PEPA รีวิว Philosophy Clense,Peel,Treat Trial SET

มาอีกแว้ว สำหรับรีวิวขนาดทดลอง คราวนี้มาถึง Philosophy

แบรนด์ skin care ที่มีราคาแรงพอสมควร

กล่องนี้เราซื้อได้จาก Sephora ชื่อ Philosophy Clense,Peel,Treat Trial SET

ซื้อมาเพราะได้หลายชิ้นดีเหมาะกับการพกพา และทดลองใช้

ราคาต่อกล่อง 850 บาท ได้ของมา5 สิ่ง แพร์ยังทำตามกติกาเดิมคือลองไปทีละตัวนะคะ

เพราะจะได้รู้ว่าแพ้ตัวไหนกันแน่

ของที่มากะกล่องเรียงตามลำดับการใช้ดังนี้

1. purity made simple เป็น cleansing ใช้ได้กับตา หน้า ปาก ขนาด 90 ml ใช้ได้ 2 สัปดาห์

2. the microdelivery peel เป็นสครับขัดผิวหน้า 2 ขั้นตอน แถมเป็นซองมา 2 ซอง ใช้ได้ 1 ครั้ง

3. Time in the bottle เป็นเซรั่มใช้ในขั้นตอนแรกในการบำรุง ขนาด 2 ml ใช้ได้ 4 - 5 วัน

4. The hope in jar เป็น moisturizer เขาเขียนข้างกล่องว่าใช้สำหรับกลางวัน แต่ดูจากสูตรแล้วใช้ได้ทั้งในกลางวัน และกลางคืนค่ะ ขนาด 15 ml ใช้ได้ 2 สัปดาห์

5. The hope in a jar night เป็น moisturizer สำหรับกลางคืนขนาด 15 ml ใช้ได้ 2 สัปดาห์

มาดูกันที่ Purity made simple Cleansing ตัวแรกกันเลยค่ะ

เนื้อผลิตภัณฑ์ : เป็น cleansing milk เนื้อสีครีมไข่ไก่ หอมกลิ่น Essential Oil

วิธีการใช้ : นวดวนลงไปบนหน้า เวลาจะมีความรู้สึกหนึบๆนะคะ แต่พอใช้สำลีเช็ดออกก็เช็ดง่ายค่ะไม่ได้ฝืดมาก แล้วล้างด้วยน้ำสะอาด หรือจะใช้โฟมล้างหน้าก็ได้

สารสกัดหลัก: สารทำความสะอาดจะเกิดจากการนำน้ำมันมะพร้าวมาดัดแปรงโครงสร้าง และน้ำมันจากธรรมชาติหลายชนิดเช่น Rosewood Oil , meadow foam oil

หมายเหตุ : มีพาราเบนเป็นสารกันเสียนะคะ แต่แพร์ไม่ไวต่อสารกันเสียประเภทนี้ใช้ได้ค่ะ

หลังการใช้ :

1. หน้านุ่มดีค่ะ รู้สึกเลยว่าไม่ระคายเคือง

2. เช็ดเครื่องสำอางรอบดวงตาได้จริง แบบไม่แสบตา

3. ประสิทธิภาพทำความสะอาดดีค่ะ

สภาพผิวที่เหมาะสมในการใช้ : คนผิวธรรดา - แห้ง น่าจะชอบค่ะ

ซื้อต่อหรือไม่ : ตัวจริงแพร์ว่าแพงไปสำหรับ cleansing แต่อาจจะซื้อขนาดทดลองไว้พกค่ะ

The microdelivery peel

สิ่งนี้มี 2 ชิ้นใช้คู่กันค่ะให้มาแค่

อย่างละซอง น้อยไปนะ 555

เนื้อผลิตภัณฑ์ : Step 1 จะเป็นสีเหลือส้ม มีเม็ดสครับขนาดประมาณเม็ดน้ำตาล กลิ่นหอมคล้ายส้ม มะนาวอะไรงี้

Step 2 เป็นน้ำใสๆ หนืดเพียงเล็กน้อย เวลาฉีกใช้ระวังหกหมดจบกัน กลิ่นไม่ค่อยมีนะคะ

วิธีการใช้ :

1. ใช้ Step 1 ตัวสีเหลืองไปก่อนค่ะ โดยนวดวนเบาๆ ย้ำว่าเบาๆนะคะเพราะเม็ดสครับเข้าไม่เล็กมาก จะรู้สึกอุ่นๆ บนหน้า เป็นผลจากวิตามินซี และสารประเภทดูดน้ำ นวดแล้วทิ้งไว้สัก 5 นาที

2. ใช้ Step 2 น้ำใส ๆ นวดวนเบาๆ จะรู้สึกว่ามันมีฟองฟู่ๆบนผิว ผลิตภัณฑ์จะกลายเป็นสีน้ำนม

