ลดน้ำหนักแบบชิลๆ 13 กิโล ไม่พึ่งยา ไม่ไปฟิตเนส สไตล์ AEมาเอง

130 84

สวัสดีค่ะ เออีมาเอง มาอีกแล้วค่ะ 55555

แต่วันนี้ไม่ได้พูดเรื่องเมคอัพ

แต่จะมาพูดถึงเรื่องความผอม เนื่องจากช่วงนี้เห็นหลายคนพยายามไดเอทกันอย่างหนัก

และหลายคนที่ติดตามเออีจะรู้ว่า เออีนั้นอวบมาก่อน 55555

แล้วทำยังไงถึงลด

วันนี้เออีเลยอยากจะมาแชร์วิธีการลดน้ำหนักสไตล์เออีให้ทุกคนได้รู้กันค่ะ

มาเริ่มกันเลย

เออีเป็นคนนึงที่อวบอ้วนมาตั้งแต่เด็กค่ะ ได้มาทุกฉายา อีอ้วน ตุ่ม โอ่ง ตุ้ย ถังแก๊ส เคยกินยาลดความอ้วน แต่พอหยุดปุ๊ป โยโย่ทันที

เรามาดูประวัติความอวบแบบคร่าวๆของเออีกัน

ก่อนลดน้ำหนัก (ปี 57) 59 kg (อวบเลย อวบมาก เพราะเรียนจบ ทำงาน แล้วก็เลิกกินยาลดความอ้วนแล้ว โยโย่มาก ก่อนเลิก คือน้ำหนัก 52 นะคะ ขึ้นมา 7 กิโล)

เมื่อน้ำหนักอยู่ที่ 59 kg จอยก็พยายามลดนะคะ โดยออกกำลังกาย แต่ออกไปได้ 1 เดือน มันไม่เห็นผลอะไรเลย เลยชั่งมันเถอะ อยู่อย่างอวบๆ ก็ได้

จนมาถึงจุดเริ่มต้นการลดน้ำหนักหนักมาก ลดอย่างจริงจัง คือ ประมาณปลายๆเดือนมกราคม 2558 ก็คือเมื่อต้นปีนี้นี่เอง จริงจังมาก ชั่งน้ำหนักก่อนเลยว่าเท่าไหร่ ซึ่งตอนนั้นน้ำหนัก 58 kg

บอกก่อนว่า เออีใช้เวลา 6 เดือนในการลดน้ำหนัก ลดลงไป 13 kg อาจจะไม่เยอะมาก แต่ไม่เคยทำได้

3 เดือนแรก ค่อยๆลด โดยไม่ค่อยกินของทอด ของมัน (แต่ก็มีกินบ้างนะคะ เวลาอยาก) งดแป้ง อย่างเช่นเวลากินข้าว เออีจะไม่เน้นข้าว เน้นกับมากกว่า (ลดข้าวไป 1 ส่วน 4 จากที่เคยกินเลย) ปั่นจักรยานอากาศทุกวัน วันละ 5 นาที 2 เซ็ต และฉีกขากลางอากาศอีก 20 ครั้ง 2 เซ็ต ทำตอนก่อนนอน บอกเลยว่า ในเดือนแรกไม่เห็นผลอะไรเลย ทั้งๆที่ทำทุกวัน แต่อยากทำต่อ เพราะรู้สึกว่าทำไปก็ไม่เสียหายอะไรหนิ จนผ่านไป 3 เดือน น้ำหนักลดเหลือ 53 kg ลดไป 5 กิโลแล้ว มันทำให้รู้สึกภูมิใจมากค่ะ เพราะ 1.เราไม่พึ่งยา 2.เราทำได้

