Pink carpet fashion  

เมื่อพูดถึงประวัติศาสตณืการเข้าชิงรางวัลดนตรีชื่อดังในช่วงหลายปีที่ผ่านมา หากรางวัลใดทีี่มีชื่อของ Taylor Swift ปรากฏเป็นผู้ท้าชิง ก็คล้ายเป็นการบอกใบ้แล้วว่า สถิติใหม่กำลังจะเกิดขึ้น

เห็นบางครบอกว่าชุดดำผ่าสูงของ  Tay  ดูเป็นสไตล์จากอัลบั้ม  Reputation  แต่เรากลับมองว่ามันมี vibe ของ 90s supermodel  ด้วยความที่เป็นเดรสจาก Versace ซึ่งเป็น iconic look ประจำยุคนั้น รวมถึงเครื่องประดับโซ่ทองที่เข้ากับสีผม   งานนี้เธอไม่ได้ทาปากแดงที่เป็น signature  เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศแต่ไม่ได้ดูแผ่วไป 

เป็นคนที่อ้อมแขนไม่พอจะโอบอุ้มรางวัลได้หมด และเคยเกิดกรณีหอบรางวัลไว้เยอะเกินจนร่วงตกพื้นมาแล้ว  ตั้งแต่เป็นศิลปินวัยทีนมาจนตอนนี้  เธอก็ล่ารางวัลกลับบ้านเป็นว่าเล่น  สะกดคำว่าขาลงไม่เป็น  สงสัยว่า  Tay จะต้องใช้พื้นในห้องกว้างขวางที่คฤหาสน์ให้เพียงพอต่อการสะสมให้ครบหมดทุกรางวัล  

แต่ไหนแต่ไรมา  กลายคนมักจะจดจำ Selena  ในภาพศิลปินสาวหน้าเด็กตลอดกาล   แต่พอเธออายุเลยเลข 3 มา   เรื่องความหน้าเด็กนั้นไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมากนัก  แต่สัมผัสได้ถึงดีกรีความร้อนแรงมากกว่าเดิมชัดเจน

เราเคยเห็นเธอใส่ชุดที่เปิดเผยแหวกลึกเผยส่วนเว้าส่วนโค้งกว่านี้มาแล้วด้วยซ้ำ  แต่สำหรับชุดลวดลายพฤกษาสีทับทิมร้อนแรงนี้สร้างความรู้สึกที่เป็นผู้ใหญ่และมั่นใจมากกว่าตอนเป็นศิลปินวัยรุ่น  เสริมด้วยลิปสติกและอายชาโดว์จาก Rare Beauty ที่อบอุ่นนุ่มนวลไม่แข่งกันเด่นกับสีชุด

VMAs เป็นอีเวนท์ดนตรีชื่อดังที่จัดกันมาตั้งแต่ยุค 80s และไม่นานจากนั้น  naked dress ก็กลายมาเป็นอาวุธสำคัญของคนดังเพื่อขโมยซีนที่อยู่คู่กับงานนี้  จากชุดกึ่งเปลือยในตำนานของ Rose McGowan 1998  เมื่อเข้าสู่ปี 2023 เราก็ได้พบชุดที่เปลือยได้สูสีกับชุดนั้นได้แล้ว!

ชุดใยแมงมุมของ Doja Cat  น่าจะติดอันดับต้นๆของ naked dress ประจำ  VMAs สื่อบางเจ้าตัดสินใจเซนเซอร์ภาพพอหอมปากหอมคอ  แต่ในชีวิตจริง  เนินเนื้อที่ปรากฏสู่สายตายามเคลื่อนไหวก็อาจจะทำให้คู่สนทนาของเธอหวั่นไหวจนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว 

