เห่อ แป้งฝุ่น ตลับทองๆ YSL Semi-Loose Powder Natural Radiance + บอกเล่าเรื่องการเปลี่ยนของ

สวัสดีจ้า กระทู้นี้มาเห่อ แป้งฝุ่น ที่กว่าจะได้มันมาช่างลำบากยากเย็นแสนเข็ญ บวกกับมาแชร์ประสบการณ์เปลี่ยนของจาก Sephora ค่ะ 

 

 

เริ่มจาก คำโฆษณาของแป้งฝุ่นตัวนี้ 

 

ชื่อภาษาอังกฤษว่า YSL Semi-Loose Powder Natural Radiance ภาษาฝรั่งเศสเรียกว่า Poudre Sur Mesure

 

POUDRE SUR MESURE combines the convenience of a compact powder with the lightness of a loose powder. Thanks to its exclusive “Bright Pearl Complex” it brightens the complexion with a new radiance. Your complexion is evened-out and made matt in all transparency. Your skin remains supple all day long. 

 

All skin types. Tested under dermatological control. 

 

 

สำหรับแป้งฝุ่นตัวนี้ จะให้ลุค matte ค่ะ ตอนแรกแอบกลัวว่ามันจะออกมาไม่ดี เพราะฟามผิวแห้ง 

แต่พอปัดแล้ว จะให้ลุค matte แต่หน้าจะดูโกลว์ๆหน่อย แล้วก็ปรับผิวให้ดูกระจ่างขึ้นค่ะ

หลังจากได้ดู รีวิว แป้งฝุ่น อันนี้จากยูทูป ก็ถูกใจ หลงรักกับตัว ตลับแป้งมากๆๆๆ บวกกับอยากจะหาแป้งฝุ่นไม่ผสมชิมเมอร์มานานแล้ว ก็เลยไป Sephora สาขา ก แล้วกัน (ในเมืองฟามมี 2 สาขา ค่ะ) 

 

 

ไปถึง ก็บอก SA ลองให้ ลอง YSL กับ diorskin nude จริงๆ diorskin nude น่าจะตรงกับความต้องการกว่ามั้ง เพราะเนื้อแมท ไม่มีชิมเมอร์เลย

แต่ของ YSL จะมีชิมเมอร์หน่อยๆ ปัดบนหน้าจะพอเห็นบ้างแต่พองาม แต่ไม่เยอะ เว่อร์เกินไป 

(อีกอันที่หมายตาไว้ คือ poudre universelle libre Chanel ค่ะ แต่มันหมดสต็อกที่นี่ ก็เลย อดเลย T0T) 

 

 

ก่อนไป ไม่ได้หาข้อมูลเรื่องเฉดสีอะไรเลย ไปตัวเปล่า กะไว้ใจตัวเอง และ SA เต็มที่ แล้วสุดท้ายเป็นไงงงง ผิดหวัง  

 

 

SA เค้าลองสี #6 light apricot ให้ฟาม ในตัวตลับแป้งจะมีสองสีแยกกัน แต่เวลาปัด หมุนแป้งจะออกมาเท่าๆกันค่ะ 

แต่มันออก ส้มๆอมชมพูมากก แล้วฟามหน้าเหลืองงง ปัดทั้งหน้าก็เลยดำทมึฬเลย (อันนี้เพิ่งรู้ตอนกลับถึงบ้าน ส่องกระจก

เพราะตอนอยู่ใน Sephora ส่องกระจกแล้วยังดูโอเค สีเข้ากับหน้าดี ไม่ลอย ไม่คล้ำ 

 

อย่าหลงใหลไปกับคำชมของ SA เด็ดขาด 

อันนี้ตอนกลับมาบ้าน เห่อจัด รีบถ่ายรูปกล่อง จะเปิดดูตัวแป้ง ยังไม่ได้ส่องกระจก -"- 

 

กล่องทองๆ ดูดี สไตล์ YSL เค้าล่ะ

หลังจากเห่อถ่ายรูปเสร็จ ก็เปิดคอม นั่งหาข้อมูลเกี่ยวกับเฉดสีของแป้ง

เพิ่งมานึกเอะใจว่า เอ๊ะ เราดำถึงขนาดเบอร์ 6 เลยหรอเนี่ยย = ='' 

