายุ 46
จากที่เป็นกรรมการในการประกวดเต้นหลายปีก็หันมาทำงานเบื้องหลัง



NSYNC ถูกยกขึ้นหิ้งเป็น boy band ตัวพ่อ แต่สื่อมักทุ่มเทความสนใจไปยัง Justin ในขณะที่ member คนอื่นดูจืดจางกว่าเห็นได้ชัด แม้สื่อจะยังติดต่อสัมภาษณ์พวกเค้าอยู่เรื่อยๆ แต่ถ้าให้ถามว่า นอกจาก Justin แล้ว อีกสี่หนุ่มเค้ามี project ใดมาบ้าง ก็จินตนาการไม่ออกนัก ทั้งๆที่วงนี้สร้างปรากฏการณ์ความสำเร็จล้นหลามติด top 5 boy band ที่โกยยอดขายมากที่สุดในประวัติศาสตร์ จนได้ก้าวสู่สถานะสุดยอดไอดอล แต่หากว่าใครไม่ได้เป็นเมนของ JT ก็อาจจะแอบน้อยใจอยู่บ้างที่ไม่ค่อยได้ยินเรื่องราวของเมมเบอร์คนอื่นมากนัก เพราะนอกจากจะ JT จะโดดเด่นจากการเต้นและร้องนำ ก็ยังได้แสงจากกระแสความสนใจในความสัมพันธ์กับเจ้าหญิงเพลง pop รวมถึงผลงานโซโล่ที่กวาดทั้งยอดขายและรางวัล สำหรับ JC ที่ถูกมองว่าเป็นอีกหนึ่งผู้นำของวง หากเป็นเรื่องปริมาณเนื้อร้อง และตำแหน่งยืนตรงกลางที่เด่นที่สุดกลางเวทีก็สลับคิวกับ JT แบบพอฟัดพอเหวี่ยง แม้แต่ JT ก็ยังชื่นชมว่า JC คือเมมเบอร์ที่เสียงดีที่สุดของ NSYNC เขาสามารถดึงดูดความสนใจด้วยเสียงขับร้องในขณะที่คนอื่นอาจเสียงหลงหรือหอบระหว่างการเต้น แต่แม้ว่าความสามารถเรื่องการแสดงและดนตรีจะโดดเด่น แต่เขาก็ไม่ประสบความสำเร็จในการทำผลงานโซโล่จนเงียบหายไปจาก spotlight





หลังจากแยกย้ายกันไปในปี 2002 ผลงานโซโล่ของ JC อาจจะได้รับรีวิวที่ดีจากนักวิจารณ์ดนตรี แต่ยอดขายไม่สวยงามนัก เวลาล่วงเลยไปก็ทำให้มีผู้สรุปความเห็นว่า  ที่จริวแล้วดนตรีของเขามีเอกลักษณ์และคุณภาพที่โดดเด่นอาจเป็นเพราะว่าเขานำเสนอดนตรีที่มาก่อนกาลทำให้ผู้ฟังไม่อิน ส่วนอัลบั้มที่ 2 ก็เจอโรคเลื่อนจนในที่สุดก็ตัดสินใจยกเลิกไป แต่ถ้าจะบอกว่าเพราะทำเพลงไม่ดังจึงหันไปโพรดิวซ์ก็คงไม่ถูกนัก เพราะมันคืองานหลักอีกอย่างของ JC มาแต่ไหนแต่ไร  เขาคือหนึ่งในทีมโพรดิวเซอร์ของ NSYNC นั่นเอง  และมีผลงานโพรดิวซ์ให้กับศิลปินดัง เช่น Backstreet boys, Sugababes, Diplo รวมถึงวง NU'EST จากเกาหลีอีกด้วย

นอกเหนือจากการโพรดิวซ์และแต่งเพลง JC ยังรับหน้าที่กรรมการในรายการ America's Best Dance Crew ติดต่อกันถึง 7 ซีซัน แต่เมื่อวางมือจากรายการก็ห่างหายไปจากงานเบื้องหน้าจนชวนใจหายอยู่บ้าง ล่าสุดเขาเผยว่า กำลังซุ่มทำ project ใหม่เป็นผลงาน musical นานๆครั้งก็ขึ้นเวทีแสดงร่วมกับเพื่อนๆ NSYNC และยัง hang out กัน   ถึงทุกวันนี้ พวกเค้ายังสนิทสนมและติดต่อกันสม่ำเสมอ ตัวเขาเองก็ยืนยันว่า NSYNC เปรียบเหมือนกับครอบครัวที่ผ่านไปนานแค่ไหน ก็ยังรักษามิตรภาพที่แน่นแฟ้นไว้เสมอ ฟังดูสวนทางกับบางวงที่เมมเบอร์ทะเลาะกันจนแตกหักมองหน้ากันไม่ติด พอจะวางแผนจะ reunite ก็ยังกระอักกระอ่วนใจ



JC ในปัจจุบันดูเปลี่ยนไปไม่น้อยเลย พ่อหนุ่ม boy band เคราแพะในวันวานดูแปลกตาไปด้วย vibe หนุ่มใหญ่ silver fox เขาหยุดย้อมผมเผยให้เห็นผมหงอกจนดูเป็นสีเทาทั่วศีรษะ   แล้วก็เคยโชว์โมเมนท์ชวนเอ็นดูด้วยการโพสต์ Tiktok เป็นครั้งแรก  ปิดท้ายด้วยเพลง Bye bye bye พร้อมกับ tag ชื่อเพื่อนวง NSYNC  อารมณ์พ่อมาเองเลยจ้ะ


สถานการณ์ boy band ยุคใหม่
หลายคนอาจจะปักใจว่าหมดยุคของ boy band ไปแล้ว แต่นักปั้น boy band มือทองอย่าง Simon Cowell  อาจจะยังไม่ถอดใจ    หลังจาก One Direction  แยกย้ายไปทำงานโซโล่  ก็ได้ส่ง Prettymuch  ที่มาพร้อมกับความสามารถทางการขับร้องและท่าเต้นแข็งแรงไม่ต่างจาก boy band จากเกาหลี   รวมถึง Brockhampton วงที่เต็มไปด้วย diversityที่ส่งเพลงเข้าไป Billboard Hot 100 และกลายเป็น viral ที่ Tiktok  และมียอดขายไปถึงระดับ platinum  ทำให้มีผู้คาดการณ์ว่า นี่คือสัญญาณว่า boy band จะกลับมาสร้างความนิยมอีกครั้ง   แต่หนุ่มๆเหล่านี้ยังไม่ได้ก้าวถึง mainstream hit อย่างเต็มขั้นดังที่วงรุ่นพี่เคยทำไว้ได้   

ความติ่งยุคนั้นมันขลังจริงๆนะ...
เห็นความเปลี่ยนแปลงของหนุ่มๆ boy band กันไปแล้วแล้ว ยังมีความใจเต้นกันเหมือนยี่สิบกว่าปีรึเปล่า?



candy

candy

ติดตาม Mouth On The Web แล้วอย่าลืม Mouth On The Face นะคะ ^ ^

FULL PROFILE