Lime Crime vs Wet n Wild ลิปลิควิดสีปัง!

สวัสดีค่ะ

ด้วยความฮ็อตฮิตของ Liquid Lipstick หลังจากเคยลอง NYX แล้วไม่ได้ปลื้มมาก

พอได้ยินว่าตอนนี้หลายยี่ห้อทำออกมาแบบที่ทาแล้วแน่น! ปัง! ก็เลยไปจัดมาลองสักหน่อย 

 > Lime Crime ได้มาจากร้าน Lashes สาขา Central Silom Complex ค่ะ 

สี Salem สุดแซ่บ ในคอลเลคชั่น Velvetine สีที่ว่านี้จริงๆ ก็คือสี Matte Brown ค่ะ แอบเล็งไว้อยากได้สี Wicked ด้วย

> Wet n Wild รุ่น Megalast Liquid Lip Color ตัวนี้ได้มาโดยบังเอิญเพราะติดฝน เลยไปซนลองเล่นเครื่องสำอางในร้าน Tsuruha Super Drugstore เห็นราคาไม่แพง เลยโดนมาลองเสียหน่อย เมได้สี Back to the Fuchsia มาค่ะ ที่บู้ทของแบรนด์นี้จะมีแค่สามสี่สีเองค่ะ โทนเข้มๆ ทั้งนั้น แต่ลองเสิร์ชดู เค้าทำออกมาเป็นสิบสีค่ะ มีแบบผสมชิมเมอร์ โทนนู้ดก็มีค่ะ 

> Lime Crime เหมือนแปรงลิปกลอสทั่วไป

มีหน้าตัดเฉียงๆ ให้ทาได้สะดวก คอนโทรลขอบปากคมๆ ง่ายมากค่ะ

> Wet n Wild หัวแปรงซิลิโคนลักษณะแบนๆ เมว่าทายากนะ

> Lime Crime ทาลงบนแขน แห้งไวมาก ปาดปุ๊บแห้งปั๊บ

> Wet n Wild ทาลงบนแขน แห้งไวระดับหนึ่ง แต่เนื้อสัมผัสตอนปาดลงแขนจะหนืดกว่า

> Lime Crime ทาแล้วลองเอานิ้วกดๆ ดู จะมีสีติดนิ้วมาบางๆ 

> Wet n Wild ทาแล้วลองเอานิ้วกดๆ ดู สีติดมาเป็นเม็ดๆ เล็กๆ

> เอาน้ำพ่นใส่เลยค่ะ หนาวค่ะ ขนลุกค่ะ 

> Lime Crime ซับน้ำออกแบบกดๆ แอบหลุดๆ ออกมานิดๆ

> Wet n Wild ซับน้ำออกแบบกดๆ ยังอยู่แน่น

ล้างน้ำไม่สะเทือนขนาดนี้ มาดูกันว่าจะล้างยังไงดี

ซ้าย ล้างด้วย Cleansing Lotion ขวา ล้างด้วย Oil Control Make Up Remover

ลองเทียบสีกัน แสงเพี้ยนไปหน่อยค่ะ

สรุปว่า ชอบและปลื้มกับทั้งสองสีเลยค่ะแต่สำหรับการใช้งานจริง ให้ Lime Crime ค่ะ เพราะ Wet n Wild ที่ดูเหมือนติดทนนั้น พอทาลงบนปากแล้วเม้มปากให้มันติดกันไม่ได้ค่ะ พอเนื้อลิปสัมผัสกันมันจะดีงกันเองทำให้สีล่อนออก ดูแหว่งๆ แต่ Lime Crime เม้มไปเถอะ เนียนเนี้ยบดังเดิม

> Lime Crime 690 บาท

> Wet n Wild 199 บาท

รูปทั้งหมดถ่ายจากกล้องโทรศัพท์ค่ะ สีและแสงอาจจะมีเพี้ยนไปสักเล็กน้อย

แต่หวังว่าจะมีประโยชน์ต่อการตัดสินใจช็อปของหลายๆ คนนะคะ

คราวหน้าจะมารีวิวเครื่องสำอางจากร้านไดโซะให้รับชมกันนะคะ

Have a good day <3

 

Discussion (7)

สีน้ำตาลเริ่ดมากกกกกกกก