

ลาซาด้า ผู้นำด้านอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผนึกกำลังแบรนด์สกินแคร์ระดับพรีเมียมอันดับหนึ่งในภูมิภาค [1] La Mer ประกาศความร่วมมือเปิดตัวร้านค้าออฟฟิเชียลของ La Mer บน LazMall อย่างเป็นทางการ เพื่อให้นักช้อปทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ อินโดนิเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงค์โปร์ รวมไปถึงประเทศไทย ได้ช้อปในรูปแบบออนไลน์และสัมผัสประสบการณ์ความงามของแบรนด์สุดพรีเมียมที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถันพร้อมกันในวันที่ 11-12 สิงหาคมที่จะถึงนี้ [2] เฉพาะที่ลาซาด้าเท่านั้น
ศูนย์การค้า เดอะ แพลทินัม แฟชั่น มอลล์ แนะนำร้านใหม่ Richesse Bakery (ริชเชส เบเกอรี่) เบเกอรี่สไตล์ญี่ปุ่น เปิดให้บริการแล้ววันนี้ พบกับเบเกอรี่เนื้อนุ่มรสละมุน มีให้เลือกหลากหลายเมนู เช่น วาฟเฟิลญี่ปุ่น ช็อกโกแลตหน้านิ่ม เค้กโรลช็อกโกแลต ทอฟฟี่เค้ก ครัวซอง พุดดิ้งคัสตาร์ด ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีเครื่องดื่ม ชา กาแฟ ช็อกโกแลต น้ำผลไม้ ที่มีให้เลือกมากมาย อิ่มอร่อยได้ทั้งวัน พิเศษสมัครสมาชิกรับส่วนลดอาหารเครื่องดื่ม 10% พร้อมรับส่วนลดในเดือนเกิด 25 % สำหรับผู้มีสิทธิ “โครงการคนละครึ่ง” สามารถใช้บริการผ่านแอพลิเคชั่น “เป๋าตัง” ได้ ชวนชิมลิ้มลองได้แล้ว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ณ บริเวณทางเข้าประตูโซน1 ชั้น 1 ศูนย์การค้าเดอะ แพลทินัม แฟชั่น มอลล์
กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) แจกโค้ดลดสุดคุ้ม เอาใจนักช้อปออนไลน์โดยเฉพาะ จับมือ Lazada และ Shopee จัดแคมเปญ “รับโค้ดคุ้ม ลดรายเดือน 500 บาท กับบัตรกรุงศรี เดบิต และ Krungsri Boarding Card” มอบส่วนลดรวมสูงสุด 500 บาท แก่ลูกค้าเมื่อช้อปขั้นต่ำ 1,000 บาทต่อใบเสร็จ ผ่านบัตรกรุงศรีเดบิต และ Krungsri Boarding Card บน Lazada หรือ Shopee โดยลูกค้าสามารถใช้โค้ดเพื่อรับส่วนลด 250 บาท JADHAID621 สำหรับลูกค้าปัจจุบันของ Lazada และใช้โค้ด JADHAID0621 สำหรับลูกค้าใหม่ ส่วนการช้อปบน Shopee สามารถใช้โค้ด JADHAIDS621 ได้ทั้งลูกค้าปัจจุบันและลูกค้าใหม่ สงวนสิทธิ์การใช้โค้ด 1 สิทธิ์/บัญชีผู้ใช้ ตั้งแต่วันนี้ – 30 มิ.ย. 64 หรือจนกว่าสิทธิ์จะหมด
Flash Coffee ร้านกาแฟที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีเปิดตัวแอปพลิเคชันสำหรับผู้บริโภคในประเทศไทยแล้ววันนี้ โดยมาพร้อมฟีเจอร์ต่างๆ เพื่อช่วยให้ผู้บริโภคเข้าถึงความสะดวกสบายได้อย่างเหนือระดับ เช่น ฟังก์ชั่นการสั่งเครื่องดื่มล่วงหน้า จากนั้นจึงไปรับด้วยตนเองที่สาขาที่ใกล้ที่สุด ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาต่อคิว นอกจากนี้ แอปพลิเคชันใหม่ล่าสุดจาก Flash Coffee ยังนำเสนอโปรแกรมสานสัมพันธ์กับกลุ่มลูกค้า กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ และฟีเจอร์ทางการตลาดในรูปแบบเกมผ่าน Flash Challenges
เดวิด บรูเนียร์ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ เซบาสเตียน ฮานเน็คเกอร์ ผู้ก่อตั้ง ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน กล่าวถึงแนวคิดเบื้องหลังการเปิดตัวแอปพลิเคชันซึ่งถือเป็นอีกก้าวสำคัญของบริษัทว่า “สถานการณ์การแพร่ระบาดที่ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องได้ส่งผลให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปในหลายๆ ด้าน แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ผู้คนต่างก็ยังคงมองหากาแฟคุณภาพดีที่พวกเขาสามารถดื่มได้ที่บ้านหรือที่ทำงานอย่างมีความสุขและรู้สึกปลอดภัย แอปพลิเคชันใหม่จาก Flash Coffee ช่วยให้ลูกค้าของเราไม่ต้องเสียเวลาต่อคิวที่หน้าร้านนานๆ แต่ช่วยให้พวกเขาสามารถกดสั่งซื้อได้ล่วงหน้าและเข้าไปรับเครื่องดื่มได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับสิทธิพิเศษมากมายเฉพาะสำหรับสมาชิกแอปเท่านั้น”
