SUBLIMAGE ไลน์สุดพรีเมี่ยมของ Chanel ที่เน้นการใช้วิธีแบบองค์รวมกับผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ที่ทุกผลิตภัณฑ์จะมีส่วนผสมสุดเลอค่าอย่างวานิลลา แพลนิโพเลีย (Vanilla Planifolia) ที่ได้รับการคัดเลือกมาอย่างพิถีพิถันลงในผลิตภัณฑ์ของชาเนลทุกชิ้น และ SUBLIMAGE Le Teint เป็นรองพื้นที่ได้รับความนิยมมาตั้งแต่เริ่มวางจำหน่ายในปี 2016 เพราะทั้งให้ทั้งความชุ่มชื้น และให้ผิวดูเปล่งประกาย ให้ผิวสวยแนบสนิทไปกับผิว ให้ฟินิชผิวที่ดูธรรมชาติ สวยยาวนานตลอดวัน
เพื่อต่อยอดไอเท็มที่ได้รับความนิยมนี้ ในปีนี้ชาเนลได้เพิ่ม SUBLIMAGE Le Sion Perfecteur มอยส์เจอร์ไรเซอร์และไพรเมอร์ที่ให้ความชุ่มชื้น และความกระจ่างใส ซึ่งเป็นการนำเอาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและเครื่องสำอางของชาเนลมาอยู่ในขวดเดียว เรียกได้ว่าเป็น Hybrid Product ที่จะช่วยแก้ไขปัญหาผิว ไปพร้อมๆ กับการสร้างผิวที่ดูสวยเปล่งประกาย และยังใช้ได้หลายวิธีเพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลาย ให้ผิวที่สวยดูดี ไปพร้อมๆ กับการปกป้องผิวในเวลาเดียวกัน เรียกได้ว่าน่าจะเป็นอีกหนึ่งไอเท็มที่สาวกชาเนลต้องลอง
สูตรไฮบริดในขวดนี้ SUBLIMAGE Le Sion Perfecteur
มอยส์เจอร์ไรเซอร์ไพรเมอร์ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้น และให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น ด้วยส่วนผสมหลักประจำตระกูล SUBLIMAGE อย่างวานิลลา แพลนิโพเลียระดับเข้มข้น ที่ผ่านกรรมวิธีกลั่นด้วยน้ำ มาเพื่อปกป้องผิวจากปัจจัยภายนอก เช่น แสงแดด หรือความเครียด ซึ่งมอยส์เจอร์ไรเซอร์ไพรเมอร์ขวดนี้จะทำให้ผิวที่หมองคล้ำดูกระจ่างใสขึ้น พร้อมทั้งยังช่วยปรับสภาพผิวได้เป็นอย่างดี และยังมีประกายมุกอณูละเอียดที่ทำให้ผิวดูเปล่งปลั่ง ช่วยขับลุคเมคอัพให้ดูสวย ชุ่มชื้นขึ้น หลังใช้จะผิวจะดูเรียบเนียน รูขุมขนดูลดเลือนลง และผิวหน้าดูกระจ่างใสขึ้น และเมื่อใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่องก็จะช่วยเรื่องริ้วรอยอีกด้วย
SUBLIMAGE Le Soin Perfecteur : 1 ขั้นตอน ตอบโจทย์ 3 รูปแบบ
ทั้งบำรุง ใช้เป็นไพรมเมอร์ทาก่อนแต่งหน้า หรือใช้เติมทัชอัพระหว่างวันให้ผิวดูเปล่งประกายก็ยังได้ และยังเป็นสีที่
1. ใช้เป็นมอยส์เจอร์ไรเซอร์ สำหรับบำรุงสำหรับกลางวัน : ทาในในทุกเช้า โดยใช้ผลิตภัณฑ์ในปริมาณเท่าเมล็ดถั่วทาให้ทั่วใบหน้าเพื่อบำรุงผิวหน้า
2. ใช้เป็นไพรเมอร์ หรือเมคอัพเบส : ทาก่อนแต่งหน้า หรือหลังจากใช้สกินแคร์บำรุงผิวอย่าง SUBLIMAGE La Crème หรือ SUBLIMAGE L’Extrait de Crème จากนั้นจึงทา SUBLIMAGE Le Soin Perfecteur แล้วตามด้วยรองพื้น SUBLIMAGE Le Teint
3. ใช้เพิ่มความเปล่งประกาย : หลังแต่งหน้า หรือในระหว่างวัน สามารถทาในบริเวณจุดรับแสงของผิว เพื่อสร้างความเปล่งประกายให้ผิวตลอดทั้งวัน เพียงแตะเบาๆ ที่โหนกแก้ม สันจมูก และขอบริมฝีปากบน
ราคา 9,450 บาท เรียกได้ว่าเป็นไอเท็มใหม่ที่ 1 ผลิตภัณฑ์ ใช้เพียง 1 ขั้นตอน แต่สามารถตอบโจทย์ความต้องการได้หลายรูปแบบ ที่สำคัญยิ่งใช้คู่กับ SUBLIMAGE Le Teint จะยิ่งทำให้งานผิวดูสวยขึ้นไปอีกระดับ สำหรับสาวกชาเนลห้ามพลาดที่จะมีเลย