Doja อาจจะมีโมเมนท์  Free The Nipple แต่ถ้าจะถามหาความเปลือยแบบติดเรทแบบไม่ต้องจำเป็นใช้ thong มาปิด  ขอเทปเล็กๆ มาเซนเซอร์ไม่ให้อวัยวะออกมาเซย์เฮลโหลว คงต้องยกให้ Tinashe เค้าล่ะ!  เห็นลุคนี้ก็ทำให้ต้องมองไปถึงอนาคตเหมือนกันว่า  แฟชั่น naked dress ของคนดัง  Hollywood จะไปไกลได้อีกขนาดไหน? วันนี้มีเทปปิด  เป็นไปได้รึเปล่าหากสักวันข้างหน้าอาจจะพยายามเข้าใกล้ความเปลือยให้มากที่สุดจนไม่ต้องปิดแล้ว??  เราชมสัมภาษณ์ของเธอ  อดคิดไม่ได้ว่า พิธีกรต้องอดใจขนาดไหนที่จะไม่เหลือบมองลงที่เบื้องล่าง 

พยายามส่องว่า เนื้อหนังที่ดูเปลือยภายใต้ชุดตาข่ายนี้เป็นซับในบางที่บางแนบเนื้อรึเปล่า  แต่สำรวจจากสื่อหลายเจ้าก็พูดตรงกันว่าเธอไม่ได้ใส่อะไรข้างใน  เจ้าตัวเพียงแต่บอกว่า ตื่นเต้นกับชุด Stella McCartney นี้มากเพราะมันดูท้าทาย สนุกสนาน และมี energy แบบ Rockstar  เพราะมันเป็น VMAs  เธอจึงขอมาแบบปังไปเลย  เมื่อได้รับคำชมว่าเป็นชุดที่โดดเด่นเรื่องไอเดีย Sustainable เธอก็ตอบชิลๆว่า

"เราก็แค่แปะ duct tape น่ะ "

เหมือนเธอจะประกาศว่า นี่คือ naked dress ที่แท้ทรู!    คำถามที่ตามมาคือ เธอใส่ชุดนี้ตอนไปร่วมนั่งชม show รึเปล่า?  reaction จากชาวเน็ทก็คงไม่ต้องเดา   จริงๆไม่ได้มีเสียงโจมตีแรงๆซะหมด แต่หลายคนก็แซวเป็นเสียงเดียวกันว่า  ลืมใส่ชุดออกมาจากบ้านใช่มั้ย? และคำถามน่าคิดว่า ต้องเตรียมเทปมาแปะเพิ่มหลังจากตอนเข้าห้องน้ำรึเปล่า??

พอได้เห็นชุดของ Tinashe  แล้วก็ทำให้ Carol G ดูเบาๆไปเลย

หากใช้มาตรฐานความเปลือยของศิลปินบนพรมชมพูปีนี้  แม้แต่ชุดผ้า sheer สีดำของ Megan Thee Stallion ก็ติดจะเรียบร้อยไปอยู่บ้าง

หากมอง Cardi B เผินๆอาจจะนึกว่าเป็นชุด metallic ที่ดูไม่แปลกใหม่นัก    แต่ชุด  Dilara Findikoglu  ประดับประดาด้วยกิ๊บหนีบผมสีเงินเป็นพันๆตัว  งานนี้ ฺB ไม่เน้นความเปลือยแต่เลือกโชว์ด้าน creative แทน

เป็นคนดังที่มีสไตล์แบบคาดการณ์ไม่ได้เลย  เธอไม่ยึดติดกับแบรนด์เดิมๆ   แต่จะเลือกลุคที่ unique และตรงใจที่สุด  บางคนบอกว่า เธอเป็นเหมือนกับเครื่องมือ booster ชั้นดีที่ช่วยสร้างกระแสให้กับดีไซน์เนอร์เลือดใหม่ให้ยิ่งเปล่งประกาย   Dilara Findikoglu  ดีไซน์เนอร์ผู้ออกแบบชุดนี้มีวัยเพียง 33 ปี  แม้จะทำชุดให้กับเซเลบมาแล้วหลายครั้ง   แต่เมื่อได้ร่วมงานกับ Cardi เพื่อตัดเย็บชุด custom ออกงานใหญ่และสื่อแทบทุกชื่นชมชุดกิ๊บติดผมจากไอเดียบรรเจิด  แบรนด์ก็ได้รับพลัง  PR แบบเต็มๆ