“การเปิดตัวแอปพลิเคชันสำหรับผู้บริโภคในครั้งนี้ได้ตอกย้ำพันธกิจของ Flash Coffee ที่มุ่งพลิกโฉมวงการกาแฟในแถบเอเชีย รวมถึงในประเทศไทย ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่มีอัตราการแข่งขันสูง อย่างไรก็ตาม ธุรกิจส่วนใหญ่ในตลาดยังคงดำเนินธุรกิจแบบออฟไลน์อย่างเต็มรูปแบบ แม้ว่าแบรนด์ Flash Coffee จะเปิดตัวท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ธุรกิจของเราในประเทศไทยถือว่าประสบความสำเร็จอย่างเกินความคาดหมาย โดยสามารถทำรายได้มากกว่าจุดคุ้มทุนนับตั้งแต่วันแรกและยังคงเติบโตอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง Flash Coffee ได้สร้างปรากฏการณ์ครั้งใหญ่จากการขยายจำนวนสาขาอย่างก้าวกระโดด โดยในช่วงปีที่ผ่านมา Flash Coffee ได้เปิดสาขาเพิ่มขึ้นถึงมากกว่า 40 สาขา นอกจากนี้ Flash Coffee ยังพบว่าในช่วงเวลาที่ท้าทาย ผู้บริโภคส่วนใหญ่ได้เลือกสั่งซื้อเครื่องดื่มผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งเป็นการเน้นย้ำให้เห็นถึงแนวโน้มพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคที่เน้นความเป็นดิจิทัลมากขึ้นในโลกภายหลังการแพร่ระบาด ด้วยความแข็งแกร่งของแบรนด์ในด้านเทคโนโลยี ระบบปฏิบัติงานที่เหนือชั้น ประกอบกับวิสัยทัศน์ในการสร้างแบรนด์ที่โดดเด่นและแตกต่าง Flash Coffee พร้อมแล้วที่จะช่วยผสานความสะดวกสบายในแบบฉบับการช้อปปิ้งออนไลน์เข้ากับประสบการณ์การซื้อสินค้าจากหน้าร้าน และจะเดินหน้าส่งมอบกาแฟ Specialty คุณภาพดี ผลิตจากเมล็ดพันธุ์อาราบิก้าแท้ ในราคาที่ทุกคนเข้าถึงได้สู่ผู้บริโภคจำนวนมากขึ้น โดยเราตั้งใจส่งมอบประสบการณ์สำหรับลูกค้าที่เหนือระดับยิ่งขึ้นผ่านแอปพลิเคชันของเราที่เปิดตัววันนี้” แพน พันธุ์ไพบูลย์ ลีนุตพงษ์ กรรมการผู้จัดการ Flash Coffee ประเทศไทย กล่าว
หลังจากที่ประสบความสำเร็จในการระดมทุนจากแหล่งสนับสนุนเงินทุนด้านเทคโนโลยีระดับโลกอย่าง ร็อคเก็ต อินเตอร์เน็ต ในรอบซีรีส์ เอ เป็นจำนวนเงิน 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐไปเมื่อเร็วๆ นี้ ได้มีส่วนช่วยผลักดันให้แอปพลิเคชัน Flash Coffee พร้อมเปิดตัวสู่ผู้บริโภคที่เป็นคอกาแฟสายเทคตัวจริงในประเทศไทย โดยมาพร้อมฟีเจอร์โดดเด่นมากมาย ไม่ว่าจะเป็น
● กดสั่งซื้อเครื่องดื่มล่วงหน้าและไปรับที่สาขาที่ใกล้ที่สุด
ลูกค้าสามารถกดสั่งเครื่องดื่มล่วงหน้าผ่านทางแอป จากนั้นจึงเลือกสาขา Flash Coffee ที่ใกล้ที่สุดโดยคำนวณจากระบบจีพีเอส และยังสามารถระบุเวลาที่สะดวกเข้าไปรับ ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาต่อคิว
● ระบบสมาชิกและการสานสัมพันธ์กับลูกค้า
แอป Flash Coffee มีฟีเจอร์พิเศษเพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าอัปเกรดระดับสมาชิกของตนเองเพื่อให้เข้าถึงสิทธิพิเศษต่างๆ อีกขั้น ไม่ว่าจะเป็น อัตราการสะสมคะแนนเพิ่มขึ้น รับเมนูฟรีในแต่ละเดือน คำเชิญเข้าร่วมงานในโอกาสพิเศษต่างๆ จาก Flash Coffee ของที่ระลึกและของสมนาคุณ และอื่นๆ อีกมากมาย
● ฟีเจอร์ Challenges และการส่งเสริมการตลาดในรูปแบบเกม
Flash Coffee มีระบบสร้างประสบการณ์แบบใหม่ที่ช่วยสร้างสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์และลูกค้าผ่านกิจกรรมต่างๆ ภายในแอป ผ่านภารกิจการล่ารางวัลแสนสนุกและการเข้าถึงสิทธิพิเศษต่างๆ เพิ่มเติม
● ฟีเจอร์การชำระเงิน
ขณะที่สังคมไร้เงินสดในประเทศไทยกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง แอปของ Flash Coffee ช่วยให้ลูกค้าสามารถเลือกชำระเงินค่าสินค้าได้ตามสะดวก ผ่านบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต อีกทั้งยังสามารถแลกรับเครื่องดื่มโดยใช้แต้ม Flash Points
