how to เปิดตัวความสัมพันธ์แบบฉบับคนดัง

วันเวลาที่ผ่านไปหลายปีอาจจะทำให้แฟนๆลืมเลือนไปแล้วว่า ช่วงเริ่มแรกที่มีข่าวลือเรื่องคู่รักไอดอลวัยทีน Selena Gomez และ Justin Bieber นั้นทำให้เกิดเสียงอวยสนั่นหวั่นไหว แต่พวกเค้าก็ยังสงวนท่าที และเลือกจะปฏิเสธออกสื่อ โดยเฉพาะ Sel ที่ให้สัมภาษณ์ใน Ellen Show ด้วยน้ำเสียงปฏิเสธจริงจังว่า ไม่เลย เขาเป็นเหมือนน้องชายของเธอ และเธอก็ดูตัวโตกว่าเขาซะอีก
บางคนก็มองว่าเธอมีน้ำเสียงแบบคนร้อนตัว แต่ก็มีคนที่เชื่อว่า เธอคงไม่ได้มองเขาไปมากกว่าน้องชายจริงๆ เพราะเมื่อเปรียบเทียบกับหนุ่มวัยทีนรุ่นราวคราวเดียวกัน ในตอนนั้น Justin ยังมีรูปลักษณ์ที่อ่อนเยาว์อยู่มาก 

และแม้ว่า TMZ จะเผยแพร่ภาพทั้งสองควงแขนกันไม่ต่างจากคู่ที่แสนอินเลิฟที่ร้านแพนเค้ก Selena ก็ยังยืนกรานว่า เป็นการนัดเจอแบบเพื่อนที่สนิทสนมกันเท่านั้น

"มีใครบ้างล่ะที่ไม่ชอบกินแพนเค้ก? เราได้ขึ้นแสดงดนตรีในอีเวนท์เดียวกัน และก็แค่ไปกินแพนเค้กด้วยกัน มันไม่มีอะไรแอบแฝงค่ะ ฉันปลื้ม Justin นะ เมื่อเขาเดินทางมาจาก Canada ช่วงแรกๆ ผู้จัดการของเขาก็ติดต่อมาที่ฉัน และเขาก็บอกว่า เขาอยากจะนัดเจอกัน และเขาก็เป็นเด็กนิสัยดีมากเลย ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นพี่สาว เพราะว่าฉันอยากจะปกป้องเขา"

แต่ไม่กี่เดือนหลังจากที่ยืนกรานว่าไม่ได้คบกันเกินเพื่อน Justin ที่อายุ 16 และ Selena ที่อายุมากกว่าสองปีได้ตัดสินใจแล้วว่าพวกเค้าจะไม่ปิดบังต่อไป พวกเค้าก็เดบิวท์ความสัมพันธ์ด้วยทริปสุดหวานที่ชายทะเล

แต่เป็นเพราะว่าเคยให้นิยามสถานะว่าเหมือนพี่สาวน้องชาย ก็ทำให้ Selena ถูกแซวหนักไปพักหนึ่ง เธอจึงตอบกลับด้วยอารมณ์ขันในรายการ Ellen ว่า "อย่าจับฉันไปขังคุกเลยนะ"

Jelena กลายเป็นตำนานรักไอดอลที่ตราตรึงใจแฟนๆจนถึงทุกวันนี้ บางคนก็ยังไม่อาจจะหักใจว่าพวกเค้าจบกันแบบถาวร

 หากเป็นทุกวันนี้   คนดังอาจจะไม่เห็นความจำเป็นจากกระแสเรียกร้องจากสังคมให้พวกเค้าออกมาอธิบายสถานะความสัมพันธ์    เหมือนกับ Zayn Malik และ Gigi Hadid  ที่ไม่ได้ปิดบังความสัมพันธ์  พวกเค้าทั้งแสดงความรักใน public  แชร์ภาพน่ารักๆผ่าน Instagram   ออกงานพรมแดงคู่กัน ดูแล้วครบสูตรคู่รักคนดัง  หรือแม้แต่ช่วงที่แยกทางกันชั่วคราว   Gigi ยังทิ้งท้ายให้ ship ต่อว่า  เรื่องของอนาคตนั้น  อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด  หลังจากนั้นเพียงไม่นาน  paparazzi ก็จับภาพที่พวกเค้ากำลังจูบกันอย่างดูดดื่ม  ถือเป็นสัญญาณว่าได้กลับมาเริ่มต้นกันใหม่   แต่ Zayn กลับได้ยืนว่า  ต่างคนก็ต่างโตๆกันแล้ว  พวกเค้าไม่จำเป็นต้องให้นิยามสถานะเพียงเพื่อตอบสนองความอยากรู้อยากเห็นของคนอื่น

