Kanye West ถูกญาติหักหลัง ขโมย sex tape ไปติดต่อขายเว็บโป๊

จุดเริ่มต้นในการสร้างชื่อเสียงในวงการบันเทิงด้วย sex tape ทำให้ Kim Kardashian ต้องเิญกับข้อครหาอย่างสลัดไม่พ้นตัว  แต่อดีตสามีแร็พเพอร์ก็เคยพัวพันกับสถานการณ์ในรูปแบบคล้ายคลึงกันมาแล้ว  เป็นเรื่องน่าเศร้าเมื่อคนที่ไม่ควรไว้ใจที่สุดกลายมาเป็นสมาชิกครอบครัว เพราะคาดไม่ถึงว่าจะถูกหักหลัง Kanye  West จึงต้องเผชิญกับเหตุการณ์ที่สร้างรอยร้าวในครอบครัว นับตั้งแต่นั้นก็ดูเหมือนว่า  มันได้สร้างแผลใจจนเขาหวาดระแวงแม้แต่คนใกล้ตัว บางคนวิเคราะห์ว่าอาการเจ็บป่วยทางจิตใจของ  Kanye นั้นทรุดหนักลงหลังจากสูยเสียแม่ไปอย่างกะทันหัน  และญาติยังมาจ้องหาประโยชน์  ถึงขนาดขโมย laptop มา blackmail กัน

ต้องจ่ายเงินก้อนโตให้กับญาติผู้ทรยศเพื่อป้องกันไม่ให้ tape สยิวหลุดสู่โลกออนไลน์

Lawrence Franklin   ญาติอีกคนของ  Kanye ได้เล่าเหตุการณืความร้าวฉานที่เกิดขึ้นจากการ blackmail ในครอบครัวว่า  ได้รับการติดต่อจากญาติคนหนึ่งให้มาเป็นประจักษ์พยานร่วมชมวีดีโอสยิวที่เผยการร่วมรักของ Kanye และหญิงสาวเชื้อสายผิวดำ  ซึ่งคนๆนั้นได้ขอคำปรึกษาว่า จะสร้างมูลค่าจากวีดีโอนั้นเช่นไร  และตัดสินใจปล่อยข่าวและภาพยางส่วนจากเทปเพื่อดึงเดูดความสนใจจากสื่อ  ทั้งยังมีเว็บหนังอย่างว่าติดต่อเข้ามาเพื่อเจรจาทำการซื้อขาย   และแน่นอนว่าญาติตัวแสบยังได้เจรจากับ Kanye  เพื่อเป็นทางเลือกเพื่อในการสร้างรายได้จากความอับอายของคนอื่น  ในที่สุด Kanye ก็ต้องจ่ายเงินไปราวๆ $250,000 แม้จะไม่ใช่ตัวเลขที่ดูสูงลิบลิ่วสำหรับศิลปินที่ประสบความสำเร็จระดับโลก  แต่มันเป็นตัวเงินหอมหวนที่ญาติจอม blackmail นำไปใช้จ่ายอย่างสาแก่ใจ  แต่เพื่อความปลอดภัย ก่อนที่จะหยิบยื่นเงินแลกเปลี่ยน  Kanye ก็ต้องทำทุกทางให้แน่ใจว่า จะไม่ถูกตลบหลังด้วยการแอบทำ copy ไปขายสื่อหรือเว็บโป๊อีก  และต้องจัดการให้ญาติผู้นั้นเข้าเครื่องจับเท็จเพื่อให้มั่นใจที่สุดว่า คนภายนอกจะไม่ได้เห็น sex tape นี้

Kanye ฝังใจกับเหตุการณ์นี้ไม่น้อยเลย  เขาได้ยอมรับว่าต้องจ่ายเงินให้กับญาติเพื่อแลกกับ sex tape ผ่านเนื้อแร็พเพลง Real friends  ซึ่งถ่ายทอดความอัดอั้นตันใจที่คนรอบข้างที่เข้าหาเขาด้วยการเสแสร้งแกล้งเป็นคนสนิท แต่พยายามหาผลประโยชน์ทุกวิถีทาง   แม้แต่ญาติสนิทก็ขโมย laptop  เพื่อค้นหาจุดอ่อนเอามา blackmail   และไม่ได้แค่ขู่กันด้วยคำพูดเท่านั้น  หัวขโมย laptop ยังตั้งทีมหาทนายมาไล่ต้อนแร็พเพอร์ดัง (ทั้งๆที่ตัวเองก่ออาชญากรรม)  
หลังจากนั้นเป็นต้นมา Kanye ก็แทบจะไม่เชื่อใจใครอีกเลย...

