เสียงเล่าลือ: ต้นเหตุที่ทำให้ตำนาน BENNIFER 2.0 ต้องถึงกาลอวสาน

9 4
การยื่นขอหย่าร้างของ Jennifer Lopez เพื่อปิดฉากชีวิตแต่งงานกับ ฺBen Affleck อาจจะไม่ใช่สิ่งที่ผิดความคาดหมายของสังคม เพราะพวกเค้าต่างแสดงออกชัดเจนว่า ได้อยู่ในขั้นตอนของการแยกกันอยู่มาในระยะเวลาหนึ่ง แม้แต่โอกาสสำคัญอย่างวันครบรอบแต่งงานหรือวันเกิดฝ่ายภรรยา ก็ไม่ได้เห็นภาพคู่นี้ใช้เวลาร่วมกันอย่างชื่นมื่นดังวันวาน แต่กลับแยกห่างจากกันเป็นพันๆไมล์ในคนละรัฐ และยังมีการนำเสนอข่าวจากแทบลอยด์ดังอย่างต่อเนื่องว่า แท้จริงแล้ว พวกเค้าตกลงจะแยกทางอย่างเด็ดขาดมาได้พักใหญ่ เพียงแต่รอจังหวะให้ทำใจพร้อมกันทั้งสองฝ่าย และในที่สุด ฝ่าย J. Lo ก็ตัดสินใจยื่นขอหย่าจากสามีพระเอกในวันครบสองปีของพิธีแต่งงานครั้งที่สอง (หลังจากแต่งกันสไตล์วิวาห์เหาะใน Las Vegas ในเดือนกรกฎาคม) ซึ่งหลายคนเชื่อว่า นี่คือการแสดงออกอย่างชัดเจนจากฝ่ายภรรยาว่า เธอจะไม่หวนกลับไปซ้ำรอยความรักอันเจ็บปวดเป็นครั้งที่สา่ม


แต่ในขณะนี้ สื่อก็ยังจับตามองความคืบหน้าของการหย่าร้างระดับ high profile เพราะมีรายงานว่า เมื่อครั้งยังรักกันหวานฉ่ำ พวกเค้าได้ตัดสินใจแต่งงานเป็นสามีภรรยาตามกฎหมายโดยไม่ทำข้อตกลง prenup ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบกลายเป็นความขัดแย้ง หากเจรจากันไม่ลงตัวในเรื่องทรัพย์สินร่วมจากรายได้ระหว่างที่ใช้ชีวิตคู่ 2 ปี รวมถึงท่าทีของ J Lo ที่ยื่นคำร้องว่า เธอต้องการกลับไปใช้นามสกุลเดิม จะไม่ขอเป็น Mrs. Affleck อีกต่อไป ก็ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์ถึงความสัมพันธ์แตกร้าวอันยากจะประสานคืนได้ และมีการวิเคราะห์เรื่องสาเหตุถึงอุปสรรคปัญหาในการครองคู่ของพวกเค้า แม้ว่าจะหวนคืนกลับมารักกันหวานซึ้งหลังจากเลิกรากันไปตั้งแต่ยุค 2000s ทำให้ชาวเน็ทหลายคนเชื่อว่า นี่คือตำนานรัก BENNIFER เวอร์ชั่น 2.0 ไม่ต่างจากพล็อทหนัง rom-com

แต่ในชีวิตจริง มันกลับกลายเป็น romance ที่ก็ปิดฉากลงในเวลาเพียงไม่นาน

มาติดตามเสียงเล่าลือเรื่องต้นตอการหย่าของคู่ BENNIFER กับเราได้เลยค่ะ

มุมมองต่ออาชีพบันเทิงที่แตกต่าง


แม้ว่าคู่นี้จะมีชื่อเสียงจากอาชีพบันเทิงมาเนิ่นนานเช่นเดียวกัน แต่เส้นทางของพวกเค้าไม่ได้คล้ายคลึงกันนัก

