ปีใหม่ ร่างใหม่! ชวนมาปั้นหุ่นสวยรับปีใหม่ ด้วยเคล็ดลับปั้นหุ่นปังจากคุณหมอ 8 ท่าน

12 11

ปีใหม่หุ่นฉันต้องปัง ร่างต้องเป๊ะ!! ไหนใครตั้ง New Year Resolution ต้อนรับปีใหม่ว่าอยากจะดูแลตัวเองให้หุ่นเพียวร่างเล็กลงกันบ้าง? เพราะเชื่อว่านี่คือหนึ่งความตั้งใจของหลายคนที่อยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดูดีขึ้น รวมถึงการมีสุขภาพที่ดี และรูปร่างที่ดูดีขึ้น


ในช่วงต้นปีนี้ มาเตรียมนับถอยหลังรับร่างใหม่ไปด้วยกัน ขอพาทุกคนมารู้จักเคล็ดลับปั้นหุ่นปัง ด้วยการพาเหล่าผู้รู้ตัวจริงหรือคุณหมอทั้ง 8 ท่านจากคลินิกชั้นนำ มาแนะนำเทคนิค เคล็ดลับหุ่นปัง หุ่นดี รูปร่างเริ่ดขึ้นในรูปแบบที่ยั่งยืน ปลอดภัยกัน

หุ่นดีคืออะไร แค่ไหนถึงเรียกว่า “หุ่นดี?”

ใครๆ ก็พูดว่าอยากมี “หุ่นดี” แต่คำว่าหุ่นดีในความหมายของแต่ละคนคืออะไรกันบ้าง? เชื่อว่าหลายคนคงให้ความหมาย หรือคำนิยามของคำว่าหุ่นดีแตกต่างกันไป แต่ขอยกคำว่าหุ่นดีที่คุณหมอให้คำนิยามมากัน

หุ่นดีไม่ควรยึดติดแค่ตัวเลข

“ในมุมมองของหมอ คำว่า หุ่นดี ไม่ได้หมายถึงตัวเลขบนตาชั่ง หรือการมีรูปร่างที่ผอมเพรียวเสมอไป แต่คือการมีร่างกายที่เฟิร์ม ดูกระชับ และสมส่วน พร้อมสุขภาพที่ดีจากภายใน 


ยกตัวอย่างง่ายๆ ถ้าไขมันลดลง กล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น แม้น้ำหนักจะเท่าเดิม แต่รูปร่างของเราดูเฟิร์ม กระชับมากขึ้น นั่นแสดงให้เห็นว่าร่างกายกำลังเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี ดังนั้นการดูแลหุ่นให้ดีจึงไม่ควรยึดติดแค่กับตัวเลข แต่ควรโฟกัสที่ความแข็งแรงและสมดุลของร่างกายมากกว่า”

รู้ได้ยังไงว่า “หุ่นดี” แล้ว?

สิ่งที่บ่งบอกว่าเรามีหุ่นที่ดี อาจพิจารณาได้จากหลายๆ ปัจจัย เช่น

  • อัตราส่วนของไขมันในร่างกาย (Body Fat Percentage) 
    การมีไขมันในร่างกายในปริมาณที่เหมาะสม โดยที่ไม่สูงเกินไปจนเสี่ยงต่อโรคเรื้อรัง 

  • มวลกล้ามเนื้อ (Muscle Mass) 
    การมีกล้ามเนื้อที่เพียงพอ ช่วยให้ร่างกายทำงานได้ดีขึ้น เช่น การเผาผลาญพลังงานที่สูงขึ้น และทำให้มีการเคลื่อนไหวที่คล่องตัว

  • สุขภาพทั่วไป (Overall Health)
    ไม่มีภาวะที่เกี่ยวข้องกับโรคทางพันธุกรรมหรือโรคที่เกิดจากการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น ภาวะเสี่ยงจากการนั่งนานเกินไป การรับประทานอาหารที่ไม่สมดุล

และเราสามารถเช็คร่างกายง่ายๆ ได้ด้วยวิธีดังนี้


  • วัดได้จาก Body Mass Index (BMI) 
    วิธีคำนวณ BMI ในการหาค่าดัชนีมวลกาย = น้ำหนักตัว [กิโลกรัม] ÷ ส่วนสูง [เมตร] ยกกำลังสอง
    BMI โรคอ้วน > 25 แต่ค่า BMI ไม่สามารถใช้ได้กับทุกคน อย่างเช่น นักกีฬาเพาะกาย ที่จะมีค่า BMI มากกว่าปกติ

