ย้อนรอยประวัติคนดังเกาหลีที่เคยถูกฟ้องร้องข้อหาอาชญากรรมทางเพศ

10 5
หลายฝ่ายมองว่า กระแสข่าวไอดอลดังถูกฟ้องร้องคดีอาชญากรรมทางเพศ อาจจะผลักดันให้เกิด aftershock ครั้งใหญ่เพื่อกวาดล้างผู้กระทำผิดซุกซ่อนตัวตนภายใต้ภาพลักษณ์อันสวยหรูในวงการบันเทิง และยังมีการเปรียบเทียบกับคดี Burning Sun ที่สื่อชื่อดังจากตะวันตกสร้างสารคดีตีแผ่ด้านมืดของสังคมเกาหลี ทั้งๆที่มันเป็นคดีใหญ่ที่คนทั้งประเทศจับตามอง แต่ก็ยังมีการใช้เส้นสายเพื่ออำนวยประโยชน์ให้กับอาชญากรได้รับโทษเบาลง ส่งผลให้ผู้คนเรียกร้องให้ผู้มีอำนาจแก้ไขปัญหาคอร์รัปชั่นในองค์กร และเอาผิดอาชญากรในคราบคนดังอย่างเด็ดขาดกว่าที่เป็นมา

scandal ประเภทนี้ไม่ได้เพิ่งจะมาดึงดูดความสนใจจากผู้คนนับตั้งแต่ความเคลื่อนไหว MeToo เมื่อหลายปีก่อนเท่านั้น แต่อาชญากรรมทางเพศได้แฝงตัวอยู่ในวงการบันเทิงเกาหลีมานานแล้ว หากผู้กระทำผิดถูกจับได้ก็ต้องจบเส้นทางอันรุ่งโรจน์ของอาชีพศิลปินบันเทิงไป แต่ก็ไม่ใช่ทุกคดี บางคนสามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนในการต่อสู้ทางกฎหมายและกลับมาสร้างชื่อเสียงโด่งดังอีกครั้ง และยังมีคนที่ถูกศาลตัดสินว่ากระทำความผิดจริง แต่เมื่อเวลาล่วงเลยไปก็สามารถหวนคืนวงการได้ และบางคนก็ต้องลิ้มรสชาติของการถูกจองจำในคุกเพราะจำนนต่อหลักฐาน ที่มืดมนยิ่งกว่านั้นคือ ผู้กระทำความผิดที่เลือกจบชีวิตตัวเองเพราะไม่สามารถรับมือกับแรงต่อต้านจากสังคมได้ไหว

ลองมาติดตามเรื่องราวกันต่อได้เลยค่ะ


 

โอ ยองซู


ถูกกล่าวหาว่าลวนลามนักแสดงหญิงเมื่อหลายปีก่อน

ผลการตัดสินจากกระบวนยุติธรรม: คำพิพากษาจำคุก 8 เดือนและรอการลงอาญา 2ปี ตอนนี้อยู่ในช่วงยื่นอุทธรณ์

ชื่อเสียงที่หลั่งไหลเข้ามาจากซีรีส์ Squid Game ทำให้แฟนๆต่างปลื้มใจที่โอ ยองซู นักแสดงวัยอาวุโสระดับปู่แห่งวงการได้สร้างชื่อเสียงโด่งดังระดับโลก เขาสร้างความภาคภูมิใจให้กับคนในชาติด้วยการเป็นนักแสดงเกาหลีคนแรกที่คว้ารางวัลลูกโลกทองคำสาขานักแสดงสมทบยอดเยี่ยม ภาพลักษณ์ที่ดูน่าเคารพและการแสดงแง่คิดดีงามทำให้คนรุ่นหลังสนับสนุนความสำเร็จของเขาอย่างเต็มที่ แต่ทุกอย่างกลับต้องพินาศลงไป เมื่อหญิงสาวรายหนึ่งฟ้องร้องว่า เขาได้ลวนลามกอดจูบเธอเมื่อหลายปีก่อน และมีรายงานว่า เธอมีหลักฐานแน่นหนาเป็นบันทึกภาพเหตุการณ์เพื่อเอาผิดนักแสดงรุ่นใหญ่ลายคราม
แม้ว่าจะให้การปฏิเสธ บ่ายเบี่ยงไปว่า เพียงแค่จับมือเหยื่อเพื่อชี้ชวนให้ชมวิวทิวทัศน์ แต่ผู้พิพากษาได้พิจารณาแล้วว่าเขามีความผิดจริงและพิพากษาโทษจำคุก 8 เดือนและรอลงอาญา ทั้งยังสั่งให้เข้าคลาส sexual violence treatment เป็นเวลา 40 ชั่วโมง ซึ่งล่าสุด เขากำลังยื่นอุทธรณ์ด้วยการยกเหตุผลว่า ถูกสังคมลงโทษอย่างหนักแล้ว นอกจากจะถูกประนามรุนแรง งานในวงการก็ถูกยกเลิกไปจนหมด