งานนี้มี surprise นิดหน่อย เมื่อ Nicki Minaj ได้เข้าร่วมงานเดียวกัน  จริงๆไม่น่าแปลกใจเพราะเธอได้รับการนำเสนอเข้าชิงรางวัลด้วย   แต่ที่ผ่านมานั้น  คนดังที่เป็นอริกันก็อาจจะเลือกหลีกเลี่ยงดราม่าด้วยการงดออกงานชนกันชั่วคราว  แต่เพราะทั้ง Nicki และ Cardi ต้องโพรโมทผลงานในช่วงเวลาใกล้กัน เรื่องแบบนี้ก็คงเลี่ยงไม่ได้    อย่างไรก็ตาม ก็ไม่ได้ยินเรื่องการปะทะกันตามมา  

Nicki เป็นอีกคนที่เตรียมชุดมาเปลี่ยนหลายลุค   จากเจ้าสาว  Barbie บนพรมแดง มาเป็นบอดี้สูทแดงบนเวที  และมีชุดสำหรับนั่งในงานโดยเฉพาะด้วย

งานนี้ขึ้นชื่อลือชาเรื่องแฟชั่นที่จัดจ้าน  ถึงจะไม่ได้กำหนด theme เหมือน Met Gala  แต่คนดังก็เน้นความเยอะแบบไม่ยอมน้อยหน้ากัน  กลับกลายเป็นว่า หากใครเลือกชุดสวย classic เดินเข้างานก็ดูเฉิดฉายไปอีกแบบ  อย่างชุดระยิบระยับของ Olivia  Rodrigo  ที่จริงมีรายละเอียดที่เป็น  wow factor จากการประดับคริสตัล Swarovski ราวๆ 150,000 ชิ้น

แต่ก็มีคนที่ใช้ลูกเล่นแบบ เรียบหรูด้านหน้า วาบหวิวด้านหลัง  Nelly Furtado มาในเดรสดำที่คว้านลึกไปถึงบั้นท้าย

มีความรู้สึกว่า สิ่งที่หายไปจากงานปีนี้ คือศิลปินชายสุด hot  ที่หายหน้าหายตาไปหลายคน แต่ก็มี  Jared ที่สวมกางเกงขาสั้นเผยขาอ่อนและบู๊ทส้นสูงมาเติมเต็มรสชาติให้ร้อนแรงขึ้น

ใจตรงกันก็ Lil Nas X นี่เอง  เขาเลือกชุดขาวผ่าขาสูงแมทช์บู๊ท platform สูงเช่นเดียวกัน  นอกจาก  Taylor ที่ดูจะสนุกสุดๆในงาน ก็มี  Lil Nas  ที่ให้เต้นไปพร้อมกับการแสดงแบบอินสุดๆจนอยากจะให้ไปร่วม collab ซะเลย

สิ่งที่เราต้องได้พบเห็นใน VMAs ในปีหลังๆมานี้คือศิลปิน K-Pop ชื่อดัง พวกเค้าเดินทางมาไกลเพื่อขึ้นแสดงสร้างความประทับใจจากแฟนๆและศิลปินฝั่งตะวันตก และหอบหิ้วรางวัลกลับเกาหลีใต้ ที่จริง Jungkook และ BLACKPINK ก็ได้รับรางวัลเช่นเดียวกัน แต่น่าเสียดายที่พวกเราได้เห็นศิลปิน K-Pop เพียงสองวงที่เดินทางมาร่วมแสดง อาจจะเป็นเพราะจังวะเวลาและตารางที่ไม่เอื้ออำนวย แต่มั่นใจว่า หากไอดอลที่เข้าชิงรางวัลใหญ่ได้มาร่วมงานอย่างพร้อมหน้า จากรายชื่อของศิลปิน K-Pop ที่เข้าชิงในสาขาต่างๆประชันกับฝั่งตะวันตก engagement ของอีเวนท์นี้น่าจะพุ่งกระฉูดไปอีก

เจ้าของรางวัล  Best K-Pop ปีนี้   วง Stray Kids กับการเดบิวท์ที่ VMAs ก็ได้รับเสียงชื่นชมอย่างเกรียวกราว  บางคนบอกว่า หากแสดงบนเวทีแล้วทำให้ Taylor Swift รู้สึกทึ่งจนอ้าปากโยกหัวตามได้ ก็แสดงว่า การปล่อยทีเด็ดของหนุ่มๆนั้นไม่ด้อยกว่าศิลปินดังคนอื่นๆเลย ส่วนยอดเข้าชมทาง Youtube ก็พุ่งสูงมาสูสีกับ Olivia Rodrigo อยู่ในตำแหน่ง 2-3 ของโชว์ที่มียอดเข้าชมมากที่สุดของงาน