  • Body Composition Analyzer     
    เครื่องมือที่ใช้วัดมวลร่างกายตามโรงพยาบาล สามารถ Analysis เรื่องของน้ำ, ไขมัน, Body Fat หรือกล้ามเนื้อได้

เคล็ดลับการลดน้ำหนักแบบยั่งยืน

เมื่อพูดถึงการอยากมีหุ่นที่ดีขึ้น สุขภาพร่างกายที่ดีขึ้น แน่นอนว่าต้องตามมาด้วยวิธี “การลดน้ำหนัก” แต่สิ่งสำคัญของการลดน้ำหนัก ไม่ใช่แค่การสนใจตัวเลขที่ลดลงบนหน้าปัดเท่านั้น แต่ต้องเลือกวิธีการลดน้ำหนักที่ดี และลดน้ำหนักแบบยั่งยืน รวมถึงปลอดภัยต่อสุขภาพด้วย

ทำความรู้จักกับฮอร์โมนในการควบคุมการทานอาหาร

จะเห็นได้ว่าการรับประทานอาหารมีผลต่อน้ำหนัก และสุขภาพโดยรวมเป็นอย่างมาก หากเราสามารถควบคุมการรับประทานอาหารได้ก็จะเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ และเห็นผลในระยะยาว พฤติกรรมการทานอาหารจุบจิบ หิวบ่อย เป็นสิ่งหนึ่งที่อาจแสดงออกจากการรักษาสมดุลของฮอร์โมนหิว-อิ่มในร่างกาย ทำงานได้ไม่ดีพอ


โดยสมองเองมีบทบาทสำคัญในการควบคุมการรับประทานอาหารผ่านศูนย์หิว ศูนย์อิ่ม โดยมีฮอร์โมนที่ส่งสัญญาณเชื่อมต่อระหว่างสมองกับระบบทางเดินอาหาร เช่น ตื่นนอนในตอนเช้า ร่างกายต้องการพลังงาน กระเพาะอาหารหลั่งฮอร์โมนเกรลิน ทำให้รู้สึกหิว และเมื่อรับประทานอาหารแล้ว ลำไส้เล็กหลั่งฮอร์โมน GLP-1 ทำให้รู้สึกอิ่ม 


จะเห็นได้ว่า "โรคอ้วน" นับเป็นโรคอย่างหนึ่งที่เกิดได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งในปัจจุบันมีการนำฮอร์โมน GLP-1 มาพัฒนาช่วยในการรักษาโรคอ้วน หรือหลายคนเรียกให้เข้าใจง่ายๆ ว่า ฮอร์โมนคุมหิว เนื่องจากมีโครงสร้างคล้ายกับฮอร์โมน GLP-1 (Glucagon Like Peptide-1) ซึ่งเป็นฮอร์โมนอิ่มที่เรามีอยู่แล้วในร่างกายตามธรรมชาติ  ช่วยควบคุมความอยากอาหาร โดยออกฤทธิ์ทำให้อิ่มเร็วขึ้น อาหารย่อยและดูดซึมช้าลง ค้างอยู่ในกระเพาะนานขึ้น จึงทำให้อิ่มนาน และคุมความหิวให้ลดลง

พาส่องเทคนิคการลดน้ำหนักแบบยั่งยืน และปลอดภัย

จาก 8 คุณหมอที่ส่งตรงมาจากคลินิกชั้นนำทั่วประเทศไทย

เลือกทานอาหารที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์

“ควรทานอาหารให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ เช่น ถ้าเป็นพนักงานออฟฟิศที่ไม่ค่อยได้มีช่วงเวลาที่ต้องขยับตัว ควบคุมเรื่องอาหาร หันมาเลือกทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ รวมทั้งอาหารกลุ่มโปรตีน ร่วมกับอาหารคาร์โบไฮเดรต โดยแนะนำให้เลือกทานเป็น Low Carbohydrate คาร์โบไฮเดรตน้อยๆ แต่มีไฟเบอร์เยอะๆ เช่น ผัก ผลไม้ที่ค่าดัชนีน้ำตาลไม่สูงเกินไป” 

