ร้านรองเท้า shoe we doo ยูเนี่ยนมอลล์ แย่มาก!!
iibo142ใครเคยซื้อรองเท้าร้านนี้บ้างคะ
ร้านขายรองเท้าตรงหัวมุมซอยกลางๆชื่อ shoe we doo... ชั้น2 ป้ายร้านสีเหลืองๆ
เมื่อวานนี้เราไปซื้อรองเท้ามาค่ะ ก็ลองจนตัดสินใจซื้อแล้ว บอกเจ้าของร้านไปว่าเอาแบบนี้สีขาวมีไหม เค้าก็บอกว่าไม่มี มีแต่สีครีม เราก็บอกว่างั้นเอาสีน้ำตาลละกัน เค้าก็เอาใส่กล่องให้ ด้วยความรีบ เราก็เลยไม่ได้เปิดกล่องเช็คดูก่อน พอไปถึงบ้านเปิดดูของ สรุปเค้าเอาสีครีมมาให้ วันต่อมาเราก็เลยรีบไปเปลี่ยนแต่เช้า เพราะกลัวว่าถ้านานแล้วเค้าจะไม่ให้เปลี่ยน ไปถึงร้านเพิ่งเปิด เราก็บอกเค้าว่าขอเปลี่ยนสี เพราะเมื่อวานทางร้านหยิบให้ผิด แม่ค้าก็เริ่มโวยวายเลย
แม่ค้า : ซื้อร้านนี้หรือเปล่า
เราก็เลยยื่นถุงให้ไป เจ้าของร้านก็บ่นๆ
เด็กในร้าน(ตะโกนออกมา) : สีน้ำตาลไม่มีเบอร์ ขายไปหมดแล้ว (ทั้งๆที่ยังไม่ได้เช็คของด้วยซ้ำ)
เรา : ถ้าไม่มีของของ ขอคืนได้ไหมเพราะไม่ชอบสีนี้ (มันไม่สวยเลย) แล้วมันก็เป็นความผิดของที่ร้าน ที่หยิบให้เราผิด
แม่ค้า(ตะคอกเรา) : ของซื้อไปแล้วใครเค้าให้คืนกัน!! เมื่อวานเธอพูดไม่รู้เรื่องเอง
แล้วเด็กในร้านก็ออกมายืนเท้าเอว ตะคอกใส่หน้า เหมือนจะตบเรา
เรา : อ้าว สรุปความผิดเราใช่ไหม แล้วเปลี่ยนแบบได้ไหม
แม่ค้า : ถ้าจะเปลี่ยนแบบก็ต้องซื้ออีกคู่นึง จะซื้อไหมล่ะ
แล้วแม่ค้ากับเด็กในร้านอีก 2 คน มารุมว่าเรา ประมาณว่าพูดไม่รู้เรื่องเอง ไม่ให้เปลี่ยน แล้วก็โวยวายๆ
เราก็เลยบอกว่า สรุปไม่ให้เปลี่ยนใช่ไหมคะ ไม่เป็นไร แล้วก็เดินออกมา
จริงๆ ถ้าไม่ให้เปลี่ยนก็พูดกับเราดีๆก็ได้นะ ไม่เห็นต้องโวยวาย แล้วก็มารุมว่าเราแบบนี้เลย เราไปคนเดียว อีก 3 คนในร้านมายืนรุมๆว่าเรา อย่างกับมันเป็นความผิดเรา เราคิดว่าตั้งแต่ที่ซื้อเมื่อวาน สีน้ำตาลคงไม่มีเบอร์ที่เราจะเอา เค้าก็เลยเอาสีครีมใส่กล่องมาให้ เห็นคนอื่นที่มาลองแล้วไม่ซื้อ แม่ค้าก็จะทำหน้าเหวี่ยงๆใส่ เตือนเพื่อนๆให้ระวังร้านนี้ไว้ละกันค่ะ ยังไงไปซื้อร้านอื่นดีกว่า ไม่อยากสนับสนุนการค้าขายแบบนักเลงอย่างนี้ค่ะ
Discussion (42)
นี่ล่ะค่ะเป็นความท้าทายของคนทำอาชีพขายสินค้า และบริการค่ะ
ว่าจะทำอย่างไรเมื่อเจอลูกค้าไม่ดีอย่างที่คุณว่า โดยที่คุณยังคงความสุภาพต่อลูกค้าอยู่ เพราะมันเป็นหน้าที่ของอาชีพนี้ค่ะ
แต่ถ้าเป็นเหตุการณ์อย่างที่คุณiiboเจอ มันก็เป็นอีกกรณี1
ถ้าดูจากผลลัพธ์ ก็คือ
