เส้นทางไอดอลสู่นักแสดงนำ King The Land ของ ยุนอา-จุนโฮ

29 12
ข่าวลือความสัมพันธ์ระหว่างยุนอา Girls' Generation และจุนโฮ 2 PM  สองไอดอลชื่อดัง generation ที่ 2 ได้ปลุกกระแสความตื่นเต้นให้กับแฟนๆที่สัมผัสถึงเคมีความหวานรั่วไหลในฉากซีรีส์ จนมีคนแอบคิดว่า พวกเค้ามี something ที่มากกว่าคำว่าเพื่อนสนิท   ถึงแม้ SM และ JYP ค่ายยักษ์ใหญ่ต้นสังกัดของพวกพวกเค้าจะออกมาเป็นตัวแทนปฏิเสธข่าวลือ ยืนยันว่าพวกเค้าเป็นเพียงเพื่อนสนิทกัน แต่ดูเหมือนว่าแถลงการณ์นี้จะไม่ได้ดับความหวังของกองเชียร์อย่างสิ้นเชิง    ยังมีคนที่โอนเอียงไปกับทฤษฎีความรักลับๆของนักแสดงไอดอลผู้เป็นขวัญใจ   มองว่าถึงเป็นเเพียงเพื่อนก็เปลี่ยนมาเป็นคนรู้ใจได้  อ้างอิงจากการคอนเฟิร์มสถานะของ อีจงซอก-ไอยู  นักแสดงดังที่พัฒนาความสัมพันธ์จากเพื่อนยาวนานนับสิบปีมาเป็นคนรัก   และอีกหลายกรณีที่ทำให้ชาวเน็ทเชื่อว่า เรื่องข่าวเดทของคนดังนั้นต้องรอชมกันยาวๆ  never say never!


 
ยุนอาและจุนโฮอาจจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ไม่ได้รักกันนอกจอตามข่าวลือ แต่เรื่องฝีมือการแสดงที่ชวนอินนั้น พวกเค้าถูกจัดให้เป็นนักแสดงไอดอลที่ประสบความสำเร็จจนลบคำปรามาสได้อย่างหมดจด


เส้นทางของไอดอลชื่อดังสู่ความเป็นนักแสดงมากความสามารถของทั้งคู่เป็นเช่นไร?
เหตุผลใดที่ไอดอลต้องพยายามลบอคติเพื่อสร้างความยอมรับในวงการแสดง?
มาติดตามกับเราได้เลยค่ะ


ยุนอา นางฟ้าไอดอลในอุดมคติของแฟนๆและเพื่อนร่วมวงการ


สังคมเกาหลีนั้นขึ้นชื่อลือชาถึงการตั้ง beauty standard  ไว้สูงลิบลิ่ว  และปฏิเสธไม่ได้ว่า ไอดอลชื่อดังคือต้นแบบแห่งความงามที่ผู้คนมากมายฝันใฝ่    ชื่อเสียงเรื่อง visual อันเปล่งประกายดึงดูดทุกสายตาของยุนอานั้นยังสร้างเสียงกล่าวขวัญไม่เสื่อมคลาย แม้จะมีคลื่นลูกใหม่เข้ามาสร้างความฮือฮา   แต่แฟนๆหลายคนก็ยังยืนยันว่า เธอยืนหนึ่งเรื่องรูปลักษณ์งามไร้ที่ติ  ใบหน้าที่เล็กแทบใช้ฝ่ามือปิดไม่มิดอันเป็น feature ที่ชาวเกาหลีปรารถนา ดวงตากลมดูไร้เดียงสา ผิวพรรณเรียบเนียนขาวใสราวกับว่าเกิดมาไม่เคยพบกับสิวรอยด่างดำ  หรือหากเป็นเรื่องรูปร่าง  เธอก็ยังได้รับฉายาว่าเป็นราชินี X-Line  นั่นคือหุ่นที่อ้อนแอ้นเอวคอดกิ่ว เมื่อวาดเส้นสายจากบ่าลงมาที่ความเว้าโค้งของสะโพกและส่วนช่วงเขาเล็กเรียวก็ปรากฏ thigh gap ชัดจนทำให้นึกถึงตัว X    