  ส่วนโมเมนท์ตอนรับรางวัลที่ออกอาการเหวอๆแบบไม่คาดฝันตอนได้ยินผลจากผู้ประกาศรางวัล  ออกท่าออกทางประมาณว่า 'พวกเราจริงดิ?!' ทำให้ชาวเน็ทแซวด้วยความเอ็นดู

TXT เป็นอีกวงที่เข้าร่วมอีเวนท์นี้เพื่อโพรโมทผลงานใหม่จากการแสดงบนเวที และยังคว้ารางวัล  Push Performance of the Year   จากเพลง Sugar Rush Ride ซึ่งอารมณ์จากเพลงนี้ดูแซ่บเลยล่ะ    หากเปรียบเทียบกับ show ของศิลปินฝั่งตะวันตก  วงไอดอล K-Pop ที่มีสมาชิกหลายคนนั้นสร้างบรรยากาศที่แปลกใหม่   พวกเค้าได้พิสูจน์ความสามารถด้าน choreography หนักแน่น  ความพร้อมเพรียงสุดเป๊ะและการขับร้องที่จะต้องไม่หลุดระหว่างการทุ่มเทพลังบนเวที  

เพลง  Back For More  ที่ถูกเลือกมาแสดงบนเวทีนี้เป็นผลงานที่ featuring กับ Anitta  ศิลปินสาวลาติน่าชาว Brazilian  ผลงานออกมาก็ดึงดูดความสนใจได้ดีเลยล่ะ  แฟนๆให้กำลังใจเพียบ  ที่สำคัญ ยุทธวิธี collaboration กับศิลปินสาวที่มีชื่อเสียงฝั่งอเมริกาใต้ก็ดูน่าสนใจ เห็นได้จากกระแสความคลั่งไคล้ K-Pop ของแฟนๆฝั่งนั้นรวมกับอิทธิพลของ Anitta ที่เคยดึงดูดความสนใจล้นหลามจาก challenge ทาง social media  เมื่อได้เห็นการผสมผสานดนตรีติดหูกับของการแสดงที่มีกลิ่นอายละตินกับ K-Pop แล้ว คิดว่ามัน work เลยล่ะ 

จากเดิมที่เราเคยได้ยินมาว่า รายการดนตรีเกาหลีใช้เทคนิคมุมกล้องเข้าส่งเสริมจนทำให้การแสดงของศิลปินดู perfect แตกต่างจากภาพ fancam เมื่อขึ้นแสดงบนเวทีต่างประเทศที่ไม่ได้ใช้มุมกล้องหลากหลายเทียบเท่ากับที่เกาหลีก็อาจจะไม่ได้ดึงดูดใจตามความคาดหวัง อย่างดราม่าที่เกิดกับ Blackpink ในช่วงเริ่มโพรโมทในอเมริกาเมื่อไม่กี่ปีก่อน ซึ่งมีเสียงวิจารณ์ตามมาว่า การแสดงของพวกเธอดูน่าเบื่อและ choreography ไม่ได้ดึงดูดใจเหมือนกับภาพรายการที่เกาหลี แต่แรงกดดันพวกนี้นี่เองที่ทำให้เกิดพัฒนาการชัดเจน ทุกวันนี้ ศิลปิน K-Pop วาดลวดลายบนเวทีต่างประเทศด้วยความมั่นใจ ถึงจะเป็นมุมกล้องของแฟนๆในงานก็ slay เป็นสิ่งที่อธิบายได้ถึงการก้าวมาสร้างชื่อเสียงระดับนานาชาติได้อย่างแจ่มแจ้ง  ทุกวันนี้มาตรฐานสูงจริงๆ เมื่อได้เห็นไอดอลชื่อดังสองวงบนเวที VMAs ในปีนี้ก็ทำให้คิดแล้วว่า ใครจะเป็นศิลปิน K-Pop คิวต่อไปที่ได้มาโชว์ความสามารถและคว้ารางวัลในปีหน้า?