Ben เคยเรียกเสียงฮือฮาจากการร่วมเขียนบทหนัง Good Will Hunting ร่วมกับเพื่อนรัก Matt Demon จนคว้ารางวัล Oscar สาขาบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยมมาได้ และยังรับงานแสดงและก้าวสู่เส้นทางนักสร้างหนัง ไม่ว่าจะเป็นการกำกับ โพรดิวซ์ และเขียนบทจนเป็นที่ยอมรับในความสามารถ แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ถนัดกับการใช้ออร่าแห่งความเป็นคนดังดึงดูดความสนใจจากผู้คนเอาซะเลย Ben สร้างผลงานโด่งดังเรียกเสียงชื่นชมไว้ไม่น้อย แต่ก็ยังมีคนติดภาพจากผลงานที่ถูกถล่มไว้เละเทะในอดีตเช่นกัน ซ้ำร้ายยังเกิดข่าวฉาวที่ทำให้สื่อรุมจับผิด จนทำให้เขาพยายามจะ keep low profile เพื่อหลีกเลี่ยงจากการเป็นข่าว เขาไม่ใช้ social media เพื่อโพรโมทตัวเองหรือแชร์เรื่องราวส่วนตัว แม้จะให้สัมภาษณ์สื่อต่างๆและร่วมงานพรมแดงในหลายโอกาส แต่เขาก็ไม่ได้ดูสะดวกใจทุกครั้งไป และยังแสดงออกถึงความเป็นปฏิปักษ์กับ paparazzi ที่รุกล้ำความเป็นส่วนตัวของครอบครัว



J.Lo คือ superstar ที่ขึ้นชื่อลือชาเรื่องความสามารถอันหลากหลายและการใช้วิธีการตลาดที่แยบยล เธอเป็นหนึ่งนักร้องเพียงไม่กี่คนที่พิสูจน์ทักษะการแสดงจนเป็นที่ยอมรับในวงการ Hollywood และต่อยอดความสำเร็จด้วยการสร้างอาณาจักรธุรกิจนับตั้งแต่ที่เธอเริ่มมีเพลงติดชาร์ทอันดับ top ที่ Billboard และยังปล่อย project ต่างๆตามมาไม่หยุดยั้ง แน่นอนว่า J.Lo และทีมงานจะต้องระดมสมองสรรหาสารพัดวิธี PR เพื่อไม่ให้แผ่วหายไปจากกระแสความนิยม ป้องกันไม่ให้ผู้คนมองเธอในภาพอดีตดิว่าโลกที่ลืม

สิ่งที่ตอกย้ำเรื่องแนวคิดต่อสถานะคนดังของ J.Lolย่อมหนีไม่พ้น This Is Me...Now: A Love Story ที่เธอใช้ประสบการณ์ความรักร่วมกับ Ben มาถ่ายทอดเป็นผลงานดนตรี ไหนจะยังมีสารคดี The Greatest Love Story Never Told ที่ได้ Ben มาร่วมกำกับและยังปรากฏตัวพูดเรื่องราวส่วนตัวของพวกเค้า แต่แทนที่ผลงานเหล่านี้จะทำให้ผู้คนเกิดความประทับใจ แต่ถูกโจมตีหนักจนกลายเป็นไวรัล และหลายคนต่างเห็นพ้องต้องกันว่า การตีแผ่เรื่องส่วนตัวให้โลกได้รับรู้นั้นดูสวนทางกับทัศนคติของ Ben จนไม่น่าเชื่อว่า เขาจะร่วมงานกับภรรยาด้วยความยินดีเต็มร้อย และสันนิษฐานกันว่า เขาน่าจะตกลงสร้างสรรค์งานนี้ด้วยกันกับ J.Lo เพราะต้องการเอาอกเอาใจเธอเท่านั้น