หากเป็นแฟน Webtoon ก็คงจะพอน่าจะเคยผ่านตา character สาวสวยตาแป๋วรูปร่างผอมบางหุ่น X-Line กันมาแล้ว   คุณสมบัติเหล่านี้ทำให้ยุนอาได้รับคำยกยกว่าเป็นตำนาน visual ที่แท้จริง   ไม่เพียงแต่จะได้รับความนิยมในหมู่แฟนๆ  แม้กระทั่งไอดอลชายหลายคนต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าพวกเค้าเป็นแฟนบอยของยุนอา และหากให้เลือกว่า ใครคือไอดอลหญิงที่ดีที่สุด ก็ต้องเธอคนนี้

และหนึ่งนั้นย่อมมีจุนโฮรวมอยู่ด้วย  เขาเคยเปิดใจว่า ประทับใจในความสดใสร่าเริงของเธอ และเคยถูกเปิดโปงว่า เขาอิจฉาแทคยอนสุดๆที่เคยได้ร่วมแสดงบนเวทีกับยุนอา แต่หลายปีต่อมา เขาก็สมปรารถนาเมื่อคิวของตัวเองมาถึง ผลงาน show เพลง Señorita ที่ร้อนแรงของทั้งคู่ก็ได้สร้างเสียงชื่นชมจากแฟนๆว่านี่คือเคมีระดับตำนานชัดๆ

จุนโฮ จากฉายา'Rain น้อย' กลายมาเป็นไอดอลผู้สร้างประวัติศาสตร์


หลายปีก่อน จุนโฮ เด็กฝึกวัย 18 ที่พยายามฝ่าฟันการคัดเลือกโหดหินในรายการ Hot Blood Men จนได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกวง 2 PM ได้ดึงดูดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า เขาช่างดูคล้ายกับ Rain ซุปตาร์หนุ่มสุดแซบที่สร้างความสั่นสะเทือนไปทั่ว Asia ทำให้ได้รับฉายาว่าเป็น Little Rain แต่การถูกเปรียบเทียบกับศิลปินที่ประสบความสำเร็จระดับนั้นก็ไม่ต่างจากดาบสองคม เพราะเกิดความเสี่ยงที่จะถูกมองว่าเป็นเพียงเงาของ Rain และเสี่ยงจะถูกเพิกเฉยต่อความสามารถอันเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ส่วนรูปลักษณ์ที่แตกต่างจากสไตล์ Flower Boy ที่เด็กสาวคลั่งไคล้นั้นก็เคยทำให้จุนโฮรู้สึกว่า ตัวเองไม่สามารถดึงดูดความสนใจได้เหมือนกับนิชคุณและแทคยอน



แต่ความสำเร็จของ 2 PM ทำให้แฟนได้ประจักษ์ถึงความสามารถของจุนโฮ หลายคนชี้ว่า ทักษะในการเต้นของเขาโดดเด่นที่สุดในวง และเขาก็เคยพิสูจน์จากการเต้น acrobatic ที่แข็งแรงได้อย่างมั่นใจสุดๆ  ความสามารถในการแต่งเพลงของเขาทำให้ถูกมองว่าเป็นศิลปินที่เก่งหลากหลายด้าน  ผลงานแต่งเพลงให้กับวง 2 PM และอัลบั้มโซโล่นับร้อยเพลงทำให้มีผู้คาดการณ์ว่า เขาจะไปได้อีกไกลในฐานะศิลปิน   แต่จุดเปลี่ยนที่ทำให้ความนิยมของเขาเติบโตพุ่งทะยานจนคว้าใจแฟนๆนอกด้อม K-Pop คือผลงานการแสดงนั่นเอง

