★REVIEW ★ - ย้อนวันวานสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
dolphinee511สวัสดีค่ะ สาวๆจีบันที่น่ารักทุกๆๆๆๆๆคน ^^
วันนี้ปรางไม่ได้มารีวิวเครื่องสำอางค์
แต่จะพาสาวๆไปเที่ยวจร้า <3
วันนี้ปรางจะพาไปย้อนรอยสงครามโลกครั้งที่ 2
ที่อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี
ที่นี่มีงานที่ชื่อว่า
" งานย้อนรอยสงครามโลกครั้งที่ 2 "
ประวัติความเป็นมาของงานนี้นะค่ะ
เมื่อครั้งเกิด สงครามโลกครั้งที่ 2 ถูกทหารญี่ปุ่นยึดครองเนื่องจาก
เมืองแก่งคอยเป็นเมืองท่าที่สำคัญและเป็นชัยภูมิการรบที่เหมาะแก่กองกำลังทหารญี่ปุ่น
ที่จะลำเลียงกำลังพลได้ทั้งทางน้ำผ่านแม่น้ำป่าสัก
และทางรถไฟที่มีเส้นทางรถไฟมุ่งสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้อย่างสะดวก
โดยเมืองแก่งคอยถูกทหารญี่ปุ่นยึดครองยาวนานเกือบ 4 ปี
กระทั่งช่วงปลายสงครามปีพ.ศ.2488
ได้ถูกเครื่องบินรบของกองทัพพันธมิตรมาทิ้งระเบิดใส่ทหารญี่ปุ่นจนเสียชีวิตจำนวนมาก
ขณะเดียวกันมีประชาชนชาวแก่งคอยเสียชีวิตด้วยเช่นกันพร้อมกับความเสียหายของบ้านเรือน
อย่างไรก็ตามขณะที่เครื่องบินได้ทำการโจมตีทิ้งระเบิดใส่ทหารญี่ปุ่น
ชาวบ้านแก่งคอยหลายร้อยคนได้หลบหนีไปอยู่ในวัดแก่งคอย
และได้กราบไหว้หลวงพ่อลาซึ่งเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ที่ชาวแก่งคอยให้ความเคารพนับถือ
กระทั่งมีลูกระเบิดขนาดใหญ่ตกลงมาหน้าศาลาวัดที่มีชาวบ้านหลบภัยอยู่
แต่เป็นสิ่งอัศจรรย์ที่ระเบิดไม่ทำงาน ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นอิทธิฤทธิ์ของหลวงพ่อลา
ทำให้ชาวบ้านพ้นภัยรอดชีวิตในครั้งนั้นมาได้
จากนั้นชาวแก่งคอยได้ถือเอาวันที่ 2-4 เมษายนของทุกปีเป็นวันสักการะหลวงพ่อลา
และต่อมาได้จัดงานรำลึกวันสงครามโลกของชาวแก่งคอยไปในคราวเดียวกัน
โดยญาติของผู้เสียชีวิตทั้งชาวไทยและญี่ปุ่น
รวมทั้งเจ้าหน้าที่จากสถานทูตญี่ปุ่นก็จะเดินทางมาแสดงไว้อาลัยและวางพวงมาลา
ที่อนุสรณ์สถานลูกระเบิดภายในวัดแก่งคอย
งานนี้จึงจัดเพื่อระลึกถึงสมัยสงครามโลกที่เกิดขึ้น ณ ที่แห่งนี้คะ
มาคะ ตามปรางไปเที่ยวกัน ~~
วันนี้ปรางไม่ได้มารีวิวเครื่องสำอางค์
แต่จะพาสาวๆไปเที่ยวจร้า <3
วันนี้ปรางจะพาไปย้อนรอยสงครามโลกครั้งที่ 2
ที่อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี
ที่นี่มีงานที่ชื่อว่า
" งานย้อนรอยสงครามโลกครั้งที่ 2 "
ประวัติความเป็นมาของงานนี้นะค่ะ
เมื่อครั้งเกิด สงครามโลกครั้งที่ 2 ถูกทหารญี่ปุ่นยึดครองเนื่องจาก
เมืองแก่งคอยเป็นเมืองท่าที่สำคัญและเป็นชัยภูมิการรบที่เหมาะแก่กองกำลังทหารญี่ปุ่น
ที่จะลำเลียงกำลังพลได้ทั้งทางน้ำผ่านแม่น้ำป่าสัก
และทางรถไฟที่มีเส้นทางรถไฟมุ่งสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้อย่างสะดวก
โดยเมืองแก่งคอยถูกทหารญี่ปุ่นยึดครองยาวนานเกือบ 4 ปี
กระทั่งช่วงปลายสงครามปีพ.ศ.2488
ได้ถูกเครื่องบินรบของกองทัพพันธมิตรมาทิ้งระเบิดใส่ทหารญี่ปุ่นจนเสียชีวิตจำนวนมาก
ขณะเดียวกันมีประชาชนชาวแก่งคอยเสียชีวิตด้วยเช่นกันพร้อมกับความเสียหายของบ้านเรือน
อย่างไรก็ตามขณะที่เครื่องบินได้ทำการโจมตีทิ้งระเบิดใส่ทหารญี่ปุ่น
