Review : เครื่องสำอางแบรนด์คนไทยถูกและดีในรอบปีและที่ผ่านมา

สวัสดีค้ะสาวๆวันนี้เรามาดูกันดีกว่าว่า ของดี ไทยทำ ไทยใช้แล้วไทยคนนี้ชอบมีอะไรบ้าง ซึ่งในรอบปี-2 ปีที่ผ่านมาจะเห็นได้เลยมีแบรนด์ไทยผลิตเครื่องสำอางออกมาให้ลองให้เล่นเยอะมากและคุณภาพก็ไม่น้อยหน้าพวกเครื่องสำอางต่างประเทศ หรือเคาเตอร์แบรนด์เลย ปรบมือรัวๆ++

ซึ่งจริงๆแล้ว ก็มีหลายไอเท็มที่เป็นแบรนด์คนไทยทำ แล้วได้ลองใช้ แต่ที่หยิบมาพูดวันนี้จะเป็นตัวที่เห้ย !!! ชั้นชอบจริง มันดีจริง ใช้อยู่สม่ำเสมอ ถ้าหมดแล้วซื้อใหม่อีกแน่นอนนนน ชักช้าอยู่ใยมาดูกันเล้ย ว่ามีอะไรกันบ้าง

ปล. ไอเท็มที่มารีวิวในกระทู้นี้ เป็นการรีวิวส่วนตัวที่แอนใช้แล้วถูกใจไม่แพ้ ไม่พัง แต่ปัง!! ซึ่งบางตัวอาจจะไม่โดนใจสาวๆกัน ดังนั้นโปรดใช้วิจารณญานในการรับชมด้วยนะแจ๊ะ จุ๊บๆ

1. Elisees Natural Essence Liquid ( ราคาปรมาณ 7xx ฿ )

ตัวนี้ปิ๊งกันตอนเป็นสิวแล้วคุณหมอแนะนำมา เป็นรองพื้นที่คุมมัน ปกปิดได้ระดับค่อนข้างดี ทาแล้วไม่หนักหน้าไม่หนาสีไม่ดรอประหว่างวัน คุณสมบัติแค่นี้คิดว่าก็เอาอยูแล้วสำหรับหนังหน้าเรา แต่กลิ่นแอบแรงอารมณ์ประมาณแป้งน้ำโบราณ555 และราคาก็แอบสูสีกับดรักสโตร์บางยี่ห้อ

2. แป้งศรีจันทร์( Srichand Translucent Powder ) 10 กรัม (7-11 ราคา 139-149 ฿)

มองเผินๆนึกว่า Anna sui 5555 คือแพจเกจดูหรูหรามีเอกลักษณ์ พกพาง่าย คุณภาพเนื้อแป้งละเอียดและคุมมันได้ดี (ดีพอๆกับ LM เผลอๆอาจจะดีกว่าซะอีกเพราะใช้แล้วส่วนตัวรู้สึกว่าศรีจันทร์เบาหน้ากว่า ) ช่วยเซ็ทเมคอัพและทุกสิ่งอย่างบนใบหน้าได้อย่างสวยงาม หมดใจฉันให้เธอ5555

3. คอนซิลเลอร์ยูทิป (UTIP อุทัยทิพย์) ซื้อตามท็อปส์หรือโลตัสโซนเครื่องสำอางค์(149฿)

สำหรับตัวนี้ปกปิดสิวหรือร่องรอยอารยธรรมไม่ค่อยสนิท แต่งานใต้ตาทำงานนางได้ดีถึงดีมาก คือใต้ตาชุ่มชื้น เนียนดี ไม่เป็นคราบ (ซึ่งแอนเป็นคนมีปัญหาบางครั้งใต้ตาแห้ง ตกบ่ายคอนซีลเลอร์บางยี่ห้อนางก็ทำการแตกตัวเองเป็นเส้นๆเหี่ยวๆเหมือนตีนกาโผล่มาใต้ตา นึกภาพออกใช่มั้ย555) ข้อเสีย คือเบอร์ขาวสุดนี่ยังแอบเหลืองๆไปนะ ใครผิวขาวอมชมพูใช้อาจจะไม่เวิร์ค