การดำเนินธุรกิจของ Flash Coffee ไม่เพียงแต่ให้ความสำคัญให้ส่วนของผู้บริโภค ในขณะเดียวกัน Flash Coffee ยังเชื่อมั่นในการสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่ดีซึ่งเริ่มต้นจากพนักงาน โดยมุ่งสนับสนุนการเสริมสร้างศักยภาพบุคลากรภายในองค์กร และ ส่งเสริมขั้นตอนการทำงานที่มีประสิทธิภาพ Flash Coffee ยังมีแอปสำหรับบาริสต้า ซึ่งช่วยพัฒนาประสิทธิภาพการทำงานของหน้าร้านได้อย่างครอบคลุม ตลอดถึงช่วยให้สามารถส่งมอบประสบการณ์สำหรับลูกค้าที่เหนือระดับยิ่งกว่า ผ่านการลดขั้นตอนในการจัดเตรียมเครื่องดื่ม การจัดสรรจำนวนพนักงานเพื่อให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละช่วงเวลา รวมถึงความสามารถในการจัดการอุปกรณ์และวัตถุดิบต่างๆ ภายในร้านผ่านระบบออนไลน์ เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้าจะมีมาตรฐานเดียวกัน และยังช่วยควบคุมปริมาณขยะที่เหลือทิ้งจากขั้นตอนต่างๆ อีกด้วย
“การนำเทคโนโลยีมาใช้ทำให้แบรนด์ของเราเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ โดยช่วยพัฒนาขั้นตอนการปฏิบัติงานโดยรวมและยังสามารถนำมาสร้างสรรค์ประสบการณ์ของลูกค้าได้อย่างตรงจุดยิ่งขึ้น ในฐานะแบรนด์ที่เน้นด้านนวัตกรรมที่ทันสมัย Flash Coffee พร้อมนำเสนอกลยุทธ์ทางการตลาดใหม่ๆ ที่ท้าทายและฉีกกฎแบบเดิมๆ ในขณะเดียวกัน เรามุ่งมั่นส่งมอบกาแฟคุณภาพดีให้คนในภูมิภาคแถบเอเชียสามารถเข้าถึงได้มากขึ้น การเปิดตัวแอปพลิเคชันในประเทศไทยครั้งนี้ได้แสดงให้เห็นว่าเราพร้อมขึ้นเป็นผู้นำตลาดกาแฟในยุคสมัยใหม่ และพร้อมที่จะแสดงศักยภาพของเราให้เหนือชั้นกว่าคู่แข่งรายอื่นๆ ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งถือเป็นภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากโรคระบาดโควิด-19” พันธุ์ไพบูลย์กล่าวปิดท้าย
ผู้ที่สนใจสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Flash Coffee ได้แล้ววันนี้ ทั้งสำหรับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์และ iOS
มูจิ ประเทศไทย (MUJI) เดินหน้ากลยุทธ์ขยายช่องทางการจำหน่ายทั้งออฟไลน์และออนไลน์ ล่าสุดเปิดตัวสาขาใหม่ ซีคอนบางแค เป็นสาขาที่ 22 ในประเทศไทย 29 พฤษภาคม นี้ ให้แฟนมูจิฝั่งธนบุรีเข้าถึงสินค้าได้ง่ายขึ้น ชูบริการปรึกษาออกแบบภายใน บริการตัดขากางเกงฟรี และ MUJI Coffee Corner สาขาที่ 5 ของประเทศไทย พร้อมสินค้าใหม่กลุ่มเครื่องดื่มที่หาซื้อไม่ได้ในออนไลน์ พร้อมจับมือ Lazada แพลทฟอร์มอีมาร์เกตเพลสแถวหน้าของเมืองไทย ด้วยสินค้ากว่า 398 รายการ ส่งแคมเปญ MUJI Super Grand Opening Day อัดโปรโมชั่นพิเศษฉลองเปิดตัวบนแพลทฟอร์มด้วยสินค้า 184 รายการ พิเศษเฉพาะวันที่ 28 พฤษภาคม 2564 เดินหน้ากลยุทธ์ราคา ประกาศปรับราคาสินค้ากลุ่มเสื้อผ้าและของใช้ในบ้านลง 40 – 52% รวม 333 รายการ ตั้งแต่ 28 พฤษภาคม 2564 เป็นต้นไป
นายอกิฮิโร่ คาโมการิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มูจิ รีเทล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้ร่วมตกลงที่จะเปิดร้าน MUJI สาขาใหม่กับ บริษัท ซีคอน ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ทั้งที่ศูนย์การค้าซีคอนสแควร์ และศูนย์การค้าซีคอนบางแคนั้น ล่าสุด MUJI ได้เปิดตัวสาขาใหม่เป็นสาขาที่ 22 ในประเทศไทย ณ ชั้น 1 ศูนย์การค้าซีคอนบางแค บนพื้นที่ให้บริการ 1,310 ตารางเมตร ในวันที่ 29 พฤษภาคมนี้ โดยยังคงการออกแบบสาขาที่เป็นเอกลักษณ์ด้วยสไตล์ “มินิมัลลิสต์” จัดพื้นที่เป็นสัดส่วนให้เลือกชมและซื้อผลิตภัณฑ์รวมทั้งบริการของ MUJI ได้ง่ายขึ้น ครบถ้วนทุกบริการโดย MUJI Coffer Corner ร้านกาแฟ MUJI สาขาที่ 5 ของประเทศไทย พร้อม บริการ MUJI Interior Consultation Service ให้ปรึกษาด้านออกแบบภายใน โดยลูกค้าสามารถปรึกษาหรือขอคำแนะนำเกี่ยวกับการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ หรือปัญหาด้านการจัดเก็บพื้นที่ที่จำกัดเอาใจคนชอบแต่งบ้านสไตล์มินิมอล และบริการตัดขากางเกงฟรี!
