#ดิฉันขอบอกว่า จากใจสาวผิวแห้ง แพ้ง่ายอย่างดิฉัน 

ที่ผ่านการใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์มานับหลาย 10 ตัว (จริงๆ ก็เกินแหละ😂) 

บอกตามตรงว่า ตอนแรกก็ไม่คิดว่า Bepanthen 

ตัวนี้จะเอาหน้าและตัว (ผิวกาย) ดิฉันได้อยู่อย่างอยู่หมัด 

แล้วเห็นทีแรกก็แอบนึกว่ายาสีฟันนะ😂 

(แต่คือน้องใช้ได้ทั้งผิวหน้า และผิวตัวเลยนะคะทุกคน)

ขอแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ น้องมีชื่อเต็มว่า “BEPANTHEN Daily Control” 

เขาเป็นสกินแคร์สำหรับผิวแห้ง ผิวแพ้ง่าย 

และอย่างที่บอกไปเลยว่า ตัวนี้จริงๆ คือใช้ได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย 

ซึ่งเค้าจะมีส่วนผสมของ พรีไบโอติก กลีเซอรีน ไขมันจากธรรมชาติ 

อีกทั้ง ส่วนผสมของ Vitamin B3 และปราศจาก สี น้ำหอม และสารกันเสีย 

คือตัวนี้เค้าจะอ่อนโยนมาก สามารถใช้ได้ตั้งแต่เด็กที่มีอายุ 1 เดือนขึ้นไป

ให้ดูเนื้อสัมผัสกันก่อน เนื้อเค้าจะมีความเข้มข้นแต่บางเบา 

ไม่เหนียวเหนอะหนะ สามารถใช้ได้ทั้งเช้า-เย็นเลย 

อย่างเราคือใช้ตัวนี้เป็นสกินแคร์ก่อนแต่งหน้า 

คือบีบออกมาไม่ต้องเยอะ แต้มๆ เกลี่ยทั่วหน้า นวดๆ นิดหน่อยก็ซึมแล้ว 

ถ้าพูดให้เห็นภาพก็คือ ใครใช้ตัวนี้เป็นสกินแคร์ตอนเช้าก่อนแต่งหน้า 

ก็ไม่ต้องกลัวไปประชุมสายเลย เพราะเค้าซึมไวอยู่นะทุกคน 

ถ้าเทียบกับสกินแคร์ในหมวดของครีม 

และนอกจากนั้น อย่างที่บอกไปว่า Bepanthen ตัวนี้คือเค้าใช้ได้กับทั้งหน้าและผิวกาย

แต่ก็คือขอเล่าก่อนว่า ปกติแล้วคือเราเป็นคนผิวแห้ง 

แต่ก็เป็นคนไม่ชอบทาครีมที่ตัวเลย จะทาก็ต่อเมื่อถึงหน้าหนาวเท่านั้น.. 😂

 

ตอนที่ผิวแทบจะกลายเป็นเกล็ดงู ถึงจะยอมทา 

เพราะด้วยความที่เราเป็นคนขนที่ตัวเยอะมาก ทั้งแขนและขา 

เวลาทาครีมนอกจากครีมจะเหนอะหนะแล้ว ยังชอบมาติดขนที่แขนเราอีก😭 

แต่ถ้าหน้าหนาวก็ต้องยอมทาจริงๆ เพราะไม่ไหวจริงอันนั้น 

ถ้าใครผิวแห้งน่าจะเข้าใจกันดี เกาทีนี่คือเลือดซิบไปแล้ว 

อีกอย่างหนึ่งคือ ถ้าในช่วงหน้าร้อน หรือที่ไม่ใช่หน้าหนาว 

เวลาทาครีม มันจะมีความรู้สึกเหนอะหนะ หนึบๆ ผิวแบบไม่สบายตัวเลย 

เหมือนมีอะไรเหนียวๆ หรือมีอะไรมาเคลือบผิวไว้ตลอดเวลา 

แล้วก็ต้องบอกก่อนว่า ตอนแรกก็ยังไม่กล้าเอา Bepanthen มาทาตัว 

เพราะกลัวจะเหนอะหนะเหมือนที่เคยๆ ใช้มา แต่พอได้ลองใช้กับหน้าแล้วรู้สึกว่า 

เอ้า!! น้องเค้าก็ไม่ได้ซึมช้านี่หว่า แถมซึมแล้วก็ไม่ได้เหนียวเหนอะหนะ 

ก็เลยลองมาทาตัวด้วยเลย 

ผลปรากฏคือ น้องเค้าไม่เหนียวจริงๆ และไม่ติดขนด้วยจ้า 

ใครที่ขนแขนเยอะแบบดิฉัน บอกเลยว่าไม่ต้องกังวลเลย ทาง่าย เกลี่ยง่าย 

ใครไม่ชอบทาครีมที่ตัวแบบเรา... 