โดยคุณหมอได้แนะนำเทคนิควิธีการกินหลากหลายแบบ เพื่อเลือกให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ และไม่ให้กดดันตัวเองมากเกินไปในการลดน้ำหนัก

  • Intermittent Fasting (IF)
    วิธีการทำ IF อาจจะไม่ได้เหมาะสำหรับทุกคน เช่น คนขาดสารอาหาร ขาดฮอร์โมน หรือมีภาวะต่อมหมวกไตล้า โดยการทำ IF ให้ได้ผลดี แนะนำให้มีระยะเวลาที่ไม่รับแคลอรี่นานพอ เช่น 16 ชั่วโมงขึ้นไป 

  • Ketogenic diet 
    วิธีไดเอตแบบคีโตมีข้อห้ามในการกินของคนบางประเภทอยู่ 

  • การนับแคลอรี่ 
    เป็นอีกเทคนิคที่ดี แต่ต้องดูจากหลายๆ ปัจจัยด้วย เช่น ส่วนสูง น้ำหนัก กิจวัตรประจำวันของแต่ละคน

ดังนั้นควรเลือกการทำแต่ละเทคนิคให้เหมาะสมของแต่ละคน หลักๆ ที่คุณหมอแนะนำคือทานอาหารครบ 5 หมู่ รวมถึงทานธัญพืช ทานอาหารที่มี Process น้อย และหลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป

ขยับตัว และออกกำลังกายบ่อยๆ  

คนที่ทำงานแล้วไม่ค่อยได้ขยับตัวบ่อย แนะนำให้แบ่งการออกกำลังกายเป็น Weight Training ควบคู่กับ Cardio จะช่วยในเรื่องของการเผาผลาญพลังงานได้ดี และควบคุมน้ำหนักได้ง่าย

“หมอไม่ได้มองว่าคนอ้วนหรือไม่อ้วนจะสวยหรือไม่สวย แต่หมอให้ความสำคัญในเรื่องของสุขภาพ เพราะสิ่งที่จะตามมาหลังจากเป็นโรคอ้วนก็มักจะมีโรคแทรกซ้อนอื่นๆ ตามมา  ดังนั้นควรดูแลรักษาสุขภาพ ควบคุมน้ำหนักตัวเองให้ดี รวมถึงการมี Mindset ที่ดี ต้องมีความตั้งใจในการลดน้ำหนักจริงๆ”

ลดน้ำหนักที่ดี ไม่จำเป็นต้องอดอาหารเสมอไป 

“สิ่งที่คนมักเข้าใจผิดเกี่ยวกับการลดน้ำหนัก คือ การงดอาหารประเภทแป้ง หรือเนื้อสัตว์ ซึ่งไม่ควรทำ เพราะอาจทำให้ร่างกายขาดสารอาหารที่จำเป็น สิ่งที่ควรทำคือควรควบคุมปริมาณอาหาร และเลือกทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบ 5 หมู่ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่สมดุล สามารถเผาผลาญไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ”


ชอบกินจุกกินจิก มีตัวช่วยแก้ได้

ปัญหาใหญ่ของใครหลายคนที่กินไม่เป็นเวลา ชอบกินจุกจิก หรือติดกินดึก จนเป็นที่มาของหนึ่งในปัญหาที่ทำให้อ้วนขึ้นได้ง่ายๆ ซึ่งคุณหมอได้ให้คำแนะนำไว้ว่า 


“คนที่ชอบกินดึก หรือกินจุกจิกเป็นนิสัย เชื่อว่าการปรับเปลี่ยนนิสัยอาจจะยากพอสมควร สำหรับใครที่ต้องการแก้ปัญหานี้อย่างจริงจัง ทางการแพทย์มีตัวช่วยที่สามารถควบคุมความหิวได้โดยตรง นั่นก็คือ ฮอร์โมนคุมหิว ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับฮอร์โมน GLP-1 ช่วยสื่อสารกับสมองว่าร่างกายรู้สึกอิ่ม ไม่อยากอาหาร”


ข้อดี ของการใช้ฮอร์โมนคุมหิวนี้ คือ ช่วยลดความอยากอาหารในระยะสั้นได้ ในบางกรณีอาจช่วยให้การควบคุมพฤติกรรมการกินในระยะยาวมีความยั่งยืนมากขึ้น