เจียง เมิ่งเจี๋ย นางเอกจีนที่ลุกขึ้นมาต่อสู้กับโจรขู่แฉรูปถ่ายใต้กระโปรง

นางเอกสาวผู้นี้ขึ้นชื่อลือชาเรื่องแรงดึงดูดทางเพศ  แม้เธอจะไม่ได้ถูกจัดให้เป็นนางเอกระดับแม่เหล็กอย่างหยางมี่หรือตี๋ลี่เร่อปา  แต่ก็ดึงดูดความสนใจด้วย style สุดเผ็ดและขาเรียวยาวน่าอิจฉา  แต่เหตุการณ์ชวนช็อคจากการถูกแอบถ่ายทำให้เธอได้รับความสนใจจากสื่อตะวันตก  เพราะเมิ่งเจี๋ยไม่ได้เก็บตัวหลบซ่อนกับการถูกประจานตามที่คนอื่นคาดการณ์ไว้  เธอเลือกจะออกมาประกาศต่อสู้กับการ blackmail และทำให้ผู้คนในสังคมจีนชื่นชมจนตัวเลขผู้ติดตามของเธอพุ่งสูงหลายแสนราย

"มันไม่ใช่ความผิดของเรา"

การแอบถ่ายภาพใต้กระโปรงหญิงสาวนับเป็นอาชญากรรมทางเพศที่ผู้คนในสังคมไม่ควรเพิกเฉย  แต่ภาพของสงวนของนางเอกแห่งซีรีส์'ความฝันในหอแดง'ถูกเผยแพร่ผ่าน online community  จนยอดเข้าชมสูงเป็นล้าน  เธอไม่รู้ตัวเลยว่าถูกแอบถ่าย จนกระทั่งรู้สึกเอะใจที่ชาวเน็ทเริ่มมาคอมเมนท์แปลกๆใน account และมีเพื่อจากต่างประเทศก็แจ้งให้เธอรู้ด้วยการส่งวีดีโอตัวนั้นจนทำให้ผวาและสิ้นหวัง   ซึ่งเธอได้ออกมาระบายความรู้สึกที่ตกเป็นเหยื่อการล่วงละเมิดทางเพศและ blackmail ไว้ว่า


"หลายปีก่อนฉันถูกแอบถ่ายใต้กระโปรงในขณะช็อปปิ้ง และเมื่อไม่นานมานี้ มีใครบางคนส่งข้อความและวีดีโอนี้มา blackmail ฉัน" ในตอนแรกที่ได้รับการติดต่อจากผู้ไม่ประสงค์ดีเพื่อเรียกร้องเอาเงินจากเธอ เธอก็คิดว่าเป็นการขู่กันอย่างไม่จริงจัง จนกระทั่งคนๆนั้นได้ส่งข้อความมาย้ำว่า
"หากไม่ยอมตอบกลับภายในหนึ่งวัน ฉันจะขายข้อมูลและวีดีโอนี้ให้กับผู้เกี่ยวข้อง คุณกำลังเอาฐานะความร่ำรวยและชีวิตมาเดิมพันกับการถูกประจาน คุณมีน้ำอดน้ำทนเหลือเกิน ขอชื่นชมคุณในจุดนี้"

เธอได้เผยข้อความ blackmailใน social media และเล่าว่า คนร้ายรายนี้ขู่จะส่งวีดีโอภาพใต้กระโปรงของเธอไปยังบริษัทสร้างหนังและรายการ TV ชั้นนำของประเทศเพื่อจะทำลายชีวิตของเธอให้ย่อยยับ

"ในฐานะที่เป็นบุคคลสาธารณะ ฉันน่าจะใช้เหตุการณ์ที่ร้ายแรงนี้ดึงดูดความสนใจของผู้คนด้วยการยืนหยัดต่อสู้กับมัน"

"ฉันหวังว่าคนอื่นๆที่ตกเป็นเหยื่อในสถานการณ์คล้ายกันจะไม่เกิดความหวาดกลัว ไม่อับอายที่จะลุกขึ้นมาต่อสู้"