4. Nice Shop ที่เขียนคิ้วแบบฝุ่น (ราคาตลับนึง ไม่เกิน79฿ )

ตัวนี้ได้ทำความรู้จักกันเพราะการติดตามพี่หญิงแย้ ซึ่งโผล่อยู่ในคลิปแรกๆของพี่เค้า ก็เลยไปหามาใช้บ้าง ปรากฏว่านางใช้ดีจริงและก็ใช้มายันปัจจุบันนี้ เพราะนางไม่ยอมหมดซักที5555 ซึ่งเทียบกับเขียนคิ้วแบบฝุ่นยี่ห้อตลาดๆอันไม่ถึงร้อยแบรนด์อื่นๆที่ทำออกมา แต่เฉดสีสู้ Nice Shopไม่ได้พูดเลย!! สีนางดูเป็นสีคิ้ว เขียนแล้วไม่กระโหลกกะลาไม่ดูฮานะจ้ะ สมัยเรียนเพื่อนคนไหนเพิ่งหัดเขียนคิ้วไปเรียนแอนก็แนะนำเจ้านี่ไป ทุกคนกลับมาบอกทั้งน้ำตา เห้ยยย แกร!! มันดีมากจริงๆ ปรบมือ+

5. Mei Linda Smart Auto Brow Liner Water Proof ( ราคา89 - 100 ฿)

ที่เขียนคิ้วแบบหมุนออโต้ที่รีวิวเยอะมากกกก หลังจากที่ดินสอเขียนคิ้วEtude กลายเป็นไอเท็มสุดเลิฟของสาวๆแต่ด้วยราคาหรือต้องพรีออเดอร์บ้าง ของขาดบ้าง เมลินดาตัวนี้ก็บังเกิดขึ้น ซึ่งคุณภาพความดีงามพอๆกันเลย ต่างก็ตรงหัว เมลินดาจะหัวเล็กๆ ไม่ตัดเฉียงเหมือนอีทูดี้ แต่เขียนง่ายติดทน ไม่เป็นปื่นๆ สุดยอดด

6. Mistine Maxi Black Eyeliner ( 129 -149 ฿ )

เป็นไอเท็มโปรดของสาวๆหลายคนแน่นอน บางคนถึงกับเขวี้ยงของแพงๆแท่งละสี่ร้อยกว่าทิ้ง สีเข้มชัด ติดทน ใช้งานง่าย แต่หัวแอบใหญ่ไปหน่อยสำหรับคนตาเล็กที่ต้องการแคทอายเฉี่ยวๆอย่างข้า5555 แล้วหัวพูกันก็ชอบแตก ใครเป็นบ้าง?? แต่ปัญหาแค่นี้ไม่ทำให้ชั้นตัดใจจากเธอได้หรอก

7. Mei Linda Quick EyeLiner Super Water Proof (ราคา 80 -120 ฿)

ไอเท็มเด็ดในตำนานยันปัจจุบัน ช่วงแต่งหน้าดังๆก็ชื่นชอบ ตัวนี้ตอนแรกที่ได้ใช้มันแพนด้าอ่ะ ก็เลยเก็บนางเข้าที่มืด สวนกระแสรีวิวคนอื่นๆในตอนนั้นมาก ก็เลยลองทำความรู้จักกับนางอีกสักครั้ง หลังจากนั้นก็ใช้มาสม่ำเสมอ หมดไปหลายแท่งแล้ว เนื้อนิ่ม เขียนง่าย ติดทน ดำสนิท ไม่แพนด้า แต่ๆๆๆๆด้วยความที่เนื้อดินสอมันนิ่ม ถ้าคอนโทรลตอนเขียนไม่ดี อาจเลยขอบตาเลอะเทอะได้นะจ้ะ

8 . Cosluxe Trust Long-Lasting Auto Pencil Eyeliner #HaZel Brown (สีน้ำตาลฮาเซลนัทมีวิ้งๆ )

Cosluxe Auto Pencil Eyeliner # Dark Chocolate (น้ำตาลเข้ม )

Cosluxe wanderlust Eyeliner #Dark brown (ราคาแต่ละแท่งประมาณ 215 ฿ มั้ยไม่แน่ใจ ) ขอเรียกตระกูลคอสลุคนี้ว่า 3 ทหารเสือแห่งสีน้ำตาลโทนน้ำตาลสำหรับการแต่งตาที่เน้นธรรมชาติ ซึ่งการหาไลเนอร์โทนสีน้ำตาลที่ทำออกมาดีๆ ติดทน ไม่แพนด้า บอกเลยหายาก แต่โทนสีำ ดินสอวิ้งๆใต้ตาของเค้าก็โอเคเลยนะ แต่เลิฟสุดก็เซ็ทนี้แหละ Must Have!!

