หลายปีที่ผ่านที่พวกเราได้ประจักษ์ถึงความสำเร็จอันน่าทึ่งของอาณาจักรธุรกิจครอบครัว  KarJenner   อิทธิพลในโลกออนไลน์ของพวกเธอการันตีด้วยยอดผู้ติดรวมกันหลักพันล้าน ไม่ว่าจะเคลื่อนไหวทิศทางใด ก็กลายเป็นประเด็นข่าวร้อนได้เสมอ  เส้นทางความโด่งดังแบบ trendsetter นั้นทำให้ผู้คนมากมายอยากจะมีชีวิตหรูเริ่ดแบบพวกเธอ   แต่ยิ่งสร้างชื่อเปรี้ยงปร้างมากเท่าใด ก็ได้ดึงดูดเสียงวิจารณ์ในแง่ลบด้วยเช่นกัน    หนึ่งใน topic ที่สาวๆบ้านนี้มีกถูกจ้องจับผิดมาโดยตลอคือเรื่องศัลยกรรม   ยิ่งพวกเธอมีปฏิกิริยาตอบรับกับคำถามในรูปแบบเดียวกัน นั่นคือ ยืนกรานหนักแน่นว่าไม่ได้สร้างความมั่นใจเรื่องความงามด้วยมีดหมอ แต่ใช้ตัวช่วยอื่นๆ อย่าง makeup และการฉีด Botox และfiller    ชาวเน็ทหลายคนก็กล่าวหาว่า เป็นการกระทำที่ไม่จริงใจ โดยเฉพาะที่พวกเธอทำธุรกิจความงาม จึงมีเสียงเรียกร้องให้ครอบครัวนี้ชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องศัลยกรรม

แต่มาถึงตอนนี้   พี่น้องบ้าน KarJenner  เริ่มออกมายอมรับในสิ่งที่ชาวเน็ทตั้งข้อสงสัยมาหลายปี   พวกเธอมีความคิดเกี่ยวกับการศัลยกรรมเช่นใดบ้าง  ลองมาเกาะติดกับเราได้เลยค่ะ

Kylie ยอมรับ  ผ่าตัดเพิ่มไซส์หน้าอกตอนอายุ 19   แต่กลับนึกเสียดายว่า ไม่ควรไปทำมาเลย

 
ในการถ่ายทำ reality show Kylie ได้สร้างความประหลาดใจเมื่อ Kylie ได้แชร์เรื่องประสบการณ์ทำศัลยกรรมในอดีต แม้เรื่องการทำหน้าอกจะไม่ใช่เรื่องที่เหนือความคาดหมาย เพราะเห็นๆกันอยู่ว่าเธอตู้มขึ้นอีกหลาย CC และยังเคยถ่ายแบบ topless และเผยลุค nobra ให้เห็นกันหลายมุม ซึ่งปรากฏความเปลี่นแปลงชัดเจนตอนที่เธออายุราวๆ 19 ปี ก่อนหน้านั้น เธอยังเคยรีวิวเสื้อชั้นใน Victoria’s Secret รุ่น Bombshell ที่ช่วยจัดทรงให้สองเต้าดูอวบอิ่มเบียดแน่น เมื่อถอดออกก็กลับสู่ไซส์เดิม เป็นอันหักล้างข้อกล่าวหาเรื่องทำหน้าอกตั้งแต่วัยทีนไปได้ แต่ไม่นานจากนั้น หลายคนได้ตั้งข้อสังเกตว่า Kylie ดูอึ๋มขึ้นมามากโดยไม่ต้องมี bra หรือใช้วิธีคอนทัวร์ใดๆ วันเวลาผ่านไปหลายปี

เธอก็เปิดใจคุยกับ Stassie เพื่อนสาวสุดซี้ว่า...

"ฉันศัลยกรรมหน้าอกก่อนที่จะตั้งท้อง Stormi แล้วอีกหกเดือนก็เกิดท้องขึ้นมา ฉันไม่ได้คาดคิดเลยว่าตัวเองจะมีลูกตอนอายุ 20 คือตอนนั้นหน้าอกมันยังอยู่ในช่วงฟื้นตัวสมานแผลอยู่เลย"

แม้ที่ผ่านมา Kylie จะดูมั่นใจกับเต้าอวบอึ๋มมาก แต่เธอก็ยังรู้สึกคิดถึงเต้าธรรมชาติของตัวเอง