Ben เคยบอกเล่าความในใจว่า เขาออกตัวชัดเจนมาตลอดเพื่อขีดเส้นกั้นเรื่องราวชีวิตส่วนตัวออกจากความอยากรู้อยากเห็นของสื่อบันเทิง แต่ภรรยาไม่ได้รู้สึกต่อต้านความสนใจที่พร่างพรูเข้ามาเหมือนกับเขา เขาเป็นฝ่ายค้านไม่ให้นำเรื่องความสัมพันธ์ไปแชร์ใน social media แต่ในที่สุดก็ตระหนักได้ว่า มันไม่ใช่เรื่องยุติธรรมเลยที่เขาจะเรียกร้องเช่นนั้น และเปรียบเปรยว่า มันเหมือนกับการตัดสินใจแต่งงานกับกัปตันเรือ แต่ดันประกาศลั่นว่า เกลียดกลัวน้ำ เขาจึงยอมรับว่า ถึงจะเป็นคู่รักที่มีความแตกต่างกันแต่ก็พยายามประนีประนอมเพื่อครองรักกันต่อไปให้ได้

แต่ดูเหมือนว่าการรอมชอมกันอาจจะไม่เป็นผล แต่เกิดเป็นช่องว่างความแตกต่างที่ทำให้พวกเค้าเหินห่างกันอีกครั้ง...


สามีเบื่อหน่ายในการตกเป็นเป้าสนใจ แต่ภรรยายึดมั่นกับการรักษาตำแหน่งดิว่าทรงอิทธิพล


Ben เคยถูกขนานนามว่าเป็น 'พระเอกที่ถูกขุดคุ้ยมากที่สุด' และขึ้นชื่อเรื่องความไม่เป็นมิตรกับ Paparazzi เขาเคยเปิดใจมาแล้วหลายครั้งว่า เกลียดชังที่ต้องตกอยู่ในความสนใจของผู้คนและถูกช่างภาพคุกคามความเป็นส่วนตัว และยิ่งสื่อให้ความสนใจเขามากเท่าไร ผู้คนก็เริ่มมองข้ามผลงานและประเมินเขาไว้ต่ำลงจากเดิมจนครั้งหนึ่งทำให้เข้าสู่ช่วงขาลง เห็นชัดได้จากการรับบท Daredevil ที่ถูกโจมตีหนักหน่วงว่าเป็นผลงานย่ำแย่แม้จะทำรายได้พอประมาณ หรือจะเป็นหนัง Gigli ซึ่งนำเขามาพบรักกับ J. Lo แต่ถูกถล่มเละเทะว่า เป็นหนังห่วยแตกจนคะแนนรีวิวต่ำเตี้ยและขาดทุนยับเยิน กว่าที่ Ben จะค่อยๆสร้างสมชื่อเสียงขึ้นมาจากการลงมือกำกับหนังและเลือกรับบทในหนังคุณภาพก็ผ่านไปได้นานพอสมควร



หลังจากการตัดสินใจแต่งงานสร้างครอบครัวกับนางเอกภาพลักษณ์ดีงาม Jennifer Garner จะทำให้เขาอยู่ห่างไกลจากข่าวฉาวมาได้หลายปี แต่สื่อก็เริ่มระแคะระคายถึงปัญหาการติดสุรา เกิดข่าวลือสะพัดเรื่องการเล่นพนัน ซ้ำร้าย ในช่วงที่เกิดปัหญหาชีวิตคู่ ก็เกิดข่าวฉาวกับพี่เลี้ยงสาวสวยที่เขาจ้างมาดูแลลูกๆ ทำให้ Ben ถูกประนามว่าเป็นสามีและพ่อยอดแย่ สถานการณ์นี้ไม่เพียงแต่จะทำลายชื่อเสียงของเขา แต่ส่งผลกระทบต่อจิตใจอย่างหนักหน่วง ถึงขั้นที่อดีตภรรยาจะต้องยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือพาเขาไปส่งที่สถานบำบัดด้วยตัวเอง กว่าจะฟื้นฟูตัวเองและวางตัวให้ไกลจากเหล้าจนกลับมาเป็นที่ยอมรับอีกครั้งก็ต้องใช้เวลานานพอสมควร

