แชร์ประสบการณ์การแพ้ และสอบถามวิธี test skincare บนผิวหน้า?
LuCiFeR13คือ เพราะคราวที่แล้วหน้าเยินเพราะน้ำป้าเจี๊ยบมาทีหนึ่งแล้วค่ะ
ตอนนั้นคือเพื่อนใช้แล้วหน้าใสเด้งมาก เลยอยากใช้ตาม
ก็เลยถ่อสังขารไปซื้อที่เคาท์เตอร์แบบครบเซ็ต (กินแกลบไปหลายวัน)
และตั้งความหวังไว้สูงตามราคาที่ถอยมา...
คือช่วงทาแรกๆ (มั่นใจว่าไม่น่าจะแพ้ เลยทาทั้งหน้าเลย)...ก็รู้สึกหน้า เนียนละเอียด ใสขึ้นจริงค่ะ..
แต่หลังจากนั้นสองสัปดาห์...สิวอักเสบ ไม่มีหัว มีแต่หนองก็ผุด บวมเป่งขึ้นมา
จากเม็ดเดียว ก็เห่อลามไปหลายเม็ด แบบว่าทั้งแดง อักเสบ ปวดมากค่ะ..
โดยเฉพาะบริเวณหน้าผาก จมูก และโหนกแก้ม...
จะรอให้สุก แล้วบีบ ก็ไม่มีหัวสิวอีก แถมมีแต่หนองอ่ะค่ะ...
ตอนแรกคิดว่าอาจเป็นเพราะฮอร์โมนจากรอบเดือนที่เคลื่อนไปมากกว่า..
แบบว่ายังวางใจอยู่อ่ะค่ะ..เพราะสองสัปดาห์แรกที่ใช้น้ำป้าเจี๊ยบให้ผลดีมาก (ตอนเป็นสิว ก็ยังใช้ต่อทุกวันนะคะ)
.....แต่มาจุดๆ หนึ่ง...คุณแฟนทนไม่ไหวค่ะ บอกว่า
"ไม่ไหวแล้วนะเธอ ไปหาหมอเถอะ ขอร้อง..สิวเธอน่ากลัวขึ้นทุกวัน"
ก็เลยไปหาหมอค่ะ..หมอดุใหญ่เลยค่ะ...บอกว่า
"ทำไมเพิ่งมาพบแพทย์ครับคู้ณณณณ..ปล่อยจนอักเสบขนาดนี้แล้ว" (และอีกมากมายค่ะ)
ฟังแล้วใจตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม..แบบว่าคิดมาตลอดว่าถึงฉันสิวขึ้นก็ยังดูดีอยู่ 555+
แต่ตอนนี้เชื่อแล้วว่า "มันคงแย่มากมายจริงๆ"
คุณหมอวินิจฉัยอยู่พักใหญ่ค่ะ ทั้งฮอร์โมน สิ่งเร้า เครื่องสำอางค์ ฝุ่น โรคแฝง ฯลฯ
แต่มาจบที่
"คุณแพ้ยีสต์จากน้ำป้าเจี๊ยบที่คุณใช้แหละครับ ผลการทดสอบอาการแพ้ออกมาว่าอย่างนั้น บลาๆ
และสิวที่คุณเป็นก็เป็นสิวที่เรียกว่า สิวยีสต์...บลาๆๆ และมันก็จะทยอยขึ้นจนกว่าจะหมดฤทธิ์ของมันนั่นแหละครับ
ตอนนี้ผมจะให้ยาทา และยาทานควบคุมอาการไปก่อน แล้วทุกอย่างจะค่อยๆ ดีขึ้น
ห้ามทาครีมที่นอกจากที่หมอให้ หรืออะไรบนใบหน้าอีก พักทุกอย่างสักระยะนึงก่อน ถ้าเป็นไปได้ใช้แค่น้ำเปล่าก็พอตอนล้างหน้า
หรือถ้ากลัวไม่สะอาด หน้ายังมันอยู่ ก็ให้ใช้สบู่อนามัยเฉพาะที่ที่ไม่มีน้ำหอมล้างแทนไปก่อนครับ บลาๆๆๆ
ห้ามแกะ เกา บีบ หรือลูบคลำบริเวณสิว บ่อยๆ ถ้่าไม่อยากให้เยินไปกว่านี้ บลาๆๆ"
หลังจากนั้น..จขกท ก็รักษาจนสิวเริ่มไม่ขึ้นตอนเดือนที่สามของการรักษา แล้วก็ต้องรักษารอยแผลเป็น และหลุมกันต่อ
รวมๆ แล้วกว่าหน้าจะกลับสู่สภาพเดิม (เหมือนก่อนใช้่) ก็เกือบครึ่งปีได้...เสียทั้งเงิน ทั้งความมั่นใจ
ส่วนเซ็ตไลน์น้ำป้าเจี๊ยบ..ก็ยกให้คุณแฟนใช้ไป..จะให้คนอื่น เค้าก็บ่นว่าเสียดาย เลยเสี่ยงตายใช้ต่อเอง
ปรากฏว่าเค้าไม่แพ้..แถมใสขึ้นมาก แบบความหล่อพุ่งกระฉูด จนทุกคนทักในระยะเวลาแค่ไม่ถึงเดือน!!
