เหตุเกิดจากเก็บกด

ระยะ 2-3 เดือนมานี้ เครียด+เก็บกดทั้งเรื่องงานและเรื่องคน เลยระบายด้วยการช็อปปิ้งแบบบ้าคลั่ง (คือจริงๆ ก็บ้าซื้อของอยู่แล้ว ซื้อนิดๆ หน่อยๆ บ้าๆ บอๆ ได้เกือบทุกวัน แต่พอเครียดเนี่ยมันเหมือนยิ่งขาดความยับยั้ง ช็อปกระหน่ำเลย)

ก็เลยได้ทั้งพวกเสื้้อผ้า เครื่องประดับ เครื่องสำอาง ฯลฯ มาเต็มไปหมด 

เอาเฉพาะกลุ่มเครื่องสำอาง/บำรุงผิว/บำรุงผม มาก่อนนะคะ

เริ่มจากผลิตภัณฑ์ของ Kiehl's ขวดที่หนึ่งและสองจากซ้าย เป็นแชมพู ในไลน์ของ Amino Acid เป็นสารสกัดจากมะพร้าวผสมกรดอะมิโน ชอบมากค่ะ เป็นคนมีปัญหาหนังศีรษะมัน แต่ผมแห้ง หาแชมพูยากค่ะ พอมาเจอตัวนี้ใช่เลย ใช้แล้วผมนุ่มมาก หอม (กลิ่นเหมือนมะพร้าวอบเทียน) หนังศีรษะไม่มันขึ้นทั้งๆ ที่ทำจากมะพร้าวนะ ส่วนผมก็นุ่มไม่พันกัน ปัญหาผมแห้งหายสนิทเลย ข้อเสียอย่างเดียวคือ...แพงค่ะ ราคาในเมืองไทยแพงเว่อร์จริงๆ ขวดริมซ้ายสุดเป็นไซส์กลาง ช็อปในห้างขายตั้ง 1400 บาท!!! ส่วนไซส์เล็ก 850 บาท (ถ้าฝากเพื่อนซื้อจากอเมริกา ขวดใหญ่ได้ปริมาณสองเท่าของขวดกลาง ราคาเป็นเงินไทยแค่ 1600 บาท คิดดูสิว่ามันบวกเว่อร์ขนาดไหน)   สองขวดถัดมาเป็นครีมนวดในไลน์เดียวกันค่ะ ไซส์กลาง ราคาในช็อปเมืองไทย 950 บาท แต่บังเอิญว่าหนึ่งในนั้นซื้อในดิวตี้ฟรีที่สนามบิน เลยลดไป 15% ริมขวาสุดเป็นโทเนอร์ รุ่น Clarity Activating Toner ตัวนี้ยังไงๆ ก็ต้องซื้อที่เมืองไทยเพราะผลิตจำหน่ายเฉพาะในโซนเอเชีย เป็นโทเนอร์ที่นุ่มมากค่ะ อ่อนโยนกับหน้ามากๆ 

ตอนซื้อที่สนามบิน ได้ของแถมมาด้วยค่ะ ก็เป็นกลุ่มครีมนวดและโทเนอร์เหมือนกัน แต่คนละไลน์กัน

สีเขียนคิ้วแบบแป้งอัดแข็ง ของ Anna Sui เขียนออกมาสวยดี ที่เลือกมาเป็นโทนน้ำตาลแดง แต่ความแดงมันเข้มข้นไปนิดนึงเลยต้องใช้ดินสอเขียนคิ้วสีน้ำตาลมาเขียนทับอีกครั้ง คราวนี้ perfect เลยค่ะ

อายแชโดว์พาเล็ตต์ ของ Sleek ค่ะ เซ็ทนี้ชื่อ Divine Original วิ้งสวยทุกสี  เปิดใช้ไปแล้วระยะหนึ่งค่ะ มีสีที่ไม่รู้จะใช้ยังไงคือมุมบนซ้ายที่ออกสีดำๆ แต่งไม่เป็นค่ะ ผิวขาวมากด้วย พอแต่งแบบ smoky จะเป็นผีเลย

บลัชออน ของ Balm ค่ะ สีชมพูกลางๆ ไม่เข้มเกิน ไม่อ่อนเกิน ปัดออกมาสวยดีค่ะ

บลัชออน ของ Sleek ค่ะ สีทองอมส้ม มีวิ้งด้วยค่ะ สีจะคล้ายๆ Super Orgasm ของ NARS ค่ะ แต่วิ้งน้อยกว่า