1.คุณiibo ผิดตรงที่ไม่ได้เช็คของตอนก่อนจะจ่ายเงิน (ถือไว้เป็นบทเรียน เราอ่าเป็นแบบนี้บ่อย เพราะเชื่อใจและให้เกียรติแม่ค้าค่ะ )
2.คุณแม่ค้าร้านนี้ ก็ผิดที่ว่า แทนที่จะคุยกับลูกค้าด้วยเหตุผลว่า เปลี่ยนของไม่ได้เพราะอะไรก็ตาม เช่น หากรองเท้ายังอยู่ในสภาพดี อาจจะขอโทษ แล้วก็เสนอรองเท้าในราคาเดียวกัน อะไรก็ว่าไป แล้วแต่ชั้นเชิงของแม่ค้าแต่ละคน เป็นต้น
แต่กลับใช้อารมณ์ คนหมู่มาก เข้ามาบีบ เพื่อบ่ายเบี่ยงที่จะไม่รับผิดชอบใดๆ แถมยังมาต่อว่าลูกค้าอีกด้วย
ซึ่งวิธีการที่คุณแม่ค้าเลือกนั้น มันก็เท่ากับว่า คุณไม่ให้ความสำคัญกับลูกค้า (ไม่เอาใจเขามาใส่ใจเราว่า ถ้าคุณแม่ค้ากลับมาเป็นลูกค้าบ้าง จะรู้สึกอย่างไร ) หากคุณแม่ค้าคิดว่ามันสมเหตุสมผลแล้วที่ทำแบบนี้ ก็ทำต่อไปเถอะค่ะ มันขึ้นอยู่กับคุณ ว่า อยากให้ร้านของคุณถูกจดจำในมุมไหน หรือ อยากให้อนาคตร้านของคุณเป็นไปในทิศทางใดค่ะ
ปล.เราเป็นคนนึงที่ซื้อของที่Union mallบ่อยมาก แนะนำว่า ควรเช็คราคาสินค้าเบื้องต้นมาก่อนค่ะ เพราะมีบางร้านที่ขายแพงกว่าราคาจริงค่อนข้างมาก เช่น เราเคยเล็งรองเท้าไว้2คู่ พบว่าเกือบทุกร้านในUnion mallขายอยู่ที่ราคาสมมติว่า 8บาท แต่เราดันไปเจอะ อยู่ร้านนึงกลับขายที่ราคา 108 บาท แอบงงเหมือนกันว่า เขากล้าจริงๆนะนี่ แพงกว่าเป็นทวีคูณ ( ฮ่ะๆๆ) เราก็เข้าใจน้าว่าค่าที่Union mall ล็อคละเท่าไหร่ แพงมากๆๆๆๆ เวลาเราไปซื้อของ หากว่าราคาสินค้าแพงกว่าราคาที่ขายตามตลาดทั่วไป(ที่ไม่ใช่ตลาดขายส่ง) ไม่เกิน100 เราก็ซื้อนะ เพราะเราถือว่ามันเป็นค่าที่เราไม่ต้องเสียเวลาออกตามหา ไรงี้อ่า แต่ร้านนี้กลับบวกไปอีกเท่าตัวเลยทีเดียว เห็นแล้วน่ากลัวจริงๆ
ผิดทั้งคู่ค่ะ...คุณจขกท.ผิดตรงที่ ออกมาจากร้านแล้วไม่ตรวจสอบให้ดีก่อน ถ้าเป็นตามกฎหมาย การที่คุณรับของมาโดยไม่ตรวจสอบอะไรก่อน แล้วมาขอเปลี่ยนทีหลังอ้างความบกพร่อง ก็ไม่ได้แล้วล่ะค่ะ
ส่วนแม่ค้า ก็ทำไม่ถูก ผิดมารยาท และจรรยาของผู้ประกอบอาชีพค้าขาย
เจ๊ากันพอดีค่ะ ข่างมันเถอะเนอะๆๆ
ณ ร้านขายรองเท้าร้านนึงที่ยูเนี่ยนมอลล์ จำชื่อร้านไม่ได้ อยู่ชั้น2 จากบันไดเลื่อนอยู่ฝั่งซ้ายริมๆ
มีคนขายผู้หญิงขาวผมยาวและคนขายผู้ชายขาวผมลองทรงยาว
คนขาย : ถามได้นะคะ ดูได้ลองได้ค่ะ ลดราคาอยู่นะคะ
หลิน : เดินเข้าไปดูและถามว่าคู่นี้ลองได้มั้ยคะ? (เพราะที่โชว์ไซส์ 36 แต่หลินใส่ 37)
คนขาย : ไซส์อะไร?