โจ มินกี


ตำรวจได้รับแจ้งว่า นักศึกษามหาวิทยาลัยหลายคนถูกนักแสดงรุ่นใหญ่ล่วงละเมิดทางเพศ

ผลการตัดสินจากกระบวนยุติธรรม: ผู้ถูกกล่าวหาปลิดชีวิตตัวเองก่อนที่จะสิ้นสุดการสืบสวน


มีการตั้งข้อสังเกตว่า การตั้งข้อกล่าวหาล่วงละเมิดทางเพศเพื่อเอาผิดผู้มีชื่อเสียงในประเทศเกาหลีมักจะเกิดขึ้นกับชายที่มีวัยวุฒิ ซึ่งสื่อถึง power dynamics หรือความสัมพันธ์ที่เกิดจากการใช้พลังอำนาจเหลื่อมล้ำกัน ซึ่งฝ่ายผู้กระทำความผิดจะบีบคั้นเหยื่อให้กลัวเกรงไม่กล้าเปิดเผยความจริง และหวาดวิตกว่า ถึงจะรวบรวมความกล้าแจ้งความและฟ้องร้องชายที่ทำร้ายพวกเธอ ผู้คนในสังคมก็จะไม่ให้ความเชื่อถือ ซ้ำเติมเหยื่อว่าฉกฉวยประโยชน์จากการใส่ร้ายป้ายสีคนดัง ซ้ำร้ายยังโทษว่าเป็นความผิดของเหยื่อ

แต่ในกรณีของคดีอื้อฉาวของพระเอกรุ่นใหญ่'โจ มินกี'ที่หลายคนน่าจะคุ้นเคยจากบทบาทพระราชาแห่งซีรีส์ Moon Lovers: Scarlet Heart Ryeo ข้อมูลจากผู้เสียหายและพยานทำให้สังคมค่อนข้างปักใจว่า เขาจะต้องมีส่วนผิดตามข้อกล่าวหา

ต้นตอเรื่องราวเกิดขึ้นในมหาวิทยาลัย Cheongju สถาบันที่ว่าจ้างโจ มินกีให้มารับตำแหน่งอาจาย์สอนนักศึกษาในภาคสาขาวิชาศิลปะการแสดง แต่เมื่อเวลาผ่านไป มหาวิทยาลัยก็ได้รับคำร้องเรียนจากนักศึกษาหญิงหลายคนว่า พระเอกรุ่นใหญ่ฉวยโอกาสแตะเนื้อต้องตัวพวกเธอและใช้วาจาลามกแทะโลม ทำให้กรรมการสอบสวนวินัยตัดสินใจพักการสอนของเขาเป็นเวลาสามเดือน แต่การ  take action เพียงเท่านั้นไม่ทำให้ผู้เสียหายพอใจ นักศึกษาผู้ไม่ประสงค์จะออกนามรายหนึ่งได้โพสต์ระบายความอัดอั้นตันใจที่พฤติกรรมของอาจารย์คนดังที่ถูกเก็บเงียบไว้และไม่ได้รับความสนใจจากสื่อ และทำให้ชาวเน็ทหันมาวิพากษ์วิจารณ์เนื่องนี้อย่างแพร่หลาย ในที่สุด มหาวิทยาลับก็ออกมายอมรับว่า ได้รับการร้องเรียนจากนักศึกษาภาคสาขาวิชาศิลปะการแสดงจริงๆ และกลุ่มผู้เสียหายก็เรียกร้องให้ทางมหาวิทยาลัยลงโทษผู้กระทำผิดอย่างหนัก