ถึงจะไม่ยอมอธิบายว่าคบกันแบบ open relationship หรือกลับมารักกันแบบจริงจัง แต่การกระทำน่าจะชัดเจนแจ่มแจ้งมากกว่าเป็นไหนๆ Zayn ทั้งประกาศบอกรัก Gigi ทาง Twitter และย้ายไปอาศัยอยู่กินกัน ไม่นานหลังจากนั้น พวกเค้ามีลูกสาวด้วยกัน แต่ก็ต้องเลิกรากันไปแบบจบไม่สวยจาก scandal เรื่องความรุนแรงในครอบครัว  ซึ่งแม่ Gigi เป็นฝ่ายกล่าวหาว่าถูก Zayn ทำร้าย

กล่าวคือ  คนดังอาจจะทำทุกอย่างเหมือนกับเปิดตัวความสัมพันธ์   แต่ก็ไม่เห็นความสำคัญในการอธิบายสถานะให้ผู้คนหายค้างคาใจ   ไม่ต่างจาก Shawn Mendes และ  Hailey  (ฺBaldwin) Bieber  ที่เคยสร้างความฮือฮาด้วยการโชว์ความหวานต่อหน้าช่างภาพ  และยังควงคู่ไป MET gala ด้วยกัน   แต่เพียงไม่นานจากนั้น เธอก็หวนกลับไป spark ความสัมพันธ์กับ  Justin Bieber  จนก้าวสู่ความสัมพันธ์จริงจังถึงขั้นแต่งงาน   และในภายหลัง  Shawn ก็ได้ยอมรับว่า   เคยมีใจให้Hailey มาก่อน แต่ไม่ต้องการจะใช้คำใดมาอธิบายสถานะ  เพราะคิดว่า มันเป็นความสัมพันธ์ที่คลุมเครือประเภท 'เป็นมากกว่าเพื่อนแต่ไม่ถึงระดับคนรัก'

วัฒนธรรม paparazzi ทำให้ชาวโลกได้ประจักษ์ต่อชีวิตส่วนตัวของคนดังนอกเหนือไปจากภาพผลงานที่พวกเราชมผ่านหน้าจอ แม้ว่าพวกเค้าจะพยายามปกปิดขนาดไหน ก็ไม่พ้นการไล่ล่าจากช่างภาพและกล้องที่สามารถซูมได้จากการดักซุ่มระยะไกล บางคู่ อาจจะไม่เคยยอมรับหรือปฏิเสธข่าวการเดท แต่ภาพที่แทบลอยด์ได้นำเสนอคือหลักฐานที่ชัดเจนกว่าคำพูด

คู่รักนักแสดงยุค Y2K Chris Evans และ Jessica Biel พวกเค้าตกหลุมรักกันในกองถ่ายและดำเนินความสัมพันธ์มาได้อีกหลายปี ฝ่ายหญิงเคยบรรยายประสบการณ์ที่ถูกปรนเปรอด้วยความรักว่า เขาได้แอบเข้ามาโปรยดอกกุหลาบหลากสีบนเตียงของเธอในค่ำคืนที่เธอมีอายุครบ 21 ปี แต่เป็นเพราะฝ่ายชายหวงความเป็นส่วนตัวมาก จึงไม่เปิดเผยเรื่องราวชีวิตรักกับนางเอกสุด hot แต่อย่างใด

เวลาเปลี่ยน คนก็ดูจะเปลี่ยนไปด้วย หลังจากที่มีชื่อเสียงเรื่องความหวงชีวิตส่วนตัวเป็นลำดับต้นๆของวงการ Chris ก็ได้เปิดเผยความหวานกับ Alba Baptista นางเอกที่อ่อนวัยกว่าทาง Instagram จนทำให้หลายคนอิจฉา แม้ว่าเขาจะเคยออกงานคู่กับ Jenny Slate อดีตแฟนสาวที่รักๆเลิกๆกันช่วงหลายปีมานี้ และก็พูดถึงเธอมาบ้างแล้ว แต่การเปิดตัวความสัมพันธ์แบบ Instagram Official ดูจะเป็นเรื่องแปลกใหม่สำหรับ Captain America ราวกับจะสื่อว่า ความรักครั้งใหม่ได้เปลี่ยนแปลงมุมมองของเขาไปแล้ว

หลายครั้งหลายคราที่พวกเรามักจะได้ยินข่าวลือการเดทของคนดังจากแทบลอยด์ประเภท "เค้าเล่ากันมาว่า..." แต่หากไร้ภาพหลักฐานการแสดงความรักแบบชัดๆ มันก็เป็นได้เพียงข่าวลือต่อไป