หากถามว่า การแสดง VMAs ของศิลปินดังคนใดที่มีผู้เข้าชมทาง Youtube มากที่สุด   Shakira คือผู้ที่มาวิน ยอดเข้าชมทิ้งห่างศิลปินคนอื่นแบบไกลลิบลับ!

บอกเลยว่า การแสดงของเธอมันทรงพลังจริงๆ  แม้ว่า  production เวทีจะไม่ได้อลังการที่สุด  ท่วงท่าอันเร่าร้อนก็เป็น signature ที่มาแล้วหลายครั้ง  แต่ก็มีลูกเล่นไม่เคยดูน่าเบื่อ ทั้งความ iconic ของท่วงท่าส่ายสะโพกพริ้วไหว โชว์ระบำหน้าท้องที่ดูแข็งแรงและเย้ายวนใจ เมื่อเติมระบำมีดสั้นที่ดูน่าหวาดเสียวก็ยิ่งดูทรงพลัง (เธอเคยเต้นประกอบเชิงเทียนหลายชั้นตั้งบนศีรษะมาก่อนแล้ว!)  อาจจะเห็นการแสดงเดาออกเดาคิวได้เลยว่า อีกสักหน่อยเธอจะวาดลวดลายกีตาร์ แล้วต้องมี crowd surfing  แต่นี่คือ show ที่เร้าใจสุดๆ  เธอได้สร้างพลังงานความเอนจอยให้พุ่งแบบ no limit ผู้ชมแทบจะคลั่งไปเลย ส่วนกระแสต้อนรับจากโลกออนไลน์ก็แซงหน้าคนอื่น  สื่อได้ยังได้บอกเล่าโมเมนท์ที่คนไม่ได้เห็นจากการถ่ายทอดอีเวนท์ว่า  แฟนๆในงานแทบอดใจรอชมการแสดงของเธอไม่ไหว ในช่วงพักโฆษณา ก็ร้องเรียก Shakira ซ้ำๆ    ผู้คนต่างยอมรับว่า ผลงานการแสดงของ  Shakira ใน VMAs ปีนี้ได้ตอกย้ำสถานะความเป็น entertainer ระดับโลกแบบไม่ต้องอาศัยเสียงอวยแบบหน้าม้า

ที่จริงก็คาดไว้แล้วว่า  Ice Spice  ไม่น่าพลาดรางวัล Best New Artist  แต่ก็อดปลาบปลื้มไปด้วยไม่ได้ เธอร้องไห้ด้วยความซาบซึ้ง  ตอนให้สัมภาษณ์ก็แสดงท่าทางที่ตื่นเต้นแบบหน้าใหม่จริงๆ  ที่ผ่านถือว่าเป็นปีทองของเธอ  ทั้งเพลงยอดนิยมที่กลายเป็นไวรัล   มีโอกาสทองในการสร้างชื่อเสียงจากการร่วมงานกับศิลปินชั้นนำอย่าง Nicki และ Taylor  แน่นอนว่ารางวัลใหญ่อันนี้ไม่ได้มีไว้ประดับชั้นวางเท่านั้น  แต่ยังเป็นสิ่งช่วยการันตีความเนื้อหอมของเธอที่จะช่วยให้ไปได้ไกลกว่านี้ในอุตสาหกรรมดนตรีอีกด้วย

ชอบตอนที่เธอไม่ลืมชุมชนที่สร้างตัวตนของเธอขึ้นมา ประกาศว่า Shoutout the Bronx , Period! ซึ่งก่อนหน้านี้เธอก็เคยบอกว่า อยากจะสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนที่อาศัยในย่าน Bronx เพื่อจะสร้างฝันให้เป็นจริง ซึ่งเธอได้รับกำลังใจดีงามจากย่านที่เติบโตมามาโดยตลอด หลายคนยอมรับว่า Ice Spice คือตัวอย่างของการสร้างความสำเร็จแบบ self made ตัวจริง จากเด็กสาวโนเนมก็ถูกเปรียบให้เป็น rap royalty ไปแล้ว

Ice Spice บอกว่า แรงบันดาลใจที่เลือกลุคนี้ขึ้นรับรางวัลมาจากการแสดงอันลือลั่นของ Britney และ Madonna ใน VMAs ปี 2003  ซึ่งความจริง Brit ก็ได้ไอเดียชุดเจ้าสาวสุดแซ่บมาจาก Madonnaในงานปี 1984 นั่นเอง

