ฟื้นฟูผิวสวย ด้วยผลไม้ข้างทาง
theminnie 61 12วันหยุดยาวช่วงสงกรานต์นี้ สาวๆ หลายคนคงเลี่ยงไม่ได้ ที่จะต้องออกไปปะทะกับแดดอันร้อนจ้า แถมยังตัวเปียกน้ำ หน้าเปื้อนแป้ง ยอมปีละครั้งอ่ะ... แต่พอหมดสงกรานต์ แทบไม่อยากส่องกระจก หน้าหมอง ผิวไหม้ คล้ำอะไรได้ขนาดนั้น แม้จะโปะกันแดดขนาดไหน บางทีก็ละลายหายไปกับแป้งและน้ำเหอะ
เอาล่ะเล่นสงกรานต์จนหมายมันส์แล้ว ก็ถึงเวลามาฟื้นฟูผิวกัน......
นอกจากสกินแคร์ ผลิตภัณฑ์มาส์กหน้า สครับแบรนด์ต่างๆ ที่มีหลากหลายให้เลือกสรรแล้ว (ไปส่องดูได้ที่ User Reviews กันนะจ๊ะ) ครั้งนี้เรามาแนะนำให้ใช้ธรรมชาติบำบัด (ก็ในเมื่อถูกธรรมชาติทำร้าย ก็ใช้ธรรมชาติถอนพิษซะเลย!)
จริงๆ แล้วสูตรฟื้นฟูผิวตามธรรมชาติมีมากมาย แต่เราขอรวบรวมแบบหาง่ายๆ ใกล้ตัวเลยค่ะ นั่นคือ "ผลไม้" ที่ปกติเราก็กินกันประจำ หาซื้อกันตามท้องถนนนี่แหละ ให้สมกับที่มีมากมายในบ้านเรา ซึ่งผลไม้นอกจากจะมีวิตามินต่างๆ นานาแล้ว ยังมีเอนไซม์ที่นุ่มนวลต่อผิว แบ่งสักส่วนมาทำสวยให้กับหน้าและผิว
จะช้าอยู่ใยไปสอดส่องที่รถเข็นปากซอยกัน....
แตงโม ผิวเย็นสดชื่น
หน้าไหม้ร้อนแบบนี้ เติมความสดชื่นให้ผิวก่อนอื่นใดด้วยผลไม้สุดฉ่ำใจ มี 2 สูตรให้เลือกสรร
สูตรแรก สครับแตงโม
เนื้อแตงโม 1 ถ้วยคั้นน้ำ ผสมแป้งข้าวโพด 1 กรัม ใช้ขัดหน้า (เบาๆ) จะช่วยคืนความกระจ่างใสและเพิ่มความนุ่มเนียนให้กับผิว และยังทำให้รู้สึกเย็นสดชื่น
สูตรสอง มาส์กแตงโม
ไม่ต้องผสมอะไรกันเลย แค่เฉือนเนื้อแตงโมให้เป็นชิ้นบางๆ พอประมาณ เลือกเอาด้านในสุด จากนั้นนำมาวางไว้บนผ้าขาวบางที่เตรียมไว้ แล้วนำมาวางปิดลงบนใบหน้าให้ทั่ว ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด ผิวหน้าก็จะสะอาดใส ถ้าใช้แตงโมเย็นๆ นะ จะสดชื่นอย่างที่สุด
มะละกอ ขจัดเซลล์ผิวหมอง
ปกติถ้าวันไหนติดขัดเรื่องการขับถ่าย เราก็ซื้อมะละกอมาเป็นตัวช่วย คราวนี้ขอใช้กับผิว เพื่อขจัดสิ่งที่ไม่ต้องการออกไป
ออกแรงผสมกันนิดหน่อย มะละกอสุกยีเนื้อให้ละเอียดผสมกับน้ำตาลทราย ขยำกับข้าวโอ๊ต จากนั้นนำมาขัดผิวหน้าเบาๆ (ใช้นิ้วนางขัดละกัน) นวดเป็นวงกลม วนๆ ทำความสะอาดรูขุมขน แล้วทิ้งไว้ 2 นาทีค่อยล้างออกด้วยน้ำเปล่า ... สูตรนี้ตอนขัดจะรู้สึกสบายหน้า และพอล้างออก รู้สึกเลยว่าหน้านุ่ม
(ปล.ขอน้ำตาลทรายเม็ดละเอียด หรือจะบดอีกทีก็ได้นะ เม็ดใหญ่เดี๋ยวหน้าเยิน) สูตรนี้ใช้ขัดผิวตัวไล่เซลล์ผิวที่ตายไปแล้วได้ด้วยนะ
มะม่วง ขจัดฝ้า
นี่มันหน้ามะม่วง ใครยังไม่ได้กินข้าวเหนียวมะม่วงเชยนะ พูดถึงก็ได้กลิ่นโชยมาเชียว เอาล่ะรอบนี้กินแต่ข้าวเหนียว แล้วแบ่งมะม่วงมาครึ่งลูกซะโดยดี