เหมือนกับเรื่องราวของคู่ Tomdaya ที่แฟนๆ ship มายาวนาน แต่พวกเค้าต่างก็ยืนยันว่าเป็นเพียงแค่เพื่อนกัน จากนั้นก็ยังออกเดทกับคนอื่นจนกองเชียร์เริ่มถอดใจกันบ้างแล้ว


แต่เมื่อมีภาพที่พวกเค้าจุ๊บกันในรถเท่านั้นแหละ ความฝันของแฟนๆก็ complete!

step ต่อมาย่อมเป็นการแสดงความรักผ่าน social media   คู่ Tomdaya  อาจจะไม่ได้โพสต์หวานๆถึงกันบ่อยนัก แต่พอโพสต์สักครั้ง ก็โกย likes ถล่มทลาย  ส่วนภาพ paparazzi ก็น่ารักดูเป็นธรรมชาติมาก   ตอนสัมภาษณ์  ก็มีจีบกันนิดๆหน่อยให้จิกหมอนตาม หรือจะเป็นตอนที่แชร์เรื่องราวน่ารักๆของอีกฝ่ายก็ฟังดูจริงใจไร้การสร้างภาพ พูดได้อย่างเต็มปากว่า เป็นคู่รักที่มาพร้อมกับพลังงานด้านบวก   ไม่น่าแปลกใจที่แฟนๆจะยกให้พวกเค้าเป็น relationship goal!

แทบลอยด์ทรงอิทธิพลในญี่ปุ่นนั้นขึ้นชื่อลือชาว่า ลงข่าวความสัมพันธ์ของคนดังพร้อมภาพยืนยัน ก็ยากนักที่ยืนกรานปฏิเสธได้ แม้เป็นไปได้ว่า จะมีเรื่องมั่วข่าวอยู่บ้าง    แต่ที่ผ่านมา  แทบลอยด์ก็เคยสกัดดาวรุ่งทำให้อาชีพวงการบันเทิงของคนดังต้องสะดุดด้วยภาพการออกเดทมาแล้วหลายครั้ง   โดยเฉพาะไอดอลที่ต้องปฏิบัติตามกฏห้ามเดทอย่างเคร่งครัด    เพราะนี่คือสังคมที่คนดังยังต้องเก็บเรื่องความสัมพันธ์ไว้ให้เป็นความลับที่สุด   ที่เห็นบ่อยครั้งคือหนุ่มคนดังที่มี fanbase เป็นสาวๆ  พวกเค้าจะต้องแบกรับความคาดหวังให้ครองตัวเป็นโสดยาวนาน   และหลายคนเลือกมาเปิดตัวความสัมพันธ์จริงจังกับผู้หญิงนอกวงการตอนที่มีอายุเลยหลักสามไปแล้ว หรือพ้นช่วง  peak จากกระแสความคลั่งไคล้ของแฟนๆนั่นเอง  

Jin Akanishi คือหนึ่งในคนดังในญี่ปุ่นที่ต้องสังเวยอาชีพศิลปินบันเทิงเพราะถูกเปิดเผยเรื่องชีวิตรัก  ในขณะนั้น เขาคือไอดอลที่ประสบความสำเร็จจนน่าจับตามองในฐานะลูกรักของ Johnny & Associates  ต้นสังกัดกำลังโปรยทางให้เขาโพรโมทผลงานใน USA  แต่เรื่องราวกลับพลิกผันเมื่อสื่อตีข่าวสร้างความฮือฮาว่า เขากำลังปลูกต้นรักกับนางเอกสาวตาคม Meisa Kuroki   ทั้งคู่ต่างส่งคำแถลงการณ์ปฏิเสธ แต่เพียงสองสัปดาห์ต่อมา กลับกลืนน้ำลายตัวเองด้วยการประกาศแต่งงานช็อคประเทศ  จากรายงานว่า เขาไม่ได้แจ้งต้นสังกัดเรื่องการแต่งงานและการตั้งครรภ์ของ Meisa  ก็ทำให้เกิดปฏิกิริยาด้านลบจากแฟนๆ  จนเขาตกสู่สถานการณ์ที่คล้ายกับการถูก boycott จากวงการพักใหญ่ และเมื่อกระแสต่อต้านเงียบหายไป ก็กลับมาทำงานเป็นศิลปินอินดี้ แต่กระแสตอบรับก็ต่างจากความนิยมระดับ mainstream ในอดีต   โชคยังดีที่ฝ่ายภรรยายังเดินหน้าทำงานการแสดงต่อไปได้   เมื่อมองจากแรงผลักดันของต้นสังกัดก่อนที่จะเกิดข่าวฉาวขึ้นมา  ก็เชื่อได้ว่า หาก Jin ไม่ได้แต่งงานมีลูกไปในช่วงที่กำลังรุ่งที่สุด ก็อาจจะก้าวมาเป็นศิลปิน J Pop ที่โด่งดังและมีชื่อเสียงในวงการแสดงเหมือนกับ Yamapi หรือ Kazuya Kamenashi ก็เป็นได้