3. ล้างออกด้วยน้ำสะอาดค่ะ

สารสกัดหลัก:

Step 1 เป็นวิตามินซีในรูปที่อ่อนโยน(MAP) น้ำมันดอกทานตะวัน วิตามินอี วิตามินเอ

Step 2 เป็น AHA ได้แก่ Lactic Acid ซึ่งอ่อนโยนดีค่ะ และ BHA (Salicylic)

หมายเหตุ :

1. MAP เป็นวิตามินซีที่อ่อนโยน และสเถียรให้ผลในความกระจ่างใสดี แต่ริ้วรอยไม่เท่าไหร่นะคะ

2. ดูจากสูตรทั้ง 2 Step เน้นการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิว

Step 1 เป็นการสครับแบบกายภาพ ก็คือการใช้การขัด

Step 2 เป็นการสคับแบบเคมี อย่าคิดว่าอันตรายนะคะ เพราะ AHA และ BHA เราใช้กันมานานแระ

ดังนั้นใช้แค่สัปดาห์ละ 1 - 2 ครั้งพอเน้อ

3. ไม่มีสารพาราเบน ฮะ

หลังการใช้ :

1. ไม่ระคายเคืองนะ คือโดยปกติถ้าใช้พวก Peeling 2 กลไกรวมกันทั้ง กายภาพ และเคมี พร้อมๆกันน่าจะมีระคายเคืองบ้างไรบ้าง แต่เรากลับไม่ระคายเคืองเลยและหน้าไม่ลอกเลยค่ะ

2. หน้านุ่ม สครับแล้วยังทิ้งความชุ่มชื่นดีค่ะ

3. ครั้งเดียวทำให้หน้าดูใสขึ้นนิดๆ ในวันรุ่งขึ้น

สภาพผิวที่เหมาะสมในการใช้ : ได้ทุกสภาพผิว

ยกเว้น ถ้าเกิดสิวอักเสบ หรือแพ้เห่ออยู่ งดไปก่อนนะคะ

ซื้อต่อหรือไม่ : ซื้อแบบซองมาใช้ต่ออีก 3 ซอง พบว่าดีจุง ว่าจะตำของจริงถ้าจัดโปรโมชั่นค่ะ

Time in a bottle ตัวนี้ลืมถ่ายรูปขวดแยก แพร์ขออภัยนะคะ

เนื้อผลิตภัณฑ์ : เซรั่มสีส้ม บางเบา ซึมเร็วมาก ไม่ให้ความชุ่มชื่นเท่าไหร่

วิธีการใช้ :ถ้าเป็นของจริงเขาจะมีขวด Active สีส้มเข้มมาให้ ต้องเอาไปผสมกับเซรั่มในขวดแล้วเขย่ากันใช้

แต่ขวด sample ผสมมาให้แล้วค่ะ ต้องรีบใช้นะคะ เพราะเปิดแล้วอยู่ได้แค่ 3 เดือน

สารสกัดหลัก: วิตามินซี , Adenosine ช่วยให้ผิวรู้สึกตึงๆ เวลาใช้ , สารสกัดจากกาแฟ และอื่นๆอีกมากมายยาวมาก และมี Plankton ยอดฮิตใส่ไปอีกในลำดับท้ายๆแระ

หมายเหตุ :

มีน้ำหอมค่ะ แต่เราไม่แพ้น้ำหอมเท่าไหร่จัดไป

หลังการใช้ :

1. คือรู้สึกดีค่ะเพราะมันซึมปรืดๆ

2. หน้ารู้สึกตึงๆขึ้นนะคะ แต่เนื่องจากปริมาณ 3 ml ใช้ได้แค่ 4 - 5 วันก็หมด ยังไม่เห็นเรื่องริ้วรอยร่องลึกนะคะ

3. ความกระจ่างใส ยังไม่ทันจะรู้เรื่องค่ะหมดก่อน

สภาพผิวที่เหมาะสมในการใช้ : ได้ทุกสภาพผิวที่มีกำลังทรัพย์ คือถ้าเริ่มรู้สึกมีริ้วรอย อยากได้หน้าที่เด้งขึ้นไรงี้ แต่ถ้าริ้วรอยร่องลึกยังไม่ทราบผลเน้อ

ซื้อต่อหรือไม่ : ไม่ค่ะ ตัวจริงแพงมากว๊ากค่ะ แถมต้องรีบใช้ค่ะ ทีเขาให้ผสมกันแล้วรีบใช้ เพราะสารสกัดบางตัวอาจไม่สเถียร ในปัจจุบันมีเวชสำอางที่มีสารสกัดดี และถูกฝ่านี้อ่ะ