มรสุมที่เกิดขึ้นในชีวิตของพระเอกดังนั้นก็น่าจะพออธิบายได้ว่า เหตุใดเขาจึงไม่ต้องการจะเป็นที่สนใจหรือตกเป็นหัวข้อ gossip ที่สำคัญ เจ้าตัวก็เคยออกมาเปิดใจแล้วว่า แรงกดดันจากสื่อคือตัวการสำคัญที่ทำให้ความสัมพันธ์ครั้งแรกในยุค 2000s ของเขากับ J.Lo ต้องพบทางตัน ทั้งๆที่เข้าใกล้พิธีวิวาห์อยู่แล้ว แต่ก็ไม่สามารถฝืนใจไปต่อ เมื่อผ่านเรื่องราวครั้งนั้นไปได้หลายปี ฝ่ายหญิงก็ยอมรับว่า การเลิกรากับ Ben นำไปสู่ความเจ็บปวดราวกับตายทั้งเป็นเลยทีเดียว


ฝ่าย J.Lo คือ superstar ที่ต้องรักษาตำแหน่งตัวเองให้มั่นคง ท่ามกลางคลื่นลูกใหม่ที่เข้ามากอบโกยความนิยมจากฐานแฟนเพลงคนรุ่นใหม่จนอาจจะดึงดูดความสนใจไปจากศิลปินดังที่คร่ำหวอดในอุตสาหกรรมนี้มาเนิ่นนาน แน่นอนว่า ทีมของเธอจะต้องร่วมกันนำเสนอกลยุทธ์ในการคงอยู่ในกระแส (หรือที่ชาวเน็ทพูดติดปากว่า stay relevant) ไม่ต่างจากศิลปินรุ่นใหม่และ influencers เธอจะต้องเข้าร่วมงานสังคมหลากหลาย และพิสูจน์ให้ทุกคนประจักษ์ว่า เธออยู่บนชั้นบนของพีระมิด ไม่ว่าจะเป็นโลกแฟชั่นหรือบิวตี้ เรื่องของ social media ก็ต้อง active เสมอ และเราก็ได้เห็น Ben ปรากฏตัวข้างกายเธอด้วยสีหน้าท่าทีมีความสุข ไม่ว่าจะเป็นการแชร์ความหวานผ่านโพสต์หรือออกงานคู่บนพรมแดง แต่ก็นำมายังคำถามว่า เขาพร้อมจะเปลี่ยนแปลงจุดยืนของตัวเองเพื่อสนับสนุนภรรยาได้อย่างแท้จริง หรือเป็นเพียงการฝืนใจเพื่อลดความขัดแย้งในความสัมพันธ์


หรือแท้จริงแล้ว แม้พวกเค้าจะรักกัน ไม่สามารถเป็นตัวเองได้เต็มที่?


ช่วงเวลาสองปีที่ผ่านมา สื่อเริ่มตั้งข้อกังขากับเรื่องความรักแบบฉบับ BENNIFER 2.0 เนื่องจากหลายครั้งหลายคราที่สื่อจับภาพที่พวกเค้าแสดงอารมณ์บูดบึ้งใส่กัน ไม่ว่าจะเป็นบนพรมแดงหรือออกเดท จนเกิดเป็นโมเมนท์ไวรัลว่า ตกลงพวกเค้าแค่คุยกันอย่างออกรสออกชาติ หรือว่ากำลังวีนใส่กันต่อหน้ากล้องกันแน่?

เสียงเล่าลือที่เกิดขึ้นน่าจะทำให้ Ben อธิบายในรายการ talk show ว่า การแสดงสีหน้าตามปกติของเขามักทำให้คนรอบข้างเข้าใจผิดว่า เขากำลังโกรธหรือเซ็งอยู่ตลอดเวลา ซึ่งมันอาจจะเป็นไปได้ว่า เขารู้สึกหงุดหงิดที่มีคนตามรบกวนตอนที่ใช้เวลากับลูกๆ แต่สีหน้าปกติของเขานั้นดูบูดยึ้งตามธรรมชาติ ทำให้ถูกตั้งคำถามบ่อยๆว่า กำลังขุ่นเคืองใจเรื่องใดอยู่หรือไม่ เมื่ออยู่ในงานสังสรรค์ ก็ทำเอาผู้ร่วมงานคนอื่นคิดว่า เขากำลังนั่งเบื่อหน่ายอยู่คนเดียว ทั้งๆที่ตอนที่เขารู้สึกสบายใจก็มีสีหน้าเฉยชา ซึ่งเป็นเรื่องที่ห้ามตัวเองไม่ได้ พระเจ้าสร้างเขามาเช่นนั้นเอง