ในขณะที่คนดังอาจจะถูกยัดเยียดข้อหาทรยศต่อความเชื่อใจของ die hard fans ที่ไม่ต้องการให้พวกเค้าแต่งงานสร้างครอบครัวจนกว่าจะถึงเวลาที่พวกเค้ายอมรับได้ แต่หลายคนยังเชื่อว่า คนดังยังต้องแบกรับแรงกดดันจากต้นสังกัดที่ห้ามไม่ให้มีความสัมพันธ์เพราะเสี่ยงต่อความนิยมที่ตกต่ำลง จนต้องเลือกจะปฏิเสธข่าวไว้ก่อน     กรณีศึกษาจาก Jin ก็น่าจะทำให้คนดังระมัดระวังตัวมากขึ้น  เพราะหากปฏิเสธไปแล้วกลับคำพูด  ก็อาจจะถูกมองในแง่ร้ายกว่าเดิม

 เมื่อ Masaharu Fukuyama  พระเอกและศิลปินรุ่นใหญ่ประกาศแต่งงานในวัย 46  หลังจากต้องเก็บความสัมพันธ์ไว้เป็นความลับมาหลายปี  แม้ก่อนหน้าจะมีข่าวรั่วไหลมาที่สื่อว่ากำลังคบหาดูใจกันก็ปฏิเสธอย่างแข็งขัน แต่เมื่อตกลงปลงใจว่าเขาต้องสลัดภาพหนุ่มโสดตลอดกาลออกไป  ทันทีที่ส่ง FAX ไปที่สื่อเพื่อประกาศข่าวสละโสด ก็สั่นสะเทือนสังคมจนเรียกได้ว่าเป็็นวาระเดทแห่งชาติ!  ปฏิกิริยาช็อคของแฟนๆ ส่งผลให้หุ้นบริษัทของเขาตกฮวบไป 8.3%     คงไม่น่าแปลกใจที่ยังมีคนดังในประเทศนี้อีกหลายคนที่เลือกจะปิดบังสถานะความสัมพันธ์ไว้ให้นานที่สุด  

แต่เส้นทางความรักของดิว่าสาว  Ayumi   Hamazaki  และ  Tomoya Nagase ศิลปินตัวพ่อแห่งวง Tokio  นั้นดูแตกต่างไป     พวกเค้าเป็นฝ่ายเลือกเปิดเผยความสัมพันธ์ในปี 2001  หลังจากทำรู้จักกันจากการร่วมแสดงละคร ซึ่งทั้งสองมีวัยเพียง 15  ปีเท่านั้น  เมื่อก้าวสู่วัยยี่สิบก็สร้างชื่อเสียงโด่งดังเป็น superstar ยุค  millennium   ก็เกิดข่าวลือว่าพวกเค้าได้ใส่แหวนคู่   Tomoya เป็นฝ่าย FAX มาที่สื่อเพื่อประกาศยืนยันความสัมพันธ์ (ดูเหมือนว่า FAX จะเป็นเครื่องมือยอดนิยมในการแจ้งข่าวของคนดังมาจนถึงปัจจุบัน)  ส่วน Ayumi ส่ง FAX มาตอบแบบอ้อมๆ ว่า เธอไม่สามารถเอ่ยรายละเอียดเรื่องนี้ได้ เพราะจะกระทบไปถึงอีกคน    แต่พวกเค้าก็ไม่ได้ปิดบังความรักอีกต่อไป  ทั้งนัดพบกัน  ห้สัมภาษณ์ถึงกันเป็นบางโอกาส รวมไปถึงภาพหลุดที่ปรากฏรอยสักคู่ที่ลือลั่น

นี่คือความสัมพันธ์ระดับ high profile ที่ดึงดูดความสนใจจากประชาชนอย่างล้นหลาม นับตั้งแต่การประกาศแต่งงานสุดช็อคของ Takuya Kimura มันก็ดูเป็นเรื่องหายากสำหรับศิลปินค่าย Johnny & Associates ที่จะมีความรักอย่างเปิดเผย แต่ดูเหมือนว่า ความรักครั้งนี้จะช่วยสนับสนุนความโด่งดังของทั้งสอง แฟนๆอินกันจนเกิดข่าวลือเรื่องการแต่งงานออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งๆที่สื่อก็ได้ปล่อยข่าวเสียหายอย่างการนอกใจออกมาอย่างต่อเนื่อง แทบทุกครั้งที่มีข่าวเลิกรา ก็ปรากฏว่าพวกเค้ายังรักกันเหนียวแน่น แต่ในที่สุด เมื่อความรักของคู่นี้เดินทางมาถึงจุดจบ ก็ดับฝันแฟนๆที่เชื่อมั่นมาตลอดว่า พวกเค้าจะต้องลงเอยด้วยการแต่งงาน