มาร่วม Award Shows ทางดนตรีเมื่อไร  ดูเหมือนว่า Taylor จะเป็นคนที่เอนจอยกับงานได้เต็มที่จริงๆ  เธอสามารถลุกขึ้นเต้นไปพร้อมกับการแสดงของเพื่อนร่วมวงการบนเวที  ไม่ว่าจะเป็นดนตรีแนวใดก็อินได้ แต่ในปีนี้ ผู้ที่ทำให้เธอออกอาการหวั่นไหวใจละลายดังที่เห็นในภาพก็คือ....

NSYNC นั่นเอง !  พอจะเดาได้ว่า  พวกเค้าน่าจะเป็น first crush ของ Tay สมัยยังเป็นวัยรุ่น  นานทีปีหนก็จะได้มารวมตัวกัน   ถึงจะไม่ได้ออกมาโชว์ลีลาเต้น แต่ก็เรียกเสียงกรี๊ดได้กระหึ่ม (สื่อจิกกัดประปรายว่า น่าผิดหวังที่อุตส่าห์ดึงบอยแบนด์ในตำนานให้กลับมาบนเวทีทั้งที แต่ก็มาโชว์หน้าตาแค่นี้ ไม่มี perform)   พวกเค้าทำหน้าที่ศิลปินผู้ประกาศรางวัล Best Pop  ซึ่งก็คงเดาได้อยู่แล้วว่า  Tay คือผู้ชนะที่ขึ้นเวทีได้รับรางวัลจากมือบอยแบนด์ในตำนาน เธอปลื้มปริ่มกับโมเมนท์นี้จนต้องประกาศว่า "ฉันเคยสะสมตุ๊กตาของพวกคุณด้วยนะ!"   และการได้รับรางวัลจาก 'มือทองคำแห่งวงการ Pop'  เป็นสิ่งเกินต้านสำหรับเธอ

แต่แม้ว่าแฟนๆจะยินดีที่ได้เห็น NSYNC กลับมารวมตัวกันพร้อมหน้าอีกครั้ง ก็ยังมีคนอดจะรู้สึกขัดใจไม่ได้ นั่นเป็นเพราะดราม่า Free Britney เมื่อไม่กี่ปีก่อนที่ทำให้สังคมออนไลน์กดดัน Justin Timberlake จนต้องออกมาขอโทษ Britney และ Janet จากพฤติกรรมอื้อฉาวในอดีต แต่กระแสต่อต้านก็เบาลงไปมากแล้ว เมื่อบวกกับปฏิกิริยาตอบรับในด้านบวกจากผู้ชมรวมถึงศิลปินตัว top อย่าง Taylor การออกงานใหญ่ของ Justin จึงไม่ดูเป็นประเด็น controversial ใหญ่โต

แต่ก็มีคนจุดประเด็นดราม่าตามมา จากวีดีโอที่เผยภาพการสนทนาของ Megan และ Justin หลังเวทีที่ทำให้ให้ชาวเน็ทฟันธงว่า  แร็พเพอร์สาวออกอาการเดือดจัดจากการโต้เถียง  และบางคนก็เตรียมพร้อมจะโจมตี JT แล้ว แต่ก็มีแหล่งข่าวกระซิบบอกสื่อดังว่า นี่เป็นการตีความจากคลิปที่มีความยาวเพียงไม่กี่วินาที   Megan เพียงแต่ตื่นเต้นดีใจที่ได้พบกับหนุ่มบอยแบนด์ที่ชื่นชมและสภาพแวดล้อมรอบข้างก็เต็มไปด้วยเสียงรบกวนจนเธอทำให้เธอออกท่าทางที่ดูร้อนแรง   ที่จริงแล้วเขาเพียงแต่ทักทายเธอว่า ยินดีที่ได้รู้จักและเธอก็ตอบกลับรัวๆว่า ไม่นะ นี่ไม่นับว่าเป็นการพบกัน เราต้องเจอกันในที่ๆเหมาะกว่านี้"  ส่วนการโต้เถียงเผ็ดร้อนนั้นเป็นสิ่งที่ชาวเน็ทจินตนาการไปเอง