ในช่วงเริ่มแรกที่ข้อกล่าวหาเรื่องล่วงละเมิดทางเพศนักศึกษารั่วไหลสู่สาธารณชน โจ มินกีออกตัวปฏิเสธอย่างหัวชนฝา ยืนยันว่าเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ บางครั้งบางคราอาจจะเคยแตะช่วงใกล้กับตำแหน่งหัวใจของนักศึกษาเพื่อกระตุ้นให้พวกเค้าทุ่มเทการแสดงออกมาทั้งใจ หรือตอนที่ไปร่วมสังสรรค์ด้วยกันก็โอบกอดอย่าง friendly ไม่ได้มีจิตใจอกุศล แต่ไม่นานจากนั้นก็เปลี่ยนท่าที แถลงกาณ์ขออภัยต่อเหยื่อที่เขาได้ทิ้งรอยแผลที่เจ็บปวดไว้ให้ และตามที่หลายคนได้คาดการณ์ไว้ เขาได้ลาออกจากตำแหน่งอาจารย์และถอนตัวจากงานละครเรื่องล่าสุด ท่ามกลางกระแสโจมตีในโลกออนไลน์และการขุดคุ้ยพฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศนักศึกษาอย่างน้อย 8 ราย ชาวเน็ทยังสันนิษฐานว่า เขาอาจจะเคยกระทำผิดกับศิลปินนักแสดงร่วมวงการมาแล้ว และตั้งความหวังว่ากระบวนการยุติธรรมเกาหลีจะเอาผิดเขาอย่างหนักให้เป็นกรณีตัวอย่าง





แต่เดือนต่อมา ร่างไร้ลมกายใจของโจ มินกีก็ถูกพบในบ้านของเขาเอง มีรายงานตรงกันว่า สาเหตุการเสียชีวิตจมาจากการฆ่าตัวตายและเหตุสลดดังกล่าวก็เกิดขึ้นก่อนที่เขาจะถูกเรียกตัวไปสอบสวนเพียงไม่นาน แต่แม้เขาจะจากโลกนี้ไป ผลกระทบจากความผิดในอดีตก็ยังตามหลอกหลอนครอบครัว โดยเฉพาะบุตรสาวที่ถูกชาวเน็ทที่โกรธแค้นส่งข้อความเกลียดชังคุกคามเธอ หลังจากผู้เป็นพ่อเลือกจากไปโดยไม่รับบทลงโทษทางกฎหมาย เธอก็ได้ส่งข้อความขออภัยต่อเหยื่อทุกคนแทนพ่อผู้ล่วงลับ สื่อต่างปล่อยข่าวว่า จากเดิมที่เธอมีความฝันจะดำเนินรอยตามพ่อเข้ามาทำงานในวงการบันเทิง แต่เอเจนซี่ทุกเจ้าต่างปฏิเสธไม่ร่วมงานกับเธอ อย่างไรก็ตาม เธอก็ออกมาปฏิเสธข่าวนี้และชี้แจงว่า เธอมุ่งมั่นกับการศึกษาระดับปริญญาเอกเพื่อเพิ่มความเชี่ยวชาญในการสร้างผลิตภัณฑ์ความงาม ซึ่งเธอเคยวางแผนจะสร้าง Vlog เพื่อแชร์คอนเทนท์เกี่ยวกับการศึกษาที่ต่างประเทศแต่ขาดความรู้เรื่องการตัดต่อวีดีโอ จึงเริ่มหาเอเจนซี่เพื่อช่วยจัดการ แต่ตอนนี้เธอได้เลือกจะเรียนรู้งานด้านนี้ด้วยตัวเอง หลายคนเชื่อว่า โอกาสที่จะสร้างชื่อเสียงในวงการในฐานะ influencer หรือ celeb ของเธอที่เกาหลีน่าจะริบหรี่ไปแล้ว


อี จินอุค


หญิงสาวฟ้องร้องพระเอกชื่อดังในข้อหาข่มขืน (date rape)

ผลการตัดสินจากกระบวนการยุติธรรม: พระเอกดังเป็นฝ่ายชนะคดี นอกจากจะถูกตัดสินว่าไม่มีความผิด ผู้หญิงที่กล่าวหายังถูกอัยการสั่งฟ้องแจ้งความเท็จ