หากพูดถึงคู่รักคนดังญี่ปุ่นที่เก็บซ่อนความสัมพันธ์ได้อย่างแนบเนียนที่สุดก็จะพลาด Yui Aragaki และ Gen Hoshino ไปไม่ได้ เพราะถึงแม้แฟนๆจะ ship พวกเค้ามากมายจากซีรีส์ We Married as a Job ซึ่งนอกจากจะโกยเรตติ้งสูงลิบ ท่าเต้นและเพลงก็โด่งดังอลังการ ทำให้มีข่าวลือออกมาว่าเคมีในจอได้รั่วไหลจนพวกเค้าหันมาคบกันในชวิตจริง แต่หลายคนก็มองว่า มันเป็นเรื่องปกติของคู่จิ้นที่จะมีข่าวเดทออกมาบ้างอยู่แล้ว เมื่อเรื่องเงียบค่อยๆซาไป ก็ไม่ได้มีใครฉุกใจว่า พวกเค้ากำลังปลูกต้นรักกันอย่างขมีขมันอยู่เบื้องหลัง ไม่กี่เดือนหลังจากพวกเค้าก็หวนกลับมาประชันบทบาทในตอนNew Year Special ของซีรีส์ดังเรื่องนี้ ศิลปินหนุ่มมากความสามารถและนางเอกที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนสาวแห่งชาติก็ส่งเอกสารไปถึงสื่อพร้อมลายเซ็นต์ผ่าน FAX (อีกแล้ว) รวมถึงประกาศทาง Social Media ว่า พวกเค้ากำลังจะแต่งงานกัน!

เรื่องนี้สั่นสะเทือนความรู้สึกของแฟนๆอย่างหนัก โดยเฉพาะ fanboys  ที่รู้สึกว่าถูกพรากนางเอกขวัญใจไป   แต่ก็ยังมีคนมองว่า นี่เป็นสัญญาณที่ดีสำหรับผู้ชายที่มีภาพลักษณ์ธรรมดา  ตัวไม่สูงและไม่ได้หล่อเหลาแบบพิมพ์นิยม แต่เขาสามารถคว้าหัวใจหญิงสาวที่เปรียบเหมือนสมบัติของชาติไปได้  แต่แท้จริงแล้ว หลายคนต่างยอมรับว่า  Gen เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ชวนหลง  เขาคือ superstar ที่สร้างชื่อในฐานะศิลปินผู้มีความสามารถหลากหลาย   และแม้ว่าส่วนใหญ่จะแสดงเป็นพระรอง แต่ได้รับบทนำในหนังซีรีส์มาแล้วหลายครั้ง  จึงไม่ได้จะอยู่ในกลุ่มผู้ชายแสนธรรมดาอย่างที่เข้าใจกัน   และมันถือเป็นข่าวดีท่ามกลางบรรยาศซึมเซาจากผลกระทบของสถานการณ์ Covid ระบาด   ทำให้ชาวเน็ทคึกคักขึ้นมาหลายเท่า  

ตอนที่เริ่มติดตามบันเทิงเกาหลีในช่วงแรกๆ ก็รู้สึกสับสนกับ concept ของคำว่า dating scandal ของวงการนี้ เพราะเพียงแค่มีภาพการนัดพบกัน ก็ถูกจัดให้เป็น scandal สร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์ร้อนแรงได้แล้ว! แม้จะไม่ใช่ความสัมพันธ์ที่ผิดศีลธรรม หรือใครๆต่างก็รู้ว่า การเดทคือสิ่งที่ปกติสุดๆสำหรับคนวัยหนุ่มสาว แต่มันก็ยังเป็นเรื่องต้องห้ามของวงการมายาแห่งนี้ ถึงจะรู้อยู่แล้วว่า เบื้องหลังพวกเค้าอาจจะเปลี่ยนแฟนมาแล้วหลายคน ก็เป็นสิ่งที่ควรปกปิดไว้ เนื่องจากว่า ชีวิตรักที่ถูกซุกซ่อนไว้ไว้เบื้องหลังภาพลักษณ์ที่ perfect อาจจะกระทบกระเทือนกับความรู้สึกเปราะบางของแฟนๆ แม้จะเห็นเพียงภาพถ่ายจากระยะไกล หากแทบลอยด์ชื่อดังไม่ได้ระบุว่าเป็นการนัดพบกันก็คงเดาไม่ถูก คนดังต้องพรางตัวด้วยหน้ากากและเสื้อผ้าอย่างมิดชิด มองหน้าว่าใครเป็นใครไม่ออกซะด้วยซ้ำ ภาพส่วนใหญ่เป็นภาพจากการขึ้นลงรถ ไม่จำเป็นต้องมีการแสดงความรักอย่างการกอดจูบเพื่อยืนยันสถานะ แต่ชาวเน็ทก็พร้อมจะตัดสินพวกเค้า ไม่ว่าจะเห็นด้วยหรือไม่