"ทรวงอกของฉันนั้นสวยดีอยู่แล้ว มันดูดีเป็นธรรมชาติ ขนาดของมันก็พอเหมาะพอเจาะ ทุกอย่างดูเป๊ะ ซึ่งฉันก็คิดอย่าไงม่ต้องสงสัยเลยว่า ตัวเองไม่น่าไปทำหน้าอกมาตั้งแต่ตอนนั้นเลย สำหรับคนที่คิดว่าอยากจะศัลยกรรมหน้าอก ฉันขอแนะนำว่าให้ทำหลังจากมีลูกแล้ว"

ทิศทางของรายการ The Kardashians  ที่หันเหมาที่การสร้างความตระหนักในเรื่องมาตรฐานความงาม

Kylie ยังเผยทัศนคติที่เปลี่ยนแปลงไปหลังมีลูกว่า

"เห็นกันชัดอยู่แล้วว่าฉันมีลูกสาว ฉันคงใจสลายหากลูกอยากจะทำผ่าตัดศัลยกรรมตั้งแต่อายุ 19 เพราะเธอเป็นสิ่งที่งดงามที่สุด ฉันอยากเป็นทั้งแม่และเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดใหhกับลูก และถ้าฉันเป็นเหมือนกับลูกได้ ก็จะเลือกทางที่ต่างจากนี้ เพราะฉันจะไม่ไปแตะต้องเปลี่ยนแปลงอะไรทั้งนั้น"

"ฉันไม่อยากให้ลูกสาวทำในสิ่งเดียวกันที่ฉันได้ทำ"


ก่อนหน้านี้ Kylie ได้ตระหนักถึงอิทธิพลของครอบครัวของตัวเองต่อเด็กสาวจำนวนมากมาย หากคิดถึงสาวๆบ้านนี้ พวกเราต่างจินตนาการถึงความ glam แบบจัดเต็ม ผิวพรรณสีแทนเรียบเนียน ริมฝีปากอวบอิ่ม รูปร่างเว้าโค้ง อกอึ๋ม เอวคอดกิ่วไร้พุง บั้นท้ายใหญ่โตท้าทายทุกสายตา นางแบบ Insta หลายคนได้ดึงดูดความสนใจจากผู้ติดตามด้วยลุคนี้ แต่หากมองถึงความเป็นจริงว่า จะมีใครบ้างที่สวยตามคุณสมบัตินี้ได้แบบธรรมชาติ? เรื่องใบหน้าอาจจะใช้เวทมนตร์ของ makeup ได้ แต่ถ้าเป็นรูปร่างแบบขวด Coke ยอดนิยมนั้น ถือเป็นมาตรฐานความงามที่ยากจะเป็นไปได้ ซึ่งอาจสร้างแรงกดดันให้กับผู้หญิงที่เข้าใจไปว่า รูปโฉมเช่นนี้คือ goal ที่ต้องเอื้อมไขว่คว้าเพื่อจะเป็นที่ปรารถนา และมีคุณค่าในสายตาคนอื่น

Kylie จึงได้จุดประเด็นนี้ขึ้นมากับครอบครัว ซึ่งหลายปีมานี้ พวกเธอมักถูกกล่าวหาว่า ใช้ social media ชี้นำให้เด็กสาวรุ่นใหม่ยึดติดกับค่านิยมความงามที่ดูเกินจริง แทนที่จะเปิดใจยอมรับตัวตนที่อจจจะมีความไม่สมบูรณ์แบบ ก็ต้องคอยวิ่งตามเทรนด์เหมือนกับบ้าน KarJenner

"ครอบครัวเราจะต้องถกประเด็นในเรื่องมาตรฐานความงามที่พวกเราได้สร้างขึ้นมา"

"พวกเรามีอิทธิพลต่อคนอื่นมากมาย และพวกเราควรจะใช้อิทธิพลนั้นกันอย่างไรจึงจะเป็นเรื่องดี?"