การฝ่าฟันกำแพงอคติในวงการแสดงที่มีต่อไอดอล

ดังที่หลายคนได้เห็นมานักต่อนักว่า  วัฏจักรความโด่งดังของอาชีพไอดอลนั้นจะแปรผันไปตามอายุของศิลปิน  เมื่่ออายุมากขึ้นจนถึงหลัก 3  หรือหลัก 4 แม้จะถูกมองว่า ประสบความสำเร็จจนถูกยกขึ้นหิ้ง และยังมีผลงานให้ติดตามทั้งงานดนตรีและออกรายการ TV สม่ำเสมอ  ไม่ได้หายหน้าไปจากวงการ แต่กระแสตอบรับจากแฟนๆนั้นย่อมแตกต่างไปจากช่วงที่อยู่จุด peak ของอาชีพไอดอล     จึงไม่น่าแปลกใจที่ไอดอลหลายคนได้หันมาพิสูจน์ความสามารถในวงการแสดงซึ่งมี life span ยืนยาวมากกว่า  หากสร้างความสำเร็จได้แท้จริง ก็จะช่วยให้รักษาสถานะดาวดังไปได้จนเข้าสู่วัยกลางคนเลยทีเดียว








ทว่า ไอดอลที่หันมาเอาดีด้านการแสดงมักจะต้องรับมือกับเสียงปรามาสจากผู้ชม และยังมี open secret ของคนในวงการที่ไม่ยอมรับว่า พวกเค้าม่ีความสามารถที่คู่ควรที่จะมาสร้างความโด่งดังในวงการแสดง เกิดเสียงเล่าลือมาหลายปีว่า มีการจัดลำดับชนชั้นในวงการแสดงโดยที่นักแสดงไอดอลจะถูกด้อยค่าให้อยู่ชั้นล่างสุดของพีระมิด นักแสดงที่เป็นไอดอลมาก่อนจะได้รับค่าตัวน้อยกว่านักแสดงที่เดบิวท์ในวงการด้วยผลงานหนังละคร แม้ว่าไอดอลชื่อดังจะมี fanbase ที่แข็งแกร่ง ซึ่งในสายตาของนักสร้างหนัง มันน่าจะเป็นเครื่องมือ booster ที่ช่วยดึงเรตติ้งชั้นดี แต่ก็นักแสดงไอดอลส่วนใหญ่ก็ต้องพบกับเสียงวิจารณ์สุดโหด

จากเสียงเลื่องลือว่า แม้ยุน อึนฮเยจะเดบิวท์การแสดงได้อลังการสุดๆจากซีรีส์ Princess Hours (Goong) และยังต่อด้วย Coffee Prince ที่เรตติ้งพุ่งไปเกือบ 30% แต่เธอก็ต้องเลี่ยงรับงานไอดอลเพื่อลบภาพลักษณ์เดิมๆออกไป สำหรับผลงานลำดับต่อมา เมื่อแสดงออกมาได้ไม่ตรงใจผู้ชมก็กลายเป็นดราม่า ผลงาน My Fair Lady อาจจะเรียกเรตติ้งที่ดูน่าพอใจ แต่ตัวนางเอกกลับถูกสับเละอย่างไม่ปราณีว่า เธอแสดงได้ไม่เป็นธรรมชาติและฝีมือถดถอยน่าผิดหวัง เมื่อหวนคืนสู่จอแก้วก็ไม่ประสบความสำเร็จเหมือนกับช่วงเริ่มเข้าสู่วงการแสดงอีกเลย


