สาวออฟฟิต ออกตามฝันเป็น Makeup Artist ณ London ตอนที่ 1
ZeppBeautyDiary 36 24สาวออฟฟิต ออกตามฝันเป็น Makeup Artist ณ London ตอนที่ 1
สวัสดีค่ะ ดีใจจังที่มีคนคลิ๊กกระทู้นี้ขึ้นมาอ่าน ขอแนะนำตัวก่อนนะคะ ชื่อเซ็ป (Zepp ที่มาจาก September ค่ะ)
ชื่อกระทู้ก้อบอกโน๊ะ ว่าก่อนหน้านี้ไม่กี่วันเซ็ปยังมีชื่อเป็นพนักงานบริษัทแห่งหนึ่งย่านสาธร แต่เซ็ปมีความฝันว่าหลังจากนี้ เซ็ปอยากจะเปลี่ยนจากคำจำกัดความของตัวเองจาก Office Staff เป็น Makeup Artist ค่ะ
อยากบอกว่าความจริงแล้ว เซ็ปก็เคยเป็นเด็กผุ้หญิงคนนึงที่เคยอยู่แบบไม่มีฝันเลย เกลียดเวลามีคนถามว่าจบแล้วจะไปทำอะไร อยากเป็นอะไร เพราะไม่รู้เลยว่าอยากทำอะไร อยากเป็นอะไร แต่พอทำงานได้ 2ปี ประสบการณ์และอะไรหลายๆอย่าง ก็ทำให้ได้เห็นความถนัดของตัวเองชัดชั้นเรื่อยๆ จนถึงวันนึง ที่รู้สึกว่าปล่อยให้ผ่านไปวันๆไม่ไหวแล้ว ต้องลุกขึ้นมาไฟว์แล้ว
เซ็ปยอมรับว่าการตัดสินใจครั้งนี้เสี่ยงมาก เพราะต้องลาออกจากงานประจำที่ทำอยู่ และเซ็ปไม่รุ้จักใครเลยที่ทำงานในวงการนี้ แทบไม่รู้เลยจะเริ่มยังไง ทุกอย่างบุกเดี่ยว หาข้อมูลเอง ทำเองทุกอย่าง ด้วยความเชื่อว่าวันนึง จะได้ทำสิ่งที่รักทุกวัน และสิ่งที่เรารักนี้จะสามารถสร้างรายได้ให้เราเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้
ไปค่ะ ไปตามการเดินทางครั้งนี้ของเซ็ปกัน !!
ที่เซ็ปตั้งกระทู้นี้ เกิดจากตอนที่ตัวเองหาข้อมูล ก็เกิดคำถามว่าทำไมไม่เห็นมีใครบอกเลยว่าอยากเป็น makeup artist ต้องทำยังไง เรียนที่ไหนดี โรงเรียนที่เราไปหาข้อมูล เกือบทุกที่ก็มีคนไทยเคยไปเรียน แต่ไม่เห็นมีคนมาเขียนรีวิวเลยว่าเป็นยังไง ขอชื่อ Alumni เขาก็ไม่ให้ บางโรงเรียนมีฝรั่งรีวิวจริง แต่เส้นทางและโอกาสของเขาก็ไม่เหมือนกับเรา ไหนๆก็ไหน เซ็ปขอใช้การเดินทางของเซ็ปครั้งนี้ มาแชร์เพื่อเป็นประโยชน์กับคนที่มีฝันคล้ายๆ กันนะคะ
ถามว่าทำไมต้องไปเรียนไกลขนาดนั้น บ้านเราไม่มีหรอ คือโรงเรียนสอนแต่งหน้าบ้านเราก็มีหลายที่นะคะ แต่อาจจะไม่ใช่ Style ที่เซ็ปต้องการ และเซ็ปตั้งใจจะมาเที่ยวที่นี่อยู่แล้ว ไหนๆก็จะมา เลยใช้โอกาศนี้เรียนที่นี่เลยดีกว่า แต่ก่อนมาครั้งนี้ เซ็ปได้เรียนทำผมมาก่อนแล้ว เพราะคิดว่าการทำผมของบ้านเรามีเอกลักษณ์ เผื่อจะสามารถนำมาปรับใช้ได้ค่ะ
เริ่มจากหาที่เรียนก่อน ก่อนหน้านี้ดูไว้หลายที่มี หาข้อมูลก็เยอะมากกกกก บอกตรงๆว่าความยากคือเราไม่รู้ว่ามุมมองของคนที่นี่ต่อโรงเรียนนั้นๆ เป็นยังไง กลัวแบบอ่านไปรีวิวดี แต่ไปเรียนจริงเจอโรงเรียนโบราณๆจะทำยังไง จนสุดท้ายเลือกได้ 3 โรงเรียนที่คิดว่าโอเค คือ London school of fashion, London school of beauty and makeup และที่สุดท้ายที่เลือกคือ Academy of freelance makeup ซึ่งโรงเรียนเหล่านี้มี short course ด้านแต่งหน้าโดยเฉพาะค่ะ
เซ็ปก็ like page ,follow IG ของโรงเรียน ตามดูผลงานไปเรื่อยๆ