9. Mascara Mistine รุ่นอั้ม กับ รุ่นปู ไปรยา ( ราคา 89 - 139 ฿ ) รุ่นอั้มสีชมพูแพงกว่า

มาสคาร่ามิสทีนคือไอเท็มถูกและดี คุณค่าที่สาวไทยคู่ควร แต่มิสทีนผลิตหลายรุ่นออกมาให้ลอง และจากการลองมาหลายตัว ถูกใจสุดก็ 2 รุ่นนี้เพราะทั้ง 2 รุ่นนี้ฟังก์ชั่นคล้ายกันมาก คือหัวแปรงมีแบบปัดขนตาบน และขนตาล่างหน้าตาคล้ายกัน แต่รุ่นพี่อั้มแปรงจะใหญ่กว่าแ่น่นกว่า แล้วก็เลอะกว่าเวลาปัด5555 แพคเกจจิ้งทั้งคู่ก็สวยงามดูแพง มีดีไซน์

10. ODBO Color Make UP ( ราคา 300-400 ฿ )

เพิ่งสอยมาไม่นาน เพราะเห็นความหมือน Too faced chocolate bar ซึ่ง ODBO เหมือนร่างทรง55555 แต่พอเอามาใช้ เห้ย!! มันใช้ได้นะ สีในพาเลตสวยๆหลายสีเลย ถ้าลงไพรเมอร์สีก็จะชัดสวยเหมือนของแพงๆเลย สีน้ำตาลในพาเลตเอามาเขียนคิ้วก็ได้อยู่ แต่สีไฮไลท์กากเพรชเม็ดใหญ่ไป ตลับใหญ่ แข็งแรง มีกระจกติดในตลับมาด้วย

11. สีผึ้งแม่เลียบ + ลิปมันเภสัช ( ราคา 35฿ , 15 ฿)

แม่เลียบ ตลับนี้ซื้อมาใช้เท่าไหร่ก้ไม่ยอมหมดซักที ชุ่มชื้นจริงไรจริง

แต่หนาและกลิ่นน้ำอบไทยแรงมากกกก เลยต้องเอาเภสัชมาเบรคความหนืด ความเหม็นไว้ค่อยยังชั่วหน่อย ทาก่อนนอนในวันที่ปากแตกหนัก หรือแพ้ลิปแพ้นาสีฟันจนปากเป็นขุยมา

ส่วนลิปมันเภสัช ใช้มานานมากกก ตั้งแต่มัธยมใสๆ ยันวัยทำงานที่ถึงต่อให้มียี่ห้ออื่นที่ชอบ แต่ต้องมีเภสัชติดโต๊ะเครื่องแป้งให้อุ่นใจอยู่เสมอๆ เป็นกันมั้ยสาวๆ555(ว่าแล้วก็เอื้อมมือไปหยิบมาทา )

12. Babalah Matte Me Lip ( 290 ฿ แล้วแต่ร้าน) เป็นลิปแบบจิ้มจุ่ม ที่ทาไปแล้วจะค่อยแมทต์ แต่ตัวนี้ไม่แมทต์มากเท่าไหร่ ทาแล้วคือยังชุ่มชื้น ถ้าอยากแมทต์มากๆต้องซับทิชชู่ออก แต่ชอบตรงที่มันไม่แห้ง ทาแล้วเนื้อลื่นผสมกับลิปครีมยี่ห้ออื่นได้ เอามาทำเป็นครีมบลัชก็ได้ ในราคาไม่เกิน 300 ถือว่าคุ้มมากๆ เลิฟๆ

หมดแล้วววว แทบจะครบทั้งรองพื้น คิ้ว ตา ปาก แต่งานบรอนเซอร์ ไฮไลท์ ปัดแก้ม ยังไม่มีที่ถูกใจ แต่ก็มีหลายแบรนด์ที่แอนกำลังจะไปเสาะหามาลอง ซึ่งไอเท็มที่รีวิวไป คนไทยผลิตและคิดค้นสูตรมาแอนมองว่าก็เพื่อตอบสนองการใช้งานจริง และแก้ไขปัญหาเมคอัพของสาวไทยในรุ่นก่อนๆ จนออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ดีๆ ราคาซอฟๆ มาให้ได้ใช้กัน แบบนี้สนับสนุนเลย !! สำหรับรีวิวนี้ไปก่อนนะคะ

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านจนจบมาเห็นรูปเค้า 5555555