Lunch Set ท่ามกลางกลิ่นไวน์ที่ Cellar 11 Wine Bar & Bistro

8 2
สวัสดีค่ะสาวๆ ช่วงนี้อากาศร้อนร้อน มื้อเที่ยงๆ ไม่อยากจะออกไปกินที่ไหนกลางแจ้งเลย... วันนี้เอิร์ธขอพาทุกคนไปหลบแดดเที่ยงทาน อาหารกลางวันสุดอร่อย เคล้าบรรยากาศดีๆ ที่เต็มไปด้วยกลิ่นไวน์ กับ ร้าน Cellar 11 Wine Bar & Bistro 

 

 
Cellar 11 Wine Bar & Bistro เป็นร้านอาหารโฉมใหม่ในซอยสุขุมวิท 11 ที่เปิดให้คอไวน์ได้มาดินเนอร์แกล้มอาหารสุดอร่อย​ แต่วันนี้เอิร์ธได้ยินมาว่า เค้าเพิ่ม Lunch Set เมนูอาหารกลางวันชุดใหญ่ชุดใหม่ ป้าจีนคนสวยเลยขอนัดทีมจีบัน อย่างเอิร์ธ พี่อาย พี่กานจิ ป้าเก่ง และพี่หนุ่ม บอสสุดหล่อของเรามาออกเดท ลองชิมอาหารที่ร้านนี้กันซะหน่อย 

เปิดประตูเข้าร้าน สิ่งแรกที่ตะลึง ก็คือบรรยากาศของร้าน ที่เอิร์ธขอการันตีเลยว่าต้องถูกใจสาวๆ แน่นอน เพราะแต่ละมุมเป็นโลเคชั่นถ่ายรูปได้อย่างดี ทั้งโซน Outdoor ที่เป็นระเบียงนอกร้าน ไว้ให้นั่งกินกันไปคุยกันไปแบบสบายๆ ในตอนกลางคืน หรือจะเป็นโซน Indoor  ที่โต๊ะของเราจะล้อมรอบไปด้วยขวดไวน์สวยๆ  ห้องเชฟโซน ที่ยกเคาน์เตอร์ทำอาหารมาไว้ตรงกลาง แบบที่เชฟทำอาหารไปทานไปกันเลย 
 

 
นอกจากนี้ยังมี ห้องส่วนตัวที่ชั้นใต้ดินและชั้นที่ 2 จำนวน 3 ห้องที่ตกแต่งได้สวยมีสไตล์ตามชื่อไวน์แต่ละชนิด อย่างห้องใต้ดินที่มีชื่อว่า The Moet & Chandon Grand Cellar ที่เนรมิตเป็นเหมือนห้องประชุมลับชั้นใต้ดินอังกฤษสมัยโบราณ ได้อารมณ์ว่า ชั้นคืออัศวินมานั่งประชุมกันเลย (เสียดายที่โต๊ะไม่กลม ไม่งั้นจะเหมือนมากๆ 5555)

ห้อง Robert Mondavi ที่เป็นห้องไม้ตกแต่งด้วยของเก่าสวยๆ สไตล์ห้องใต้หลังคา ที่จุคนได้ถึง 20-30 คนไว้สำหรับจัดเลี้ยงได้อย่างสบายๆ  และห้อง Penfolds Grange ที่เป็นห้องส่วนตัวเล็กๆ น่ารัก ตกแต่งสไตล์บ้านไม้ได้อารมณ์ครอบครัวสุดๆ เลยจ้า

แต่ไหนๆ วันนี้เราก็มาทานอาหารอากลางวันกัน ดังนั้นมุมที่เลือกนั่งขอเป็นมุมสบายๆ เห็นบรรยากาศรอบร้าน เพื่อจะได้อยู่ท่ามกลางขวดไวน์สวยๆ แอร์เย็นๆ ให้ได้ฟินกันไป 55555
 