ตัวอย่างคือกรณี Rain และ Kim Taehee ที่กลายมาเป็นข่าวใหญ่ เมื่อ Dispatch ได้เผยแพร่รูปของพวกเค้าตอนที่นัดพบกันที่สวนสาธารณะ และแม้ว่าจะไม่มีภาพใดเลยที่สื่อว่าพวกเค้าคบหากันในขั้นคนรัก  สื่อจอมขุดก็บรรยายลำดับเหตุการณ์ได้เป็นฉากๆว่า แอบคบกันมานานแค่ไหน และนัดเจอกันที่ไหนบ้าง   เมื่อใดก็ตามที่ Dispatch ฟันธงเรื่องความสัมพันธ์คนดัง ก็ดูเหมือนว่าพวกเค้าจะไม่สามารถหลบเลี่ยงปิดบังต่อไปได้เลย เพียงแค่ 12 ชั่วโมงต่อมา ต้นสังกัด Kim Taehee ก็ต้องประกาศยอมรับว่า นางฟ้าเกาหลีกำลังคบหาดูใจกับ superstar หนุ่มสุดแซ่บอยู่จริงๆ

ทั้งคู่พยายามระมัดระวังตัวเพื่อเลี่ยงกระแสสังคม แต่ก็ไม่วายถูกแอบถ่ายจนเป็นดราม่าใหญ่โตจากข้อกล่าวหาว่า  Rain ลาการทำหน้าที่ทหารในกรมไปเดทและทำผิดกฎกองทัพ  จนกระทั่งพวกเค้าแต่งงานกันแล้วจึงดูผ่อนคลายได้มากขึ้น   เมื่อเดินทางไป  honeymoon  ก็ดูจะเอิกเกริกอยู่บ้างเมื่อเปรียบเทียบถึงตอนที่ต้องคบกันแบบหลบๆซ่อนๆ    พวกเค้าเดินจับมือกัน  ปล่อยให้สื่อจับภาพได้อย่างเต็มที่  รวมถึงแฟนๆที่ส่งเสียงอวยพรอื้ออึง   การเดินเข้าไปเช็คอินนั้นไม่ได้ต่างจากควงกันเดินพรมแดง  เพราะต้องยืนทักทายสื่อและแฟนๆด้วยรอยยิ้มท่ามกลางแสงแฟลชที่สาดกระทบหน้าไม่ยั้ง    กว่าจะเข้าไปได้ก็ต้องมีการป้องกันจากเจ้าที่รักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา 

หากเคยติดตามซีรีส์เกาหลีที่เผยเบื้องหลังวงการบันเทิง ก็น่าจะได้ยินวิธีการเปิดตัวความสัมพันธ์ของคนดังในรูปแบบที่คล้ายกับความจงใจ ไม่ใช่ถูกแอบถ่าย หรือมีความเป็นไปได้ว่า หากพร้อมจะเดบิวท์ความสัมพันธ์ ก็จะนัดแนะช่างภาพให้เก็บภาพการเดทแบบชัดๆ ไม่ต้องจินตนาการจากเรียงความของ Dispatch เมื่อเปิดตัวแล้ว ก็อาจจะมีข่าววิวาห์ตามมา หรือถ้าเป็นใน Hollywood จะเรียกกันว่า Pap Stroll (เดินโชว์ให้ paparazzi เก็บภาพ) นั่นเอง

Dispatch เป็นสื่อที่ขึ้นชื่อลือชาเรื่องข้อมูลหลักฐานปึ้ก พวกเค้าอาจจะเกาะติดคนดังจนได้ภาพเด็ดมาไว้ในมือแล้วเก็บไว้เพื่อปล่อยออกมาสร้างความฮือฮาภายหลัง (ซึ่งหลายคนอาจจะเคยเห็นฉากการต่อรองกันระหว่างเอเจนซี่คนดังกับแทบลอยด์ในซีรีส์) ถึงขนาดว่า พวกเค้าสามารถเปิดเผยเรื่องความสัมพันธ์คนดังเมื่อขึ้นปีใหม่ทุกๆปี  ทำกันจนเป็นประเพณีไปแล้ว