แต่พอถึงเวลาต้องฟันธงเนี้ยสิ ใครน๊า จะมาช่วยแนะนำ ในเมื่อเราไม่รู้จักใครที่ทำงานในวงการนี้เลย คิดไปคิดมา นึกไม่ออกละจิงๆ นึกออกว่ามีคนนึง ที่เรียนแต่งหน้าที่อังกฤษมาก่อน เขาน่าจะตอบคำถามนี้ได้ แพรรี่พายนั้นเอง! ณ จุดๆนั้น เซ็ปบอกเลยว่านึกวิธีอื่นไม่ออกละจิงๆ วิธีนี้แหละ เลยส่ง Massage Facebook ถามแพรรี่พายโลด ด้วยความตื่นเต้น ส่งข้อความไปอย่างเร็ว "พี่พายคะ แนะนำโรงเรียนสอนแต่งหน้าที่ไหนในลอนดอนคะ” ซึ่งก็ได้คำตอบที่ตรงกับใจว่า ไม่ London School of fashion ก็ Academy of Freelance Makeup แต่ที่ตลกคือ พี่เขาบอกว่าชื่อแพรค่ะ ไม่ใช่พาย 555 เซ็ปแบบ รู้สึกอับอายมากก ไปขอความช่วยเหลือเขายังเรียกชื่อผิดอีกกก 555 แต่ต้องขอบคุณพี่แพรมากที่ช่วยตอบคำถามนี้ มันสำคัญมากจิงๆ ถ้ามีโอกาสได้เจอตัวจิง จะกระโดดกอดสามที
สุดท้าย ที่เซ็ปเลือก Academy of freelance makeup เพราะเป็นโรงเรียนเปิดใหม่ ที่มีแบรนเครื่องสำอางต่างๆ เข้ามา Support เยอะมาก นักเรียนจะได้ลองเครื่องสำอางหลายๆแบรนระหว่างเรียน และเขามีสิ่งที่เรียกว่า โปรแกรม aftercare & support หลังจบครอส ว่านักเรียนจะไปต่อในสายงานนี้ได้อย่างไร ทำPort ยังไง และนักเรียนที่ผ่านการคัดเลือกจะมีโอกาสไปแต่งหน้าใน London Fashion Week, New York Fashion Weekและ Paris Fashion Week ด้วย ส่วนเรื่องราคาที่ต้องยอมรับว่าแพง แต่เมื่อเปรียบเทียบกับโรงเรียนอื่นกับสิ่งที่โรงเรียนนี้มีให้ ถือว่าโอเคมากค่ะ ยังไงถ้าสนใจ ไปลองดูเวปของโรงเรียนได้นะคะ https://www.aofmakeup.com
Course ที่เซ็ปลงเรียน ชื่อ Total Pro Creative Specialist Certification ซึ่งจะได้เรียนทั้งการแต่งหน้า ทำผม ทำเล็บและการแต่งหน้าโดยใช้ Airbrush เป็นเวลา 1 เดือนเต็ม เรียนจันทร์ - เสาร์ ตั้งแต่ 10.00 – 18.00 ค่ะ
ส่วนอีกเรื่องที่อาจจะมีคนสนใจคือเรื่องวีซ่า เนื่องจากทางโรงเรียนไม่ได้ระบุว่าวีซ่าต้องเป็นประเภทไหน เขาบอกอะไรก็ได้ เรื่องของคุณ ตึ่ง! พอถามทางตัวแทนสถานทูตก็ฟันธงให้เราไม่ได้ว่าควรเป็นนักท่องเที่ยว หรือนักเรียน จนสุดท้ายตัดสินใจสมัครวีซ่านักเรียน(Student Visitor)มาก่อน แต่ทางสถานทูตก็ส่งเป็นนักท่องเที่ยว(General visitor)กลับมาให้ค่ะ แต่ที่ตลกคือ วันที่เซ็ปบินมาถึง เนื่องจากก่อนหน้านั้นยุ่งมาก เพราะลาออกจากงานก่อนเดินทางแค่วันเดียว ทุกอย่างก็วุ่นวายๆ ก่อนออกจากบ้านก็รู้สึกว่าลืมอะไรซักอย่างแต่นึกไม่ออก
จนบินมาจะถึงที่นี่อยุ่แล้ว ก็นึกขึ้นได้ว่าลืมเอกสารแสดงต.ม.ค่ะ! เดินมาโล่งๆ พร้อม Passport เล่มเดียว เขาก็ถามว่ามาทำอะไร เรียนที่ไหน สมัครเป็นวีซ่านักเรียนมาก่อนรึป่าว และคำถามที่เด็ดที่สุด คือถามว่า นี่ออกจากงานและจะเปลี่ยนอาชีพใช่มั้ย ซึ่งเซ็ปก็ตอบไปตามนะคะว่าใช่ เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร และให้เข้าประเทศมา
วันจันทร์นี้จะเป็นวันแรกที่เริ่มเรียนแล้ว หลังจากมาอยู่ก่อนเกือบ 2 อาทิตย์ เพื่อให้คุ้นกับการเดินทางและภาษา แอบตื่นเต้นเหมือนกัน จะฟังคนสอนทันป่าวไม่รู้ กลัวคุยกับเพื่อนๆ ไม่รู้เรื่องด้วย 555
และแต่ละอาทิตย์ เซ็ปจะพยายามรวบรวมสิ่งที่ได้เรียนในห้องมาเล่าให้ทุกคนฟังในจีบันนะคะ ซึ่งอาทิตย์แรกจะเริ่มเรียนการแต่งหน้า ยังไงติดตามน๊าค๊า ขอบคุณค๊าาา