Chloé (โคลเอ้) นำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่จากนักปรุงน้ำหอม และผู้เชี่ยวชาญจากไลน์ Atelier des Fleurs ที่จะพาทุกคนเข้าสู่ประสบการณ์ใหม่ในการสัมผัสความงดงามของดอกไม้ ที่มาพร้อมเอกลักษณ์เฉพาะตัวในรูปแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ผ่านกลิ่นหอม 3 กลิ่นที่ชวนทุกคนมาค้นหา

Atelier des Fleurs ได้เปิดเผยมิติใหม่ของดอกไม้สีขาวที่คุ้นเคยทั้ง 3 ชนิด โดยแฝงความลึกลับที่ส่งกลิ่นหอมอันเลอค่าในยามพลบค่ำ ชวนให้ผู้พบเห็นตกอยู่ในภวังค์แห่งความเย้ายวนในคืนที่เงียบสงบ ในช่วงเวลากลางวัน ดอกกล้วยไม้ (Orchid) ดอกส้ม (Orange Blossom) และดอกซ่อนกลิ่น (Tuberose) จะซึมซับความอบอุ่นจากแสงอาทิตย์ เพื่อเบ่งบานอย่างเต็มที่ในยามค่ำคืน ขณะที่ความมืดมิดจะนำเสนอกลิ่นหอมลึกซึ้ง และน่าหลงใหลที่ทำให้หัวใจเต้นแรง

ในยามค่ำคืน Chloé จะพาทุกคนก้าวเข้าสู่โลกแห่งกลิ่นหอมที่เปี่ยมด้วยมนต์เสน่ห์ ผ่านผลงานสร้างสรรค์สุดประณีตทั้ง 3 กลิ่น ด้วยการผสมผสานองค์ประกอบที่ลึกซึ้งและซับซ้อน ขวด Atelier des Fleurs ได้รับการออกแบบอย่างวิจิตรบรรจง มาพร้อมสีน้ำเงินโคบอลต์อันทรงพลังที่สะท้อนถึงท้องฟ้ายามราตรีกว้างใหญ่ เต็มไปด้วยดวงดาวระยิบระยับ สื่อถึงความงามอันเหนือกาลเวลาและเสน่ห์แห่งความลึกลับ

มาพร้อมการตกแต่งด้วยสีน้ำเงินเข้มลึกลับ BLEU NUIT เปรียบดั่งท้องฟ้ายามเที่ยงคืน แม้จะซ่อนความลึกลับไว้อย่างมีเสน่ห์ แต่ยังคงถ่ายทอดความงามเหนือกาลเวลาของ Chloé ด้วยรูปทรงแก้วโค้งมน และลวดลายคลื่นอ่อนช้อย สะท้อนถึงการจับจีบอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ มาพร้อมฝาสีเบจที่ประดับประกายระยิบระยับ สะท้อนถึงเม็ดทรายอันเป็นแรงบันดาลใจล้ำค่าของ Gaby Aghion ผู้ก่อตั้ง Chloé ซึ่งเชื่อมโยงถึงบ้านเกิดของเธอในอียิปต์

ORCHIDÉE DE MINUIT – กล้วยไม้ยามเที่ยงคืน
เมื่อดอกกล้วยไม้สีขาวจะบานสะพรั่งท่ามกลางความมืดของราตรี จะส่งกลิ่นหอมหวานนุ่มนวล เย้ายวนชวนให้หมู่ภมรเข้ามาผสมเกสร ช่วยให้ฝักวานิลลาได้เติบโตอย่างงดงาม ช่วงเวลาอันแสนพิเศษนี้ ถ่ายทอดผ่านนักปรุงน้ำหอมผู้เชี่ยวชาญอย่าง Mathieu Nardin และ Cécile Matton ซึ่งเขาได้กล่าวว่า“กลิ่น "Orchidée de Minuit เผยให้เห็นมิติใหม่ของธรรมชาติจากวานิลลา ยกระดับเสน่ห์อันลึกลับและน่าหลงใหล ราวกับดอกไม้แห่งรัตติกาลที่ซ่อนความงามอันล้ำค่าในความมืดมน”