กลุ่มผู้ชมในเกาหลีนั้นตั้ง standard ไว้สูงและจับผิดอย่างเข้มงวด เกิดเป็นเสียงโจมตีหลายครั้งหลายหนว่า นักแสดงไอดอลนั้น'ดีแต่หน้า' แต่ขาดทักษะการแสดง อย่างกรณีของ ชา อึนอู หนุ่มหล่อเบ้าหน้าขั้นเทพที่รับพระเอกซีรีส์ติดๆกัน เขาต้องพบกับคำวิจารณ์ว่า เน้นขายความหล่อในบทบาทแบบเดิมๆ และแสดงได้แข็งทื่อไร้อารมณ์ ไม่เข้าขั้นที่จะรับบทนำ ถึงจะมีรูปร่างหน้าตาจะโดดเด่นเป็นที่สุดก็ไม่ช่วยให้น่าติดตาม  มาถึงตอนนี้ หลายคนได้ชื่นชมว่า ชา อึนอูได้พัฒนาฝีมือการแสดงจนก้าวหน้าขึ้นมาแล้ว แต่อคติในตัวนักแสดงไอดอลก็ยังคงอยู่
หลายครั้งที่ชาวเน็ทฟันธงว่า ไอดอลที่แสดงได้ไม่ดีพอนั้นฉุดให้ซีรีส์ฟอร์มดีต้องดูแย่ตามไปด้วย ขนาดว่ามีนักแสดงเจ้าบทบาทมานำทัพ แต่หากไอดอลทำได้ไม่ถึง standard ที่ผู้ชมคาดหวัง ก็ตกเป็นเป้าหมายให้สื่อและชาวเน็ทใช้วาจาทิ่มแทง ยิ่งเป็นไอดอลที่ได้รับบทนำแม้จะดูเป็นมือใหม่ ชาวเน็ทยิ่งจับผิดถึงความแตกต่างกับนักแสดงเก่งๆที่สั่งสมประสบการณ์จนเก๋าเกม และกล่าวหาว่า พวกเค้าแย่งงานผู้ที่คู่ควรต่อการได้แสงที่แท้จริง



วงการไอดอลถูกวิเคราะห์เจาะลึกเรื่องวิธีการตลาดที่ใช้การนำเสนอภาพลักษณ์ในอุดมคติเพื่อสร้างความนิยม นอกจากจะฝึกฝนร้องเต้นอย่างหนักเพื่อสร้างความโดดเด่นในการแสดงดนตรี ก็ต้องมี interaction กับแแฟนๆ จนกลายเป็นความรู้สึกผูกพัน เกิดเป็นความเชื่อมั่นว่า ศิลปินคือสุดที่รักที่จะต้องทุ่มเทสนับสนุน ไอดอลที่มีความสามารถที่สุดในวง อาจจะไม่ใช่คนที่ดังที่สุด แต่เป็นไปได้ว่า จะเป็นคนที่มีภาพลักษณ์ประทับใจแฟนๆมากที่สุด
ส่วนวงการแสดงนั้น แน่นอนว่าภาพลักษณ์อันดีงามเป็นสิ่งที่ขาดไปไม่ได้ แต่สิ่งที่ทำให้ประสบความสำเร็จก็คือ ความสามารถในการถ่ายทอดศิลปะชั้นสูง หลายคนเลือกใช้ชีวิตอย่างเป็นส่วนตัว ออกงานเฉพาะช่วงเวลาที่ต้องโพรโมทผลงานหรือได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล และโพสต์ social media เพียงนานๆครั้ง  และถ้ามีความสามารถในระดับ 'ตัวจริง' พวกเค้าจะรักษาตำแหน่งระดับ top ไว้ได้นานหลายปี
ไม่นานมานี้ คิม กูรา  MC ที่ขึ้นชื่อเรื่องการวิพากษ์วิจารณ์คนบันเทิงเคยเปิดเผยว่า มีนักแสดงไอดอลรายหนึ่งที่เรียกค่าตัวสูงถึงสี่ร้อยล้านวอนต่อตอน ทั้งๆที่นักแสดงชั้นนำนั้นได้รับค่าตัวราวๆสองร้อยล้านวอน ซึ่งตัวเลขสูงชวนตะลึงนี้น่าจะมาจากความโด่งดังของไอดอลที่ส่งอิทธิพลกว้างไกลไปถึงต่างประเทศ เสริมกำลังด้วย streaming service ต่างๆที่ทำให้ติดตามผลงานของพวกเค้าได้อย่างง่ายดาย ทำให้นายทุนหวังเก็งกำไรจากการทุ่มเงินก้อนโตจากพลังสนับสนุนของแฟนด้อม    แต่การเปิดเผยข้อมูลนี้ก็ไม่ได้มาพร้อมกับน้ำเสียงชื่นชมแต่อย่างใด เพราะฟังราวกับการสื่อว่า นักแสดงใช้ความโด่งดังระดับโลกมาเป็นเครื่องมือการเจรจาค่าตัว ไม่ใช่ความสามารถที่แท้จริง

