EP.16 เมื่อเราไม่อยากใช้ชีวิตต่อแล้ว
Kamoltip Pocky 25 12
ฮายยยยยยย
กระทู้รักการอ่านมาแล้ววววววววว
อ่านจบคือ นอนได้เลย ง่วง5555
พบกับ พับกบ นอดออยู่บ้านทุกวันมาแล้ว
จะมาเล่าเรื่องราวตอบคำถามต่างๆนาๆที่หายไปหลายเดือน ป่ะ เริ่ม
1 หายไปไหนมา????
ตอบ >> เราพบเจอกับมรสุมชีวิตที่มันโคตรยากเลย ยากมากจนเรา ตัดสินใจฆ่าตัวตาย (เริ่มเรื่องก็พาดิ่งเลย) เรากับแฟนมีเหตุผลที่ต้องแยกจากกัน เพราะคนเป็นคนปกติ เราคือคนไม่ปกติ เค้ารับมือไม่ไหว กับเรา และหัวใจเรามันเจ็บ และไม่มีใครเข้าใจความรู้สึกเราเลย แต่เราก็รอดจากการกระทำครั้งนี้ จากน้องสาวและแม่ของเราทั้งที่หัวใจของเรามันกำลังหยุดเต้น การช่วยเหลือจากการกระตุ้นไฟฟ้า และการปั๊มหัวใจ และ เราก็ตื่นขึ้นมา ตื่นมาก็ร้องไห้ รอบตัวมีแต่คนอาการโคม่า
เป็นห้องไอซียูรวม และญาติห้ามเยี่ยม
2 หลังจากกลับมาบ้านทำอะไรต่อ
ตอบ >> เราต้องหาคุณหมอประจำของเราและเข้าพบกับนักจิตบำบัด เพื่อที่ปลอบประโลม และแนะนำการใช้ชีวิต เปลี่ยนมุมมอง โฟกัสที่ความสุขของเราเป็นหลัก มันจะเคว้ง ก็ต้องเดินต่อไปให้ได้ หลังจากพบคุณหมอ และนักจิตบำบัด เราก็เริ่มจากการเดินออกกำลังกาย เดินไปร้องไห้ไป แต่ก็ต้องเดินต่อไปข้างหน้า เช้าเดินเล่นออกกำลังกาย หลังจากนั้น เราก็เก็บตัวอยู่ในบ้าน เราให้เวลาตัวเองร้องไห้แค่ 1 เดือนพอ เราต้องกระตุ้นตัวเองให้หยุดเศร้า ตามที่เรากำหนด เพราะชีวิตเราต้องเดินหน้าต่อไป
3 หลังจากปรับมายเซ็ท เรื่องความเศร้า แล้วไงต่อ ใช้ชีวิตยังไงต่อ
ตอบ >> เกิดเหตุการณ์ที่เราไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้ นั้นคือเจ้านายเก่าที่ออฟ มีงานมีให้ทำ 1 จ๊อป WFH 100% แต่วันออนคิวงานต้องไป เท่านั้น ตอนเพื่อนโทรมาเรา ก็เคยปฏิเสธงานเพื่อนไปหลายครั้ง แต่ครั้งนี้เราไม่ปฏิเสธเลย ฟังรายละเอียดงาน แล้วก็ไม่ได้คิดอะไร พอวางสาย เราก็นิ่งๆ เพราะ นึกได้ ว่าเราต้องคิดก่อนไหม ไหวหรือเปล่า ความสับสนความกลัวต่างๆนาๆ นึกถึงภาพเก่าตอนที่เราป่วยหนักแล้วเราทำงานไม่ได้ ทำพลาด จบด้วยการนั่งร้องไห้กังวล ว่าเราจะทำได้ไม่ดีพอ กลัวไปหมด
4 จะแล้วไหมงาน??