"การที่เราถูกแอบถ่ายมันไม่ใช่ความผิดของเราเลย ชีวิตของเราไม่สมควรจะได้รับผลกระทบจากเรื่องแบบนี้"

นางเอกสาวอาจจะรู้สึกตระหนกในตอนแรก แต่เธอก็ตัดสินใจแจ้งตำรวจ ทำให้ผู้ต้องสงสัยถูกจับกุมตัวในเวลาต่อมา ซึ่งการเปิดเผยเรื่องราวนี้ก็ืทำให้ชาวเน็ทจำนวนมากเข้ามาร่วมให้กำลังใจ และประนามผู้กระทำผิดตัวจริง เธอถูกยกให้เป็นผู้หญิงกล้าหาญที่สามารถปลุกพลังมวลชนให้หันมตระหนักถึงปัญหานี้ ชาวเน็ทยังวิพากษ์วิจารณืถึงบทลงโทษของการแอบถ่ายใต้กระโปรงที่ทั่วไปแล้ว ผู้กระทำผิดจะถูกลงโทษด้วยการจำคุกน้อยกว่าสิบวัน บีบให้ผู้หญิงจะต้องใส่เสื้อผ้าหลายชั้นให้รัดกุมเพื่อป้องกันไม่ให้ถูกแอบถ่ายของลับใต้กระโปรงไปแชร์ในโลกออนไลน์ และร่วมรณรงค์เพื่อยุติแนวคิดโทษเหยื่อที่ถูกแอบถ่ายว่า พวกเธอต้องเผชิญกับชะตากรรมเพราะใส่เสื้อผ้าเปิดเผยเนื้อหนัง เพราะความเจ็บช้ำที่ถูกแอบถ่ายและแชร์ภาพใน internet นั้นก็ไม่ต่างจากการลงทัณฑ์ทั้งๆที่เป็นผู้ไร้ความผิด





  

ซง ฮเยคโย เคยถูกอดีตผู้จัดการขู่ blackmail และสาดน้ำกรด

ในซีรีส์เกาหลีที่นำเสนอเรื่่องราวของวงการบันเทิง เราก็มักจะเห็นภาพผู้จัดการส่วนตัวที่ทุ่มเททำงานและสานสายใยความผูกพันกับศิลปินดาราราวกับเป็นคนในครอบครัว  แต่ในชีวิตจริง  คนดังเคยเจอกับฝันร้ายที่มาในรูปแบบของผู้จัดการมาแล้วหลายคน   ผู้ทำอาชีพนี้ได้เข้ามารู้เบื้องลึกของคนดังที่คนภายนอกยากจะเข้าถึง   แม้แต่สถานะทางการเงินก็รู้ชัดรู้ดีจนอาจจะเปิดทางฉ้อโกง (อย่างที่  Lisa  ถูกอดีตผู้จัดการคนสนิทฉ้อโกงไปถึงพันล้านวอนหรือ 25 ล้านบาท)   แม้ว่าเอเจนซี่อาจจะป้องกันเรื่องความลับรั่วไหลด้วยการเซ็นสัญญาตกลงไว้ก่อนทำงานในเรื่องหารเก็บความลับ แต่ก็เคยมีคนดังระดับแถวหน้าเผชิญกับเหตุการณ์ blackmail ชวนช็อคจากน้ำมือผู้จัดการมาแล้ว

รายการ Rumor Has It รายงานว่า ย้อนไปเมื่อปี 2005  ซง ฮเยคโยได้ก้าวถึงตำแหน่งนางเอกยอดนิยมด้วยผลงานซีรีส์เรตติ้งถล่มทลายอย่าง Autumn In My Heart และ Full House  แต่ในช่วงเวลาแห่งความรุ่งโรจน์ที่ทำให้เธอเป็นนางเอกสุด hot แห่ง Hallyu wave เธอต้องพบกับเหตุการณ์ชวนปวดใจ เมื่อผู้จัดการที่ร่วมงานมาสามปีนั้นฉวยโอกาสยักยอกฉ้อโกงจนเธอหมดสิ้นความเชื่อใจ และเอเขนซี่ก็ต้องไล่ออกไปเงียบๆ   แต่จากนั้น แม่ของเธอก็ได้รับจดหมายขู่จากบุคคลปริศนา