แต่ชาวเน็ทหลายคนก็ยังเชื่อว่า บรรยากาศอันตึงเครียดของ BENNIFER นั้นชัดเจนเกินกว่าจะปฏิเสธ


โมโมนท์ที่เหมือนกับ BENNIFER กำลังเถียงใน award show ใกล้ๆกับพิธีกรที่กำลังพูดคุยอย่างสนุกสนานนั้นทำให้แทบลอยด์จอมขุดคุ้ยพานักอ่านปากมาวิเคราะห์ว่า สิ่งใดที่ทำให้คู่นี้ปรี๊ดจนเก็บอารมณ์ไม่อยู่ (มีความเชื่อว่า J.Lo เตือนสามีให้ทำหน้าดีๆ ให้เหมือนกระตือรือร้นบ้าง ส่วน Ben ก็โต้กลับด้วยท่าทางเบื่อหน่าย) แต่สิ่งที่ปรากฏเพียงไม่กี่วินาทีก็อาจจะดูคลุมเครือจนไม่สามารถฟันธงได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ พวกเค้าอาจจะคุยกันสัพเพเหระกันตามปกติ แต่ถูกเข้าใจผิดว่า กำลังทะเลาะกันอยู่ แต่สื่อก็มักวิพากษ์วิจารณ์เรื่อง Ben ที่มักชักสีหน้าเมื่อเดินเคียงคู่มากับภรรยาแบบอารมณ์บูดอยู่เสมอ รวมถึงช็อทที่เปิดประตูรถให้กันซึ่งดูเหมือนกับเป็นการดูแลเอาใจใส่กันภรรยาเป็นอย่างดี แต่ท่าทางการปิดประตูของ Ben ที่เหมือนกับกระแทกใส่เบาๆและยังยกมือไม้คล้ายกับใส่อารมณ์เหลืออด ซึ่งไวรัลนี้ได้สร้างข้อถกเถียงในโลกออนไลน์ว่า นี่คือสัญญาณของวิกฤติชีวิตคู่ของ BENNIFER หรือไม่?
 และนั่นไม่ใช่เพียงครั้งสองครั้งที่บรรยากาศของทั้งคู่ดูติดลบ พวกเค้าเคยเดินออกจากรถด้วยหน้าตาเคร่งเครียดราวกับว่าทะเลาะกันอย่างหนักมาตลอดทาง และยังมีภาพที่เหมือนกับกำลังคุยในหัวข้อชวนหนักใจในรถหลายหน  เหตุการณ์เหล่านี้ทำให้แทบลอยด์เริ่มปล่อยข่าวว่า ชีวิตแต่งงานของพวกเค้ากำลังประสบปัญหาอย่างหนัก ส่วนท่าทางที่รักกันเหลือล้ำนั้นเป็นส่วนหนึ่งในการแสดงเพื่อทำให้สาธารณชนเชื่อว่า ความรักของพวกเค้าจะยังมั่นคงเสมอไป

หลังจาก J.Lo ยื่นขอหย่าร้าง สื่อดังยังอ้างวงในว่า ที่จริง BENNIFER มีความขัดแย้งกันตั้งแต่ honeymoon แต่ก็ประคับประคองกันมาได้จนถึงช่วงที่ฝ่ายภรรยาทุ่มเทกับโพรเจทค์ใหม่ ภาพที่ปรากฏในสารคดีนั้นได้เผยถึงความรักความเช้าใจของคู่นี้ แต่ก็ยังปรากฏเรื่องความคิดเห็นที่แตกต่างกันชัดเจน ลงท้ายก็ไม่สามารถต่อฝืนไปได้ไหวตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้