ข้อเสีย ช่วงแรกอาจมีผลข้างเคียง เช่น คลื่นไส้ ท้องอืด แน่นท้อง ที่สำคัญต้องเลือกซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ 


แต่อย่าลืมว่าฮอร์โมนคุมหิวเป็นเพียงตัวช่วยเสริม ไม่ควรใช้เป็นวิธีเดียวในการลดน้ำหนัก ควรปรับพฤติกรรมการกิน และออกกำลังกายควบคู่กันเพื่อผลลัพธ์ที่ยั่งยืน

เลือกทานอาหารให้เหมาะสม

  • ตัดของหวาน 
    เช่น ขนมหวาน ครัวซองต์ ขนมเค้ก เครื่องดื่มที่มีรสหวาน ขนมขบเขี้ยว หรือขนมซองให้น้อยลง 

  • ทานอาหารที่มีกระบวนการแปรรูปน้อยๆ 
    เลือกทานอาหารประเภท ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวกล้อง หรือตระกูลที่ให้เส้นใยอาหารเยอะ เช่น ถั่ว ธัญพืช ผักใบเขียว ผักสลัด เป็นต้น 

  • เน้นเลือกทานโปรตีน
    เลือกทานอาหารที่มีโปรตีน เช่น ไข่ ไก่ หมู ปลา เนื้อ เต้าหู้ เป็นต้น

  • เลือกช่วงเวลาในการทานให้เหมาะกับตัวเอง
    จัดเวลาตัวเองให้ทานไม่เกิน 3 มื้อต่อวัน และไม่ควรทานจุกจิก

ดูแลตัวเองทั้งร่างกาย และจิตใจ

  • นอนไว 
    ควรจัดสรรเวลานอนให้ดี และเป็นเวลา เช่น ควรนอนก่อน 4 ทุ่ม - 5 ทุ่ม เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่

  • จัดการความเครียด 
    หาเวลาพักให้ตัวเอง เนื่องจากความเครียดเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้น้ำหนักเปลี่ยนแปลงง่าย หิวบ่อย บวมง่าย

รู้จักตัวเองก่อน เพื่อหาทางลดน้ำหนักที่ถูกต้อง

  • รู้จักปัญหาสุขภาพของเราก่อน
    บางคนคิดว่าตัวเองน้ำหนักขึ้น อ้วนขึ้น เลยมักจะไปจัดการด้วยวิธีการรักษาเลย แต่แนะนำว่าให้รู้จักปัญหาสุขภาพของเราก่อน เพื่อจะได้เดินทางไปสู่การรักษาการลดน้ำหนักที่ถูกต้องมากขึ้น

  • ลดน้ำหนักไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายหักโหม
    การลดน้ำหนักไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายในรูปแบบที่หนักเกินจนหักโหม โดยหากเราปรับเรื่องอาหารให้เหมาะกับตัวเอง เป็นสิ่งที่น่าจะช่วยเรื่องการลดน้ำหนักได้มากกว่า

ตั้งเป้าหมายลดน้ำหนัก ที่ไม่ใช่แค่เรื่องของตัวเลข

การตั้งเป้าหมายในการลดน้ำหนัก อาจจะไม่ใช่แค่เรื่องของตัวเลขที่เปลี่ยนแปลงไป หรือสัดส่วนที่ลดลง แนะนำให้ลองตั้งเป้าหมายเป็นอย่างอื่น เพื่อให้องค์ประกอบในร่างกายของเราที่มันเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น เช่น สุขภาพที่ดีขึ้น ผลน้ำตาลดีขึ้น ไขมันดีขึ้น สุขภาพจิตดีขึ้น ฟังก์ชันการทำงานดีขึ้น นอนหลับดีขึ้น ประจำเดือนมาปกติขึ้น ก็ถือว่าลดน้ำหนักสำเร็จแล้ววว!