"หากไม่นำเงิน 250 ล้านวอนมาให้ ฉันจะสาดน้ำกรดใส่ซง ฮเยคโย ถ้าไม่อยากเห็นร่างกายของลูกสาวคุณเน่าเปื่อยไปตลอดชีวิตก็ควรจะใคร่ครวญเรื่องนี้ให้ดี ฉันเตรียมกรดไฮโดรคลอริกและยาหลอนประสาทปริมาณมากไว้แล้ว"

จดหมายนั้นทำให้แม่ของนางเอกดังรู้สึกหวาดผวา  เธอรีบบอกให้ลูกสาวย้ายออกจาบ้านไปทันทีและแจ้งความกับตำรวจเพื่อจะป้องกันเหตุร้ายและสืบหาตัวมือดีที่ blackmail พวกเค้า  
แต่เมื่อได้รู้ความจริงจากตำรวจว่า คนที่ขู่เรียกเงินจากพวกเค้าคืออดีตผู้จัดการคนเคยสนิท มันก็เป็นเรื่องยากที่แม่ของซง ฮเยคโยจะทำใจเชื่อได้ เพราะเคยใช้เวลาอยู่ใกล้ชิดกันมานาน

อดีตผู้จัดการรายนี้ถูกตั้งข้อกล่าวหาจากความไม่โปร่งใส เมื่อเขาไม่รายงานตัวเลขรายได้ commission ที่หักจากค่าตัวถ่ายแบบของซง ฮเยคโย และใช้จ่ายเงินสุรุ่ยสุร่าย และเมื่อถูกเอเจนซี่ไล่ออก และไม่น่าจะหางานในสายเดิมได้อีกก็ทำให้ประสบกับปัญหาทางการเงินจนต้องอาศัยหลับนอนในห้องน้ำสาธารณะ มีรายงานว่า เมื่อเขาได้เห็นความสำเร็จของนางเอกดัง ก็หวังใช้การ blackmail เธอและครอบครัวเพื่อจะหาเงินไปใช้จ่าย

ช่วงที่ซง ฮเยคโยเปิดตัวความสัมพันธ์กับพระเอกรุ่นใหญ่  อี บยองฮอน   อดีตผู้จัดการคนนี้ก็ยังทำงานให้กับเธออยู่ ซึ่งในขณะนั้นกระแสตอบรับในสังคมไม่ได้มีแต่กำลังใจที่อบอุ่น  เนื่องจากเธอยังมีภาพของนางเอกดาวรุ่ง (แม้จะเข้าวงการมาหลายปีแล้ว) และเรื่องช่องว่างของวัยก็ยังเป็นที่ครหา   เมื่อนางเอกที่กำลังดังเปรี้ยงปร้างคบหากับพระเอกมาดแพรวพราวอย่างเปิดเผยก็ทำให้ผู้คนมองความสัมพันธ์ของพวกเค้าด้วยอคติ   และยิ่งมีผู้เปิดเผยภาพส่วนตัวของพวกเค้าในโลกออนไลน์ก็ยิ่งสร้างความฮือฮา จนทำให้นึกข้องใจว่า ใครกันคือผู้ที่ปล่อยภาพรักหวานแหววของพวกเค้าออกมาหลายครั้ง  ทั้งๆช่วงที่พวกเค้าคบหากับคนอื่นนั้นดูจะเก็บคำเรื่องส่วนตัวไว้อย่างมิดชิด   ถึงขนาดมีภาพตอนแสดงความรักหลุดรอดออกมา  การเผยท่าทีแบบคลั่งรักของฝ่ายชายทำให้มีข่าวเรื่องพิธีวิวาห์ตามมาเรื่อยๆ แต่หลังจากที่คบกันได้เพียงปีเดียวก็เลิกรากันไป  จะเป็นไปได้หรือไม่ว่า อดีตผู้จัดการที่รู้เรื่องราวส่วนตัวเธอแบบวงในสุดๆจะกำข้อมูลบางอย่างไว้เพื่อนำมา blackmail เธอเพื่อเอาคืนหลังจากถูกไล่ออก?