ชาวบ้านแก่งคอยหลายร้อยคนได้หลบหนีไปอยู่ในวัดแก่งคอย
และได้กราบไหว้หลวงพ่อลาซึ่งเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ที่ชาวแก่งคอยให้ความเคารพนับถือ
กระทั่งมีลูกระเบิดขนาดใหญ่ตกลงมาหน้าศาลาวัดที่มีชาวบ้านหลบภัยอยู่
แต่เป็นสิ่งอัศจรรย์ที่ระเบิดไม่ทำงาน ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นอิทธิฤทธิ์ของหลวงพ่อลา
ทำให้ชาวบ้านพ้นภัยรอดชีวิตในครั้งนั้นมาได้
จากนั้นชาวแก่งคอยได้ถือเอาวันที่ 2-4 เมษายนของทุกปีเป็นวันสักการะหลวงพ่อลา
และต่อมาได้จัดงานรำลึกวันสงครามโลกของชาวแก่งคอยไปในคราวเดียวกัน
โดยญาติของผู้เสียชีวิตทั้งชาวไทยและญี่ปุ่น
รวมทั้งเจ้าหน้าที่จากสถานทูตญี่ปุ่นก็จะเดินทางมาแสดงไว้อาลัยและวางพวงมาลา
ที่อนุสรณ์สถานลูกระเบิดภายในวัดแก่งคอย
งานนี้จึงจัดเพื่อระลึกถึงสมัยสงครามโลกที่เกิดขึ้น ณ ที่แห่งนี้คะ
มาคะ ตามปรางไปเที่ยวกัน ~~
เริ่มจากบริเวณภายในวัดแก่งคอยก่อนนะค่ะ
นี่คือลูกระเบิดจำลองขนาดเท่าของจริงที่ตกกลางวัดแก่งคอยแต่ไม่ระเบิดค่ะ
ลูกใหญ่มากๆ T^T
แวะไปไหว้พระในเจดีย์ก่อนนะค่ะ เอาบุญเอากุศล
ออกมาจากเจดีย์ เดินมาอีกฝั่งของวัด จะเป็นโบสถ์แบบ ไทย-จีน ค่ะ
ข้างใน หลวงพ่อลาองค์จำลองประดิษสถานอยู่คะ
จะเห็นได้ว่าคนเยอะจริงๆ *O*
ตรงบริเวณลานหน้าวัด ก็จะมีชิงช้าสวรรค์ ม้าหมุน บ้านบอลลูน
สอยดาว ของเล่นเด็ก ของขายต่างๆ บลาๆๆๆ ใครชอบบรรยากาศงานวัดแท้ๆ
น่าจะชอบค่ะ ^^
เดินออกมานอกวัดคะ เข้าไปในตลาด ก็จะมีของซื้อ ของขาย ของกินเพียบ
แต่ที่น่าประทับใจคือ บริเวณที่นี่อาคารบ้านเรือนยังคงสภาพเอาไว้ตั้งแต่สมัยสงครามโลกเลย
เก่ามากๆ อาจจะมีบ้างที่ปรับปรุง แต่ก็รักษาไว้ได้เกือบสมบูรณ์ค่ะ :)
ร้านค้าเก่าๆก็นำของเก่าๆที่เก็บเอาไว้ออกมาให้ได้ชมกัน
อันนี้เป็นร้านตัดผมในสมัยนั้นค่ะ ร้านตัดผมชาย ซึ่งปรางก็ไม่เคยเห็น
แต่คุณพ่อบอกว่า รุ่นคุณพ่อยังทัน ได้ใช้อยู่^^
อันนี้เป็นร้านตัดผมในสมัยนั้นค่ะ ร้านตัดผมชาย ซึ่งปรางก็ไม่เคยเห็น
แต่คุณพ่อบอกว่า รุ่นคุณพ่อยังทัน ได้ใช้อยู่^^
ทีวีขาวดำ พัดลมเก่าๆ วิทยุ ของใช้ต่างๆคะ เรโทรสุดๆไปเลย *O*
ร้านขายของชำสมัยก่อนค่ะ เก๋สุดๆ ><"
ร้านของเล่นโบราณคะ คุณพ่อยืนดูร้านนี้นานมาก แล้วก็เล่าว่าสมัยนั้นเค้ามีชิ้นไหนบ้าง :)
ร้านนี้ขายหมวกโบราณค่ะ ชื่อว่า หมวกกะโล่
ในสมัย จอมพล ป. ท่านบังคับให้ชายไทยต้องใส่หมวกคะ
หมวกกะโล่ในสมัยนั้นจึงเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก
ร้านกาแฟโบราณ ได้รสชาติสุดๆคะ อร่อยกลมกล่อมมากๆ
สาวคนไหนไม่กลัวอ้วน มาร้านขนมไทยแท้ๆร้านนี้เลยค่ะ
หวานหอมมั่กมาก
เดินไปซักพักเจอคุณป้าขายขนมโบราณอยู่ น้องๆหลายคนอาจไม่เคยกิน
ขนมชิ้นนี้เรียกว่า ข้าวเกรียบหูช้าง คุณป้ายังทำแบบวิธีดั้งเดิมมากๆ ราคาก็ถู๊กถูก
แถมอร่อยมากๆ <3
เดินร้อนๆรับไอติมหลอด ซักหลอดสองหลอดมั้ยค่ะ ^^
เดินเหนื่อยๆรับน้ำซักแก้วให้ชื่นใจ
ขนมทองม้วนโบราณค่ะ หอมใบเตยมั่กมากกกก(วิบัติเพื่อเสียงนะค่ะ)
เดี๋ยวมาต่อนะค่ะ

Discussion (11)
วันนี้เราก็พึ่งไปมา เดินจนเมื้อยขาเลย 555
ดูแล้วคิดถึงบ้านจริงๆ
สาวๆจ๊ะ ปีหน้ายังมี อย่าลืมแวะไปเที่ยว แก่งคอยนะคะ ^^