มีผู้เปรียบเปรยว่า การต่อสู้ทางกฎหมายของอี จินอุกเพื่อหลุดพ้นจากข้อกล่าวหาข่มขืนนั้นช่างพลิกผันไม่แตกต่างจากซีรีส์แนวกฎหมายของเกาหลี การฟ้องร้องใหญ่โตเมื่อหลายปีก่อนได้แบ่งความคิดเห็นของสาธารณชนเป็นฝักฝ่าย หลายคนแทบทำใจได้ยากที่จะเชื่อว่า พระเอก high profile จะย่ำยีหญิงสาวที่เป็นคู่เดทแบบนัดบอด จากข้อมูลของฝ่ายหญิงว่า แม้จะเชิอญให้พระเอกดังมาพบถึงที่บ้าน แต่เธอไม่ได้ให้ความยินยอมที่จะมีเพศสัมพันธ์ เธอยังเก็บกางเกงชั้นในเป็นและผลการตรวจร่างกายเพื่อเป็นหลักฐานในการแจ้งความ ทั้งยังเปิดเผยร่องรอยฟกช้ำตามร่างกายกับตำรวจ แต่พระเอกชื่อดังปฏิเสธข้อกล่าวหาของเธอเต็มที่ และยืนยันว่า พวกเค้ามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันในคืนนั้นจริงๆ แต่สิ่งที่เกิดจากความยินยอมพร้อมใจของทั้งสองฝ่ายเพราะมีความรู้สึกดีๆให้กัน

การฟ้องร้องได้สร้างความค้างคาใจให้กับผู้คนว่า ใครกันแน่เป็นฝ่ายเล่าความเท็จ?


ฝ่ายที่เชื่อคำพูดของฝ่ายหญิงมองว่า การฟ้องร้องคนมีชื่อเสียงขนาดนี้ไม่สร้างผลประโยชน์ใดๆให้กับเธอเลย เพราะหลายคนก็ยังมีอคติต่อเหยื่อที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ และไม่ให้เห็นใจผู้เสียหายจากกรณี date rape และโทษว่า ผู้หญิงเปิดเผยไมตรีด้วยการส่งที่อยู่ให้ผู้ชายมาเยือนถึงที่บ้าน ไม่แตกต่างจากการเปิดไฟเขียวยินยอมที่จะมีความสัมพันธ์ทางกาย แม้ว่าจะปกปิดตัวตนไว้ แต่ก็จะถูกตามขุดคุ้ยข้อมูลได้อยู่ดี

แต่ผู้คนไม่น้อยมองว่า ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องยึดหลัก “innocent until proven guilty” รอให้กระบวนการยุติธรรมตัดสินว่าเขามีความผิดจริงหรือไม่ และเชื่อว่า เขาน่าจะรวบรวมหลักฐานต่างๆมาพิสูจน์ความบริสุทธิ์

จากที่ตกเป็นจำเลย เปลี่ยนบทบาทเป็นโจกท์

แต่หลังจากตำรวจสอบปากคำหญิงสาวผู้กล่าวหาซ้ำอีกหลายครั้ง เธอกลับเปลี่ยนคำให้การ และยอมรับว่า ไม่ได้ถูกพระเอกดังบังคับให้มีเพศสัมพันธ์ ส่วนอี จินอุกเองก็เตรียมหลักฐานเป็นข้อความแชทกับฝ่ายหญิงที่ส่งที่อยู่และรหัสเปิดประตูเข้าตึกให้กับเขา ทั้งยังมีข้อความสนทนาระหว่างเธอเพื่อนของเขา (ที่เป็นผู้แนะนำให้ทั้งสองรู้จักกัน) ที่แสดงออกถึงท่าทีสดใสตามปกติ ไม่ได้มีสัญญาณว่า เธอเพิ่งผ่านเหตุการณ์สะเทือนใจมาในคืนก่อน เขายังประกาศว่าจะยื่นฟ้องหมิ่นประมาทหญิงสาวรายนี้ที่ทำให้สร้างความเสียหายให้กับชื่อเสียงของเขาอย่างหนัก