ลือหนักมาก จิ่ง เถียน นางเอกจีนชิ่อดังถูกอดีตแฟนแชมป์เทเบิล เทนนิสใช้คลิปลับใช้หนี้พนัน

เมื่อไม่กี่เดือนก่อน  scandal สั่นสะเทือนแผ่นดินใหญ่ย่อมต้องเป็นกรณีนักข่าวชื่อดังกล่าวหาจางจี้เค่อ  นักกีฬาเทเบิลเทนนิสเจ้าของเหรียญทองโอลิมปิคว่า กระทำความผิดร้ายแรงด้วยการนำวีดีโอลับของคนรักสาวมาเป็นหลักประกันการใช้หนี้  เธอคนนั้นคือจิ่งเถียน  นางเอกจีนผู้โด่งดังที่ก้าวไปแสดงหนัง Hollywood  มาแล้วถึงสามครั้ง   แม้ว่าฝ่ายชายจะส่งตัวแทนมาปฏิเสธอย่างหนักแน่นทั้งยังขู่ฟ้องร้องนักข่าวที่เปิดประเด็น  แต่หลักฐานสัญญากู้เงิน 5 ล้านหยวนที่ประทับชื่อของจางจี้เค่อ รวมทั้งเสียงเล่าลือเรื่องพฤติกรรมเสพติดการพนันของเขาก็ทำให้ netizen จีนหันมาเชื่อถือคำกล่าวหานี้และวิจารณ์เขาอย่างเผ็ดร้อน  หลายคนยังมองว่าด้วยชื่อเสียงเรื่องการขุดคุ้ยของหลี่ เว่ยเอ่า นักข่าวเศรษฐกิจที่มีเครดิตมานานกว่าสองทศวรรษ  มันจึงไม่น่าการสร้างกระแสด้วยการกุข่าวขึ้นมาเอง และเขาคงไม่ทำลายอาชีพตัวเองด้วยการกล่าวหาคนอื่นพล่อยๆ  ถึงจะถูกตัวแทนนักกีฬาผู้โด่งดังขู่ฟ้องร้อง เขาก็ยังท้าทายอย่างไม่กลัวเกรง ยิ่งเพิ่มน้ำหนักให้ข้อกล่าวหานี้ในสายตาหลายคน  

นักข่าวหลี่เว่ยเอ่าได้เล่าเรื่องราวน่าตกใจของอดีตคู่รัก high profile ว่า  จางจี้เค่อประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนัก แม้จะมีรายได้มากมายจากความสามารถที่ทำให้คว้าแชมป์โลกมาแล้วหลายครั้ง ด้วยรูปลักษณ์หนุ่มน่ารักทำให้กระแสความนิยมพุ่งสูงต่อยอดความสำเร็จมาได้หลายปี ไม่เพียงแต่แบรนด์ต่างๆจะทุ่มเงินให้มาทำหน้าที่พรีเซนเตอร์ ก็ยังเป้นเซเลบที่แฟนๆชื่นชม  แต่หลี่เว่ยเอ่ากล่าวหาว่า เขามีรายได้เข้าหลายทางแต่ก็ละลายเงินไปกับการพนันแบบถมไม่เต็ม  จำเป็นต้องกู้หนี้ยืมสินจากคนรู้จักแต่ไม่สามารถหามาใช้คืนได้ จนต้องไปกู้ยืมจากนายทุนปล่อยเงินกู้นอกระบบหลายล้านหยวน ซึ่งเรียกชื่อย่อว่านาย S  แต่ผีพนันก็ทำให้เขาจนตรอกถึงกับนำวีดีโอส่วนตัวของแฟนสาวคนดังมาเป็นเครื่องต่อรองการใช้หนี้  เมื่อทวงหนี้กับจางจี้เค่อไม่ได้ครบ นาย S จึงนำวีดีโอดังกล่าวไปขู่เข็ญเรียกเงินหลายล้านจากจิ่งเถียน   แต่เธอไม่ยอมให้ถูกรีดไถ แจ้งตำรวจเอาผิดกับนาย  S จนอีกฝ่ายถูกจำคุก  