แฟน J.Lo วอน หากยังไม่รู้แน่ชัดก็อย่าโทษแต่เพียงฝ่ายภรรยา


ชาวเน็ทบางคนไม่เห็นด้วยที่สื่อนำเสนอข่าวไปในเชิงกล่าวโทษ J.Lo ว่านำเสนอตัวตนและชีวิตส่วนตัวต่อสาธารณชนมากเกินไปจน Ben เกิดความกดดัน เพราะเห็นได้ชัดว่า ในชีวิตแต่งงานกับ Jennifer Garner ที่มักเก็บตัวเงียบๆกับครอบครัวและได้รับเสียงชื่นชมว่า เธอทำหน้าที่ภรรยาและแม่ที่ดีจนชักนำให้ Ben ปรับปรุงตัวให้เว้นจากพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม โดยเฉพาะการดื่มเหล้าที่เป็นปัญหาใหญ่มาตั้งแต่ยุค 90s แต่ปัญหาติดสุราก็กลับมาเยือนอีกครั้งและตกเป็นข่าวฉาวโฉ่และลงเอยด้วยการหย่าร้าง กล่าวคือ จะเป็นภรรยาที่ใช้ชีวิตแบบ low profile หรือภรรยาที่เป็น superstar ดึงดูดความสนใจผู้คนได้ล้นหลาม ก็เกิดปัญหาเข้ากันไม่ได้จนต้องหย่าร้างไม่ต่างกัน



แท้จริงแล้ว แฟนๆของ J.Lo เคยรู้สึกกังวลแทนเธอที่ยกระดับความสัมพันธ์กับ Ben ไปสู่ความจริงจังขั้นแต่งงานอย่างรวดเร็ว ทั้งๆที่ข่าวการควงคู่ของพวกเค้าในช่วงแรกถูกมองเป็นความสัมพันธ์คั่นเวลาเท่านั้น แม้การหวนคืนดีกันในรอบสองทศวรรษจะฟังดูเป็น romance แสนประทับใจ แต่บางคนมองว่า Ben ไม่ได้ดูเหมาะสมกับความสัมพันธ์ระยะยาวแต่ย่างใด และยังเชื่อว่า ในช่วงความรักยังร้อนแรงพฃุ่งพล่าน พวกเค้าอาจมองข้ามไปว่า เคยต้องเลิกรากันอย่างเจ็บปวดแค่ไหน เมื่อกลับมาหากันอีกครั้งหลังจากผ่านประสบการณ์ความรักมาอย่างโชกโชน ก็อาจจะหลงเข้าใจผิดว่า ต่างฝ่ายต่างต่างเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมและสามารถเติมเต็มความต้องการของอีกฝ่าย สร้างพลังใจให้กันได้ตลอดไป แต่ในทางปฏิบัติระยะยาว พวกเค้าอาจจะกำลังฝืนตัวตนที่แท้จริงอยู่

สื่อยังคงนำเสนอทฤษฏีต่างๆเพื่ออธิบายจุดจบในชีวิตแต่งงานของ BENNIFER บ้างก็โจมตีฝ่ายภรรยาว่า ไม่เคยรู้สึกพอใจในตัวสามีและรับไม่ได้ที่เขาตักเตือนเธอในสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกไม่ดีอย่างตรงไปตรงมา บ้างก็โทษฝ่ายสามีว่า ทำให้เธอค่อยๆเสียตัวตนและจุดยืนของตัวเองไป ซึ่งคนใกล้ชิดของเธอก็ได้เตือนแล้วว่า การตั้งความคาดหวังว่า เขาจะเป็นสามีที่เธอคาดหวังไว้นั้นเป็นเรื่องเสียเวลาไปเปล่าๆ แต่ทั้งคู่ยังปิดปากเงียบ ไม่อธิบายถึงต้นสายปลายเหตุในการหย่าร้าง ไม่ต่างจากการเลิกรากันในครั้งแรกที่พวกเค้าเลือกเก็บเรื่องราวไว้ในใจจนกระทั่งข่าวคราวซาลง จึงออกมาชี้แจงให้สังคมได้เข้าใจ




candy

candy

ติดตาม Mouth On The Web แล้วอย่าลืม Mouth On The Face นะคะ ^ ^

FULL PROFILE