การลดน้ำหนักไม่สามารถทำได้ด้วยตัวเองเสมอไป ถ้ารู้สึกว่าเราลองเต็มที่แล้ว แต่อาจจะยังไม่ประสบความสำเร็จ ดังนั้นการที่เราเลือกพบแพทย์ก็จะได้ทราบถึงสาเหตุ และรักษาได้อย่างตรงจุดมากขึ้น

การลดน้ำหนักที่ดีต้อง “สม่ำเสมอ”

หัวใจสำคัญของการลดน้ำหนักคือ “ความสม่ำเสมอ” ด้วยการที่เราค่อยๆ ปรับ อย่างค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป ปรับให้เป็นพฤติกรรมที่สามารถทำได้ทุกวัน และเน้นความสม่ำเสมอในระยะยาว จะเป็นเทคนิคการลดน้ำหนักที่ยั่งยืนมากกว่า


  • การจัดจานอาหาร Balance Diet  
    แนะนำให้เลือกทานอาหารต่อมื้อที่มีผัก 50% โปรตีนที่ดี 25% คาร์โบไฮเดตเชิงซ้อน 25% และควรหลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป เช่น น้ำตาล หรือไขมันทรานส์ 

  • ทานอาหารแบบ Mindful Eating
    อีกหนึ่งวิธีคือการทานอาหารแบบมีสติ เพื่อให้ร่างกายรับรู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ รู้ว่าตอนนี้หิวอยู่ ตอนนี้หายหิวแล้ว เพื่อให้เรากินแบบพอดีๆ เป็นวิธีฝึกสติ ลดความเครียด ให้เราอยู่กับปัจจุบัน 

  • ตรวจภูมิแพ้อาหารแฝง 
    สำหรับบางรายแนะนำให้ตรวจภูมิแพ้อาหารแฝง เช่น บางคนทานถั่วเข้าไปแล้วมันจะไม่ได้แพ้แบบบวม หรือผื่นขึ้น แต่มันจะทำให้เราอ้วนง่ายขึ้น และทำให้เราย่อยยากกว่าปกติก็เป็นได้ 

การนับแคลอรี่ไม่ได้เหมาะกับทุกคน

เนื่องจากบางคนมีวินัย นับว่ากินอะไรบ้างต่อวันแล้วคำนวณให้มันไม่เกินแคลอรี่ จนมีแคลอรี่ที่ร่างกายรับไปในปริมาณที่เหมาะสม แต่สำหรับบางคนอาจจะใช้วิธีการนี้จนเกิดความเครียด ทำให้ใช้ชีวิตลำบากขึ้นจนล้มเลิกในที่สุด ดังนั้นควรเลือกวิธีที่เหมาะกับตัวเอง เพราะทุกวิธีต้องอาศัยความต่อเนื่องและมีวินัย และทุกวิธีมีข้อดีหรือข้อเสียแตกต่างกัน ไม่มีวิธีไหนเป็นคำตอบเดียวสำหรับทุกคน 


สำหรับใครที่มีปัญหาโรคอ้วน ต้องพยายามหาทางลดน้ำหนักกันเพื่อสุขภาพที่ดี สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องมีวินัย ไม่ว่าคุณจะใช้วิธีอะไรก็แล้วแต่ เช่น ลดด้วยตัวเอง ปรับพฤติกรรมอาหาร การกิน การออกกำลังกาย การใช้ตัวช่วยอื่นๆ หรือการพบแพทย์ ซึ่งความมีวินัยสำคัญมาก เราถึงจะได้น้ำหนักที่เหมาะสม มีสุขภาพดี มีจิตใจที่ดี และมีจิตวิญญาณที่ดี

การลดน้ำหนักคือต้องทำ Output มากกว่า Input 

Input : เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์
  • อาหารที่ควรรับประทาน
    ควรเลือกทานอาหารครบ 5 หมู่, คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน, คาร์โบไฮเดรตที่แปรรูปน้อยที่สุด ส่วนพวกแป้ง ขนมปัง ก๋วยเตี๋ยว ข้าวขัดสี เป็นอาหารที่ควรหลีกเลี่ยง