จากนั้นอัยการก็สั่งฟ้องเธอในข้อหาแจ้งความเท็จ แต่ผู้พิพากษาจากศาลชั้นต้นตัดสินว่า เธอไม่มีความผิด หลังจากพิจารณาจากการขึ้นให้การของทั้งสองแล้วว่า อี จินอุกไม่ได้ถามความยินยอมของเธอก่อนมีเพศสัมพันธ์กัน และเธอก็ไม่ได้เอ่ยปากว่าว่าเต็มใจ แต่เมื่อพระเอกหนุ่มยื่นอุทธรณ์ ผู้พิพากษาคนใหม่กลับพลิกคำตัดสินว่า เธอมีความผิดจากการแจ้งความเท็จและสร้างความเสียหายใหญ่หลวงให้กับพระเอกดังและต้องรับโทษจำคุก 8 เดือน

แม้จะเคลียร์ตัวเองจากข้อกล่าวหาข่มขืนและหวนกลับมาสร้างผลงานดังในวงการได้ แต่ผู้คนจำนวนหนึ่งยังคลางแคลงใจกับเรื่องเส้นแบ่งของ consent
แม้สื่อเกาหลีต่างประโคมข่าวอย่างพร้อมหน้าว่าอี จินอุกสามารถเคลียร์ตัวเองจากข้อกล่าวหา แต่ทุกวันนี้ก็ยังผู้ถกเถียงว่า เขาเป็นผู้บริสุทธิ์ 100% และถูกคู่เดทใส่ร้ายตามที่ยืนกรานมาตลอดหรือไม่? จากคำพูดท้ายสุดของหญิงสาวที่บอกว่า ความผิดของเธอก็คือ ไม่ได้กรีดร้องเพราะรู้สึกหวาดกลัวเกินไป และเธอยังเผยถึงกระบวนการสอบปากคำของตำรวจที่เอาแต่บีบคั้นเธอด้วยคำถามว่า เหตุใดจึงไม่ร้องให้คนช่วย ซึ่งทำให้ชาวเน็ทบางกลุ่มวิจารณ์ว่า ขั้นตอนการทำงานร่วมกับเหยื่อที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศของตำรวจเกาหลีนั้นเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ถูกกล่าวหามากกว่าเหยื่อซะอีก ในช่วงแรกที่ตำรวจระบุว่า เธอกลับคำให้การ มันอาจจะเป็นไปได้ว่า เธอถูกเจ้าหน้าที่บีบคั้นให้รู้สึกเหมือนกับตัวเองเป็นฝ่ายผิดซะเอง

บางคนฟันธงว่า เมื่อเหยื่อแจ้งความและฟ้องร้องเพื่อเอาผิดชายที่มีชื่อเสียงอิทธิพลในสังคม ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกใจที่ผู้ถูกกล่าวหาจะว่าจ้างทนายความเก่งฉกาจช่วยว่าความกลับดำให้เป็นขาว โดยเฉพาะเป็นข้อกล่าวหาเรื่องล่วงละเมิดทางเพศที่เข้าข่าย date rape หรือมีความคลุมเครือแบบ gray rape ซึ่งผู้คนมักตัดสินไปแล้วว่า ผู้หญิงที่เต็มใจอยู่กับเพศตรงข้ามเพียงลำพังในยามค่ำคืนจะเปิดใจพร้อมที่จะมีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง แต่ผู้หญิงหลายคนยืนยันว่า แม้จะเป็นเกิดความรู้สึกต้องตาต้องใจกับคู่เดท แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเต็มใจจะมี sex บางคนอาจจะไม่กล้าดิ้นรนปฏิเสธจนกลายเป็นแผลใจในภายหลัง บางคนอาจจะบอกว่าไม่ แต่ฝ่ายชายคิดว่าเพียงแค่เล่นตัวเป็นพิธี เมื่อถูกรุกล้ำร่างกายก็หวาดกลัวเกินกว่าจะกรีดร้องจนสายเกินไป แต่เมื่อฟ้องร้องให้ผู้กระทำผิดถูกลงโทษ ก็ต้องเผชิญกับสถานการณ์ victim blaming และใช้ช่องโหว่เรื่องการสมยอมมาเล่นงานจนแพ้คดี