มะม่วงสุกยีให้ได้เนื้อ 1/2 ถ้วย ผสมกับอัลมอนด์บดละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ นวดเบาๆ เช่นเคย แล้วทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที (ช่วงนี้อดทนกับกลิ่นหน่อยนะ อย่าเผลอหาข้าวเหนียวมากิน) เสร็จแล้วล้างหน้าตามปกติ สูตรนี้ช่วยลดสิวฝ้า และขจัดผิวแห้งหยาบ ถ้ามีตีนกาเอามาพอกไว้ได้เลย
อีกสูตรสำหรับคนหน้าแดงๆ เพราะแพ้แดดและอื่นๆ
มะม่วงสุกครึ่งผลยีให้แหลก ผสมน้ำมะนาวครึ่งช้อนโต๊ะ ต่อด้วยดินสอพอง 1/4 ช้อนโต๊ะ และน้ำผึ้ง 1 ช้อนชา นำมาทาทั่วใบหน้า 15 นาที ดินสอพอง (ที่เหลือจากสงกรานต์) ช่วยลดอาการบวมอักเสบและปรับสภาพผิว ส่วนน้ำผึ้งช่วยป้องกันเชื้อโรคและสมานรอยแผล แก้สิวดีนักแล
ถ้าระหว่างพอกมีน้ำมะม่วงเหลือ เอามาทาข้อศอก ลำคอ หลังมือ ช่วยให้ผิวนุ่มนวล เพราะมีวิตามินอีที่ช่วยบำรุงผิว
กล้วยหอม เพื่อผิวแพ้ แก้ผิวมัน
กล้วยหอมซื้อมาเป็นหวี กินไม่เคยทัน ลูกนึงก็อิ่มไปเกือบมื้อ ปล่อยเหี่ยวทุกทีไป คราวนี้ล่ะใช้ให้คุ้ม
กล้วยหอมสุก 1 ผลนำมายีผสมกับนม 1 ช้อนโต๊ะ และข้าวโอ๊ตบด 2 ช้อนโต๊ะ ถ้าชอบน้ำผึ้งก็เติมเข้าไปด้วย 1 ช้อนโต๊ะ นำมาพอกให้ทั่วหน้า 10 นาที แล้วขัดเบาๆ ให้ทั่วหน้าเพื่อทำความสะอาดเศษสิ่งสกปรกและฝุ่นละอองตามรูขุมขน เสร็จแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น สูตรนี้เหมาะเป็นพิเศษสำหรับผิวที่แพ้ง่าย
สำหรับผิวสมบุกสมบัน (คือยับเยินจากสงกรานต์มาพอควร) ให้ใช้สูตรนี้ กล้วยหอม 1 ผล ยีเข้ากับน้ำมะนาวและน้ำผึ้งอย่างละ 1 ช้อนโต๊ะ พอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที ล้างออกด้วยน้ำเย็น เหมาะมากสำหรับผิวมัน ผิวขาดน้ำ รูขุมขนกว้าง ทั้งหมดอันเนื่องมาจากการตากแดดล้วนๆ
จริงๆ กล้วยหอมนี่มีหลายสูตร แถมให้อีกหนึ่ง... สูตรสาวญี่ปุ่น กล้วยหอมสุก 1 ผล ไข่ขาว 1 ฟอง ดินสอพองบด น้ำผึ้ง โยเกิร์ต อย่างละ 1 ช้อนโต๊ะ พอกทั้งหน้าและคอไหล่ นวดเบาๆ แล้วทิ้งไว้ 15 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำอุณหภูมิยามนี้ (อุ่นๆ ไม่ต้องร้อน) จะได้หน้าใส ลดการอักเสบจากสิว หรือร่องรอยอักเสบต่างๆ
อ๊ะๆ ใช้เนื้อกล้วยไปแล้ว อย่าเพิ่งทิ้งเปลือกนะจ๊ะ ให้นำด้านในของเปลือกกล้วยหอมสุก ถูเบาๆ บริเวณที่มีรอยหยาบกร้าน ไม่ว่าจะเป็นข้อศอก หัวเข่า ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาดตามปกติ จะทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื่นขึ้น ทำบ่อยๆ รอยหยาบกร้านจางหายไปได้อีกด้วย
ส้ม ฟื้นฟูผิวให้สดใส
ลืมได้ยังไง ผลไม้ประจำชาติ มีทุกฤดูกาล (แต่จะถูกหรือแพงก็ว่ากันอีกเรื่อง)
สูตรแรกเราใช้แต่น้ำส้มคั้นสด ซึ่งในรัศมี 800 เมตรของทุกออฟฟิซน่าจะหากันเจอนะ น้ำส้มคั้นนิดเดียวผสมกับแป้งข้าวโพด 2 ช้อนโต๊ะคนให้เข้ากัน (ให้แป้งชุ่มน้ำ) ใช้ทาหลังล้างหน้า ถูเบาประมาณ 3 นาทีแล้วล้างออก ซับแห้ง บำรุงด้วยสกินแคร์ตามปกติ