ตอบ >> เราควบคุมความคิดต่างๆนานาไม่ได้เลย เราตัดสินใจคุยกับป๋าม๊า ความเราเล่าความคิดของเราทุกอย่าง แล้วเราก็พูดว่า
“อีกใจมันก็กลัวทำทุกอย่างพัง กลัวที่จะออกจากเซฟโซน และอีกใจก็คิดว่าถ้าวันนี้เราไม่ออกจากเซฟโซน ไม่ลองก้าวออกมา เท่ากับว่าการรักษาของเราที่พยายามอยู่มันจะสูญเปล่า ต้องออกมาชาเร้นท์กับตัวเองก็ ต้องอยู่อย่างนี้ ที่เดิม!!!!” ป๋ากับม๊า ถามอยากทำไหม เราตอบอยากทำแต่ไม่กล้าทำกลัว ป๋ากับม๊าบอกว่า งั้นจะไปด้วย จะไปอยู่ข้างนั่งดูห่าง ไม่ปล่อยให้ไปคนเดียว ไม่ต้องกลัวนะ ม๊ากับป๋าเข้าใจ อยากทำอะไร ลองทำดูจะได้รู้ว่าเราจะทำไหวไหม ทำได้หรือเปล่า ไม่ต้องกลัวนะ
5 หลังจากที่เรารับงาน แล้วไงต่อ
ตอบ>> งานของเราเป็นงานประสานงาน ดิลกับคนหลายคน และรีคูทคนเข้ามา เจาะกลุ่มคน เข้าสู่วงการได้ เท่ากับว่าเรามาถูกทาง เรามีการหาข้อมูล และทำเช็คริส งานต่างๆเกี่ยวกับงานทั้งหมดท้าทายดี เราเริ่มสนุกและมีความสุขมาก —เพราะเราตั้งเป้ากับตัวเองว่า เราไม่สิทธิ์ที่จะวีนใส่ใครทั้งนั้น และต้องควบคุมอารมณ์ตัวเองให้ได้—!!!
6 เรามีวิธีจัดการกับอารมณ์???
ตอบ>> เราหยิบของที่เพื่อนรักให้ ใน วันเกิด มา
นั้นคือภาพที่ติด เพชร หาซื้อได้ในแอปส้ม
แอปม่วง เราคุยงานแล้วเริ่มหงุดหงิด ก็หมุนตัวมาติดเพรชที่ภาพ สัก 5 นาทีก็ใจเย็น แล้วก็หันมาทำงานต่อ เราทำแบบนี้ตลอด 1 เดือน ครึ่ง จนสิ้นสุดงาน ผลคือ เป็นการคัมแบคงานที่พี่ๆในออฟฟิศชม หายเป็นปกติ แล้วใช่ไหม ช่วยได้เยอะเลย พี่ๆทุกคนทั้ง 4 คนกอด เราและพูดว่าเก่งแล้ว ดีมาก มันโคตรจะอบอุ่นเลย เรารู้สึกแบบนั้นนะ เหมือนเติมพลังบวกที่โคตรจะดีเลย
กระทู้รักการอ่านมาแล้ววววววววว
อ่านจบคือ นอนได้เลย ง่วง5555
พบกับ พับกบ นอดออยู่บ้านทุกวันมาแล้ว
จะมาเล่าเรื่องราวตอบคำถามต่างๆนาๆที่หายไปหลายเดือน ป่ะ เริ่ม
1 หายไปไหนมา????
ตอบ >> เราพบเจอกับมรสุมชีวิตที่มันโคตรยากเลย ยากมากจนเรา ตัดสินใจฆ่าตัวตาย (เริ่มเรื่องก็พาดิ่งเลย) เรากับแฟนมีเหตุผลที่ต้องแยกจากกัน เพราะคนเป็นคนปกติ เราคือคนไม่ปกติ เค้ารับมือไม่ไหว กับเรา และหัวใจเรามันเจ็บ และไม่มีใครเข้าใจความรู้สึกเราเลย แต่เราก็รอดจากการกระทำครั้งนี้ จากน้องสาวและแม่ของเราทั้งที่หัวใจของเรามันกำลังหยุดเต้น การช่วยเหลือจากการกระตุ้นไฟฟ้า และการปั๊มหัวใจ และ เราก็ตื่นขึ้นมา ตื่นมาก็ร้องไห้ รอบตัวมีแต่คนอาการโคม่า
เป็นห้องไอซียูรวม และญาติห้ามเยี่ยม