“โปรตีน” สิ่งที่คนลดน้ำหนักควรโฟกัส

โปรตีนเป็นสิ่งที่คนลดน้ำหนักควรโฟกัส เพราะถ้าโปรตีนของเราไม่ถึง เมื่อช่วงที่เราน้ำหนักลด มันจะมีการนำโปรตีนในกล้ามเนื้อมาใช้ ทำให้กล้ามเนื้อเราสลาย หรือส่งผลต่อระบบเผาผลาญในระยะยาวได้ ดังนั้นโปรตีนควรกินเป็น 1-1.5 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม 
  • เลือกทานไขมันจากสัตว์ 
    ไขมันจากสัตว์ เป็นไขมันที่ทำให้ร่างกายเรามีคอเลสเตอรอลเพื่อมาใช้กับฮอร์โมนได้ ซึ่งฮอร์โมนที่สร้างจากคอเลสเตอรอล เช่น ฮอร์โมนเพศ ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่จะต้องเลือกกินบ้าง ทั้งนี้ทั้งนั้นควรเลือกทานไขมันที่ดี เช่น Fish Oil, โอเมก้า3, โอเมก้า6 หรือเลือกทานน้ำมันมะกอกแทนน้ำมันทานตะวัน

Output : ออกกำลังกายให้นานพอ
การออกกำลังกายที่ช่วยเบิร์นไขมันได้ดี ควรเป็นการออกกำลังกายที่ความหนักปานกลาง และที่สำคัญควรออกกำลังกายที่มีความต่อเนื่อง และนานมากพอ เช่น ควรออกกำลังกายนานเกิน 30 นาทีขึ้นไป 


สังเกตตัวเองบ่อยๆ

ควรสังเกตตัวเอง บางคนคุมอาหารดี ทำทุกอย่างดี แต่น้ำหนักไม่ลดลงสักที ซึ่งอาจจะมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องโรคต่างๆ ด้วย ดังนั้นเมื่อเจอปัญหาแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อน

  • นอนน้อยทำให้อ้วนได้
    เนื่องจากเวลาที่เรานอนน้อย ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล หรือฮอร์โมนแห่งความเครียด มันจะทำให้น้ำตาลในเลือดสูง ซึ่งในระยะยาวมันจะให้เราอ้วนได้ ดังนั้นควรนอนเร็ว และพักผ่อนให้เพียงพอ

  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ
    กลไกในการเผาผลาญร่างกายของเราใช้น้ำด้วย ดังนั้นควรดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอต่อปริมาณที่ร่างกายต้องการ

“อยากเป็นกำลังใจให้คนที่ลดน้ำหนักทุกคน เราสามารถทำได้ เพียงแค่เราเชื่อในศักยภาพของตัวเอง การลดน้ำหนักมันไม่ใช่สิ่งที่ทำวันนี้แล้วเห็นผลเลย ถ้าเราทำสะสมแล้วมันจะเห็นผลเอง สู้ๆ”

อย่าลดน้ำหนักด้วยวิธีการอดอาหาร 

เมื่อไหร่ก็ตามที่เราอดอาหาร น้ำหนักลดน้อยลงก็จริง แต่มันจะมีปัญหาในเรื่องของระบบเผาผลาญพลังงานไปด้วย ร่างกายจะรู้สึกว่าเราขาดอาหาร มันจะลด BMR (Basal Metabolic Rate) หรืออัตราการเผาผลาญแคลอรี่ขั้นต่ำที่ร่างกายต้องใช้ในชีวิตลง พอเรากลับมากินอาหาร มันจะทำให้ร่างกายเราเกิดการสะสมอาหารเกิดขึ้น เพราะมันเข้าใจว่าเราขาดแคลนอาหาร มันก็จะไม่เผาผลาญพลังงานอาหารที่เรากินเลย จนเกิดเป็น “โยโย่เอฟเฟ็กต์” ได้


อย่าคิดว่าการทำ IF คือการกินอะไรก็ได้

หากเรากินอาหารที่มีแคลอรี่มากๆ เช่น น้ำตาล ไอศกรีม ขนมหวาน หรือของมัน ของทอด สุดท้ายแล้วปริมาณแคลอรี่รวมแต่ละวันมันก็จะเกินค่าพลังงานของเรา ทำให้เราไม่ประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนัก ดังนั้นการทำ IF ควรเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ และก็ควบคุมแคลอรี่ให้ได้ด้วย