อีกสูตร กินไปพอกไป ใช้ส้มเป็นลูกแบบไม่ต้องคั้นน้ำ เอากลีบส้มผ่ากลาง นำเมล็ดออก แล้ววางให้ทั่วใบหน้า นอนพัก 15 นาที เสร็จแล้วล้างออก เพียงแค่นี้ก็จะรับวิตามินซีเข้าไปเต็มๆ ซึ่งวิตามินซีนี้แล จะทำให้เกิดความสว่างกระจ่างใสบนใบหน้า
เปลือกส้มมีค่า อย่าทิ้ง ! นำมานวดและสับให้ละเอียด ทาบริเวณลำคอและไหล่ เอาผ้าบางๆ มาปิดทับไว้ประมาณ 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น ความชุ่มชื่นบริเวณคอและไหล่ก็จะกลับมาหาในเร็ววัน
นี่แค่ผลไม้ใกล้ตัว ก็จัดกันไปได้หลายสูตร ขอแอบแถมท้ายด้วยพืชสวนครัว และอื่นๆ อีกนิดหน่อย เพื่อเป็นทางเลือก สำหรับคนที่โดนแดดทำร้าย แต่อาจจะแพ้ผลไม้บางชนิด
- มะนาว : ลดรอยด่างดำ ผลัดเซลล์ผิว ผิวสว่างขึ้น สำหรับคนที่มีปัญหาหน้ามันและมีรอยไหม้จากแสงแดดบนใบหน้า ให้ผสมน้ำมะนาวกับน้ำสะอาดเข้าด้วยกันในอัตรา 1 ต่อ 1 จากนั้นนำมาทาบริเวณที่ต้องการ ทิ้งไว้ประมาณ 2-3 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
- มะเขือเทศ : ผิวขาวใส นำมะเขือเทศไปใส่ไว้ในช่องแช่แข็ง 15 นาที ผ่าครึ่ง แล้วนำไปถูวนจุดต้องการ เพื่อให้สารอาหารค่อยๆ ซึมซับเข้าสู่เซลล์ผิว ช่วยให้ผิวหนังชุ่มชื่นและมีสุขภาพดีขึ้น
- แตงกวา : อันนี้คงฮิตกันมายาวนาน ให้นำมาผ่าซีก ถูเบาๆ ที่หน้าบริเวณที่โดนแดดเผา วันละ 3-4 ครั้ง
- ว่านหางจระเข้ : แก้ผิวไหม้ตัวแม่เลย... แค่ใช้ทาบริเวณที่มีรอยไหม้หรือที่ถูกแดด เพราะว่านหางจระเข้จะทำให้เลือดหดตัว ช่วยลดฝ้าและจุดด่างดำ
- น้ำส้มสายชู : อิทธิใกล้เคียงกับน้ำมะนาว ถ้าใครไม่มีมะนาวสดให้ใช้น้ำส้มสายชูแทนได้ คือผสมน้ำส้มสายชูกับน้ำธรรมดาในอัตราส่วนเท่าๆ กัน แล้วเอาสำลีชุบมาทาบริเวณที่โดนแดดเผาวันละ 3 ครั้ง
- โยเกิร์ตธรรมชาติ : แช่เย็นอย่างน้อย 2 ชั่วโมง ทาให้ทั่วหน้าที่แสบจากแดด รอจนแห้งแล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น
- Baking Soda : ถ้าอาบแดดมาหนักถึงขั้นแสบตัวให้แช่ตัวลงใน Baking Soda ที่ผสมเจือจางในน้ำเย็น แช่ให้สบาย 15 นาที จากนั้นปล่อยให้แห้งโดยไม่ต้องเช็ดตัว คืออย่าให้ผิวถูกเสียดสี ไม่งั้นอาจจะบอบช้ำเข้าไปอีก
คำเตือนหลังออกแดด ถ้าแสบผิวไม่แนะนำให้ใช้ปิโตรเลียม เจลลี เพราะจะบล็อกรูขุมขนไม่ให้ระบายความร้อน เดือนร้อนกันเข้าไปอีก ถ้ารู้สึกว่าผิวโดนแดดมากเกินไป แสบไหม้ ให้เลี่ยงการใช้สบู่ หรือเลือกสบู่อ่อน ดื่มน้ำในอุณหภูมิปกติเยอะๆ พักผ่อนให้เต็มที่ ทานผลไม้ให้สดชื่น
ส่วนถ้าจะใช้ผลไม้หรือสิ่งใดๆ มาขัดหน้าพอกหน้า ขอแนะนำให้ทำประมาณสัปดาห์ละ 2-3 ครั้งก็พอค่ะ ถ้าหน้าถูกขัดหรือถูกกัดซ้ำมากเกินไป อาจช้ำไปกว่าเก่าเป็นได้ ของอย่างนี้ต้องใจเย็นๆ นะคะ ค่อยๆ ฟื้นฟูสภาพผิวกันไป อ้อแล้วอย่าเครียดด้วย ไม่งั้นหน้าจะคล้ำไปกันใหญ่.