แป้งฝุ่นกะแป้งพัฟฟ์ของ NARS ค่ะ ซื้อมาแล้วไม่ชอบเลยอ่ะ แป้งฝุ่นสีเนื้อออกชมพูมากไปนิด ทาแล้วหลอกๆ ตา ยังไงไม่รู้ ส่วนแป้งพัฟฟ์สีโอเคค่ะ กลืนกับผิวดี แต่ตลับจับไม่ถนัดมือเลย (ตอนจับทีแรกมันแป็บเดียวไม่ทันรู้สึก พอเอามาใช้จริงไม่ถนัดเลย)

พอนอกใจไปซื้อแป้ง NARS แล้วไม่ได้ดังใจ เลยหันกลับไปหายี่ห้อเดิมที่เคยใช้ คือ Laura Mercier ที่เห็นทางริมซ้ายมือนั่นแหละ (ส่วนแป้งตลับก็หันกลับไปหายี่ห้อเดิมที่เคยใช้ คือ Benefit แต่ไม่มีรูปมาโชว์เพราะฝากเพื่อนซื้อจากอเมริกา ตอนนี้ยังไม่ได้ของค่ะ)  ส่วนเป็นกล่องสี่เหลี่ยมสั้นๆ ด้านขวา เป็นซีรั่มบำรุงขนตา Eye Lash Tonic ของ DHC ค่ะ ชอบมากมาย เพราะเป็นคนขนตาสั้นและบาง เคยใช้มาสคาร่าเบสแบบใสปัดก่อนปัดมาสคาร่าทับมันก็ให้ผลแค่ดูขนตายาว+หนาเพียงชั่วคราว ล้างหน้าออกก็จบ แต่ตัวนี้มันบำรุงด้วยค่ะ ใช้ปัดเป็นเบสก่อนลงมาสคาร่าปกติเหมือนกัน ปรากฏว่าขนตาแข็งแรงและยาวขึ้นกว่าเดิมค่ะ (แต่ก็ใช้เวลาหน่อยนะ ไม่ใช่เห็นผลปุปปับ)

สบู่ล้างหน้า สกัดจากใบมะกอก ของ DHC ค่ะ ล้างหน้าสะอาดมาก ดูหน้ากระจ่างขึ้นมาตั้งแต่ล้างครั้งแรกเลยค่ะ เรื่องสบู่นี้มีเหตุต้องโมโหนิดนึง คือ ซื้อเมื่อประมาณปลายเดือนมิถุนายน ราคาก้อนละ 850 บาท ผ่านไปสัก 3-4 วัน ตัวนี้กลายเป็นโปรโมชั่นของรอบขายต่อไป ในราคา 2 ก้อน 1200 บาท (ประหยัดตั้ง 500 บาท) ด้วยความแค้นเลยตามไปซื้อที่โปรฯ มาอีก เอามาถัวกัน ไม่งั้นนอนไม่หลับเพราะโปรโมชั่นกับส่วนลด 500 ต้องตามมาเข้าฝันแน่นอน สบู่นี้อาจดูเหมือนแพงแต่จริงๆ แล้วก้อนหนึ่งใช้นานมากเลยค่ะ เกือบหกเดือนเลยมั้ง

แล้วเมื่อสัปดาห์ที่แล้วไปเกาหลีมาค่ะ เลยไประบายความเครียดที่เกาหลีอีก

กลุ่มนี้เป็นของ Etude ค่ะ จากซ้ายไปขวา ก็ บลัชออนสี Grapefruit (เป็นสีใหม่ออกมาแทนสีพีชเดิม แต่ก็คล้ายกันมาก)  อายไลน์เนอร์ ลิปมัน ส่วนกล่องขวางๆ ด้านบนเป็นสำลี ทางร้านแจกฟรีค่ะ ..กลุ่มนี้หลานฝากซื้อค่ะ ไม่ได้ใช้เองหรอก 

ครีมกันแดด SPF 50 ค่ะ ปากขวดเป็นฟองน้ำสำเร็จรูป ทาลงกับผิวได้เลย ทาแล้วจะเปลี่ยนเป็นเนื้อแป้ง ไม่ต้องทาแป้งทับอีกก็ได้ (แต่โดยส่วนตัวก็อดปัดแป้งลงไปนิดหน่อยไม่ได้ มันชิน) ยี่ห้อ The Face Shop ค่ะ 

กลุ่มนี้เป็นของ Innisfree ค่ะ ด้านซ้ายเป็นแป้งฝุ่น ปากกระปุกเป็นพัฟฟ์ในตัว ใช้วิธีกดๆ ให้แป้งมาอยู่ที่พัฟฟ์ แล้วทาได้เลย ถัดมาเป็นอายไลน์เนอร์สีม่วงมีวิ้งเป็นเกล็ดเงินๆ ส่วนขวาสุดเป็นบลัชออนสีม่วงอ่อนค่ะ จริงๆ ยี่ห้อนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ที่ดีอีกอย่างหนึ่งคือโลชั่นทาตัวสำหรับช่วงผิวแห้งหน้าหนาว  แต่เนื่องจากตอนนี้โลชั่นที่บ้านตุนไว้ 4-5 ขวดใหญ่แล้วเลยไม่ได้ซื้อมาอีก เดี๋ยวใช้ไม่ทัน