นอกจากนี้ ที่ MUJI สาขาศูนย์การค้าซีคอนบางแค ยังมีผลิตภัณฑ์ใหม่ กลุ่มเครื่องดื่มวางจำหน่ายในสาขา ตั้งแต่น้ำแร่ (Mineral water) มัชชะลาเต้ (Matcha Latte) โฮจิชะลาเต้ (Hojicha Latte) น้ำมัลเบอรี่ (Mulberry Juice) น้ำแพชชั่นฟลุต ( Passion Fruit) ชาอู่หลง (Oolong Tea) น้ำมะม่วงมหาชนก (Mahachanok Mango Juice) และน้ำผลไม้รวมต่าง ๆ ในตู้แช่เย็นพร้อมดื่ม หรือซื้อกลับบ้าน
“นอกจากกลยุทธ์ปรับราคาสินค้าเป็นราคาที่ผู้บริโภคคนไทยเข้าถึงได้ง่ายแล้ว MUJI ยังเดินหน้ากลยุทธ์ขยายช่องทางการจำหน่ายในส่วนออนไลน์และออฟไลน์ ให้สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องอีกด้วย การเปิดสาขาที่ 22 ในซีคอนบางแคนับเป็นสาขาแรกที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของกรุงเทพฯ หรือ ฝั่งธนบุรี MUJI มองเห็นศักยภาพในการขยายสินค้าและบริการให้สามารถเข้าถึงผู้บริโภคคนไทยได้มากขึ้น ทำเลดังกล่าวนับเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของคนรุ่นใหม่ มีคอนโดมิเนียมเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และยังเป็นทำเลที่มีรถไฟฟ้าเชื่อมต่อกันหลายสาย ได้แก่ รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวส่วนต่อขยายช่วงสะพานตากสิน-บางหว้า ที่เชื่อมต่อรถไฟฟ้าเส้นทางหลัก สามารถเชื่อมต่อไปยังศูนย์กลางทางธุรกิจได้อย่างสะดวก นอกจากนี้ยังมีเส้นทางรถไฟฟ้า (MRT) สายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ช่วงหัวลำโพง-บางแค ที่เข้ามาอำนวยความสะดวกให้กับผู้คนในทำเลฝั่งธนบุรี พื้นที่ดังกล่าวยังมีอาคารเก่าแก่ที่ควรอนุรักษ์ รวมถึงสถานีรถไฟสายมหาชัย-วงเวียนใหญ่ ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว จนกลายเป็น “สถานที่ท่องเที่ยว” เป็นแหล่งของกินราคาถูกและอร่อย คนกรุงเทพฯ จึงนิยมท่องเที่ยว จนเกิดการจับจ่ายใช้สอย โดยเฉพาะวันหยุดเสาร์-อาทิตย์” นายอกิฮิโร่ กล่าว
นายอกิฮิโร่ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากการเปิดสาขา MUJI ใหม่ในศูนย์การค้าซีคอนบางแคแล้ว MUJI ยังเดินหน้ากลยุทธ์ขยายช่องทางการจำหน่ายผ่านทางออนไลน์อย่างเต็มรูปแบบ โดยจับมือกับ Lazada แพลทฟอร์มอีมาร์เกตเพลสแนวหน้าของประเทศไทย โดยมีสินค้าและผลิตภัณฑ์ MUJI กว่า 398 ราย ให้เลือกสรร และยังได้จัดแคมเปญพิเศษ Muji Super Grand Opening Day เพื่อฉลองเปิดตัวอย่างเป็นทางการด้วยสินค้าราคาพิเศษจำนวน 184 รายการ ในหมวดสินค้าเสื้อผ้า และหมวดสินค้าครัวเรือน เฉพาะวันที่ 28 พฤษภาคม 2564 เพียงวันเดียวเท่านั้น บนลิงค์ https://www.lazada.co.th/shop/i/landing_page/voucher?spm=a2o4m.10453683.0.0.a2438413trtHHB&sellerId=100190586262&voucherId=900000000638409&wh_weex=true และก่อนหน้านี้ MUJI ได้ขยายตลาดออนไลน์ บนเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่นของเซ็นทรัล โดยการเพิ่มช่องทางขายผ่านออนไลน์เป็นหนึ่งในแผนการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายให้สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคนิวนอร์มอล ที่นิยมการซื้อสินค้าผ่านออนไลน์มากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ล่าสุด MUJI ยังได้ประกาศปรับลดราคาสินค้ากลุ่มเสื้อผ้าและกลุ่มของใช้ในบ้านอีก รวม 333 รายการ ประกอบด้วย ปรับลดราคาสินค้ากลุ่มเสื้อผ้าสูงสุด 40% รวม 98 รายการ อาทิ รองเท้าผ้าใบ รองเท้าใส่ในบ้าน รองเท้าแตะ ร่มพับ เสื้อเชิ้ต เสื้อยืด กางเกงยีน และกางเกงขาสั้น รวมทั้งได้ปรับลดราคาสินค้ากลุ่มของใช้ในบ้านสูงสุด 52% รวม 235 รายการ ได้แก่ กล่องเก็บของโพลีโพรพิลีน อุปกรณ์จัดเก็บแบบอะคริลิก อุปกรณ์บนโต๊ะอาหาร และสินค้าจากไม้อะคาเซีย เริ่มตั้งแต่ 28 พฤษภาคม 2564 เป็นต้นไปได้ ที่ MUJI สาขาใหม่ ณ ศูนย์การค้าซีคอนบางแค และ MUJI ทุกสาขาทั่วประเทศ รวมทั้งที่ Lazda: https://www.lazada.co.th/shop/muji/ หรือ www.central.co.th/en/muji และ Central ในแอปพลิเคชั่น http://centralapp.central.co.th/app.php