( ysl ตัวนี้มีทั้งหมด 6 เบอร์ค่ะ )

 

แต่จริงๆแล้ว เบอร์ 6 ก็ไม่ดำสุดนะ เพราะออกสีชมพู ตอนแรกก็ว่าจะเลยตามเลย แต่เดินไปส่องกระจกซะก่อน 

ก็เลยรู้เลยว่า ฉันต้องทำ ทำอะไรซักอย่างแล้วว(เพลงพี่ป้างมาเลย) ต้องกลับไปเปลี่ยนสีแป้งโดยด่วน > <

 

จากการหาข้อมูลในเนต รีวิวต่างๆ ก็คิดว่า สี #2 sand น่าจะเข้ากับผิวฟามมากกว่า ก็เลยหมายมั่นว่าจะไปเปลี่ยนเป็นสีนี้ให้ได้

แต่ก็สรุปว่า ที่ Sephora ไม่มีสีนี้เลย ไม่ว่าช้อปที่ไหน ในเมืองฟาม (และน่าจะฝรั่งเศสด้วยมั้ง) ไม่มีสี #2 เลย T0T

 

กลับบ้านด้วยความช้ำใจ คิดว่าจะเอาไงดี แป้งกระปุกแรกในชีวิตที่ซื้อเอง ต้องมาทำให้หน้าหมองหรอเนี่ย 

 

 

สุดท้าย ไม่รู้จะทำอะไร เลยไปอ่านรีวิวใหม่ ก็มีคนบอกว่า สี #1 ivory ตัวนี้ ออกแนวคล้ายๆ translucent

 

อ่านแล้วได้ดังนี้ก็เลยไม่รีรอ ไป sephora ให้เค้าลองสี #1  กับ สี #3 ให้ฟาม 

ลองที่มือ สี #3 เข้มกว่าผิวนิดหน่อย ส่วนสี 1 สว่างกว่าผิว 

ก็เลยขอให้ SA ลอง สี #1 บนหน้าฟาม ปรากฎว่า ไม่วอกอะไรเลยจริงๆ หน้าจะดูสว่าง กระจ่างขึ้นมากกว่า > <

 

ดีใจจจ จนลืมเชคของ กลับบ้าน เห่อๆ เปิดดูจะลองใช้ ปรากฎว่า ตลับแป้งเปิดยากมากก ต้องแงะ เล็บฉีกเลยทีเดียว T0T 

ตอนแรกปลงว่า คงเอากลับไปเปลี่ยนไม่ได้แล้ว เพราะเปลี่ยนมาแล้วครั้งนึง

แต่นะ ไหนๆของแพง ลองไปเปลี่ยนดู คงไม่เสียหายอะไร 

 

กลับไป sephora ช้อปที่ไปเปลี่ยนสีมา เจอ SA คนเดิม เค้า ไม่ยอมให้เปลี่ยน บอกว่า ของไม่มีตำหนิอะไร แค่เปิดยากนิดหน่อย (ไม่นิดหน่อยอะ ยากมากก)

แล้วก็แปรงเปื้อนแป้ง (เพราะฟามลืมใส่ที่ลองก่อนใส่แปรง แปรงก็เลยเปื้อน T^T)แล้วก็เปลี่ยนมาแล้วหนึ่งครั้ง 

 

เสียควาามรู้สึกหน่อย เมื่อวานพูดอย่างดี พอวันนี้ไปเปลี่ยนอีกที กลับเป็นคนละคน

 

ตอนที่คุยกันอยู่ มี SA อีกคนอยู่ด้วย คนนี้ พูดดีอะ เค้าก็แนะนำว่าให้ไปลองที่ sephora อีกช้อปนึงดูก็ได้ 

 

ตอนแรกฟามว่าจะไม่ไป เพราะขี้เกียจละ กลัวไปเสียเที่ยว ก็เลยกะว่าช่างมันเห๊อะะะ แต่มีเวลาว่างพอดี ก็เลยอ้ะ ไปลองดูก็ได้ 

 

ไปถึงเจอ SA ผู้ช กับ ผู้ญ สองคน เข้ามาถาม ฟามก็อธิบายไปว่า ตลับแป้งเปิดยากมาก คนผู้ช ก็ลองเปิดดู แล้วเทียบกับอันอื่นๆ 

SA ผู้ญ ก็กำลังอธิบายให้ฟามเข้าใจอีกว่า ของอย่างนี้ไม่เรียกว่ามีตำหนิ แค่เปิดยากเฉยๆ ไม่มีอะไร เปลี่ยนไม่ได้ บลา .. 