แต่ถึงจะต้องพบกับอุปสรรคจากอคติ ก็ยังมีนักแสดงไอดอลหลายคนที่พิสูจน์ให้ผู้ชมประจักษ์ว่า พวกเค้าไม่ได้มีดีเฉพาะ visual และ fanbase ที่แข็งแกร่ง  ซูจีที่ได้รับฉายารักแรกแห่งชาติจากการนำแสดงในหนัง Architecture 101 ก็เคยถูกโจมตีว่า แสดงจืดชืดไม่ตรงจริตคนดูชาวเกาหลี ทำให้เธอออกออกมาชี้แจงว่า เธอไม่ชื่นชอบสไตล์การแสดงแบบ 'เล่นใหญ่' (ที่ปรากฏอยู่ในผลงานหนังซีรีส์เกาหลีอยู่เสมอ) แต่เมื่อถูกวิจารณ์ในแง่ลบ จึงต้องปรับเปลี่ยนมาใส่อารมณ์ให้เยอะ แต่พัฒนาการของเธอนั้นก็ทำให้ผู้ชมยอมรับได้ในที่สุด โดยเฉพาะผลงาน Anna ที่ทำให้หลายคนชื่นชมในสถานะนางเอกตัวจริง

และหากพูดถึงนักแสดงไอดอลที่ประสบความสำเร็จในวงการแสดง จะขาดยุนอาและจุนโฮไปไม่ได้เลย



ไอดอลที่ทำลาย  stereotype


การประชันบทบาทกับพระเอกระดับแม่เหล็ก นัม กุงมินใน Chief Kim เกิดเป็นปรากฎการณ์คู่จิ้นสุด hot ถึงขนาดคว้ารางวัล best couple จาก KBS Drama Awards ปี 2017 ทำให้ชื่อของจุนโฮกลายเป็นไวรัล แต่ตั้งแต่เดบิวท์ เขาก็ได้รับคำชมจากบทสมทบในหนัง Cold Eyes ที่แวดล้อมไปด้วยนักแสดงภาพยนตร์ดัง (ที่ถูกจัดให้อยู่บนยอดพีระมิดของวงการนักแสดงเกาหลี) แต่เพราะพยายามโชว์ฝีมือ ไม่ได้จืดจางจนถูกเบียดบังหายไป ยิ่งได้พัฒนาตัวเองจากผลงานหลากหลายแนว ก็ได้รับ feedback ที่ดี ไม่ต้องเผชิญกับดราม่าด้อยค่าฝีมือการแสดงเหมือนกับไอดอลคนอื่น บางคนมองว่า นอกจากมีพรสวรรค์โดดเด่น เขายังร่ำเรียนสาขาวิชาศิลปะการแสดงในระดับมหาวิทยาลัย และมี passion ในการแสดงมาตั้งแต่วัยรุ่นนั่นเอง

สิ่งที่ยืนยันได้แจ่มแจ้งที่สุดคือรางวัลนักแสดงชายยอดเยี่ยมแห่งเวที Baeksang ปี 2022 ด้วยผลงาน The Red Sleeve ที่ได้รับความนิยมเหนือความคาดหมายถึงขนาดต้องเพิ่มตอน เขาคือพระเอกไอดอลคนแรกที่ก้าวมาถึงจุดนี้ได้ และยังได้รับคำสรรเสริญว่า เขาคือผู้คู่ควรต่อรางวัลนี้เป็นที่สุด สามารถยืนเคียงข้างคิม แทรี นางเอกสายแข็งที่สร้างชื่อเสียงจากผลงานภาพยนตร์จนไปถึง Cannes ได้อย่างน่าปลื้มใจแทน   จุนโฮได้สร้างความความเชื่อมั่นว่า เขาสามารถก้าวทำลายกำแพงอคติที่ด้อยค่านักแสดงไอดอลว่าไร้ฝีมือการแสดง และเป็นแบบอย่างให้กับนักแสดงไอดอลคนอื่นให้มุ่งพัฒนาความสามารถ   ไม่ได้มีแต่รางวัล Baeksang เท่านั้น  เขายังคว้ารางวัลสูงสุด ( Daesang) จาก Asia Artist Awards และอีกหลายรางวัลการันตีสถานะนักแสดงชั้นแนวหน้า สื่อรายงานว่า  ในตอนนี้ค่าตัวของเขาทะยานไปที่ร้อยล้านวอนต่อตอนแล้ว