เชื่อว่านักช้อปสายสปอร์ตหลายคนคงรู้จักและเป็นแฟน Under Armour แบรนด์เสื้อผ้าและอุปกรณ์กีฬาที่โดดเด่นด้านนวัตกรรมกันอยู่ไม่น้อย แบรนด์สัญชาติอเมริกานี้เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยเมื่อปีพ.ศ. 2558 และส่งมอบสินค้าที่มีคุณภาพสมกับความเป็นแบรนด์สปอร์ตเพอร์ฟอร์แมนซ์ที่แท้จริง ในวันนี้ยังคงส่งความพิเศษให้กับสาวก Under Armour ชาวไทยอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเปิดตัวเว็บไซต์ภาษาไทยโฉมใหม่พร้อมเติมเต็มประสบการณ์การช้อปออนไลน์ให้นักกีฬาและผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกายได้สนุกไปกับนวัตกรรมจาก Under Armour
Under Armour เปิดตัวเว็บไซต์ภาษาไทยด้วยความเข้าใจนักช้อปสายสปอร์ตชาวไทยในช่วงนี้ที่ถึงแม้จะเน้นใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านมากกว่าการออกไปข้างนอก แต่การออกกำลังกายและการเล่นกีฬาก็ยังเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการใช้ชีวิตแบบนิวนอร์มอล เพื่อรักษาร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอพร้อมเผชิญทุกอุปสรรคทั้งทางร่างกายและจิตใจ ทาง Under Armour จึงไม่รอช้าเปิดตัวเว็บไซต์ภาษาไทยส่งต่อเรื่องราวและข้อมูลสินค้าให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าชาวไทยได้ดียิ่งขึ้น พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพในการบริการให้ดีมากยิ่งขึ้นและตอบโจทย์ทุกความต้องการ เพื่อส่งมอบประสบการณ์การการช้อปออนไลน์ที่เหนือกว่าในทุกขั้นตอนตั้งแต่เข้าหน้าแรกของเว็บไซต์ไปจนถึงรับสินค้าที่หน้าประตูบ้าน ให้สาวก Under Armour ฟิตฟอร์มโฮมได้อย่างไม่มีสะดุด
เว็บไซต์ภาษาไทยที่เข้าใจแฟน Under Armour ชาวไทยได้ดีที่สุด
Under Armour มอบประสบการณ์การซื้อสินค้าผ่านทางออนไลน์ที่เหนือกว่าเดิมผ่านทางเว็บไซต์ underarmour.co.th ในภาษาไทย ให้สาวกชาวไทยได้เป็นเจ้าของนวัตกรรมด้านเสื้อผ้าและอุปกรณ์กีฬาที่มีคุณภาพไปพร้อมๆ กับสัมผัสการบริการที่ดียิ่งขึ้น คือ
- ช่องทางการชำระเงินที่หลากหลาย
รองรับทุกความต้องการของลูกค้า โดยสามารถเลือกชำระเงินผ่านทางบัตรเด-บิต, เครดิตวีซ่า (Visa), มาสเตอร์การ์ด (MasterCard) และออนไลน์ แบงก์กิ้ง (Online Banking) หรือเลือกซื้อสินค้าได้อย่างสบายใจโดยเลือกเป็นการชำระเงินปลายทาง
- เว็บไซต์ภาษาไทยเพื่อความเข้าใจที่มากกว่า
ช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงข้อมูลสินค้าและเรื่องราวของแบรนด์ได้ดีมากยิ่งขึ้น
- สินค้าส่งไวไม่ต้องรอนาน
ส่งถึงมือภายใน 3 วัน อยู่ที่ไหนก็สนุกไปกับเสื้อผ้าและอุปกรณ์กีฬาจาก Under Armour ได้ไวขึ้น
- บริการคืนสินค้าที่สะดวกมากขึ้น
ยืดระยะเวลาในการคืนสินค้าให้นานขึ้น และไม่ต้องตอบคำถามให้กวนใจ
- สินค้าหลากหลายครบทุกไลฟ์สไตล์
สินค้ามีความหลากหลายครบทุกความต้องการ สนุกได้มากขึ้นกับสินค้าคอลเลกชันเอ็กซ์คูลซีฟ และสินค้าหายากที่วางจำหน่ายเพียงบางประเทศ
- บริการหลังการขายด้วยทีมไทยที่เข้าใจคนไทย
ดูแลลูกค้าด้วยความเข้าใจผ่านการบริการอย่างใกล้ชิด เพื่อรองรับทุกความต้องการ
สาวก Under Armour ห้ามพลาดกับโปรโมชั่นพิเศษฉลองเปิดเว็บไซต์โฉมใหม่ เมื่อสั่งซื้อสินค้าผ่านทางเว็บไซต์ underarmour.co.th ครบ 3,000 บาท รับฟรีกระเป๋า Under Armour Contain Travel Kit ตั้งแต่วันที่ 25 – 31 พฤษภาคม 2564 (เป็นไปตามเงื่อนไขหรือจนกว่าสินค้าจะหมด) และพิเศษด้วยบริการผ่อนชำระสินค้า 0% ยาวนานสูงสุด 6 เดือน กับธนาคารที่ร่วมรายการ เมื่อซื้อสินค้าขั้นต่ำ 5,000 บาท (เงื่อนไขเป็นไปตามที่แต่ละธนาคารกำหนด) ตั้งแต่วันที่ 25 – 31 พฤษภาคม 2564 นี้
สามารถติดตามข่าวสารเกี่ยวกับ Under Armour และโปรโมชั่นพิเศษก่อนใครได้ที่ช่องทางต่อไปนี้
- เว็บไซต์ www.underarmour.co.th
- Line Official Account @underarmourth
- ร้านค้าทางการของ Under Armour บน Lazada
- ร้านค้าทางการของ Under Armour บน Shopee