ล่าสุด Meg ก็ได้โพสต์คลิปที่อยู่กับ JT เพื่อเคลียร์ข่าวลือชัดๆว่า  พวกเค้าไม่ได้มีปัญหากันตามที่มีคนเข้าใจ  และเธอเป็นคนที่พูดจาผ่านการออกมือไม้เป็นเรื่องปกติ   ที่จริงใน award show ก็มีการจุดประเด็นดราม่าแบบนี้ให้เห็นตลอด  ทั้งๆที่เป็นภาพที่ปรากฏเพียงไม่กี่วินาที  และไม่ได้สื่อให้เห็นเหตุการณ์ปะติดปะต่อกัน  หลายคนก็ปักใจเชื่อแล้วว่าคนดังออกอาการเหวี่ยง  บางคนอาจจะขมวดคิ้ว หรือตกใจกับอะไรบางอย่างจนแสดงสีหน้าแปลกๆ  แต่ก็ถูกอ่านภาษาร่างกายในแง่ลบ    

 Selena Gomez เป็นอีกคนที่ถูกดึงไปพัวพันกับดราม่าหน้าเหวี่ยง  หลังจากที่ชาวเน็ทเชื่อว่า เธอมองแรงและเบ้ปากเมื่อได้ยินการประกาศชื่อ Chris Brown เข้าชิงรางวัล Best R&B  และทำให้เกิดกระแสวิจารณ์ทั้งเห็นดีเห็นงามและโจมตีการแสดงสีหน้าของเธอ  ซึ่งในเวลาต่อมา Selena ก็ได้โต้ตอบว่า เธอไม่ยอมเป็น meme อีกต่อไป  และขอนั่งนิ่งๆไปเลย แทนที่จะถูกโจมตีเพียงเพราะเธอแสดงความเป็นตัวของตัวเอง

เป็นเรื่องปกติที่เราจะได้เห็นเซเลบถ่ายรูปคู่กัน award shows ภาพของ Taylor ที่ดูสนุกสนานกับการ hangout กับคนอื่นๆนั้นทำให้เธอถูกยกให้เป็นแขกคนดังที่มีเสน่ห์ที่สุดในงาน

เธอได้ที่นั่งข้าง Ice Spice ซึ่งทั้งสองคุยมุ้งมิ้งกันยาวๆ จนสื่อจุดประเด็นว่า เรื่องอะไรที่ทำให้พวกเธอหัวเราะฮิฮะอิ๊อ๊ะ?

สื่อยังรายงานว่า ภาพที่ไม่ได้ปรากฏในจอคือกพูดคุย Lil Nas X และ Kelsea Ballerini ที่นั่งด้านหลังอย่างเปี่ยมไมตรี รวมถึงเซเลบอีกหลายคนที่เข้ามาทักทาย

ไม่เพียงแต่จะเป็นศิลปินทรงอิทธิพลในวงการที่ใครต่อใครอยากจะกระทบไหล่ เธอยังมีเพื่อนซี้เป็น superstar เหมือนกัน  ถ้าบอกว่าเป็น power bestie ก็คงไม่เกินไป  เวลาผ่านไปสิบกว่าปี  Selena และ Taylor ก็ยังดูแนบแน่นไม่เปลี่ยน แฟนๆต่างประทับใจเมื่อได้เห็นโมเมนท์ที่ Selena ขึ้นไปรับรางวัล Best Afrobeats Video ร่วมกับ Rema จากผลงานยอดนิยม 'Calm Down'  Taylor ก็ลุกขึ้นเชียร์ด้วยความดีอกดีใจและกระตุ้นให้คนรอบตัวยืนขึ้นเพื่อร่วมแสดงความยินดีกับเพื่อนซี้  กลับกัน เมื่อ Taylor ได้รับรางวัล  Selena ก็ยืนขึ้นพร้อมกับเผยรอยยิ้มปลื้มปริ่ม