นางฟ้าไอดอลที่ปังมาตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นการแสดง

 visual ที่เปล่งประกายของไอดอลเปรียบเหมือนมนต์สะกดให้แฟนๆหลงไหลยากจะถอนตัว  แต่เมื่อก้าวสู่วงการแสดง มันก็อาจจะทำให้พวกเค้าถูกประเมินจากเพื่อนร่วมงานและผู้ชมในแนวคิดในแง่ลบ  แม้แต่ใน  Hollywood  นางเอกสวยสะคราญหลายคนก็ออกมาเปิดเผยว่า  ต้องอกหักจากบทที่ต้องการเพราะฝ่าย casting วิจารณ์ว่าดูสวยเกินไปไม่เข้ากับบท   ไอดอลบางคนไขว่คว้าโอกาสในการสร้างชื่อเสียงจนได้รับบทเด่นในซีรีส์เชือดเฉือนอารมณ์ แต่กลับถูกสื่อวิจารณ์ว่า ห่วงความสวยเริ่ดมากกว่าจะโชว์การแสดงให้สมจริง  

สำหรับกรณีของยุนอาที่ได้รับการวางตำแหน่งเป็นเซนเตอร์ของวง SNSD แบบบไร้ข้อกังชา  หรือที่ใครๆต่างมองว่า เธอคือตำนาน visual    รูปลักษณ์ที่ perfect และภาพลักษณ์ของนักแสดงไอดอลหน้าใหม่นั้นทำให้เธอถูกวิจารณ์ในช่วงเริ่มต้นเช่นเดียวกัน    แต่เธอเดบิวท์การแสดงละครโทรทัศน์มาได้ไม่ถึงปีก็สอยบทนางเอก You Are My Destiny  ถามว่าประสบความสำเร็จขนาดไหน?  ออนแอร์ตอนแรกก็กวาดเรตติ้งไปเกิน 23.4% และพุ่งสูงขึ้นไปเรื่อยๆจนตัวเลขสูงสุดอยู่ที่ 41.6%  ฉายไปถึง 178 ตอน กระแสก็ไม่ตก   สำหรับวงการละครโทรทัศน์ของเกาหลี   การทาบทามไอดอลหญิงที่เพิ่งจะเดบิวท์ได้ไม่นานมารับบทนำนับว่าเป็นการตัดสินใจที่เสี่ยงไม่น้อยและไม่ใช่เรื่องที่พบเห็นได้บ่อยนัก    แต่ความสำเร็จครั้งนี้ก็ปูทางสวยงามให้เธอตั้งแต่เริ่มต้น  ทั้งคว้ารางวัลนางเอกหน้าใหม่จาก Baeksang และกอบโกยความนิยมจากแฟนละคร  แต่ถึงกระนั้นเธอก็ยังถูกโจมตีว่าฝีมือไม่เข้าขั้นไปอีกพักใหญ่   แต่หลังจากได้โชว์พัฒนาการเด่นชัด ก็ทำให้นักข่าวหันมาเขียนบทความเชียร์ว่า เธอไม่ได้โดดเด่นแค่ visual แต่สะกดผู้ชมให้ดื่มด่ำกับการแสดงที่เปี่ยมไปด้วยอารมณ์  และกลายมาเป็นนางเอกที่หลายคนรอคอยติดตามผลงาน
ผลงานทั้งซีรีส์และภาพยนตร์ทำเงินส่งให้ยุนอาติดโผเข้าชิงรางวัลการแสดงอีกหลายครั้ง  หากเธอสะสมรางวัลพวกนี้ให้ครบ ก็น่าจะต้องสั่งทำตู้ขนาดบิ๊กบึ้มมาวางตั้งโชว์  ถึงแม้เรตติ้งของซีรีส์ตลอดระยะเวลาหลายปีนี้อาจจะไม่ใกล้กับปรากฏการณ์ You Are My Destiny  แต่ตัวเลขรายได้จากหนัง Confidential Assignment ทั้งสองภาคและ Exit นั้นสวยงามมากจนเชื่อได้ว่า ชื่อของเธอจะดึงดูดความสนใจจากผู้กำกับหนังดัง ซึ่งเป็นวงการเลือกเฟ้นนักแสดงอย่างเข้มข้น หนังดังที่ไปได้ไกลระดับอินเตอร์บางเรื่องค้นหานักแสดงนำจาก casting นับร้อยนับพันคน  ยากนักที่นักแสดงไอดอลจะสร้างเครดิตเรื่องฝีมือการแสดงจนเป็นที่ยอมรับในวงการนี้  