 
อย่างที่บอกไปว่าอาหารที่เราเลือกวันนี้ก็คือ Lunch Set ที่เป็นอาหาร 3 คอร์ส คือ Starter, Main Course และ Dessert ขนมหวานแสนอร่อยที่มาตบท้าย  โดยเค้าจะมีด้วยกัน 2 ราคาให้เราเลือกคือ 599++ ที่จะเป็นอาหารพวก หมู กุ้ง ปลาเป็นหลัก และ 899++ สำหรับคนที่ชอบอาหารพวกปลาหิมะ กุ้งล็อบสเตอร์ และเนื้อเทนเดอร์ลอยน์ค่ะ

ไหนๆ ก็มาถล่มกันถึง 5 คนแบบนี้ เราเลยขอเลือกเมนูทั้ง 2 ราคามาแบ่งกันทาน จะได้ลองและเก็บภาพมาฝากชาวจีบันแบบหลากหลายเมนูจ้า  

ระหว่างรออาหารมาเสิร์ฟ ซึ่งเชฟใช้เวลาพิถีพิถันนิดนึงนะ ดังนั้นถ้าใครรีบ แนะนำว่าให้โทรมาสั่งก่อนจะดีกว่าจ้า ทางร้านก็มีขนมทานเล่นอย่าง ขนมปังฝรั่งเศสร้อนๆ ที่ส่งกลิ่นหอมโชยมาแต่ไกลให้ได้ทานรองท้องกันก่อน ซึ่งขนมปังฝรั่งเศสนี้จะเสิร์ฟเฉพาะช่วงอาหารกลางวันเท่านั้นนะ ถ้าเป็นตอนเย็นจะเป็น ฟอคคาเซีย (Foccacia)  ตัวเด่นของร้านที่หลายคนติดใจ ป้าจีนเลยขออุ๊บอิ๊บสั่งมาลองทานกันซักหน่อย ซึ่งขอบอกว่าอร่อยมากกกกกสมคำล่ำลือจริงๆ ยิ่งกินกับน้ำมันมะกอกหอมๆ นะ มันช่างเข้ากั๊นเข้ากันจริงๆ >< 
 
 

 
รองท้องกันไปแล้ว ก็ได้เวลาของ Starter ที่พอมาถึงโต๊ะแล้วทำให้ทุกคนตะลึง!! ไปกับปริมาณของอาหารที่เยอะมาก...กก อย่างเมนู White Prawn Salad สลัดผักกุ้งราดซอสพร้อมไข่กุ้งของป้าจีน ที่แบ่งกินกันได้ถึง 3 คน ซุปเห็ดสุดเข้มข้น ของพี่กานจิ ซุปล็อบสเตอร์ ที่มาพร้อมกุ้งย่างหอมๆ ไว้กินคู่กันของพี่อาย หรือจะเป็นเมนู Asparagus Au Gratin กราแตงหน่อไม้ฝรั่งกรอบๆ ที่หอมทั้งชีสและกลิ่นเบคอนของป้าเก่งที่ทำเอาคนไม่ชอบผักแบบเอิร์ธกินไปฟินไป จนลืมไปเลยว่านี่กำลังกินผักอยู่ และเมนูเของเอิร์ธกับพี่หนุ่มอย่าง Duck Confit Salad ที่เป็นสลัดผักสดๆ ทานคู่กับขาเป็ดทอดและซอสราสเบอร์รี่ที่เข้ากันมากๆ เลยทีเดียว

 

(White Prawn Salad, ซุปเห็ด, Asparagus Au Gratin, ซุปล็อสเตอร์ และ Duck Confit Salad )

หลังจากที่เริ่มจะอิ่มกับเมนูแรกไปไม่ทันไร เหล่ากองทัพ Main Course ก็ทยอยมาเสิร์ฟกันแบบอลังการจนทำให้พวกเราทั้ง 5 ลงมติกันว่า ถึงจะอิ่มแค่ไหนแต่ก็ยังจะหม่ำกันต่อไป ไม่ถอย!! เพราะหน้าตาของอาหารก็น่าทานสุดๆ