นี่เป็นการยอมรับเรื่องการศัลยกรรมครั้งแรกของ Kylie นอกเหนือจากการฉีด filler ริมฝีปากซึ่งเป็น cosmetic enhancement ไม่ใช่การผ่าตัด ที่ผ่านมานั้น เธอเคยปฏฺิเสธมาแล้วว่าไม่เคยศัลยกรรมหน้าอก โดยเฉพาะประโยคเด็ดว่า อกดูอึ๋มเพราะ'เป็นวันนั้นของเดือน' เธอเคยเปรียบเทียบว่า หน้าอกตัวเองมีไซ์จุ๋มจิ๋มน่ารัก ส่วนบั้นท้ายที่ใหญ่โตมโหฬารขึ้นมาแบบพรวดพราดนั้นก็เป็นเพราะว่าน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น และหากพูดถึงหน้าตาที่ดูแตกต่างไปจากช่วงวัยรุ่นมาก เธอก็ยืนยันมาหลายครั้งว่าไม่เคยทำศัลยกรรม แต่มีตัวช่วยเป็น makeup และ filler เท่านั้น

การยอมรับศัลยกรรมหน้าอกของ Kylie ทำให้ชาวเน็ทตอบรับอย่างเกรียวกราว ทั้งๆที่เรื่องอกสวยด้วยซิลิโคนจะเป็นสิ่งที่เห็นๆกันอยู่ ไม่ใช่ข่าว surprise แต่กระแสตอบรับนั้นไม่ได้ชวนอบอุ่นใจไปด้วยพลังงานด้านบวก แต่เป็นคำเยาะเย้ยถากถางต่างๆนานา ไม่ต่างจากตอนที่เธอสร้างความฮือฮาด้วยริมฝีปากใหญ่ตู้ม แล้วไม่ยอมรับว่าฉีด filler มา แต่ถึงที่สุดแล้ว ปากอิ่มด้วย filler นี่เองที่เป็นจุดเปลี่ยนให้เธอกลายเป็นศูนย์กลางความสนใจและสร้างธุรกิจเครื่องสำอางจนร่ำรวยในเวลาเพียงไม่นาน มาถึงทุกวันนี้ Kylie ก็ยังไม่มีแผ่ว

ปฏิกิริยาของชาวเน็ทจะแตกต่างไปเมื่อคนดังชัดเจนกับเรื่องการศัลยกรรม ไม่ยกเหตุผลอื่นๆมาบ่ายเบี่ยง บางคนชี้ว่า คนดังสามารถเลือก no comment ไม่ต้องตอบ ปล่อยให้เดากันไปเอง หรือยิ่งปฏิเสธเสียงแข็ง ก็ตกเป็นเป้าสนใจหรือถูกตามจับผิดมากกว่าเดิมเพราะทุกวันนี้ การศัลยกรรมไม่ได้เป็นสิ่งต้องห้าม หรือความงามที่ไม่ได้มาจากธรรมชาติก็ไม่ได้ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ไร้ความจำเป็นที่จะต้องโกหกว่าเป็นความสวยแบบธรรมชาติสร้างมา เพราะโลก internet นั้นไม่ปราณีใคร มีคนแชร์ภาพ before- after ความชัดสูงออกมาเพียบ หากเคยปฏิเสธแล้วมายอมรับภายหลัง ก็เปิดทางให้คนมา troll จนเจ็บใจ  

Khloe Kardashian   ทำจมูกมาเพียงครั้งเดียวเท่านั้นและปลื้มผลลัพธ์สุดๆ

ชาวเน็ทและแทบลอยด์ได้วิพากษ์วิจารณ์ถึงลุคที่เปลี่ยนไปของ Khloe ว่า เป็นผลมาจากการทำศัลยกรรมจมูกหลายครั้ง  ถึงขนาดเปรียบว่ามันเป็น botched work  หรือศัลยกรรมผิดจนยากกจะแก้ไข   แต่ Khloe ได้ออกมาประกาศชัดๆว่า  เคยผ่าตัดทำจมูกก่อนลูกสาวจนอายุครบหนึ่งขวบ และนั่นเป็นครั้งแรกและครั้งเดียว ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี จมูกใหม่โดนใจเธอมาก  สิ่งเดียวที่ทำให้เธอรู้สึกเสียดายก็คือ รู้งี้น่าจะทำไปนานแล้ว!


"ใครๆต่างก็บอกว่า โอ้ยดูสิ เธอเสริมดั้งมาแล้วสามหน แต่ฉันทำมาแค่ครั้งเดียวเท่านั้น แต่คนอื่นก็ทำท่าไม่พอใจกันใหญ่ หาว่าฉันไม่ยอมปริปากเรื่องนี้เลย ก็ไม่มีใครถามฉันเรื่องทำจมูกมาก่อนนี่นา"