แต่สำหรับไอดอลที่อยู่ช่วง peak ของอาชีพ ข่าวเดทย่อมเป็นสิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยงให้มากที่สุด เพราะมีตัวอย่างมานักต่อนักว่า วัฒนธรรม fandom สุด toxic ส่งผลกระทบรุนแรงต่อตัวศิลปินมากแค่ไหน สำหรับไอดอล gen ต้นๆ หากพวกเค้าถูกแทบลอยด์ตีแผ่ความสัมพันธ์ ก็อาจจะถูกแฟนๆที่ผูกใจเจ็บคอยคุกคามด้วย hate comments ด้วยความยึดมั่นถือมั่นว่า ไอดอลเป็นสมบัติของทุกคน พวกเค้าจึงไม่ควรแอบมีความรักที่เป็นการกระทำที่ทำร้ายจิตใจแฟนๆ

อย่างกรณีของ Baekhyun แห่ง Exo ที่เคยบอกแฟนๆว่า จะไม่เดทจนกว่าจะอายุ 35 แต่เมื่อ Dispatch นำเสนอภาพหลักฐานว่าเขากำลังคบกับ Taeyeon แห่ง SNSD ก็สร้างความโกรธเกรี้ยวจากแฟนๆที่มองว่าพวกเค้าเป็นคนทรยศ เพียงเพราะมีความรักเหมือนกับคนทั่วไป พวกเค้าก็ต้องออกมาขอโทษเพื่อได้รับการให้อภัย (หลายปีต่อมาหลังจากเลิกรากันไป Taeyeon เปิดเผยว่าเธอป่วยเป็นโรคซึมเศร้า และต้องรักษาอาการด้วยยา)

ในขณะที่มีคนมองว่า กลุ่ม fangirls จะ react ต่อข่าวการเดทของไอดอลด้วยความหึงหวงจากการจิตนาการความสัมพันธ์แบบมโนไปเอง แต่ Lee Gyu-tag อาจารย์มหาวิทยาลัย George Mason ในเกาหลีใต้ระบุว่า แฟน K-pop ได้สร้างบทบาทของพ่อแม่ที่กำลังปกป้องดูแลลูกเพื่อแสดงความสนับสนุนที่มั่นคงต่อไอดอล แต่มันจะต้องแลกเปลี่ยนกับการพิสูจน์ตัวเองด้วยการทุ่มเททำงานเพื่อความสำเร็จ โดยไม่วอกแวกกับสิ่งใด  พวกเค้าไม่ต้องการให้ศิลปินเปลืองพลังงานและเวลาไปกับการเดท

ในช่วงหลังๆ FC ดูจะทำใจยอมรับความสัมพันธ์ของไอดอลได้มากกว่าในอดีต แม้กำลังอยู่ในช่วงที่รุ่งสุดๆ หรือเป็นความรักต่างค่าย จากเดิมที่ไอดอลเสี่ยงจะถูกโจมตีหากมีข่าวเดท แต่ผู้คนหันมาแยกแยะได้แล้วว่า ความสัมพันธ์ส่วนตัวของศิลปินไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการสนับสนุนผลงาน และมองพวกเค้าในฐานะคนมีเลือดเนื้อจิตใจมากขึ้น เหมือนกับตอนที่ Dispatch เผยแพร่ภาพของ Jennie BLACKPINK และ Kai Exo ที่ออกเดทกันในสวนสาธารณะ เมื่อต้นสังกัดของฝ่ายชายยังได้ยืนยันความสัมพันธ์ แต่มันก็ไม่ได้กระทบกระเทือนต่อชื่อเสียงของพวกเค้าแต่อย่างใด ที่จริงแล้ว หลายคนยังออกมาแสดงความยินดีอย่างจริงใจ และหวังว่า ไอดอล K-Pop จะหลุดจากยุคมืดที่การเดทเป็นเรื่องต้องห้ามอย่างเต็มตัว