ทั้ง สเต็กเนื้อเทนเดอร์ลอยน์ เนื้อสันในราดด้วยซอสไวน์แดงสุดพิเศษที่กินไปแล้วทั้งนุ๊มนุ่ม อร๊อยอร่อย เข้ากันมากจนเรียกได้ว่าฟินทั้งแต่คำแรกถึงคำสุดท้ายที่ได้กินเละ เมนูปลากระพงราดซอสมะนาว ที่มาพร้อมผักโขมไว้กินคู่กันของพี่กานจิ สเต็กปลาแซลมอลราดซอสบัลซามิกและพริกหวาน ที่ปกติแล้วเมนูนี้จะเป็นสเต็กปลาหิมะนะจ๊ะ ถ้าวันไหนไม่มีจริงๆ ถึงจะแปลงร่างมาเป็นปลาแซลมอน แต่ก็อร่อยไม่แพ้กัน หรือจะเป็นเมนูลูกครึ่งญี่ปุ่น-อิตาลีอย่าง Spaghetti  Mentaiko  Nori สปาเก็ตตี้ไข่ปลาค๊อทพร้อมสาหร่ายญี่ปุ่นของพี่หนุ่ม ก็ดูแปลกใหม่มากจ้า

แต่ถ้าใครทานแค่นี้ แล้วยังไม่หนำใจก็สามารถสั่งเมนู A la carte มาทานเล่นควบคู่ไปได้ก็ได้นะ อย่างป้าจีนของเราที่จัด ซุปหัวหอม  เมนูสุดโปรดที่นอกจากจะหอมหวานเข้มข้นแล้ว ยังมีชีสหอมๆ โปะหน้ามาด้วยให้ฟินเพิ่มกันไปอีกด้วย  
 


(สเต็กเนื้อเทนเดอร์ลอยน์, ซุปหัวหอม, สเต็กปลาแซลมอลราดซอสบัลซามิกและพริกหวาน, 
ปลากระพงราดซอสมะนาว และ Spaghetti Mentaiko Nori )

อิ่มจากอาหารคาวกันเรียบร้อย แน่นอนว่าได้เวลามาฟินกันต่อกับ ของหวาน Dessert  คอร์สที่ผู้หญิงหลายคนชอบมากที่สุด 5555 (จริงมั้ยคะ?) แถมงานนี้ต้องถูกใจสาวๆ มากขึ้นเป็นพิเศษแน่ๆ เพราะหน้าตาของขนมแต่ละอย่างถูกออกแบบมาแบบสวยมากกกก

อย่าง Profiteroles แป้งพัฟสอดไส้ไอศกรีมวนิลาราดซอสช็อกโกแลต ที่จัดจานออกมาเป็นดอกไม้สวยๆ ตามมาด้วยทาร์ตสตรอเบอรี่ลูกโตๆ สอดไส้คัตตาร์ดข้างใน หรือจะเป็นค้กช็อกโกแลตลาวา ที่ได้กลิ่นและรสของช็อกโกแลตแท้ๆ เสิร์ฟคู่กับไอศกรีมวนิลาแสนอร่อย กินแล้วได้รสกลมกล่อมสุดๆ และปิดท้ายด้วยเมนูที่เอาใจสาวๆ ที่ไม่ชอบทานหวานมากกับ Mixed Sherbet  ไอศกรีมผลไม้ชื่อดังจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ อย่าง Mövenpick ที่การันตีด้วยความอร่อยแบบสุดๆ ไปเลย

 

(ไอศกรีม Mixed Sherbet, เค้กช็อกโกแลตลาวา, Profiteroles และทาร์ตสตรอเบอรี่ )


หลายคนสงสัยกันใช่มั้ยจ๊ะ ว่ามาร้านไวน์ทั้งที พวกเราไม่กินไวน์กันเหรอ แหะๆ ขอบอกว่าเปิดขวดตั้งแต่ตอนหม่ำขนมปังแล้วจ้า 55555 แหมก็ขวดไวน์ทั้งเยอะแล้วก็ล่อตาล่อใจขนาดนี้ ก็ต้องเปิดมาจิบทีละนิด แกล้มไปกับอาหารเพื่อเพิ่มความอร่อยกันซักหน่อย