น่าดีใจที่ Khloe ชื่นชอบจมูกใหม่ของตัวเอง แต่สิ่งที่ฟังแล้วเศร้าแทนคือ สมัยยังเด็ก แม่ Kris เอาแต่วิจารณ์จมูกของเธอ และมันอาจจะเป็นเรื่องฝังใจจนทำให้รู้สึกว่า จมูกตามธรรมชาติของเธอดูไม่ดีพอ Khloe เปิดใจว่า หากเธอไม่เคยได้ยินแม่พูดเรื่องจมูกตัวเองมาก่อน ก็อาจจะไม่คิดถึงเรื่องศัลยกรรมจมูกก็เป็นได้

"แม่ไม่ได้มีเจตนาไม่ดี แต่ตอนที่ฉันอายุ 9 ขวบ ก็บังเอิญไปได้ยินแม่คุยกับเพื่อนว่า ฉันน่าจะต้องทำจมูก ฉันช็อคมาก ฉันไม่เคยนึกถึงเรื่องพวกนี้มาก่อนด้วยซ้ำ เมื่อเติบโตขึ้นมาก็ชอบหน้าตาของตัวเองนะ แต่ช่างแต่งหน้ากลับบอกฉันว่า เธอควรจะไปทำจมูก"

"คำพูดเป็นอาวุธที่ทรงพลังที่สุดเพราะมันสามารถทิ้งรอยแผลเป็นไว้ได้ตลอดไป"

Khloe ถูกไล่ถามเรื่องจมูกที่ดูเหมือนมี shape แตกต่างจากในอดีตมาแล้วหลายครั้งหลายหน ซึ่งเธออธิบายว่า ใช้วิธีคอนทัวร์เปลี่ยนจมูกได้สารพัดแบบ เพื่อเสพติดการคตอนทัวร์จมูกให้ดูเรียวมาก ตอนมองตัวเองในกระจกนั้นดูดี แต่เมื่อถ่ายรูปออกมากลับดูเหวอมากเพราะแสงกระทบที่ทำให้ดูแตกต่างจากของจริง อาจจะเป็นไปได้ว่า เมื่อทำจมูกแล้วก็ช่วยย่นขั้นตอน contour ลงไปได้บ้าง

"ฉันคงต้องบอกว่า อยากทำจมูกมาทั้งชีวิต แต่มันเป็นอวัยวะที่อยู่กึ่งกลางใบหน้าและแค่ได้นึกถึงมันก็กลัวขึ้นมาแล้ว แต่ในที่สุดก็รวบรวมความกล้าขึ้นมาได้ ฉันปลื้มมันมาก"

แต่ข่าวลือเรื่องศัลยกรรมของ Khloe ไม่ได้หยุดแค่ตรงนี้ เพราะยังมีหลายคนที่ฟันธงว่า เพียงแค่ทำจมูกหนึ่งครั้งและฉีด filler เธอก็ไม่น่าดูแตกต่างจากในอดีตมากมายนัก มีคนปล่อยข่าวว่าเธอ 'การปลูกถ่ายใบหน้า'ถึง12หน แม้จะฟังเป็นเรื่องไร้สาระมากเพราะปารปลูกถ่ายผิวหนังนั้นเป็นกระบวนการซับซ้อนที่ใช้รักษาผู้ป่วยที่มีความผิดปกติบนบนใบหน้าจนเสียโฉมจากอาการบาดเจ็บสาหัส เช่น ถูกยิงเข้าที่ใบหน้า หรือถูกสัตว์ขย้ำ หรือไฟคลอก แต่มันก็สร้างความขุ่นเคืองใจให้เธอ

"ฉันทำจมูกครั้งเดียว ซึ่งฉันก็ปลื้มมันมาก ฉันอยากให้ทุกคนรู้ไว้ว่า ฉันไม่ได้หมกมุ่นจนต้องมาโกหกกันเรื่องนี้ แต่ถึงขนาดลือกันไปได้ว่าฉันปลูกถ่ายใบหน้า อยากจะหาสาเหตุจริงๆว่าทำไมถึงคิดกันแบบนั้น"