คือ..แอบเซ็งตัวเองค่ะ...แต่ก็ดีใจที่อาการหน้าเยินของเรา ก็ทำให้่คุณแฟน(ที่ไม่เคยใส่ใจหนังหน้า) หล่อขึ้น 555
ทีนี้เวิ้นเว้อกันซะนาน...ก็เลยเป็นที่มาของคำถามที่ว่า
"ถ้าต้องการทดสอบอาการแพ้บนผิวหน้า..ควรจะทดสอบที่ตำแหน่งไหนดีคะ ใช้ระยะเวลาประมาณเท่าไหร่ดี"
อยากให้สาวๆ (หรือหนุ่มๆ ก็ได้) ช่วยแนะนำ หรือแชร์ประสบการณ์หน่อยค่ะ
คือ ใจจริงก็อยากถามหมอให้รู้แล้วรู้รอดไป..แต่คิืดอีกทีขืนถามก็จะโดนตอกกลับมาว่า
"นี่คุณยังไม่เข็ดอีกเหรอ คราวที่แล้วผมก็เตือนไปแล้วนะ" ซึ่งเจอบ่อยมาก Y__Y
เอวังด้วยประการฉะนี้แล
ปล. ตอนนี้อยากลองไลน์ น้ำโสมอ่าค่ะ ใครแพ้รบกวนชี้แนะด้วยนะคะ
ตอนนั้นคือเพื่อนใช้แล้วหน้าใสเด้งมาก เลยอยากใช้ตาม
ก็เลยถ่อสังขารไปซื้อที่เคาท์เตอร์แบบครบเซ็ต (กินแกลบไปหลายวัน)
และตั้งความหวังไว้สูงตามราคาที่ถอยมา...
คือช่วงทาแรกๆ (มั่นใจว่าไม่น่าจะแพ้ เลยทาทั้งหน้าเลย)...ก็รู้สึกหน้า เนียนละเอียด ใสขึ้นจริงค่ะ..
แต่หลังจากนั้นสองสัปดาห์...สิวอักเสบ ไม่มีหัว มีแต่หนองก็ผุด บวมเป่งขึ้นมา
จากเม็ดเดียว ก็เห่อลามไปหลายเม็ด แบบว่าทั้งแดง อักเสบ ปวดมากค่ะ..
โดยเฉพาะบริเวณหน้าผาก จมูก และโหนกแก้ม...
จะรอให้สุก แล้วบีบ ก็ไม่มีหัวสิวอีก แถมมีแต่หนองอ่ะค่ะ...
ตอนแรกคิดว่าอาจเป็นเพราะฮอร์โมนจากรอบเดือนที่เคลื่อนไปมากกว่า..
แบบว่ายังวางใจอยู่อ่ะค่ะ..เพราะสองสัปดาห์แรกที่ใช้น้ำป้าเจี๊ยบให้ผลดีมาก (ตอนเป็นสิว ก็ยังใช้ต่อทุกวันนะคะ)
.....แต่มาจุดๆ หนึ่ง...คุณแฟนทนไม่ไหวค่ะ บอกว่า
"ไม่ไหวแล้วนะเธอ ไปหาหมอเถอะ ขอร้อง..สิวเธอน่ากลัวขึ้นทุกวัน"
ก็เลยไปหาหมอค่ะ..หมอดุใหญ่เลยค่ะ...บอกว่า
"ทำไมเพิ่งมาพบแพทย์ครับคู้ณณณณ..ปล่อยจนอักเสบขนาดนี้แล้ว" (และอีกมากมายค่ะ)
ฟังแล้วใจตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม..แบบว่าคิดมาตลอดว่าถึงฉันสิวขึ้นก็ยังดูดีอยู่ 555+
แต่ตอนนี้เชื่อแล้วว่า "มันคงแย่มากมายจริงๆ"
คุณหมอวินิจฉัยอยู่พักใหญ่ค่ะ ทั้งฮอร์โมน สิ่งเร้า เครื่องสำอางค์ ฝุ่น โรคแฝง ฯลฯ
แต่มาจบที่
"คุณแพ้ยีสต์จากน้ำป้าเจี๊ยบที่คุณใช้แหละครับ ผลการทดสอบอาการแพ้ออกมาว่าอย่างนั้น บลาๆ
และสิวที่คุณเป็นก็เป็นสิวที่เรียกว่า สิวยีสต์...บลาๆๆ และมันก็จะทยอยขึ้นจนกว่าจะหมดฤทธิ์ของมันนั่นแหละครับ