สถานะดาวเด่นของงานก็ทำให้ถูกจับจ้องด้วยสายตาจับผิดเช่นกัน ยกตัวอย่างที่ไม่ปรากฏภายคู่กับ Olivia Rodrigo ที่มีเสียงร่ำลือว่าพวกเธอมีความขัดแย้งกัน รวมถึงทฤษฎีจากชาวเน็ทว่า เพลง Vampire มีท่อนที่โจมตี Taylor (เจ้าของเพลงบอกว่า ไม่อยากให้คนฟังโฟกัสเรื่องเพลงของเธอเกี่ยวข้องกับใคร และประหลาดใจที่ผู้คนสันนิษฐานกันไปแบบนั้น และที่จริงแล้ว หลายคนก็เห็นพ้องต้องกันว่า เพลงนี้เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ที่ผู้ชายที่อายุมากกว่า gaslight) แต่เมื่อ Tay ได้ยินเสียงประกาศการแสดงของ Olivia ก็ยกมือปรบมือเหนือศีรษะอย่างชอบใจ

ถึงจะมีคนหิวกระหายอยากเสพดราม่าและพยายามตีความหมายจากการแสดงออกของพวกเธอ แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะฟันธงเรื่อง 'beef' จากการเข้าร่วม award show 

กอดทักทาย Nicki Minaj ที่เดินพรมชมพูติดๆกัน และ hangout ด้วยความชื่นมื่นในงาน มีคนตั้งข้อสังเกตว่า ศิลปินทั้งสองเคยมีความขัดแย้งกันจากการแสดงความเห็นใน social media มาก่อน แต่ที่จริงดราม่ามันจบอย่างรวดเร็วด้วยคำขอโทษ และไม่ได้จองเวรกันยาวเพราะพูดผิดหูกัน หลังจากนั้นก็พูดในแง่ดีถึงกันมาโดยตลอด เมื่อเจอหน้าในอีเวนท์ก็มี positive energy เห็นได้จาก VMAs ปีที่แล้วก็กอดกันแน่นๆกลางเวที ที่จริงเราหลงลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าสองคนนี้มีดราม่าแบบเล็กๆ หลายปีก่อน

ออร่าสาวเนื้อหอมมาเต็ม  จริงๆ Tay ไม่ต้องไปร่วม after party เพื่อร่วมสนุกกับแขก VIP หลังเลิกงานนี้  ก็ดูเหมือนว่าเธอจะลัลล้าสุดเหวี่ยงตรงที่นั่งผู้ชมอยู่แล้ว    ภาพลักษณืเพื่อนสาวพลังงานเยอะกลายเป็น signature ทำให้ใครๆคาดหวังจะเห็นเธอจะลุกขึ้นเต้นแรงกว่าคนอื่นได้แทบทุกเพลง   วันหนึ่ง หาก Tay ชมการแสดงแบบนั่งเงียบๆ เน้นลุคสวยเริ่ดเชิด ก็คงได้รับเสียงถามไถ่ว่าเธอกำลังเจอกับปัญหาชวนหนักอกหนักใจรึเปล่า?

Times magazine ยกให้ Bongos ของสองสาวแร็พเพอร์เป็นการแสดงที่สร้างความรื่นเริงบันเทิงใจที่สุด  จริงๆ ได้ยินแค่ชื่อ ชาวเน็ทก็คงรู้เลยว่า การเปิดตัวโพรโมทผลงานใหม่ของพวกเธอจะไม่มีคำว่าจืดชืด   นับตั้งแต่ที่  Cardi โรยตัวลงมาจากด้านบน  เสียงกลองโดดเด่น จนมาถึงการเต้นที่ได้รับอิทธิพล Afro-Latina  งานนี้เรียกได้ว่าพวกเธอ kill it !   ส่วนตัวแล้ว เรามองว่า ผลงานที่ได้การนำเสนอ root ของตัวเองผ่านการแสดงดนตรีนี้ดูโดดเด่นกว่าเพลงฮิตอย่าง WAP ซะอีก ลองสำรวจ reaction จากผู้ชมแล้ว  ฝั่งละตินเค้าเข้ามาอินกันไม่น้อยเลย หลายคนแสดงอาการปลื้มเพราะมั่นใจว่าเพลงนี้ได้รับอิทธิพลมาจาก Brazilian funk ผสมผสานกับ Dominican Dembow  ซึ่งเหมือนกับการประกาศ era ใหม่ที่จะไม่ย้อนรอยสูตรสำเร็จของ WAP