Kim Kardashian  ไม่เคยทำศัลยกรรม แค่ Botox และ ทำ facial สารพัด

ทุกครั้งที่ Kim ประกาศว่า ไม่เคยทำศัลยกรรม ไม่ว่าจะเป็นใบหน้าหรือส่วนเว้าส่วนโค้งที่เป็น signature สร้างความโด่งดังมาหลายปี ก็ทำให้ชาวเน็ทหลายคนแสดงอาการไม่เชื่อถือ กลอกตาผ่าน emoji กันรัวๆ      คำว่าไร้ศัลยกรรม' ของ Kim นั้นอาจจะมีการใช้ตัวช่วยพวก Botox บ้าง และเธอยังขาดพวก facial treatment ในคลีนิคความงามไปไม่ได้เลบ มีเทคโนโลยีใหม่ก็ต้องขอลองพิสูจน์     สื่อบางเจ้าถึงกับจับเธอมานั่งจ้องหน้ากับนั่งข่าว ถามไล่เป็นส่วนๆว่า เธอทำส่วนใดมาบ้าง  ศึ่งคำตอบของเธอก็ยังเหมือนเดิม นั่นคือ ฉีด  Botox บริเวณระหว่างคิ้วเท่านั้น แม้แต่ filler ยังไม่เคยแตะต้อง  (ต่างจาก Kylie และ Khloe ที่ยอมรับว่าเป็นแฟน filler)  ซึ่งคำพูดนี้ไม่ได้แตกต่างจากช่วงที่เธอยังไม่ได้โด่งดังถึงเพียงนี้เมื่อสิบกว่าปีก่อน  ที่ได้ยืนยันว่า เคยฉีด botox เพียงอย่างเดียว ไม่ว่าจะเป็นอวัยวะบนใบหน้า หน้าอก ก้น ก็ของแท้ทั้งนั้น   ในขณะที่ใครๆต่อใครต่างมั่นใจว่า อย่างน้อยที่สุด ก็ต้องมีการเพิ่มไซส์ก้นด้วย BBL   และยังมีจมูกที่มีรูปทรงแตกต่างไปจากวัยสาวชัด

แต่อาจจะเป็นเพราะว่า  Kim ไม่เคยถอนคำพูด หรือออกมายอมรับทีหลังเหมือนกับพี่น้อง   จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ Kim ยิ่งถูกตามจับผิดมากขึ้นรึเปล่านะ?

เพียงแค่ Kim โพสต์วีดีโอ Tiktok เพียงไม่นาน ก็มีคนสังเกตเห็นว่า เธอมีรอยฟกช้ำตามแนวสันกราม  ถึงจะรีบมาลบวีดีโอนี้ออกไป  แต่ก็ภาพก็ถูกชาวเน็ทเซฟมาวิพากษ์วิจารณ์แล้วว่า  Kim กระโดดเข้าร่วมคลับคนเลิฟสันกรามคม  มันอาจจะเป็นผลจากการศัลยกรรมหรือไม่ก็เป็น procedure  ปั้นสันกรามที่เริ่มปรากฏในหมู่คนดัง Hollywood    แต่ไหนแต่ไรมา  Kim ก็มีใบหน้ารูปไข่ชัด  แม้จะไม่ได้โค้งมนจนไร้จุดสะดุด แต่ก็ไม่ได้มีสันกรามมีเหลี่ยมมุมเด่นชัด   ในช่วงหลังๆ รูปหน้าของเธอดูเปลี่ยนแปลง มีเหลี่ยมมุมคล้ายกับหน้ารูปเพชรมากขึ้น   ไม่จำเป็นต้องคอนทัวร์ สันกรามก็มาเต็ม!

โลกออนไลน์มักมีผู้จุดประเด็น 'Kim หน้าเปลี่ยน' อย่างแทบลอยด์ดังที่ได้ดึงตัวแพทย์ศัลยกรรมจากคลีนิคความงามมาวิเคราะห์ว่าเธอทำสวยด้วยการศัลยกรรมวิธีใดบ้าง รวมถึงเพจจับผิดคนดังที่กล่าวหาว่าเธอทำจมูก ฉีดปาก ฉีดโหนกแก้ม ทำสันกรามคม แต่ก็มีการตั้งข้อสังเกตว่า อาจจะมาจาก makeup สไตล์ที่เธอปลาบปลื้ม เพราะเมื่อล้างเครื่องสำอางออก หรือแต่งหน้าแบบธรรมชาติ ก็ไม่ได้ดูแตกต่างจนชวนข้องใจนัก ตัวอย่างจากลุคเยือน Milan เมื่อเดือนมีนาคมที่สร้างเสียงวิจารณ์ใน social media Tiktoker บางคนโจมตีว่า เธอทำหน้าไปไกลจนดูเหมือน Donatella Versace ไปแล้ว แต่เมื่อเผยให้เห็นหน้าสด ก็เป็นลุคของ Kim ที่เห็นจากพวกวีดีโอ tutorial ที่เห็นกันบ่อยครั้ง ไม่ได้เหมือนกับหน้าใหม่ตามความเข้าใจของหลายคน