อันนี้ซื้อมาด้วยความเข้าใจผิดค่ะ คิดว่าเป็นครีมทามือ จนกลับมาบ้านถึงรู้ว่าเป็น BB Cream  (เอ๋อจริงๆ อิชั้น)  ของยี่ห้อ Missha ค่ะ เห็นหลอดพิมพ์ลายน่ารักมากเลยซื้อมา กะว่าเอาไว้แจกเพื่อนหรือน้องในที่ทำงานที่เค้าช่วยดูแลกิจการต่างๆ ให้ระหว่างที่ไม่อยู่

เป็นครีมทามือจริงๆ แล้วค่ะ ของยี่ห้อ The Face Shop ซื้อจากร้านดิวตี้ฟรีในโซล เห็นกระปุกเล็กๆ รูปหมู รูปหมี รูปแมว ดูน่ารักดี ก็เลยซื้อมา ไว้เผื่อแจกส่วนหนึ่ง ใช้เองส่วนหนึ่ง เพราะติดครีมทามือมากค่ะ

ซื้อมาเพราะความน่ารักอีกเหมือนกัน เป็นแป้งพัฟฟ์ รุ่น Cat Wink ของยี่ห้อ Tony Moly ค่ะ ตอนนี้แจกพี่สาวไปคนละตลับ ให้เพื่อนร่วมงานอีก 1 ตลับ เหลือไว้ใช้เองตลับหนึ่ง กะเอาไว้ใช้เวลาเดินทางค่ะ เพราะตลับมันบางๆ แบนๆ น่าจะพกพาง่าย น่ารักด้วย สังเกตดีๆ จะเห็นว่าบนแป้งมีการพิมพ์ลายตีนแมวนูนๆ ขึ้นมาด้วย

แป้งฝุ่นของ Palgantong ที่เคยฮิตอยู่ในบ้านเราพักหนึ่ง แล้วก็ตกเทรนด์ไป ตอนนี้ในเกาหลีเองก็หายากมากเลยค่ะ ..อันนี้หลานฝากซื้อค่ะ ไม่ได้ใช้เอง

อันนี้เป็นแบบรวมมิตรหลากยี่ห้อ จากซ้ายเป็นบลัชออน รุ่นพิมพ์ลายดอกไม้ ยี่ห้อ It's Skin ค่ะ ตรงกลางเป็นครีมกันแดดแบบสเปรย์  ส่วนขวาสุดเป็นสีเขียนคิ้วยี่ห้อ Missha 

ซื้อเครื่องสำอางในเกาหลีนี่ ของแถมเยอะมากมายทุกครั้งเลย สามรูปข้างบนนี่ยังเก็บไม่หมดหรอกนะคะ แต่มันไม่รู้จะวางยังไงแล้ว

เข้าช็อปของ Baviphat ไม่ได้เครื่องสำอางออกมา แต่เห็นกระเป๋าใส่เครื่องสำอางลดราคาอยู่ ลายน่ารักมาก อดไม่ได้ที่จะสอยติดมือมาด้วย

ที่จริงก็มีอะไรที่ซื้อในช่วง 3-4 เดือนนี้อีกหลายอย่างนะคะ เช่น เคล็นเซอร์ล้างเครื่องสำอาง 3 ขวด บลัชออนของ MAC สองตลับ กะลิปสติกหลากหลายยี่ห้ออีกประมาณ 10 กว่าแท่ง  แต่มันจัดเข้าที่แล้วขี้เกียจรื้อออกมาถ่ายรูป

อาการเก็บกดแล้วไประบายกับช็อปปิ้งยังไปออกกับเสื้อผ้า เครื่องประดับ ต่างๆ อีกมากมาย ประกอบกับช่วงนี้เดินทางบ่อยด้วย เจออะไรแปลกๆ ใหม่ๆ ก็อดไม่ได้ต้องซื้อติดมือมาเล็กๆ น้อยๆ  (ไม่ได้ร่ำรวยอะไรนะคะ ไปฟรีค่ะ ที่ทำงานส่งไป แต่บางทีมันติดเสาร์-อาทิตย์ก็เลยพอว่างช็อปปิ้งได้นิดหน่อย)   ไว้ค่อยเอามานำเสนอวันหลังแล้วกัน  วันนี้แค่นี้ก่อนนะคะ แอบง่วง (พรุ่งนี้มีงานรอยาวหลายรายการตั้งแต่เจ็ดโมงเช้าถึงสี่ทุ่ม!!!)

ขอบคุณสำหรับทุกคนที่แวะมาดูนะคะ