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดข่าวลือเรื่องจางจี้เค่อติดการพนัน แต่มีข่าวเล็ดรอดในช่วงหลายปีมานี้  ทั้งข่าวจากสื่อจีนตั้งแต่เขายังเป็นดาวรุ่งวัยทีน และตอนที่ไปแข่งขันในเยอรมนี แล้วถูกสื่อเจ้าภาพตีข่าวว่า เขาแอบจากโรงแรมไปเล่นพนันในคาสิโนเมื่อปี 2015  แต่เพราะไม่ได้มีหลักฐานถึงความประพฤติที่ไม่เหมาะสม เขาจึงยังรักษาสถานะคนดังเนื้อหอมที่แบรนด์ต่างๆให้ความไว้วางใจอยากกร่วมงานด้วย และได้รับการทาบทามให้มารับงานในรายการ TV   บางคนมองว่า สถานะแฟนหนุ่มของจิ่งเถียนนั้นอาจจะช่วยดึงดูดความสนใจจากแฟนๆช่วยให้เขาก้าวสู่เส้นทางความสำเร็จในงานบันเทิงได้เช่นกัน แต่คบหากันได้เพียงหนึ่งปี พวกเค้าก็เลิกราโดยไม่ระบุเหตุผลใดๆกันท่ามกลางความประหลาดใจของแฟนๆ

ในเวลาต่อมา จิ่งเถียนก็ได้ให้สัมภาษณ์ถึงอาการซึมเศร้าที่เกิดขึ้นในปี 2019 (ตรงกับช่วงที่เธอประกาศแยกทางกับแฟนหนุ่มนักกีฬา) ซึ่งหนักหนาสาหัสจนเธอไม่อาจจะก้าวพ้นออกจากห้องไปไหนได้ และถูกบีบคั้นรู้สึกหายใจไม่ออกราวกับกำลังจมสู่ใต้ทะเลลึก แต่กลับไม่มีใครช่วยเหลือเธอหรือแม้แต่จะมีความกล้าเล่าให้ใครฟัง คำพูดของเธอถูกนำไปเชื่อมโยงกับ scandal นี้ เกิดเป็นข่าวลือตามมาว่า ความสัมพันธ์พวกเขาพังทลายเพราะจางจี้เค่อยืมเงินเธอไปก้อนโตแล้วไม่ยอมใช้คืน แล้วยังเหยียบย่ำจิตใจอย่างรุนแรงด้วยการยื่นคลิปลับให้เจ้าหนี้นำมา blackmail เธอ

 กระแสวิจารณ์ก็ร้อนแรงเมื่อมีผู้แชร์ 'แชทหลุด' ที่เชื่อว่าเป็นการปรึกษาหารือระหว่างจิ่งเถียนและเติ้งชา เพื่อนนักแสดงหญิงย้อนไปในปี 2020  ซึ่งเติ้งชาได้ไถ่ถามว่า
"เถียนเถียนจ๊ะ ขอถามอะไรสักหน่อย คนที่เธอเคยคบน่ะเค้าได้ยืมเงินเธอไปบ้างรึเปล่า เขาขอยืมเงินคนไปทั่วเลย และยังมาขอยืมฉันด้วย"
เธออ้างว่า ตอนไปรับประทานอาหารกับเพื่อนร่วมงานก็ได้ยินเรื่องจางจี้เค่อไถเงินจากจิ่งเถียนและหยวนชานชาน (นักร้องนักแสดงที่เคยคบหากับจางจี้เค่อมาก่อน) และคนอื่นๆในวงการ จึงอยากได้คำยืนยันอยากจิ่งเถียน แต่ฝ่ายจิ่งเถียนดูไม่อยากสนทนาพาทีในหัวข้อนี้ผ่านแชท เธอบอกปัดไปว่า จะอธิบายให้ฟังในวันถัดไป และต้องขอตัวไปนอนพักผ่อนก่อน

ในเวลาต่อมาแทบลอยด์ก็รายงานว่า ตัวเลขเงินที่หยวนชานชานให้จางจี้เค่อยืมนั้นก็สูงหลายล้านเดียวกัน ส่วนจิ่งเถียนเจอล่อลวงหนัก ทั้งสูญเงินและถูกเจ้าหนี้ของแฟนหนุ่มใช้วีดีโอลับ blackmail   เมื่อจิ่งเถียนเลือกวางตัวนิ่งเฉย ไม่ออกมาปกป้องคนเคยรักกันหรือชี้แจงแถลงไขว่าเป็นเหยื่อจริงๆตามที่เป็นข่าวหรือไม่ ก็ถูกตีความว่าเป็นการยอมรับไปโดยปริยาย