Hope in a jar

เนื้อผลิตภัณฑ์ : ครีมบางเบา สีเหลืองอ่อน มีกลิ่นหอมลาเวนเดอร์ ออย์

วิธีการใช้ : ใช้หลังการใช้เซรั่ม แบรนด์แนะนำให้ใช้เป็น day cream แต่เราใช้ทั้งครีม และ night ค่ะ

สารสกัดหลัก: มีวิตามิน อี ,วิตามิน เอ , บี 5 , เบต้ากลูแคน ทั้งหมดไม่บอกความเข้มข้น และ ลาเวนเดอร์ ออย์ ที่ให้กลิ่นหอม และลดการระคายเคืองได้ด้วย

หมายเหตุ : ใช้ลาเวนเดอร์ให้กลิ่นหอมตามธรรมชาติ แต่ยังใช้พาราเบนเป็นสารกันเสีย

หลังการใช้ :

1. เวลาทาจะรู้สึกลื่นผิวมาก เพราะใช้ตัวที่ทำให้ผิวรู้สึกลื่นผิวค่ะ ชอบนะคะ มันนุ่มลื่นดี

2. ชุ่มชื่นในระดับพอดีกะเมืองไทยค่ะ ใช้ได้ทั้งเช้า เย็น

3. เรารู้สึกว่ามันเป็น moisturizing ที่ดีนะคะ ไม่ระคายเคือง

สภาพผิวที่เหมาะสมในการใช้ : ทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวที่ต้องการความชุ่มชื่น แต่ไม่มัน แนะนำนะคะ

ซื้อต่อหรือไม่ : ตอนนี้ยังไม่นะ เพราะไม่มีสารสกัดที่ให้ผลเรื่องความกระจ่างใส และริ้วรอยเท่าที่ควร หน้าตอนนี้ต้องการซ่อมด่วน

Hope in a jar night

เนื้อผลิตภัณฑ์ : ครีมค่อนข้างหนัก สีเหลืองอ่อน มีกลิ่นหอมอ่อนๆ

วิธีการใช้ : ใช้หลังการใช้เซรั่ม แบรนด์แนะนำให้ใช้เป็น Night Cream เลยออกเนื้อหนักๆหน่อยค่ะ

สารสกัดหลัก: มีสารสกัดคล้ายของ Hop in jar ค่ะ แต่เพิ่ม Squalane ที่เป็น emollient ที่ให้ความชุ่มชิ่นมาก , allatoin ลดอาการระคายเคือง , adenosine ทำให้ผิวตึงกระชับ

หมายเหตุ : ใช้ลาเวนเดอร์ให้กลิ่นหอมตามธรรมชาติ แต่ยังใช้พาราเบนเป็นสารกันเสีย

หลังการใช้ :

1. เวลาทาจะรู้สึกชุ่มชื่นมาก ออกแนวมันนิดๆ

2. ผลเรื่องริ้วรอยเหมือนจะดีขึ้นะคะ ได้เพียง 15 วัน ริ้วรอยล่องลึกยังไม่เห็นผลชัด

3. เรื่องความกระจ่างใสเฉยๆค่ะ

สภาพผิวที่เหมาะสมในการใช้ : ผิวแห้ง มีริ้วรอยค่ะ

ซื้อต่อหรือไม่ : คือทาซื้อมาทาหน้าคงไม่ค่ะ เพราะมันออกแนวเหนอะหนะไปหน่อย แต่เกิดความคิดว่าจะซื้อมาใช้รอบดวงตาค่ะเนื้อครีมแน่นๆดี และก็ตอนนี้ริ้วรอยเริ่มมาเยอะด้วย เพราะถึงมีส่วนผสมของน่้ำหอม แต่ไม่ได้มากมายจนเกิดระคายเคือง กระปุกหนึงคงใช้ได้นานเบย อิๆ

สำหรับผลิตภัณฑ์ Philosophy เราว่าข้อดีของเขาคือ ไม่ระคายเคือง อ่อนโยนทีเดียว เนื้อผลิตภัณฑ์ให้ความรู้สึกในการใช้ที่ดีมากกก

แต่ว่าสารสกัด หรือเทคโนโลยีที่ใช้เราว่ายังไม่ได้สมเหตุสมผลกับราคาเท่าที่ควรนะคะ

มันเหมาะสำหรับผู้มีผิวบอบบาง แพ้ง่ายที่มีกำลังทรัพย์มาก 5555

ผลิตภัณฑ์ที่เราประทับใจเรียงจากมากไปหาน้อยคือ

the microdelivery peel (เป็นตัวเดียวที่จะกัดฟันซื้อ size จริงค่ะ) > Purity made simple (อาจซื้อขนาดพกพาต่อไปมันใช้ง่ายดีค่ะ ขั้นตอนเดียวจบ) > Hope in the jar , Night > Time in a bottle

ใครสนใจ แนะนำไปลองซื้อกล่องเล็กๆแบบเรามาลองก่อนเน้อ ^^