แถมเค้ายังมี " ตู้กดไวน์ " ที่ทางร้านจะเอาไวน์หลากหลายชนิดใส่ไว้ในตู้ให้เลือกกดในปริมาณที่ต้องการ ทั้งเต็มแก้ว ครึงแก้ว หรือจะแค่ลองชิมเล็กๆ ก็เลือกจ่ายได้ในราคาตามที่เรากิน  แก้ปัญหาการมาคนเดียวแล้วกินไวน์ที่เปิดไม่หมดอีกด้วยจ้า


 
เป็นยังไงกันบ้างจ๊ะ เต็มอิ่มกันเลยใช่มั้ย พวกเราทั้งหมดก็อิ่มไม่แพ้ใครเหมือนกัน 555555 ถ้าใครยังไม่จุใจหรืออยากจะบุกไปลองทานเองแล้ว ก็สามารถไปที่ร้านได้เลยค่ะ รับรองว่าคุ้มค่าทั้งบรรยากาศและอาหารอร่อยๆ แน่นอนจ้า

นอกจากมื้ออาหารกลางวันที่เราไปหม่ำกันอย่างเต็มที่แล้ว ทุกวันอาทิตย์ก็ยังมี The Superb Sunday Brunch 
ให้ไปทานกันด้วยนะ และแอบกระซิบให้นิดนึงด้วยว่า ทางร้านเค้ามีโปรโมชั่นสุดพิเศษสำหรับสาวๆ ด้วยนะ เพราะทุกคืนวันอังคาร จะเป็นคืน Ladies Night ที่จะให้สาวๆ มาดื่มดํ่าไวน์ฟรีตั้งแต่ 6 โมง-5 ทุ่ม ไปเลยยย 
 (ตาลุกวาว 5555 )

 
SERVICE & VALUE 
คุ้มค่ามากค่ะ ด้วยปริมาณและวัตถุดิบที่อลังการ แบบว่าคัดสรรมาแล้วทุกอย่าง ทำให้อาหารออกมาอร่อยและคุ้มราคาสุดๆ แต่เวลารออาหารนานไปนิดนึง ดังนั้นควรโทรมาจองไว้ก็ดีเหมือนกันนะจ๊ะ ส่วนเรื่องเซอร์วิสก็ดีไม่แพ้กัน เพราะพนักงานเค้าดูแลเป็นอย่างดี แถมแนะนำไวน์ได้ละเอียดมากเลยค่ะ
 
LOCATION
ร้านอยู่ในซอยสุขุมวิท 11 สามารถขับรถเข้าไปได้เลย มีที่จอดรถกว้างขวางค่ะ หรือถ้าใครจะมีบีทีเอสก็นั่งมาลงที่สถานีนานา แล้วต่อรถเข้าซอยมาอีกไม่ไกลค่ะ
เปิดทุกวัน 11.00 - 00.00 น
โทร 02 255 5833-35/ 086 990 8642
www.cellar11.com

DRESS CODE
ไปร้านนี้ควรแต่งตัวสวยค่ะ เพราะพี่บิ๊กเจ้าของร้านแอบกระซิบมาว่า ชอบมีหนุ่มหล่อๆ มานั่งจิบไวน์คนเดียวอยู่บ่อยๆ โดยถ้าเป็นกลางวันก็แต่งหน้าเบาๆ ให้ดูเป็นสาวมาทานข้าวกับแก๊งค์เพื่อนสวยๆ ก็ได้จ้า แต่ถ้าเป็นกลางคืนขอบอกว่าสามารถจิกส้นสูง สโมกกี้อาย พร้อมปากแดงมาจิบไวน์ให้ดูเซ็กซี่เบาๆ นะคะ 


allearth

allearth

earthpynn .

เคยเป็นสาวจีบัน แต่ตอนนี้เป็นคนบ้ารีวิว 5555
คสอ. กิน ช็อป รีวอวให้หมดไปเลยค่ะซิสส

FULL PROFILE