NUIT D’ORANGER – ราตรีแห่งดอกส้ม
“ดอกส้ม” เป็นดอกไม้สำคัญในแถบเมดิเตอร์เรเนียนซึ่งเป็นบ้านเกิดของ Gaby Aghion แฝงไว้ด้วยความลึกลับ แม้ว่าตลอดวันจะปล่อยกลิ่นหอมอ่อนละมุนสดชื่น แต่เมื่อความเงียบงันของราตรีมาเยือน กลิ่นหอมที่เย้ายวนกลับทวีความเข้มข้นขึ้นจนถึงรุ่งสาง

TUBÉREUSE LAZULI - ทูเบอโรส ลาซูลี
ในยามรุ่งอรุณ ดอกซ่อนกลิ่นจะเผยกลิ่นสดชื่นและเขียวขจี และเมื่อเวลาผ่านไปกลิ่นหอมจะทวีความเข้มข้นและเย้ายวนมากขึ้น บางทีอาจไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่ชื่อในภาษาฮินดี Rajanigandha แปลว่า "ผู้หอมกรุ่นแห่งราตรี"

น้ำหอมคอลเลกชันใหม่นี้ Chloé ได้เผยความลับที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังดอกไม้ทั้ง 3 ชนิดที่คุ้นเคย แฝงไปด้วยความลึกลับ ซึ่งดอกไม้เหล่านี้มีเสน่ห์ที่เปลี่ยนแปลงไปตามช่วงเวลาแห่งวัน แม้จะเป็นสัญลักษณ์ของน้ำหอมที่คุ้นเคย แต่ยังคงเปิดมุมมองใหม่ให้ได้สัมผัสกลิ่นอายที่ซับซ้อนและน่าค้นหาเช่นเดียวกัน

Chloé นำเสนอน้ำหอมในรูปแบบที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน มอบประสบการณ์การเบ่งบานของดอกไม้ที่ทรงพลัง เย้ายวน และเต็มไปด้วยเสน่ห์อันน่าหลงใหล เปลี่ยนทุกสัมผัสให้เกิดความรู้สึกตื่นตาตื่นใจในแบบที่เหนือความคาดหมาย

Chloé เชิญชวนร่วมสัมผัสประสบการณ์ใหม่ของความงาม พร้อมขยายขอบเขตแห่งสุนทรียะไปอีกขั้นกับ Atelier des Mains ผลิตภัณฑ์ที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกในกลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ด้วยการผสมผสานกลิ่นหอมเอกลักษณ์ของดอกไม้มาเป็นน้ำหอมสำหรับการดูแลผิวกาย ประกอบด้วยครีมทามือหอม มีให้เลือกถึง 3 กลิ่นหอม

ความหอมให้มือคุณนุ่มเหมือนกลีบกุหลาบด้วย “Hand Treatment” ครีมบำรุงมือสูตรเข้มข้น มอบความหอมอ่อนโยนราวสัมผัสจากกลีบดอกไม้ที่แสนละเอียดอ่อน ให้ความรู้สึกหรูหรา และประณีต พร้อมฟื้นบำรุงผิวมืออย่างล้ำลึก  ซึมซาบลงสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว  ช่วยบำรุงและปกป้องผิวยาวนาน ไม่ทิ้งความมัน ไม่เหนียวเหนอะหนะ สูตรวีแกนที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติไม่น้อยกว่า 96% มาในหลอดสีไอวอรี่ที่เป็นเอกลักษณ์ของคอลเลกชัน Atelier des Fleurs 

- Cedrus: กลิ่นลุ่มลึกของไม้ซีดาร์ (Cedar Wood) ผสมกับเรซิน (Resin) อำพัน (Amber) และมัสก์ (Musk)
- Santalum: กลิ่นหอมอบอุ่นที่เผยรายละเอียดอันน่าทึ่งของไม้จันทน์ (Sandalwood)
- Magnolia Alba: กลิ่นหอมสดชื่นสะท้อนความงามของดอกแมกโนเลีย (Magnolia) ในฤดูใบไม้ผลิ

สามารถเลือกสรรผลิตภัณฑ์ได้ที่ ชั้น 1 เซ็นทรัลลาดพร้าว, ชั้น G เซ็นทรัลชิดลม, ชั้น M, เอ็มสเฟียร์ และ ชั้น M, สยามพารากอน
#ChloeParfumTH