อย่าคุมอาหารโดยไม่คำนวนโปรตีนในแต่ละวันที่เราต้องการ

แนะนำว่าอย่าคุมอาหารโดยไม่คำนวนโปรตีนในแต่ละวันที่เราต้องการ เช่น สมมติเรามีน้ำหนัก 60 กก. เราเลือกคุมอาหารโดยที่ไม่ทานน้ำตาล ไม่ทานอาหารเยอะ แต่ไม่ได้ดูปริมาณโปรตีนในแต่ละวันเลย ว่าร่างกายของเราจะต้องใช้โปรตีนในแต่ะละวันเท่าไหร่ มันจะทำให้ร่างกายดึงกล้ามเนื้อออกไปใช้เป็นพลังงานแทน เมื่อไหร่ก็ตามที่กล้ามเนื้อมันหายไปเรื่อยๆ มันจะทำให้เรามีปัญหาโยโย่ได้ในอนาคต ซึ่งโปรตีนที่เหมาะสมกับเราควรมีโปรตีนมากกว่า 1 กรัมต่อกิโลกรัม สามารถเลือกทานได้จากพวกเนื้อสัตว์ เนื้อปลา ไข่ไก่ ถั่ว เป็นต้น


ทางเลือกของคนลดน้ำหนัก

การเลือกใช้ตัวช่วยต่างๆ เช่น ฮอร์โมนคุมหิว หมอมองว่าก็เป็นอีกทางเลือกนึงสำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนัก อาจจะเป็นกลุ่มคนที่พยายามลดน้ำหนักด้วยตัวเองแล้ว พยายามคุมอาหาร หรือออกกำลังกายแล้ว ค่อนข้างปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียงที่ทำให้เรามีปัญหาในการใช้ชีวิต เช่น นอนไม่หลับ ประสาทหลอน ทางด้านอารมณ์ก็ไม่ได้มีผลกระทบอะไร แต่ควรขึ้นอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ด้วย


ฮอร์โมนคุมหิว หรือฮอร์โมนที่เลียนแบบฮอร์โมนอิ่ม ไม่ได้การันตีว่าจะสามารถลดน้ำหนักได้ดีทุกคน เนื่องจากช่วยควบคุมความอยากอาหาร ทำให้เรารู้สึกอิ่มเฉยๆ แต่สิ่งที่สำคัญคือการที่เราควบคุมตัวเองด้วย และไม่สามารถใช้ได้กับกลุ่มคนไข้ที่เป็นโรคมะเร็ง ไทรอยด์


สิ่งสำคัญของการลดน้ำหนัก คือคนข้างๆ

“ชีวิตของคนเรามีช่วงการเดินทาง ไลฟ์สไตล์ และภาระที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้นสิ่งที่สำคัญในการลดน้ำหนักเลยคือ “กำลังใจ” ของตัวเราเอง และคนในครอบครัว เพราะการลดน้ำหนักมันไม่ใช่เรื่องของเราแค่คนเดียว แต่มันเป็นเรื่องของคนรอบข้างด้วย ดังนั้นคนที่ต้องการจะลดน้ำหนัก เราอาจจะมีการเปลี่ยนแปลง Mindset ของคนรอบข้าง เขาจะได้ช่วยเรา ซัพพอร์ตเราได้ 


อย่างคนไข้ที่หมอดูแล เวลาที่เขามาปรึกษาเรื่องการลดน้ำหนัก หมอก็จะให้ชวนคุณสามี คุณภรรยามาด้วย เพื่อให้มาฟังรูปแบบในการลดน้ำหนัก รูปแบบในการออกกำลังกาย และรูปแบบในการใช้ชีวิตด้วยกัน พยายามปรับไปด้วยกันทั้งคู่”

เปลี่ยนพฤติกรรมการทานแบบยั่งยืนจะได้ไม่โยโย่

  • ไม่ลดน้ำหนักเร็วเกินไป
    การลดน้ำหนักที่เร็วเกินไป อาจทำให้ร่างกายไม่ได้ปรับตัว และส่งผลให้เกิดโยโย่ขึ้นได้ในอนาคต

  • เปลี่ยนพฤติกรรมการกินแบบยั่งยืน
    วิธีที่ดีที่สุดในการหลีกเลี่ยงโยโย่ คือ ต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการทานอาหารที่ยั่งยืน เลือกทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง

  • เน้นการควบคุมแคลอรี่แบบยืดหยุ่น
    ไม่จำเป็นต้องตัดขาดอาหารที่ชอบไปเลย แต่ควรทานในปริมาณที่พอเหมาะ จะช่วยให้ไม่รู้สึกเบื่อหน่าย และไม่เกิดการกินเกินพอดีจนทำให้น้ำหนักกลับขึ้นมา