Lotus’s สาขา The Market Bangkok ดีเดย์เปิดให้บริการแล้ววันนี้!!! โดยมีคณะผู้บริหารจาก Lotus’s นำโดย อรกานดา อรรถวิภัชน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านปฏิบัติการค้าปลีก, มนต์ชัย อินทรพรอุดม ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจค้าปลีก ภูมิภาคใต้ และ ดร. สรินทิพย์ สถิตเสถียร ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาฟอร์แมทใหม่ และพัฒนาการดำเนินงาน และผู้บริหารศูนย์การค้าเดอะมาร์เก็ต ได้แก่ จิรายุ รัตตประดิษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายปฏิบัติการอาคาร บมจ. เดอะ แพลทินัม กรุ๊ป, จิตตินี จอมปรัชญา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายสื่อสารการตลาด บมจ. เดอะ แพลทินัม กรุ๊ป และ รัตนธร ลิมป์ไพศาล ผู้อำนวยการฝ่ายกิจกรรมการตลาด บมจ. เดอะ แพลทินัม กรุ๊ป พร้อมด้วยพนักงานร่วมเปิดสาขาใหม่ และร่วมชมบรรยากาศการช้อปปิ้งภายใต้กลยุทธ์ “Smart” ช้อปปิ้ง โดยโลตัสสาขา The Market Bangkok ถือเป็น “โลตัสสมาร์ทซิตี้ซูเปอร์มาร์เก็ต” แห่งแรกในประเทศไทย ที่ได้นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่มาใช้เป็นเครื่องมือในการตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการความสะดวกสบาย และความรวดเร็วในการช้อปปิ้งสินค้าบริโภคสดใหม่ และของใช้ต่างๆ ในชีวิตประจำวัน ตลอดจนโปรโมชั่นพิเศษอีกมากมาย พร้อมปลุกกระแสการจับจ่ายย่านใจกลางราชประสงค์ โดยเปิดให้บริการเต็มรูปแบบแล้ววันนี้ ณ ศูนย์การค้า เดอะ มาร์เก็ต แบงคอก (ราชประสงค์) ชั้น G โซน M2
สำหรับ Lotus’s สาขา The Market Bangkok ชั้น G โซน M2 ครอบคลุมพื้นที่กว่า 2,400 ตร.ม. ภายใต้คอนเซปต์ “Smart” ช้อปปิ้ง สร้างจุดยืนที่แตกต่างทั้งในด้านของสินค้าและช่องทางการจำหน่ายทั้งออฟไลน์และออนไลน์ เพื่อสร้างประสบการณ์ช้อปปิ้งที่แปลกใหม่ตรงใจลูกค้าในเมืองที่ใส่ใจทั้งคุณภาพ ความคุ้มค่า และความหลากหลาย ซึ่งไฮไลท์ความพิเศษของบริการช้อปตัวเบา ที่สาขา The Market Bangkok มีให้เลือกหลากหลายได้ตามต้องการ ได้แก่
- บริการช้อปอาหาร และสินค้าส่งตรงถึงบ้านจาก Grab และ Panda Food
- สั่งสินค้าออนไลน์ได้เพียงสแกน OG Code หรือแอดไลน์ ID Line: lotusm
- เลือกโหลดช้อปสมาร์ท ได้ง่ายๆ ทาง app store หรือ google play
- Click & Collect ช้อปง่ายๆ จากที่บ้าน และสามารถเลือกบริการรับสินค้าได้ที่สาขา The Market Bangkok
- SCAN & GO ขั้นตอนง่ายๆ เพียงสแกน QR Code และ สแกนบาร์โค้ดสินค้าที่ต้องการซื้อ พร้อมระบุรายละเอียด ชื่อ ที่อยู่ เวลาจัดส่ง และชำระเงิน เพียงเท่านี้ รอสินค้าส่งตรงถึงบ้านได้เลย
เมื่อ “บ้าน = ที่ทำงาน” วิถีชีวิต Work From Home จะขาดสีสันความสดชื่นได้ยังไง ศูนย์การค้า เดอะ มาร์เก็ต แบงคอก (ราชประสงค์) ชวนหนุ่มสาวชาวออฟฟิศมา Work Life Balance ให้ปังเติมพลัง รับสิ่งดีๆ สีเขียวๆ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการทำงานที่บ้านกันได้ในงาน “ตลาดนัด Grow Green ครั้งที่ 3” #นัดกันปลูกGrowFromHome โดยงานจัดขึ้นวันที่ 18 – 31 พ.ค. 64 ณ R Walk ชั้น M ศูนย์การค้า เดอะ มาร์เก็ต แบงคอก (ราชประสงค์)
ภายในงานพบกับหลากหลายพันธุ์ไม้ อาทิเช่น ต้นไม้ฟอกอากาศ, ต้นไม้มงคล, ไม้ดอกไม้ประดับ, ไม้ด่าง, ไม้โขด, ต้นไม้อวบน้ำ, แคคตัส และพันธุ์ไม้หายากฯลฯ ตลอดจนอุปกรณ์การปลูกต้นไม้และการตกแต่งสวนจากพ่อค้าแม่ค้าตัวจริง พร้อมนำมาจำหน่ายภายในงาน พร้อมแวะเวียนมาเช็คอิน ถ่ายภาพสวยๆ กับซุ้มอุโมงค์ขนาดยักษ์ และมุมถ่ายภาพที่บรรจงตกแต่งประดับประดาพันธุ์ไม้ไว้เอาใจสายเขียว ให้ได้ชื่นชมความสวยงามร่มรื่นของหมู่แมกไม้กันได้แบบชิลล์ๆ โดยมีร้านค้าจำหน่ายพันธุ์ไม้ต่างๆ ที่กำลังอยู่ในกระแส
พิเศษ!!! ร่วมสนุกกับกิจกรรมเพียงกด like FB Page The Market Bangkok รับกล้าไม้นานาพันธุ์ฟรีคนละ 1 ต้น ไม่ว่าจะเป็นประเภทไม้ยืนต้น ได้แก่ จามจุรี (ชื่ออื่น: ก้ามปู, ฉำฉา), กัลปพฤกษ์, หางนกยูงไทย, แคนา, เก็ดแดง, อินทนิลน้ำ, ยางกราด (ชื่ออื่น: สะแบง), ยางนา, พะยอม, ยางพลวง (ชื่ออื่น: ตองตึง) ประเภทพืชผักกินได้ ได้แก่ ต้นไชยา (ชื่ออื่น: คะน้าแม็กซิกัน, ผักผงชูรส) ประเภทพืชสมุนไพร ได้แก่ ต้นป่าช้าเหงา หรือ หนานเฉาเหว่ย, ต้นทองพันชั่ง ฯลฯ