หลิน ; 37 ค่ะ (แต่คนขายหยิบ38มาให้ลอง ก็คิดว่าไม่เป็นไรหรอกชอบคู่นี้และคุยกับพี่ว่าเจอที่ชอบแล้วพรุ่งนี้มาซื้อร้านนี้แหล่ะและบอกคนขายว่า)
ขอบคุณนะคะ พรุ่งนี้จะมาซื้อ(เพราะต้องใส่ทำงานในวันถัดไป)
คนขาย : ไม่ดูไปเลย
หลิน : เดี๋ยวพรุ่งนี้มาอีกค่ะ ขอบคุณมากนะคะ
คนขาย : ก็ดีจะได้ไม่ต้องหาไซส์! (พูดเบาๆพร้อมดึงหน้าใส่ แต่เราได้ยินชัดเจน)
หลิน : สตั๊นไปแปปปปนึง แล้วยืนมองรอให้คนขายเดินออกมาจากข้างหลัง แต่เค้าเดินออกมาแบบไม่มองหน้าและไม่สบตา
หลินเลยเดินออกมาหาพี่แล้วบอกว่าไม่ซื้อแล้วร้านนี้
คนขายผู้ชาย : ก็ดีๆ (พร้อมดึงหน้า)
หลินเลยรีบเดินออมาจากร้านนั้น!
คือเสียความรู้สึกมาทั้งที่เราตัดสินใจแล้วว่าจะมาซื้อร้านนี้แน่นอนเพราะต้องใส่ทำงานในวันถัดไป และแย่มากๆ ขอลอง37แต่เอา38มา คือถ้า36ใส่ได้หรือเป็นไซส์ที่ใส่อยู่แล้วคงไม่ขอลองหรอก อีกอย่างก็บอกเองว่าถามได้ลองได้ แล้วยังมาพูดจาแย่ๆใส่อีกพร้อมดึงหน้าอีก คือได้ยินแล้วอารมณ์ขึ้นเลย บายค่ะร้ายนี้แบนด้วยค่ะ น่าจะสำเหนียกบางเนอะว่าตัวเองเป็นแค่ลูกจ้างควรจะทำหน้้าที่ของตัวเองให้ดี ไม่ใช่มาทำกิริยาวาจาต่ำๆแบบนี้ น่าเห็นใจเจ้าของร้านค่ะที่มีลูกจ้างแบบนี้ ถ้าไม่มีคนแบบนี้ร้ายคงจะขายดีและไม่เงียบอย่างที่เห็นหรอกค่ะ และอีกอย่างเราเป็นลูกค้าจะมาซื้อของจะซื้อตอนไหนมันก็เรื่องของเราหรือมันคิดว่าเรามาขอมันไปใส่หรือคิดว่าเราไม่ใช่คนจ่ายเงินมัน เหอะๆๆๆคนแบบนี้ทำงานคนตายก็ไม่เจริญหรอกค่ะ !!! ระวังกันด้วยนะคะ.