อยากให้แนะนำเปิดใจลอง Bepanthen กันดูนะทุกคน 

เพราะเรื่องของการดูแลผิวมันก็ต้องค่อยๆ ใช้เวลา 

อย่างผิวหน้าเรายังต้องใช้เวลากว่าหน้าเราจะดีกันได้ขนาดนี้ 

ผิวเรามันก็ต้องใช้เวลาสะสมหน่อย ทาครีมอย่าปล่อยให้ผิวแห้งบ่อยกันน้า (รวมถึงตัวเราด้วย😂)

แล้วทุกคน อยากจะบอกว่าก่อนหน้านี้เราคือมีอาการ ระคายเคืองไม่แน่ใจว่าเกิดจากอะไร 

แต่คือทำให้หน้าเรามีอาการแห้ง แดง และคัน (มาก) 

พอคันแล้วบางทีก็คือหยุดเกาไม่ได้ ทำให้ยิ่งระคายเคือง ยิ่งแดง และแสบกว่าเดิม 

ช่วงนั้นคือลงสกินแคร์อะไรไปมันก็เหมือนซึมหายไปเลย แต่ผิวก็จะแห้ง เป็นขุย 

อีกทั้งลงสกินแคร์อะไรไปก็ยังมีอาการ แสบ ร้อน

ตอนแต่งหน้าออกไปข้างนอกนี่คือไม่ต้องพูดถึงเลยค่ะ🥲 แห้งเป็นขุย แดงเป็นวงชัดมาก 

ตอนแรกที่แต่งเสร็จมันยังเห็นไม่ชัดเท่าไหร่ แต่พอผ่านไปสักพักมันจะยิ่งแห้ง คันและแสบค่ะ 

ตรงนี้ขอพูดจากใจจริงนะคะว่า หน้าเรามีอาการดีขึ้นนิดนึง 

ก่อนที่จะได้มาทดลองใช้ Bepanthen ตัวนี้ 

แต่ก็ยังมีอาการแสบๆ ร้อนๆ อยู่บ้าง (ณ ตอนนั้น)

 

ตอนแรกก็แอบหวั่นๆ เหมือนกัน ว่าใช้ตัวนี้แล้วจะโอเคมั้ย 

จะแสบร้อน จะระคายเคืองกว่าเดิมมั้ย?

แต่ผลลัพธ์คือหน้าเราค่อนข้างดีขึ้นเรื่อยๆ 

อาการแสบร้อนบริเวณผิวหน้าค่อยๆ น้อยลง 

และรู้สึกได้ว่าผิวหน้าค่อยๆ แข็งแรงมากยิ่งขึ้น 

​

จนตอนนี้ไม่มีอาการแสบร้อน แห้ง หรือ คัน แล้วค่ะ 

อาจจะมีแค่ยังแดงๆ อยู่บ้างเล็กน้อย 

แต่รู้สึกได้ว่าหน้าดูแข็งแรงมากขึ้นจริงๆ ค่ะ 

แต่งหน้าไม่มีปัญหาหน้าแห้ง หรือลอก เป็นขุยอีกแล้วค่ะ 

แถมยังแต่งหน้าได้ติดทนมากขึ้นด้วยค่ะ 

“ผิวปัจจุบัน อาการแดง แห้ง แสบผิว ตอนนี้คือดีขึ้นมาก 

ผิวที่แดงคือจางลงมาก รู้สึกผิวแข็งแรงขึ้น” 

ขออนุญาตแทรกนิดนึงถึงอาการด้านบนที่เราได้เล่าไปนะคะ 

คือเราได้หาข้อมูลเกี่ยวกับอาการที่เราเป็น 

และเราได้ไปเจอมาเกี่ยวกับอาการที่ชื่อว่า “Eczema หรือ โรคผิวหนังอักเสบค่ะ” 

เราไม่แน่ใจว่าที่เราเป็นใช่โรคผิวหนังอักเสบมั้ย 

แต่เผื่อข้อมูลตรงนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนนะคะ 

ขออนุญาตแนบข้อมูลจากทางอินเตอร์เน็ตนะคะทุกคน 

เพื่อจะได้ทำความเข้าใจเรื่องโรค Eczema (โรคผิวหนัง) ไปพร้อมๆ กันค่ะ 

โรคผิวหนังอักเสบ (Eczema) คือภาวะการอักเสบของผิวหนังที่เกิดขึ้น เป็นได้จากหลายสาเหตุ 

มักมาด้วยอาการผื่นคัน บวม หรือแดงตามผิวหนัง แต่ในบางรายอาจเกิดเป็นแผลพุพอง 

มีน้ำหนอง หรือตกสะเก็ดร่วมด้วย โดยภาวะผิวหนังอักเสบที่พบบ่อย 

ได้แก่ โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง โรคเซบเดิร์ม และโรคผื่นแพ้สัมผัส อย่างไรก็ตามภาวะนี้จะไม่ติดต่อสู่ผู้อื่น 