จากคำบอกเล่าของผู้กำกับ  Confidential Assignment  เขาได้เผยความประทับใจในตัวยุนอาว่า เธอเข้าใจความต้องการของผู้กำกับและสามารถเข้าถึงบท เป็นพรสวรรค์ที่เหนือความคาดหมาย และเล็งเห็นว่า เธอจะไปได้ดีมากๆจนกลายเป็นนางเอกชั้นนำแห่งเกาหลีในอนาคต  ซึ่งหากจะถามหาจุดอ่อนของเธอ ก็คงบอกได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้นคือ  'เธอสวยเกินไป'




ความสามารถซึ่งเป็นที่ยอมรับนี่เองทำให้มีผู้ทำนายว่า ยุนอาจะเป็นนางเอกที่ได้รับการสืบทอดตำแหน่ง 3 นางเอกตัวแม่ 'แท-ฮเย-จี' ( คิม แทฮี, ซง ฮเยคโย และ จอน จีฮยอน)  ไปพร้อมกับ IU และแบ ซูจี  ซึ่งดูเหมือนว่าจะไม่ใช่ความบังเอิญที่พวกเธฮทั้งสามคนต่างก็เคยสร้างชื่อจากอาชีพไอดอลมาก่อน  และเป็นไปได้ว่า ยุคของ 'ยุน-อี-จี' ได้เข้าใกล้มาถึง


เมื่อไล่เรียงรายชื่อพระเอกที่เธอได้ประชันบทบาทในผลงานหลายแนวก็ปรากฏ A-Listers อย่างฮวัง จองมิน (พระเอกหนุ่มใหญ่สายภาพยนตร์ที่นำแสดงในผลงานรายสูงหลายเรื่องจนถูกจัดให้เป็นหนึ่งใน 100 Million Viewer Club ) ฮยอน บินและอี จงซอก พระเอกทรงอิทธิพลที่ไม่ต้องบรรยายสรรพคุณมากมาย ล่าสุด การโคจรมาพบกับอี จุนโฮพระเอกไอดอลที่กำลังร้อนแรงสุดๆด้วยรางวัล Baeksang การันตีฝีมือ ก็ทำให้แฟนๆรอคอยมาตั้งแต่ยังไม่ออนแอร์



เคมีเริ่ดซะจนยังมีคนตั้งความหวังว่าข่าวลือเดทจะพลิกเป็นเรื่องจริง


ต้นสังกัดอาจจะยืนยันปฏิเสธรายงานจากสื่อที่ระบุว่า พวกเค้าคบหากันอย่างลับๆมาก่อนจะประกบคู่แสดงใน King the Land ซึ่งเป็นเหตุผลที่เลือกรับงานนี้   ทั้งยังไม่มีหลักฐานภาพ paparazzi มาเพิ่มน้ำหนักความน่าเชื่อถือเหมือนกรณีคู่รักคนดังอื่นๆ    แต่ก็นักจิ้นก็ยังพยายามตีความสัญญาณต่างๆที่บ่งบอกว่า ทั้งสองมีใจให้กัน (แต่ยังไม่พร้อมจะเปิดตัว)   อย่างตอนที่จุนโฮส่งรถกาแฟไปเอาใจยุนอาที่กองถ่าย Big Mouth  หรือตอนโพรโมทผลงานผ่าน platform ต่างๆ ด้วยบทสนทนาที่น่ารักเป็นธรรมชาติและมีภาษาร่างกายที่สื่อถึงความสนิทสนมแบบไม่ต้องประดิษฐ์   บ้างก็ชี้ว่า  ลองดูคู่ฮยอน บิน และซน เยจินเป็นตัวอย่าง  ต้นสังกัดก็ปฏิเสธหนักแน่นมาก่อนเช่นเดียวกัน  ต่อมาพวกเค้าก็ยอมรับความสัมพันธ์แบบเขินๆ เลื่อนสถานะเป็นสามีภรรยาและมีเจ้าตัวน้อยเป็นพยานรักสมใจกองเชียร์!