พบกับต้นไม้หลากหลายสายพันธุ์ที่จะทำให้ Work From Home ของทุกคนสดชื่นไปพร้อมกันได้ในงาน “ตลาดนัด Grow Green ครั้งที่ 3” #นัดกันปลูกGrowFromHome ณ ศูนย์การค้า เดอะ มาร์เก็ต แบงคอก (ราชประสงค์) บริเวณ R Walk ชั้น M ตั้งแต่วันนี้ – 31 พ.ค. 64
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA ร่วมกับผู้จัดงานทั้งภาครัฐ เอกชน สถาบันการศึกษา และกลุ่มธุรกิจสร้างสรรค์ต่าง ๆ ประกาศเดินหน้าจัดงานเทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ 2564 หรือ Bangkok Design Week 2021 (BKKDW2021) โดยปรับเปลี่ยนรูปแบบกิจกรรมบางส่วนให้อยู่ในรูปแบบออนไลน์เป็นหลัก เพื่อลดความเสี่ยงของการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 พร้อมขยายกำหนดการจัดงานออกไป เป็นวันที่ 8 พฤษภาคม - 31 กรกฎาคม 2564 ภายใต้แนวคิด “Resurgence of Possibilities ก้าวต่อไปสู่ความเป็นไปได้ใหม่” เทศกาลงานออกแบบและสร้างสรรค์แห่งปีที่จะพาทุกคนไปเปิดโลกแห่งความคิดสร้างสรรค์ที่จะเปลี่ยนกรุงเทพฯ ให้เต็มไปด้วยความหวังที่ช่วยชุบชีวิตให้แก่เมือง พร้อมพบปะทั้งเหล่าผู้ประกอบการ นักออกแบบ และนักสร้างสรรค์ที่มารวมตัวกันแบบออนไลน์ สอดรับชีวิตวิถีใหม่แบบ New Normal เน้นเรื่องความปลอดภัยสร้างความอุ่นใจด้วยมาตรการป้องกัน COVID-19 ตลอดเทศกาลฯ
พร้อม 7 กิจกรรมหลัก ได้แก่ 1) การจัดแสดงผลงานและนิทรรศการ 2) เสวนา 3) เวิร์กชอป 4) อีเวนท์ เช่น การแสดงดนตรี ศิลปะการแสดง 5) ทัวร์ 6) ตลาดนัดสร้างสรรค์ 7) โปรโมชัน โดยสามารถเข้าชมงานและร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ของเทศกาลฯ ทางออนไลน์ได้ เช่น ทอล์ค ดนตรี และการแสดง การจัดเวิร์กชอปออนไลน์ ตลาดออนไลน์ นิทรรศการและโชว์เคสในรูปแบบ Virtual tour ทางเฟซบุ๊กเพจ Bangkok Design Week
ซึ่งกิจกรรมไฮไลท์ประจำเดือนพฤษภาคมนี้ พบกับโปรแกรมทอล์คออนไลน์อัดแน่นด้วยสาระความรู้ที่นำความคิดสร้างสรรค์มาผสมผสานกับศิลปะ วัสดุ เทรนด์อนาคต และชุดเครื่องมือออกแบบที่จะไขทุกเคล็ดลับสำหรับการเดินหน้าต่อ รับชมผ่านทาง Live streaming ผ่านทางเฟซบุ๊กเพจ Bangkok Design Week อาทิ The Talk : Create a Better City Together โดย CEA X BRANDTHINK งานเสวนาสร้างเมืองเพื่อร่วมเปลี่ยนแปลงกรุงเทพฯ ให้ดีกว่าในวันพรุ่งนี้ไปด้วยกัน ในหัวข้อ “เราจะสร้างและเปลี่ยนแปลง ‘เมือง’ ให้ดีขึ้นได้อย่างไร?” ผ่านเรื่องเล่าจากมุมมองของนักคิด เจ้าของธุรกิจในชุมชน ภูมิสถาปนิก และผู้วางนโยบาย อาทิ คุณชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม นักการเมืองผู้สนใจเรื่อง ‘เมือง’ อาจารย์สุลักษณ์ ศิวรักษ์ ปัญญาชนสยาม ผู้อาศัยในย่านบางรัก-เจริญกรุงมาตั้งแต่เล็ก เป็นต้น เพื่อร่วมกันมองหาและสร้างภูมิทัศน์ใหม่ในอนาคตให้กับกรุงเทพฯ โดยตั้งต้นที่ย่านเจริญกรุง กิจกรรมจัดวันอาทิตย์ที่ 9 พฤษภาคม 2564 เวลา 14.00-16.00 น. Brand’s Future Forum 2021 : Adaptive Business โดย CEA X BARAMIZI งานเสวนาติดตั้งเครื่องมือในการสร้างแบรนด์ยุคใหม่ เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมต่อการปรับตัวธุรกิจให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง ภายใต้หัวข้อ Adaptive Business การปรับตัวของธุรกิจที่นอกจากอยู่รอดแล้วจะเติบโตต่ออย่างไรให้ทันกระแสของโลก กิจกรรมจัดวันพุธที่ 12 พฤษภาคม 2564 เวลา 14.00-18.00 น. Design Research Day โดย CREATIVE ECONOMY AGENCY (CEA) เวทีบรรยายนำเสนอ 11 โปรเจ็กต์งานวิจัยด้านการออกแบบ ภายในเวลาคนละ 20 นาที โดยนักสร้างสรรค์จากหลากหลายสาขา ที่สะท้อนให้เห็นถึงการใช้ความคิดสร้างสรรค์จากกระบวนการทำงานในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์สาขาต่าง ๆ กิจกรรมจัดวันพฤหัสบดีที่ 13 พฤษภาคม 2564 เวลา 14.00-17.30 น. และ ลองทาย ลองTRY x SC ASSET, Powered by PechaKucha เวทีนำเสนอแนวคิด ไอเดีย และผลงานนักสร้างสรรค์ในแวดวงต่าง ๆ มาลองทายถึงความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ ผ่าน 20 ภาพ X 20 วินาที X 20 คน กิจกรรมจัดวันเสาร์ที่ 15 พฤษภาคม 2564 เวลา 14.00-17.00 น.