2 หลังจากกลับมาบ้านทำอะไรต่อ
ตอบ >> เราต้องหาคุณหมอประจำของเราและเข้าพบกับนักจิตบำบัด เพื่อที่ปลอบประโลม และแนะนำการใช้ชีวิต เปลี่ยนมุมมอง โฟกัสที่ความสุขของเราเป็นหลัก มันจะเคว้ง ก็ต้องเดินต่อไปให้ได้ หลังจากพบคุณหมอ และนักจิตบำบัด เราก็เริ่มจากการเดินออกกำลังกาย เดินไปร้องไห้ไป แต่ก็ต้องเดินต่อไปข้างหน้า เช้าเดินเล่นออกกำลังกาย หลังจากนั้น เราก็เก็บตัวอยู่ในบ้าน เราให้เวลาตัวเองร้องไห้แค่ 1 เดือนพอ เราต้องกระตุ้นตัวเองให้หยุดเศร้า ตามที่เรากำหนด เพราะชีวิตเราต้องเดินหน้าต่อไป
3 หลังจากปรับมายเซ็ท เรื่องความเศร้า แล้วไงต่อ ใช้ชีวิตยังไงต่อ
ตอบ >> เกิดเหตุการณ์ที่เราไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้ นั้นคือเจ้านายเก่าที่ออฟ มีงานมีให้ทำ 1 จ๊อป WFH 100% แต่วันออนคิวงานต้องไป เท่านั้น ตอนเพื่อนโทรมาเรา ก็เคยปฏิเสธงานเพื่อนไปหลายครั้ง แต่ครั้งนี้เราไม่ปฏิเสธเลย ฟังรายละเอียดงาน แล้วก็ไม่ได้คิดอะไร พอวางสาย เราก็นิ่งๆ เพราะ นึกได้ ว่าเราต้องคิดก่อนไหม ไหวหรือเปล่า ความสับสนความกลัวต่างๆนาๆ นึกถึงภาพเก่าตอนที่เราป่วยหนักแล้วเราทำงานไม่ได้ ทำพลาด จบด้วยการนั่งร้องไห้กังวล ว่าเราจะทำได้ไม่ดีพอ กลัวไปหมด
4 จะแล้วไหมงาน??
ตอบ >> เราควบคุมความคิดต่างๆนานาไม่ได้เลย เราตัดสินใจคุยกับป๋าม๊า ความเราเล่าความคิดของเราทุกอย่าง แล้วเราก็พูดว่า
“อีกใจมันก็กลัวทำทุกอย่างพัง กลัวที่จะออกจากเซฟโซน และอีกใจก็คิดว่าถ้าวันนี้เราไม่ออกจากเซฟโซน ไม่ลองก้าวออกมา เท่ากับว่าการรักษาของเราที่พยายามอยู่มันจะสูญเปล่า ต้องออกมาชาเร้นท์กับตัวเองก็ ต้องอยู่อย่างนี้ ที่เดิม!!!!” ป๋ากับม๊า ถามอยากทำไหม เราตอบอยากทำแต่ไม่กล้าทำกลัว ป๋ากับม๊าบอกว่า งั้นจะไปด้วย จะไปอยู่ข้างนั่งดูห่าง ไม่ปล่อยให้ไปคนเดียว ไม่ต้องกลัวนะ ม๊ากับป๋าเข้าใจ อยากทำอะไร ลองทำดูจะได้รู้ว่าเราจะทำไหวไหม ทำได้หรือเปล่า ไม่ต้องกลัวนะ
5 หลังจากที่เรารับงาน แล้วไงต่อ
ตอบ>> งานของเราเป็นงานประสานงาน ดิลกับคนหลายคน และรีคูทคนเข้ามา เจาะกลุ่มคน เข้าสู่วงการได้ เท่ากับว่าเรามาถูกทาง เรามีการหาข้อมูล และทำเช็คริส งานต่างๆเกี่ยวกับงานทั้งหมดท้าทายดี เราเริ่มสนุกและมีความสุขมาก —เพราะเราตั้งเป้ากับตัวเองว่า เราไม่สิทธิ์ที่จะวีนใส่ใครทั้งนั้น และต้องควบคุมอารมณ์ตัวเองให้ได้—!!!
6 เรามีวิธีจัดการกับอารมณ์???