ตอนนี้ผมจะให้ยาทา และยาทานควบคุมอาการไปก่อน แล้วทุกอย่างจะค่อยๆ ดีขึ้น
ห้ามทาครีมที่นอกจากที่หมอให้ หรืออะไรบนใบหน้าอีก พักทุกอย่างสักระยะนึงก่อน ถ้าเป็นไปได้ใช้แค่น้ำเปล่าก็พอตอนล้างหน้า
หรือถ้ากลัวไม่สะอาด หน้ายังมันอยู่ ก็ให้ใช้สบู่อนามัยเฉพาะที่ที่ไม่มีน้ำหอมล้างแทนไปก่อนครับ บลาๆๆๆ
ห้ามแกะ เกา บีบ หรือลูบคลำบริเวณสิว บ่อยๆ ถ้่าไม่อยากให้เยินไปกว่านี้ บลาๆๆ"
หลังจากนั้น..จขกท ก็รักษาจนสิวเริ่มไม่ขึ้นตอนเดือนที่สามของการรักษา แล้วก็ต้องรักษารอยแผลเป็น และหลุมกันต่อ
รวมๆ แล้วกว่าหน้าจะกลับสู่สภาพเดิม (เหมือนก่อนใช้่) ก็เกือบครึ่งปีได้...เสียทั้งเงิน ทั้งความมั่นใจ
ส่วนเซ็ตไลน์น้ำป้าเจี๊ยบ..ก็ยกให้คุณแฟนใช้ไป..จะให้คนอื่น เค้าก็บ่นว่าเสียดาย เลยเสี่ยงตายใช้ต่อเอง
ปรากฏว่าเค้าไม่แพ้..แถมใสขึ้นมาก แบบความหล่อพุ่งกระฉูด จนทุกคนทักในระยะเวลาแค่ไม่ถึงเดือน!!
คือ..แอบเซ็งตัวเองค่ะ...แต่ก็ดีใจที่อาการหน้าเยินของเรา ก็ทำให้่คุณแฟน(ที่ไม่เคยใส่ใจหนังหน้า) หล่อขึ้น 555
ทีนี้เวิ้นเว้อกันซะนาน...ก็เลยเป็นที่มาของคำถามที่ว่า
"ถ้าต้องการทดสอบอาการแพ้บนผิวหน้า..ควรจะทดสอบที่ตำแหน่งไหนดีคะ ใช้ระยะเวลาประมาณเท่าไหร่ดี"
อยากให้สาวๆ (หรือหนุ่มๆ ก็ได้) ช่วยแนะนำ หรือแชร์ประสบการณ์หน่อยค่ะ
คือ ใจจริงก็อยากถามหมอให้รู้แล้วรู้รอดไป..แต่คิืดอีกทีขืนถามก็จะโดนตอกกลับมาว่า
"นี่คุณยังไม่เข็ดอีกเหรอ คราวที่แล้วผมก็เตือนไปแล้วนะ" ซึ่งเจอบ่อยมาก Y__Y
เอวังด้วยประการฉะนี้แล
ปล. ตอนนี้อยากลองไลน์ น้ำโสมอ่าค่ะ ใครแพ้รบกวนชี้แนะด้วยนะคะ
Discussion (13)
ไม่กี่วันหลังจากสิวเริ่มยุบตัว เราก็ฉีด GUCCI ENVY ME EDT ที่ซอกคอ แล้วมันก็มาอีกแล้วคับ สิวที่กรามทั้งหลาย มันมาอีกแล้ว เราสำเหนียกได้เลยอ่ะว่าเราแพ้ L ก ฮ แน่นอน ตั้งแต่นั้นมาเราเลยหันกลับมาใช้ set เดิม คือ set มั่ว ประกอบด้วยคสอ.บำรุงผิวยี่ห้อต่างๆ ปะปนกันตามที่เคยใช้มาตลอด แต่คราวนี้แถมด้วยการศึกษาข้อมูลก่อนซื้อพอสังเขปว่ามันต้องไม่มี L ก ฮ หรือส่วนผสมที่มี report ว่าแพ้กันเยอะ
เวลาผ่านไป 2 เดือนกับบทเรียนชีวิตคราวนี้คุ้มสุดๆ เลย สวยอย่างฉลาดและก็ประหยัดขึ้นเยอะ 555