พร้อมพบกับฟรี เวิร์กช็อป "Resilience CV Workshop" โดย The Infinity เวิร์กช็อปที่เปิดโอกาสให้คุณได้เดินทางกลับไปสำรวจความล้มเหลวของตัวเองผ่านกิจกรรม ‘Lab กริ๊ง’ กับคู่เดทที่คุณไม่เคยพบ! เปิดพื้นที่ให้บอกเล่าประสบการณ์การทำงาน ที่เชื่อว่าชีวิตของเรามีทางเลือกให้ก้าวเดินต่อไปเสมอ กิจกรรมจัดวันเสาร์ที่ 8 พฤษภาคม 2564 เวลา: 13.00 - 16.00 น. ผ่านทาง Zoom ลงทะเบียนได้ที่ https://bit.ly/3ex6uma
นอกจากนี้ ยังเอาใจคนรักของดีไซน์ ด้วยตลาดนัดสร้างสรรค์ Creative Market x Pinkoi ในรูปแบบของออนไลน์ ที่รวบรวมงานคราฟท์ ของตกแต่งบ้าน เสื้อผ้า เครื่องประดับ และสินค้าไลฟ์สไตล์ ไว้ใน Pinkoi แพลตฟอร์มจำหน่ายสินค้าดีไซน์ออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย พร้อมโปรโมชันสุดพิเศษส่งฟรีในประเทศไทย โดยไม่มีขั้นต่ำในการสั่งซื้อ ตั้งแต่วันที่ 6-21 พฤษภาคม 2564 และส่งฟรีไปไต้หวัน โดยไม่มีขั้นต่ำในการสั่งซื้อ ตั้งแต่วันที่ 1-7 มิถุนายน 2564
ส่วนเดือนมิถุนายน-กรกฎาคมจะมีการเปิดพื้นที่สำหรับจัดแสดงงานบางส่วนให้ประชาชนสามารถเข้าชมได้ ใน 4 พื้นที่ย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ได้แก่ เจริญกรุง-ทรงวาด สามย่าน อารีย์-ประดิพัทธ์ และทองหล่อ-เอกมัย โดยจะต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดไว้อย่างเคร่งครัด
ร่วมค้นหาโอกาสและความเป็นไปได้ใหม่ เพื่อเพิ่มศักยภาพให้แก่เมือง ในเทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 8 พฤษภาคม - 31 กรกฎาคม 2564 นี้ ติดตามความเคลื่อนไหว กิจกรรม โปรแกรม และตารางเวลา งานเทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ ได้ที่
- Website: bangkokdesignweek.com
- Facebook: BangkokDesignWeek
- Instagram: @bangkokdesignweek
- Line@: BangkokDesignWeek
- Twitter: BKKDesignweek
#BKKDW2021 #BangkokDesignWeek
BIOTHERM ขยายช่องทางจัดจำหน่ายใหม่ใน SHOPEE เตรียมดีลสุดคุ้ม 27 เม.ย. 64 นี้ เพื่อผิวสุดปังให้นักช้อปออนไลน์
BIOTHERM (ไบโอเธิร์ม) แบรนด์สกินแคร์ชั้นนำจากฝรั่งเศสจากแผนกเครื่องสำอางชั้นสูงในเครือยักษ์ใหญ่ ลอรีอัล กรุ๊ป ตอบรับการเติบโตอย่างต่อเนื่องของแบรนด์จากไลฟ์แพลงตอน ส่วนผสมซิกเนเจอร์เฉพาะของไบโอเธิร์ม พร้อมขยายช่องทางจัดจำหน่ายใน SHOPEE เพิ่มทางเลือกให้นักช้อปออนไลน์ เริ่มวันที่ 27 เม.ย. 64 นี้
การเปิดช่องทางใน SHOPEE เป็นการตอบรับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่เพิ่มการใช้เวลาบนโลกออนไลน์มากขึ้น และตอบรับความต้องการในการช้อปออนไลน์ ซึ่งผลักดันให้การเติบโตของช่องทางอีคอมเมิร์ซเพิ่มขึ้นอย่างมาก และไบโอเธิร์มยังใช้โอกาสนี้ฉลองครบรอบ 1 ปี กับการประสบความสำเร็จด้วยยอดขายกว่า 5 หมื่นขวดของ BIOTHERM LIFE PLANKTON ELIXIR เซรั่มที่มีส่วนผสมของไลฟ์แพลงตอน อันเป็นส่วนประกอบสำคัญของแบรนด์ เข้มข้นถึง 5% เพื่อฟื้นบำรุงผิวขั้นสุด ให้ผิวดูกระจ่างใส เรียบเนียน กระชับ ตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้**
ไบโอเธิร์มเตรียมโปรโมชั่นสุดพิเศษ ลดสูงสุด 20% สำหรับผู้ที่ช้อปผ่านSHOPEE ในช่วงเปิดตัวระหว่างวันที่ 27 เม.ย. 64 ถึง 4 พ.ค. 64 นี้ รับรองว่าถูกใจสายช้อป ได้แก่
● Pre-Hype
วันที่ 27 เมษายน 2564 – 3 พฤษภาคม 2564 ทุกออเดอร์ รับของขวัญสุดพิเศษ และ 100 ออเดอร์แรกที่ช้อปครบ 1,000 บาท รับ Life Plankton Eye ขนาดจริง มูลค่า 1,900 บาท
● D-Day Grand Launch
วันที่ 4 พฤษภาคม 2564 รับเพิ่ม ผลิตภัณฑ์ขนาดจริงและขนาดเดินทาง (ตามเงื่อนไขที่ทางร้านค้ากำหนด)
BIOTHERM ทาง Shopee Mall ได้ที่ https://bit.ly/3sbhbzU
#BIOTHERMTHAILAND #ผิวดูดีได้ที่ไลฟ์แพลงตอน
#ไลฟ์แพลงตอนเซรั่ม #สาวกแพลงตอน #BIOTHERMXSHOPEE
เว็บไซต์นี้มีการเก็บ Cookies เพื่อปรับปรุงการให้บริการ จิ้มดู นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อทำความเข้าใจเพิ่มเติม