ตอบ>> เราหยิบของที่เพื่อนรักให้ ใน วันเกิด มา
นั้นคือภาพที่ติด เพชร หาซื้อได้ในแอปส้ม
แอปม่วง เราคุยงานแล้วเริ่มหงุดหงิด ก็หมุนตัวมาติดเพรชที่ภาพ สัก 5 นาทีก็ใจเย็น แล้วก็หันมาทำงานต่อ เราทำแบบนี้ตลอด 1 เดือน ครึ่ง จนสิ้นสุดงาน ผลคือ เป็นการคัมแบคงานที่พี่ๆในออฟฟิศชม หายเป็นปกติ แล้วใช่ไหม ช่วยได้เยอะเลย พี่ๆทุกคนทั้ง 4 คนกอด เราและพูดว่าเก่งแล้ว ดีมาก มันโคตรจะอบอุ่นเลย เรารู้สึกแบบนั้นนะ เหมือนเติมพลังบวกที่โคตรจะดีเลย
7 หลังจากจบงานทั้งหมดทั้งสิ้น ทำอะไรต่อ
ตอบ>> ก็ เริ่ม มองหาทิศทางเปิดคาเฟ่ต่อ จากที่เพื่อนแซวว่า เดือนหนึ่ง เปิดร้าน 3 วัน จะเอาลูกค้าจากไหนนนนนนน จ้าาาาาา เริ่ม เราก็ ซื้อเครื่อง ทำกาแฟ ที่เป็นแบบกาแฟสดดริป แบบใช้แรงดันน้ำผ่านกาแฟขึ้นมาข้างบน และก็ รื้อสมุดโน้ตที่เคยเรียนบาริสต้าพื้นฐานมา แล้วก็ มาปรับสูตรเอง ให้อร่อยแบบของเรา แล้วก็ ปริ้นเมนู ไปร้านข้างๆร้านเรา ร้านเสริมสวย ร้านตัดผมชาย ร้านนวด 5555555 ในที่สุดเราก็ ขายได้ ดีใจ ดีกว่านั่งเหงาๆ ตอนนี้ ก็ มีทั้งทำเล็บเจล (แอปเรียนมาตอนออกจากงานแรกๆ) มีกาแฟสดดริป มีแมว 4 ตัว และเราก็ นั่งร้อยลูกปัดเป็นสายคล้องแมส และคล้องมือถือ เราไม่มีเวลานั่งคิดอะไร ฟุ้งซ่านเลย เพลินๆ มีความสุขดีทุกวัน
ตอบ>> ก็ เริ่ม มองหาทิศทางเปิดคาเฟ่ต่อ จากที่เพื่อนแซวว่า เดือนหนึ่ง เปิดร้าน 3 วัน จะเอาลูกค้าจากไหนนนนนนน จ้าาาาาา เริ่ม เราก็ ซื้อเครื่อง ทำกาแฟ ที่เป็นแบบกาแฟสดดริป แบบใช้แรงดันน้ำผ่านกาแฟขึ้นมาข้างบน และก็ รื้อสมุดโน้ตที่เคยเรียนบาริสต้าพื้นฐานมา แล้วก็ มาปรับสูตรเอง ให้อร่อยแบบของเรา แล้วก็ ปริ้นเมนู ไปร้านข้างๆร้านเรา ร้านเสริมสวย ร้านตัดผมชาย ร้านนวด 5555555 ในที่สุดเราก็ ขายได้ ดีใจ ดีกว่านั่งเหงาๆ ตอนนี้ ก็ มีทั้งทำเล็บเจล (แอปเรียนมาตอนออกจากงานแรกๆ) มีกาแฟสดดริป มีแมว 4 ตัว และเราก็ นั่งร้อยลูกปัดเป็นสายคล้องแมส และคล้องมือถือ เราไม่มีเวลานั่งคิดอะไร ฟุ้งซ่านเลย เพลินๆ มีความสุขดีทุกวัน
สุดท้ายของคอนเทนท์เรามักจะเล่าเรื่องราวความสวย ความงาม อันนี้ออกตัวเลย หน้าเรา ตอนนี้อายุ 34
เราขอจบเรื่องราววันนี้ เพียงเท่านี้
เราดีใจนะที่วันนั้นเราไม่ตายและได้มาแชร์
ประสบการณ์ให้เพื่อนๆในจีบันอ่านกัน
ขอบคุณนะคะ ที่อ่านจบ รักกกกก
และทั้งหมดที่ใช้ ไม่สปอนค่ะ เพราะสปอนไม่รู้จักเรา
ซื้อเองค้าาาา และใช่ต่อเนื่อง ไม่คิดอะไรเยอะใช้ๆไปทุกวัน ไม่ลืมไม่ขาดเราขอจบเรื่องราววันนี้ เพียงเท่านี้
เราดีใจนะที่วันนั้นเราไม่ตายและได้มาแชร์
ประสบการณ์ให้เพื่อนๆในจีบันอ่านกัน
ขอบคุณนะคะ ที่อ่านจบ รักกกกก