ยามออกจากบ้าน Kim จะเตรียมพร้อมด้วยเสื้อผ้าหน้าผมแบบแน่นๆเสมอ  หรืออย่างน้อยที่สุดก็มีแว่นกันอันโตพรางไว้  แต่ในบางครั้ง เราจะได้เห็นหน้าสดของเธอจาก tutorial หรือภาพ paparazzi แบบเผลอ  ซึ่งเมื่อเธอเผยลุคแบบธรรมชาติเมื่อใดก็มักได้รับคำชมว่าดูเด็กลง และเป็นคนที่งามโดดเด่นโดยไม่ต้องปรุงแต่งมากอยู่แล้ว

 'Botox คอ'  คือ procesure  ที่ Kim  เปิดเผยในรายการ reality เมื่อไม่นานมานี้  ระหว่างที่เธอต้องฝึกซ้อมร้องเพลงกับครูฝึก   แต่ก็ต้องออกตัวก่อนว่า ฉีด   Botox ไปครึ่งค่อนลำคอ  กล้ามเนื้อบริเวณนั้นจึงไม่สามารถเคลื่อนไหวได้มากนัก  จึงไม่อาจขับร้องได้อย่างเต็มที่   เรื่องทำนองนี้ไม่ใช่สิ่งแหวกแนวแต่อย่างใด   สำหรับสาวงามวัยอาวุโสที่ดูแลผิวพรรณที่ใบหน้าจนเต่งตึงเปล่งปลั่งดูอ่อนกว่าวัยอาจจะรู้สึกวิตกหากผิวพรรณที่คอมีริ้วรอยลึกไม่สอดคล้องกับหน้า    ว่ากันว่า ก่อนอีเวนท์ชื่อดังอย่าง  Oscar awards  บรรดาคนดังระดับ A List จะจองคิว Botox คอกันเป็นเรื่องปกติ     

Kim คือแฟนตัวยงของ facial treatment ต่างๆที่ให้ผลลัพธ์ในการยกกระชับโดยไม่ต้องผ่าตัด ซึ่งนับวันก็จะมีการพฒนาเทคนิคแบบใหม่ที่ให้ช่วยทำให้ดูอ่อนเยาว์อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ พิสูจน์จากการประกาศชัดเจนว่า

"ฉันจะลองทำทุกอย่าง ถ้าคุณบอกว่า ถ้ากินอึทุกวันแล้วจะดูเด็กลง ฉันก็อาจจะยอมกินก็ได้นะ"

แต่เมื่ออ้างอิงคำพูดของเธอว่า สามารถทำทุกอย่างเพื่อรักษาความอ่อนเยาว์ไว้  แม้แต่จะให้กลืนกินอาจมก็อาจจะพิจารณาดู (แม้เรารู้ว่าเธอพูดไม่จริงจัง)   ก็อาจจะทำให้มีคนสงสัยว่า  การศัลยกรรมทั้งช่วยเนรมิตความงามสุดเป๊ะและความอ่อนเยาว์ให้  แม้จะต้องเจ็บตัว  แต่สังคมก็ยอมรับเรื่องนี้กันอย่างกว้างขวาง ไม่ใช่เรื่องน่าอับอายแต่อย่างใด  แล้วเธอจะไม่สนใจทำสวยด้วยมีดหมอ    ขอสวยจาก Botox กับ  facial treatment  จริงหรือ?  

สาวๆบ้าน KarJenner ได้สร้างมาตรฐานความงามไว้จนลือลั่น    แต่การเตือนใจตัวเองให้ติดตาม  social media อย่างมีวิจารณญาณมีความสำคัญ  แม้กระทั่ง  Kylie ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสมาชิกครอบครัวที่ makeover ได้ปังสุดๆจนโด่งดังคู่คี่มากับ Kim  เธอก็ยังส่งคำเตือนให้ผู้คนใคร่ตรวญก่อนตัดสินใจทำศัลยกรรม  เพราะอาจจะรู้สึกเสียดายในภายหลังเหมือนเธอ     ไม่ว่าจะเลือกสวยด้วยวิธีแบบ surgery หรือ nonsurgical  พวกเราจำเป็นต้องศึกษากันให้ถี่ถ้วนและถามตัวเองให้พบคำตอบที่ชัดเจน เพื่อจะได้เอื้อมถึงสิ่งที่ต้องการอย่างแท้จริง