  • ควบคุมความเครียด
    ความเครียดสามารถกระตุ้นให้ร่างกายปล่อยฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งอาจทำให้หิวบ่อยขึ้นและเพิ่มโอกาสในการกินอาหารไม่ดีเพื่อบรรเทาความเครียด

  • การปล่อยอิสระบ้างในบางครั้งบางวัน
    การลดน้ำหนัก และรักษาน้ำหนักให้คงที่ต้องใช้เวลาและความตั้งใจ ค่อยๆ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และมุ่งเน้นการใช้ชีวิตที่สมดุล คุณสามารถลดน้ำหนักและรักษามันให้คงที่ได้โดยไม่ต้องหักโหมหรือทำให้ตัวเองรู้สึกเครียดเกินไป

ทานอาหารเสริมโดยไม่ถูกต้อง อาจส่งผลเสียหลายอย่าง

การเลือกซื้ออาหารเสริมลดน้ำหนักโดยไม่ปรึกษาแพทย์ก่อนเป็นเรื่องที่ควรระมัดระวังอย่างยิ่ง เพราะการทานอาหารเสริมที่ไม่ได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญหรือแพทย์อาจส่งผลเสียหลายประการ ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งจะมีผลกระทบต่อสุขภาพได้ในหลายๆ ส่วน


  • ขาดการประเมินสภาพร่างกาย 
    การทานอาหารเสริมลดน้ำหนักอาจไม่เหมาะสมกับสภาพร่างกายของแต่ละคน เช่น ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพต่างๆ เช่น โรคประจำตัว อาจมีผลข้างเคียงจากอาหารเสริมที่ไม่เหมาะสมกับสภาพร่างกายของตัวเองได้ หากไม่ปรึกษาแพทย์ อาจทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกายโดยไม่รู้ตัว

  • เสี่ยงต่อการใช้สารที่ไม่ได้รับการตรวจสอบ 
    อาหารเสริมบางชนิดอาจไม่ได้รับการตรวจสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น อย. ซึ่งอาจทำให้มีการปนเปื้อนของสารที่เป็นอันตราย หรือสารต้องห้ามที่อาจทำให้เกิดอาการแพ้หรือผลข้างเคียงร้ายแรงได้ การซื้ออาหารเสริมจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือทำให้ไม่สามารถมั่นใจได้ถึงความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์

  • ผลลัพธ์ที่ไม่ยั่งยืน 
    อาหารเสริมบางตัวอาจให้ผลลัพธ์ในระยะสั้น เช่น ลดน้ำหนักได้เร็ว แต่เมื่อลดการทานอาหารเสริมแล้วน้ำหนักก็กลับมาเพิ่มใหม่ หรือที่เรียกว่าโยโย่ได้ และบางครั้งอาจเกิดการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อแทนที่จะเป็นไขมัน ซึ่งเป็นผลที่ไม่ดีต่อสุขภาพระยะยาว เพราะมวลกล้ามเนื้อช่วยในการเผาผลาญไขมันในร่างกาย 

ดังนั้นก่อนการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการเพื่อทำการประเมินสภาพร่างกายและเลือกวิธีที่เหมาะสมและปลอดภัยกับตัวเอง โดยเฉพาะในกรณีที่มีโรคประจำตัวหรือปัญหาสุขภาพยิ่งต้องระมัดระวัง

และนี่คือเคล็ดลับ และเทคนิคจากคุณหมอทั้ง 8 ท่านที่มาแนะนำเรื่อง “การลดน้ำหนักแบบปลอดภัย และยั่งยืน” ให้กับเรา สิ่งสำคัญที่สุดของการลดน้ำหนักอย่างถูกวิธี แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อหาคำแนะนำเรื่องการลดน้ำหนักที่ถูกต้อง ปลอดภัย และยั่งยืน


รับรองว่าปีนี้! ใครทำตามเทคนิคนี้ของเหล่าคุณหมอ เตรียมประสบผลสำเร็จ เช็คลิสต์ New Year Resolution ที่ตั้งใจไว้ตั้งแต่ต้นปีได้แน่นอน!

#SPEAKOUT #SPONSORED


Comment

เขียนความเห็นได้เลยจ้า..

Recent comments ความคิดเห็นล่าสุด