แต่อาจทำให้รู้สึกคันหรือระคายเคือง และเสียความมั่นใจเพราะลักษณะผิวหนังที่ผิดปกติได้

สาเหตุของโรคผิวหนังอักเสบ: เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ และหลายปัจจัย 

เช่นพันธุกรรม, อาหาร หรือแม้แต่สิ่งแวดล้อม เป็นต้น

วิธีป้องกันโรคผิวหนังอักเสบ:

• เลี่ยงการสัมผัสสารก่อภูมิแพ้ เช่น สารเคมีต่างๆ

• ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวชนิดอ่อนโยน เพื่อลดโอกาสเกิดผื่นผิวหนังอักเสบที่มีสาเหตุจากแพ้สารสัมผัส

• บำรุงผิวให้ชุ่มชื้นด้วยครีมที่ให้ความชุ่มชื้น (Moisturizer) เป็นประจำเพื่อลดโอกาสเกิดการระคายเคืองของผิว

• สังเกตการใช้ชีวิตประจำวันว่า มีอะไรเป็นตัวกระตุ้น หรือก่อการระคายเคืองต่อผิว

ที่มา: https://www.lcclinics.com/ผิวหนังอักเสบ-eczema-คืออะไร/

และก่อนหน้านี้ที่มีกระแสว่า มอยส์เจอร์ไรเซอร์จำเป็นหรอ.. ?

ผิวมัน ผิวผสม จำเป็นต้องใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์มั้ย🥺 

ก็คือขอตอบตรงนี้นะคะว่า มอยส์เจอร์ไรเซอร์นั้น 

จำเป็นสำหรับทุกคน และสำหรับทุกสภาพผิวนะคะ 

แต่เพียงเราอาจจะต้องเลือกมอยส์เจอร์ไรเซอร์ให้เข้ากับสภาพผิวของเราเท่านั้นเองค่ะ 

อย่าง Bepanthen ตัวนี้คือส่วนผสมที่ใส่มา จะช่วยให้ผิวชุ่มชื้นยาวนาน 

พร้อมบำรุงให้ผิวแข็งแรง ด้วยส่วนผสมหลัก 4 ตัวด้วยกัน ได้แก่.. 

1. พรีไบโอติก 
2. น้ำมันธรรมชาติ (น้ำมันมะกอกและน้ำมันซีบัค ธอร์น) วิตามินบี 3 และแพนทีนอล ช่วยส่งเสริมชั้นเกราะป้องกันผิวตามธรรมชาติเพื่อการปกป้อง 
3. เทคโนโลยี Lipid Lamellar Technology (LLT) ช่วยให้ไขมันที่เหมือนไขมันตามธรรมชาติ (เช่น เซราไมด์) แก่ชั้นไขมันบนผิวหนัง 
4. สารดูดความชื้นธรรมชาติ ช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวอย่างยาวนาน ช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพของการปกป้องตามธรรมชาติ เพื่อการปกป้องที่ยาวนานขึ้นช่วยไม่ให้ผิวแห้ง

จากในรูปจะเห็นได้ชัดว่า หลังลง Bepanthen ทันที 

จะให้ความชุ่มชื้น และดูไม่เหนียวเหนอะหนะ  

ตัวนี้เราได้ทดลองใช้ตอนกลางคืน ทดลองใช้แบบตัวเดียวเดี่ยวๆ เลยว่า 

ถ้านอนห้องแอร์จะเอาอยู่มั้ย ตื่นมาหน้าจะแห้งมั้ย .. (?)

ผลปรากฏว่า ตื่นมาหน้าดิฉันคืออิ่มฟูมากจ้ะแม่ ไม่มีความแห้งตึงใดๆ 

เพราะโดยปกติ  ถ้าบำรุงไม่มากพอ ผิวแห้งอย่างดิฉัน 

ตื่นมาคือหน้าตึงแล้วนะ ทั้งแห้ง ทั้งตึง แต่ Bepanthen ตัวนี้เอาอยู่ 

สุดท้ายเลย อยากจะแนะนำมากๆ สำหรับใครที่กำลังมีปัญหาผิวแห้ง ผิวแพ้ง่ายอย่างเรา 

และอยากให้ทุกคนมองเห็นความสำคัญของการทามอยส์เจอร์ไรเซอร์กันด้วยนะคะ🥺 

เพราะเรื่องของมอยส์เจอร์ไรเซอร์ ไม่ใช่แค่เรื่องของสาวผิวแห้งเท่านั้น 

แต่ยังจำเป็นและสำคัญต่อทุกสภาพผิว อีกทั้งอายุที่มากขึ้นในทุกๆ วัน 

ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ผิวเราแห้งลงได้เช่นกันนะคะ 

  📍พิกัด: Boots และ Lab Pharmacy 

📱หรือจะช้อปออนไลน์ที่ Shopee , Lazada 

🛒ราคา: 599 บาท (ปริมาณ 150 ml.) 

แต่ใช้ได้นานมากๆ คุ้มสุดๆค่ะ