อยู่ดีๆ คนผู้ช ก็เอาแปรงอันเก่าฟามไป สลับไปใส่ตลับแป้งอันใหม่ให้ แล้วก็ส่งให้ฟาม >__< 

อึ้ง ทึ่ง ไม่คิดว่าจะง่ายขนาดนี้  เพราะฟังๆคนผู้ญเนี่ย คิดว่าจะไม่ได้เปลี่ยนแล้วแน่ๆ แต่อยู่ดีๆ คนผู้ช ก็เปลี่ยนให้เฉยเลย ^________^  

 

 

สรุปแล้ว น้อง ysl ตัวนี้ ทำให้ไป sephora ทั้งสองช้อปในเมืองฟาม ติดต่อกัน สี่วันเลย -___-' 

 

 

 

 

 

packaging ตัวนี้ดีมากก มีที่รองแปรงไม่ให้เปื้อนมาด้วย (แต่ฟามก็ยังไม่วายลืมใส่ตอนแรก -_-')

แต่ถึงจะส่องกระจกได้ทั่วตลับ แต่น้อง ysl ก็ยังมีกระจกเป็นของตัวเองข้างในอีกด้วยย 

(ชอบอันนี้มาก เห็นแล้วยิ่งรู้สึกว่า ตลับนี้เหมาะกับการเดินทางจริงๆ .. ยกเว้นขนาดใหญ่ไปนิด ^^')

สรุปแล้ว ชอบตลับแป้งนี้มากๆเลย > < สามารถคอนโทรลได้ว่าจะใช้แป้งเท่าไหร่ อะไรยังไง ไม่มีหกเลอะเทอะ ให้เปลืองใจ

มีแปรงแถมมาให้ด้วย ขนนุ่มพอใช้ได้ค่ะ 

มีกระจก(จริง)ในตัวแป้ง และนอกแป้ง 55555 (อันนี้สำคัญมากสำหรับฟาม เพราะฟามชอบส่องกระจก ดีสำหรับการเดินทางค่ะ)

 

ตัวเนื้อแป้งเห็นอัดแข็งอย่างนี้ แต่พอหมุนๆแล้วเอาแปรงแตะ ละเอียดมากๆค่ะ

อันนี้คงเสียอย่างเดียว ที่ใส่น้ำหอมเยอะไปหน่อย ฟามว่า กลิ่นคล้ายๆดอกไม้ ส่วนใหญ่ในรีวิวมักจะบอกว่ากลิ่นจางไปเร็วหลังจากปัดบนหน้า

แต่สำหรับฟามกลิ่นติดทนอยู่ทั้งวัน -___-'' แต่ก็โอเคนะ กลิ่นไม่ได้น่าเวียนหัวเท่าไหร่ค่ะ 

 

 

ส่วนสำหรับผลการใช้ รีวิว ก็ขอลองใช้อีกระยะก่อน ตอนนี้เท่าที่ใช้ก็โอเคค่ะ สีแป้งจะสว่างกว่าหน้าหน่อย

ทาตอนแรกหน้าจะผ่องๆ กระจ่าง แต่ซักพักจะดร็อปลงหน่อย -_-' แต่ไม่ทำให้หมองนะคะ

เนื้อแป้งดูเหมือนไม่มีชิมเมอร์ แต่เวลาปัดบนหน้าจริงๆ หน้าจะดูโกลว์ๆ ดิวอี้หน่อยๆ ผสมแมท 

 

แล้วก็อันสุดท้าย แป้งตัวนี้ไม่ปกปิดเท่าไหร่ค่ะ 

 

 

 

 

จบด้วยรูปตอนปัดแล้วนิดนึง  อันนี้ปัดหลังจากลงครีมกันแดดเลยค่ะ ^^  (ใต้ตาแพนด้าได้อีกก)