แม้ตัวแทนของแชมป์เทเบิลเทนนิสจะประกาศว่า เขาไม่มีปัญหาทางการเงินและไม่เคยล่วงละเมิดความเป็นส่วนตัวของใคร จึงตัดสินใจตอบโต้การปั้นเรื่องเท็จด้วยการให้ทนายรวบรวมหลักฐานฟ้องร้องหมิ่นประมาทผู้ที่ว่าร้ายเขาจนเสียชื่อ แต่ชาวเน็ทจำนวนมากและสื่อแทบลอยด์ก็โจมตีอย่างหนักว่า เขาสร้างหนี้สินล้นพ้นตัวไม่พอ ยังลากหญิงสาวคนรักที่มีอนาคตยาวไกลให้ตกนรกไปด้วย ไม่เพียงแต่ชื่อของเขาจะถูกค้นหาใน social media เป็นหมื่นล้านครั้ง แต่แบรนด์ต่างๆก็ยุติการร่วมงานจนทำให้เขาสูญเสียรายได้ไปมากมาย รวมทั้งวาไรตี้โชว์ที่ไม่อาจจะเสี่ยงเชิญนักกีฬาดังมาร่วมรายการ วันเวลาผ่านไป ผู้คนก็ยังรอให้เขาโชว์หลักฐานว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่อง blackmail อดีตแฟนสาว หรือไม่เคยไปขึ้นศาลในฐานะพยานและยอมรับว่าเป็นคนโชว์วีดีโอส่วนตัวให้เจ้าหนี้ตามที่ถูกนักข่าวกล่าวหา คนส่วนหนึ่งก็ยังเชื่อว่า เขาไม่ได้เป็นหนี้เป็นสินหรือติดการพนันตามข่าวลือ เพราะพิจารณาจาก lifestyle สุดหรู ใช้ข้าวของและรถราคาแพง ไม่ได้ดูสิ้นไร้ไม้ตอกจนต้องไปขอยืมเงินคนทั่ววงการ

ส่วนจิ่งเถียนนั้นได้รับความเห็นใจอย่าล้นหลาม หลังจากนิ่งเงียบไปสักพัก ก็แชร์ภาพผ่าน Weibo ด้วยท่าทางที่สดใส และได้รับกำลังใจอย่างล้นหลามและอวยพรให้เธอเริ่มต้นใหม่โดยไร้ความกังวลใจ แต่ในขณะเดียวกันก็มีชาวเน็ทที่ไล่จี้ถามไถ่เธอว่า เหตุใดจึงไม่ฟ้องร้องอดีตแฟนที่นำคลิปเธอไปใช้หนี้ ซึ่งเรื่องราวของจิ่งเถียนก็ยังไม่ชัดเจนมาถึงทุกวันนี้

ความไว้ใจในตัวคนรักซึ่งนำมาสู่การทรยศอย่างเจ็บปวดเคยเกิดขึ้นกับกู ฮารา ไอดอลที่ต้องเผชิญกับความทุกข์ทรมานยาวนานหลังจากอดีตคนรักข่มขู่ว่าจะเผยแพร่คลิปภาพกิจกรรมบนเตียงเพื่อทำลายชีวิตของเธอ แม้เธอได้ฟ้องร้องเอาผิดแต่อีกฝ่ายได้รับเพียงโทษรอลงอาญา บาดแผลฝังลึกที่ถูกทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจนั้นเกินจะฟื้นฟูให้กลับมาดีดังเดิม หนำซ้ำยังถูกชาวเน็ทสุด toxic ซ้ำเติมด้วยแนวคิด victim blaming แม้ผู้หญิงจะตกเป็นเหยื่อการ blackmail ต้องใช้ชีวิตอย่างหวาดระแวงและอับอายก็ยังถูกพิพากษาว่ามีส่วนผิดที่ตกเป็นข่าวฉาว หลังจากเธอพยายามฆ่าตัวตายแต่ไม่สำเร็จ ก็ยังถูกจาบจ้วงเย้ยหยันราวกับเธอเป็นอาชญากร แม้เธอจะพยายามก้าวไปข้างหน้าด้วยการทุ่มเททำงานดนตรี แต่ในที่สุดเธอก็หยุดความเจ็บปวดด้วยการจบชีวิตตัวเอง