หลายปีที่ผ่านมา นักสืบออนไลน์ได้ใช้ความสามารถในการสังเกตเพื่อปะติดปะต่อเรื่องราวด้วยสายตาคมกริบดุจเหยี่ยว  แม้แต่คำใบ้ประเภทเสื้อผ้าเครื่องแต่งตัว หรือสถานที่ที่ปรากฏบน  social media ของคนดัง  ก็สามารถจับมาเชื่อมโยงเป็นหลักฐานว่า พวกเค้ากำลังแอบคบกัน และใช้สิ่งเหล่านี้เป็นสื่อแทนใจ  จากข้อจำกัดจากวัฒนธรรมวงการบันเทิงทำให้ไม่สามารถรักกันได้อย่างเปิดเผยเต็มที่     สำหรับไอดอลระดับชั้นนำอย่าง Jennie BLACKPINK และ V BTS  ที่พัวพันกับข่าวลือเรื่องเดทมาพักใหญ่    จนกระทั่งทุกวันนี้แฟนๆก็ยังค้างคาใจว่า  เมื่อใดที่คู่นี้จะพร้อมเปิดตัวหรือได้รับคำอธิบายสถานะชัดเจนจากต้นสังกัดสักที?   ที่ผ่านมานั้น  บรรดาภาพหลุดหรือภาพแอบถ่ายที่ถูกใช้เป็นหลักฐานเรื่องความสัมพันธ์ของพวกเค้าก็ถูก discredit ว่าเป็นภาพตัดต่อ  หรือเป็นคนที่หน้าคล้ายกัน  แต่ก็มีเสียงแย้งว่า มันเป็นข่าวลือที่เป็นไปได้สูงว่าจะเป็นความจริง   เพราะหากเป็นข่าวไร้ที่มาที่ไป ต้นสังกัดย่อมออกปฏิเสธอย่างหนักแน่นแล้ว

สำหรับวงการบันเทิงฝั่งตะวันตกที่เต็มไปด้วยอิสระนั้น หากศิลปินดาราชื่อดังอยากประกาศสถานะความสัมพันธ์ด้วยตัวเอง แค่ไถจอและคลิกผ่าน Instagram ไม่กี่ครั้งก็ชัดเจนแล้ว ไม่ต้องให้ถึงมือ PR firm ที่พวกเค้าว่าจ้างให้มาดูแลเรื่องภาพลักษณ์ให้มาออกหน้าแทนแต่อย่างใด แต่สำหรับฝั่งเกาหลี ขั้นตอนดูจะซับซ้อนกว่ามาก เมื่อภาพที่ชาวเน็ทเชื่อว่าเป็นหลักฐานความสัมพันธ์ถูกเผยแพร่ออกมา แต่ดูเหมือนว่า หากแหล่งข่าวไม่ใช่ Dispatch ที่มีข้อมูลแน่นหนา   ต้นสังกัดก็ตีมึนใส่ แถลงการณ์ชี้แจงด้วยเนื้อหาที่ไม่ได้ต่างจากไม่ได้แถลง


เมื่อไม่กี่วันมานี้ ช่างภาพคนหนึ่งได้เผยแพร่ภาพของหนุ่มสาวที่เขาเชื่อว่าเป็น  Jennie และ V ในขณะที่จูงมือกันอย่างหวานแหววจนกลายเป็นไวรัลด้วยความตื่นเต้นของแฟนๆ  และถึงจะมีคนแย้งว่า ดูจากภาพไม่ออกสักหน่อยว่าเป็นไอดอลชื่อดังทั้งสองคน  ไปถ่ายภาพคนที่ดูคล้ายกันแล้วตู่เอาเองก็ได้  แต่ก็มีการเผยแพร่ภาพเครื่องแต่งกายของทั้งคู่ที่จากนอกเหตุการณ์คลิปว่า เป็นชุดเดียวกันเป๊ะ   และคนที่เดินตามก็เป็นผู้จัดการที่อยู่ในรูปนั่นเอง   นั่นทำให้แฟนๆบางคนเชื่อว่า มาถึงขั้นนี้แล้ว พวกเค้าน่าจะยอมรับเรื่องการเดทในเร็วๆนี้

แม้ว่าหลักฐานดังกล่าวจะทำชาวเน็ทจะมั่นใจยิ่งกว่าข่าวลือครั้งก่อน รวมถึงข้อสันนิษฐานว่า นี่คือวิธีเดบิวท์ความสัมพันธ์เพื่อแบบอ้อมๆ ต้นสังกัดของพวกเค้าก็ยังแถลงการณ์คำเดิมคือไม่รู้ไม่เห็น เพราะเป็นเรื่องส่วนตัวของไอดอล คล้ายกับจะบอกว่า ละไว้ในฐานที่เข้าใจ เพราะการไม่ปฏิเสธก็หมายถึงการยอมรับแบบไม่พูดออกมาตรงๆ
 แต่คุณอาจจะเป็นคนหนึ่งที่สงสัยว่า เมื่อไรจะถึงวันที่ไอดอลสามารถรักกันได้ออกหน้าออกตาโดยไม่ต้องระมัดระวังตัวจากแรงกดดันของสังคมสักที?