อาจจะมีกลุ่มคนที่ยังกังขาในความบริสุทธิ์ของพระเอกดังอยู่บ้าง หลังจากการต่อสู่คดีที่ยาวนานจบลง เขาก็สามารถหวนคืนสู่วงการได้อย่างภาคภูมิ มีผลงานโดดเด่นที่สร้างต่อ 2 ภาค คือ Mr. Black ยิ่งช่วงหลังๆที่ข่าวคราวอื้อฉาวนี้ซาลงไป เขาได้รับการทาบทามให้ร่วมแสดงในซีรีส์ฟอร์มยักษ์อย่าง Sweet Home และ Squid Game หรือจะเป็นซีรีส์ที่กำลังลงจอคือ To My Haeri ที่ประกบคู่กับนางเอกดัง ชิน ฮเยซ็อน แต่ casting ครั้งนี้ก็เรียกเสียงโจมตีจาก Netizens ต่างประเทศอยู่บ้าง

 ถึงจะได้รับการตัดสินว่าไม่มีความผิดจากข้อหาข่มขืน ทำให้ Netizens หลายคนมั่นใจว่า อี จินอุกคือเหยื่อการใส่ร้าย แต่ก็ยังมีคนที่รู้สึกตะขิดตะขวงใจกับเรื่องที่เขามี sex กับผู้หญิงที่เพิ่งรู้จักกัน อย่างไรก็ตามชื่อเสียงที่มัวหมองไปพักใหญ่ของอี จินอุกดูได้รับการฟื้นฟูอย่างเต็มที่ ช่วงที่ G Dragon ศิลปินชั้นนำแห่งวงการถูกกล่าวหาว่าเสพยา อี จินอุกก็เป็นหนึ่งในกลุ่มคนดังที่ส่งกำลังใจให้ในฐานะคนที่ผ่านประสบการณ์ถูกตั้งข้อกล่าวหาเท็จ Netizens เกาหลียังนำภาพของทั้งสองที่ส่งรอยยิ้มอย่างมั่นใจในการปรากฏตัวต่อหน้าสื่อระหว่างการเดินทางมาให้ปากคำที่สถานีตำรวจว่า รอยยิ้มของทั้งคู่สื่ออารมณ์ของผู้ชนะที่สามารถพิสูจน์ให้ทุกคนประจักษ์ในความบริสุทธิ์เหมือนกันไม่มีผิด

แต่ความหนักเบาของอาชญากรรมทางเพศอาจจะเป็นสิ่งที่ชาวเกาหลีใช้พิจารณาว่า ควรจะบอยคอตคนดังที่ทำผิดอย่างถาวร หรือจะยอมรับให้หวนคืนสู่วงการบันเทิง ดังคดีดังยุค 2000s ของอี คยองย็อง ที่ถูกตั้งข้อหาซื้อบริการจากเด็กสาวผู้เยาว์วัย 17 ปีแลกกับคำรับรองว่า จะสนับสนุนให้เธอคว้างานในวงการ ศาลตัดสินให้เขารับโทษรอลงอาญาและคุมประพฤติ และยังต้องทำงานบริการสังคมส่วนรวมเป็นเวลา 160 ชั่วโมง ภาพลักษณ์ที่ย่ำแย่เพียงนั้น ก็คงไม่ต้องแปลกใจเลยว่า เขาจะถูกแบนจากวงการบันเทิง

แต่ผ่านไปไม่กี่ปี เขาก็สามารถกลับมารับบทเด่นในซีรีส์และหนังได้อย่างต่อเนื่อง (แม้สถานีโทรทัศน์ต่างๆจะร่วมแบนเขาอยู่นานหลายปี แต่วงการหนังกลับอ้าแขนต้อนรับอย่างเต็มใจ) คนรุ่นใหม่ต่างคุ้นหน้าเขาจากกับบทบาทตัวร้ายทรงอิทธิพลและผู้บริหารมาดเข้มในซีรีส์ดัง แม้ในช่วงหลายปีก่อน ผู้คนจะโจมตีเขาอย่างหนักและตราบทุกวันนี้ก็ยังมีผู้นำเอาความประพฤติมัวหมองในอดีตมาโจมตี แต่ดูเหมือนว่า เขาจะครองสถานะนักแสดงรุ่นใหญ่ที่นักสร้างหนัง/ซีรีส์ให้ความไว้วางใจได้อย่างเหนียวแน่น และยังคว้ารางวัลแพคซังอันทรงเกียรติในปี 2016 มาแล้ว


candy

candy

ติดตาม Mouth On The Web แล้วอย่าลืม Mouth On The Face นะคะ ^ ^

FULL PROFILE