ความรู้สึกเชื่อใจและผ่อนคลายตามประสาเพื่อน

จากการให้สัมภาษณ์ รวมไปถึงภาพเบื้องหลังการร่วมงานของทั้งสอง ดูเหมือนว่า  พวกเค้าสบายใจและเชื่อใจกันมาก เพราะวนเวียนพบเจอกันผ่านการทำงานมาตั้งแต่ยังเป็นไอดอลวัยทีน จึงทำให้เข้ากันได้อย่างสนิทใจเต็มที่ สามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ให้คำปรึกษาช่วยเหลือซึ่งกันและกัน บรรยากาศในกองถ่ายจึงเต็มไปด้วยความสนุกสนาน    เข้าทางที่ผู้กำกับคาดหวังไว้เป๊ะ

เมื่อนึกถึงผลงานที่สร้างความประทับใจให้กับแฟนๆ อย่าง What's Wrong With Secretary Kim? และ Business Proposal ก็ต้องยอมรับว่า King the Land เดินตามสูตรสำเร็จความรักของผู้บริหารกับพนักงานใต้บังคับบัญชาแบบไม่แตกแถว พล็อทประเภทแชโบลหนุ่มรูปงามที่มีบาดแผลในใจได้พบกับความน่ารักสดใสของลูกน้องสาวจนกลายเป็นคนคลั่งรักไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ แต่หากจะดึงเรตติ้งให้ขึ้นสองหลักด้วยพล็อทนี้ก็เป็นเรื่องท้าทายไม่ใช่น้อยเลย (โดยเฉพาะช่องเคเบิลที่ต้องจ่ายค่าชม) เพราะมีผู้สร้าง rom-com แนวนี้ออกมาหลายครั้งหลายหน แม้จะพลิกสายอาชีพและบุคลิกของตัวละครไปสารพัดเพื่อสร้างความโดดเด่น แต่ก็ยังเป็นแนวที่เดาทางง่ายจนทายบทพูดก่อนนักแสดงจะอ้าปากได้ด้วยซ้ำ บางเรื่องกระแสตอบรับเงียบกริบจนเลือนหายไปจากความทรงจำของผู้คน

ตัวผู้กำกับ King the Land นั้นมีความมั่นใจมาตั้งแต่ต้นจากการสำรวจ reaction ปลื้มปริ่มของแฟนๆที่ได้เห็นคู่นี้อยู่บนเวทีด้วยกัน การทำงานพิถีพิถันเพื่อจะโชว์ด้านที่หวานแหววและเคมีที่เข้ากันแบบจุกๆล้นจอจนั้นได้ส่งผลลัพธ์สุดปัง เห็นกันแจ่มแจ้งจากความนิยมที่ไต่ระดับขึ้นสูงทั้งทางช่องเคเบิล JTBC จนตัวเลขเรตติ้งวิ่งไปเกิน 12% และส่วน Netflix ก็ไม่แพ้กัน กวาดยอดเข้าชมขึ้นอันดับสูงหลายประเทศ แฟนหนังหวานฟินจิกหมอนกันถ้วนหน้า  อยากรู้แล้วสิว่า เรตติ้งของเรื่องนี้จะไปได้อีกไกลสักขนาดไหน!


candy

candy

ติดตาม Mouth On The Web แล้วอย่าลืม Mouth On The Face นะคะ ^ ^

FULL PROFILE