3 เดือนต่อมา พอมันลด เราก็ยิ่งอยากจะจริงจัง จึงเริ่มวิ่งค่ะ วิ่งทุกเย็น วันละประมาณ 5 กิโลเมตร วิ่งที่สวนสาธารณะแถวบ้าน โดยตอนที่เริ่ม ไม่ได้วิ่งได้เลย 5 กิโลเมตร เออีเริ่มจากการเดินก่อน ประมาณ 2 อาทิตย์ ก็เริ่มเดินเร็ว วิ่งบ้างระยะสั้นๆ เอาที่พอไหวค่ะ วิ่งทุกวัน ผ่านไป 1 เดือน ก็เริ่มวิ่งยาวๆได้และ แต่!!!! การวิ่งในระยะยาว มันทำให้เออีต้องงดอาหารหลังบ่าย 2 เพราะไม่งั้นมันจะจุก เมื่อวิ่งเสร็จถึงค่อยกินโยเกิร์ตหรือสลัดค่ะ ในช่วงนี้ เออีมีการคุมเรื่องอาหารด้วย คุมนะคะ ไม่ใช่อด เพราะเคยอดแล้วมันไม่เวิร์ค คุมอาหารในที่นี้คือการคุมปริมาณแคลอรี่ แต่ต้องกินให้ครบ 5 หมู่นะยูวววว โดยเออีจะกินไม่ให้เกิน 1,500 กิโลแคลอรี่ ใน 1 วัน (เพราะเป็นปริมาณที่ร่างกายเราต้องการ) ใช้วิธีการนับ การกะเอา ว่าเรากินไปเท่าไหนแล้ว อย่าเพิ่งเครียดนะคะ ว่า อ้าวแล้วชั้นจะรู้ได้ไงว่า อาหารอะไรมันกี่แคล มันไม่มีเขียนไว้ข้างจานหนิ!!!! ต่อแรกเออีก็ไม่รู้ค่ะ เราจะรู้ปริมาณแคลอรี่ ก็ต่อเมื่อมันมีเขียนบอกไว้ที่ฉลาก เช่น พวกขนมถุง อาหารที่มีแพคเกจจิ้ง แต่ถ้ากินข้าวแกง มันไม่มีบอกใช้มั๊ย ถามแม่ค้า แม่ค้าได้ร่อนจานแน่ๆ เออีใช้วิธีการโหลดแอพค่ะ ไม่ก็เสิร์ชดูใน google พอเราทำไปซักพัก เราจะกะได้เองว่า อาหารจานนี้ จะประมาณกี่แคล และถ้าถามว่ามีเวลาไปวิ่งทุกวันหรอ บอกเลยว่าไม่ค่ะ 555 แต่ถ้าไม่วิ่ง เออีจะ cardio เอาที่บ้าน คือยังไงก็ขอให้ได้เหงื่อ ไม่งั้นนอนไม่หลับ โดยง่ายๆเลย เสิร์ชในยูทูปว่า cardio work out แล้วเลือกมาซักอันอ่ะ อันไหนก็ได้ แล้วเริ่มเลย ผอมแน่นอน เออีคอนเฟิร์ม

แต่ทุกสิ่งทุกอย่างที่พูดมา จะไม่ได้ผลเลย ถ้าไม่มีใจ ไม่มีวินัย แรกๆมันคงต้องฝืน แต่เมื่อเวลาผ่านไป เราจะทำจนชิน ทำจนเป็นนิสัยเอง ยังไงมันก็ได้ผล ขอแค่อยากผอม ทุกคนทำได้แน่นอน เออีเองก็ไม่เคยคิดว่าจะผอมได้ แต่เออีอยากผอม

ก่อนจะไปเออีมีตารางสรุปแถมด้วยนะคะ บอกแบบไม่มีกั๊กเลย ว่าปัจจุบันกิจวัตรประจำวันของเออีเป็นยังไง ต้องบอกว่ามันเป็นกิจวัตรประจำวัน เพราะเออีทำจนเป็นนิสัยแล้วววว >3<

และคลิป Cardio ที่เออีทำเวลาไม่มีเวลาไปวิ่ง


AEมาเอง

AEมาเอง

https://www.facebook.com/rachawan.ruamsuk

Fanpage : AE มาเอง
https://www.facebook.com/AEtalkwithyou

FULL PROFILE