ปัญหาชีวิตที่รุมเร้า 'Liam Payne' ก่อนจากโลกนี้ไป

13 4

ข่าวการเสียชีวิตช็อคโลกของ Liam Payne อดีตสมาชิก One Direction ได้สร้างความสะเทือนใจให้กับแฟนๆจำนวนมากมาย   ข้อความไว้อาลัยและร่วมรำลึกถึงศิลปินหนุ่มที่จากโลกนี้ไปด้วยวัยเพียง 31 ปีได้กลายเป็น trending ในโลกออนไลน์แทบทันที  ในขณะที่เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้สรุปสาเหตุของความสูญเสียครั้งนี้ว่าเกิดจากอุบัติเหตุหรือความตั้งใจ แต่หลายฝ่ายก็จับตามองไปยังประเด็นปัญหาชีวิตและความเจ็บป่วยทางจิตใจที่รุมเร้าเขามาเนิ่นนาน

แม้ว่า Liam จะได้แชร์ภาพคู่แฟนสาว Kate Cassidy ระหว่างพักผ่อนในโรงแรมด้วยท่าทางสดใส แต่ TMZ รายงานข้อมูลจากคนในว่า Liam แสดงพฤติกรรมก้าวร้าวผิดปกติ เขาทุบแล็ปท็อปของตัวเองที่บริเวณล็อบบี้และถูกพากลับไปที่ห้อง และยังมีการเปิดเผยข้อความการแจ้งขอความช่วยเหลือจากพนักงานโรงแรมไปยังตำรวจให้เข้ามาระงับเหตุการณ์ เมื่อแขกชายรายหนึ่งก่อความไม่สงบทำลายข้าวของในห้อง ซึ่งน่าจะเกิดจากความมึนเมา



 ไม่นานจากนั้นก็เกิดเหตุสุดสลดที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน ...

ตัวแทนหน่วยงานบริการการแพทย์ฉุกเฉินได้แถลงการณ์ว่า Liam ตกลงลงมาจากความสูงราวๆ 13-14 เมตร ส่งผลให้เกิดอาการบาดเจ็บที่ร้ายแรงเกินกว่าจะกู้ชีพได้ รถฉุกเฉินได้เดินทางไปถึงจุดเกิดเหตุในเวลา 7 นาที แต่ก็เขาได้เสียชีวิตไปแล้ว



ก่อนหน้านี้เพียงสองสัปดาห์ Liam เพิ่งได้พบหน้ากับ Niall Horan ที่ Buenos Aires หลังจากที่ไม่ได้พูดคุยกันมาพักใหญ่ และยังบอกเล่าชัดเจนว่า เหตุผลหนึ่งที่เขาเลือกเดินทางไปที่ประเทศ Argentina ก็เพื่อเข้าร่วมชมคอนเสิร์ตของเพื่อนนั่นเอง แฟนๆก็ดูตื่นเต้นไม่น้อยที่ได้เห็นสองหนุ่มรวมตัวกันอีกครั้ง แต่พวกเราจะไม่ได้เห็นภาพเช่นนี้อีกแล้ว


การต่อสู้กับปัญหา mental health

นับตั้งแต่สมาชิก One Direction แยกวงเพื่อก้าวสู่เส้นทางศิลปินเดี่ยว Liam ได้ใช้ social media เป็นสื่อกลางเชื่อมโยงถึงแฟนๆอย่างสม่ำเสมอ  ตลอดหลายปีที่ผ่านมา พ็อพสตาร์หนุ่มได้แชร์เรื่องราวที่หนักหน่วงในชีวิตที่เกิดจากความเจ็บป่วยทางจิตใจ เขายอมรับตรงไปตรงมาว่า วงเคยต้องยกเลิกคอนเสิร์ตที่ Ireland ในปี 2015 เพราะเขาต้องเผชิญกับอาการป่วยทางใจที่หนักหนาสาหัสจนขึ้นเวทีแสดงดนตรีไม่ไหว แต่เพื่อความสำเร็จของอาชีพศิลปิน เขาก็ต้องกล้ำกลืนความทุกข์ไว้ภายใน ทั้งๆที่เขามีสภาพดิ่งหนักจนไม่สมควรจะออกทัวร์ถี่ขนาดนั้น

Liam เปิดใจว่า ต้องรับมือกับอาการ agoraphobia หรือ ความหวาดกลัวเมื่ออยู่ในสถานที่หรือสถานการณ์ที่ตนคิดว่าจะไม่สามารถขอความช่วยเหลือจากใครได้หากเกิดเหตุร้าย เขาไม่สามารถก้าวออกจากบ้าน แม้แต่ไปร้านค้าหรือร้านกาแฟก็เกิดวิตกกังวลจนเหงื่อท่วมตัว ยิ่งโด่งดังเท่าไร จิตใจก็ยิ่งบอบช้ำ ทั้งความเปลี่ยวเหงาและแรงกดดันจากชื่อเสียง จนหันมาใช้ของมึนเมาช่วยบรรเทาความทุกข์ใจเพื่อให้ก้าวผ่านไปแต่ละวันได้

"ผมวิตกกังวลว่า ตัวเองจะตกต่ำย่ำแย่ไปที่สุดที่จุดไหน และคุณจะมองไม่ออกเลย ผมอำพรางมันไว้ได้แนบเนียน ไม่มีใครสังเกตเห็น"
"มีเรื่องราวบางอย่างที่ผมไม่อาจพูดถึง มันเป็นเรื่องรุนแรงมาก มันกลายเป็นปัญหาใหญ่ ซึ่งกว่าผมจะคิดได้ก็ตอนที่เห็นว่าตัวเองดูแย่มาก จึงตัดสินใจว่า ผมต้องหาทางแก้"
"ตอนนั้นผมบวมมาก ผมเรียกมันว่าหน้าฉุเหล้ายา หน้าผมบวมออกมากกว่าเดิมสิบเท่า ผมไม่ได้ชอบที่ตัวเองดูเป็นแบบนั้นจึงลุกมาเปลี่ยนแปลงตัวเอง"

"มันจะมีช่วงที่รู้สึกโดดเดี่ยวเดียวดายและการกระทำของคนอื่นก็ส่งผลกับผม เจอบ่อยครั้งเข้าก็ทำให้คิดว่า เมื่อไรมันจะจบสิ้นสักที เรื่องแบบนี้เกือบจะพรากชีวิตผมไปสองสามครั้งแล้ว"



นอกจากจะต้องรับมือกับปัญหาความเจ็บป่วยทางจิตใจ สุขภาพร่างกายของ Liam ก็ไม่สมบูรณ์นัก นับตั้งแต่ลืมตาดูโลกซึ่งเป็นการคลอดก่อนกำหนด 3 สัปดาห์ เขาก็เจ็บป่วยบ่อยโดยไม่ทราบสาเหตุมาถึงสี่ปี ต้องเข้าออกโรงพยาบาลตรวจซ้ำแล้วซ้ำอีก จนในที่สุดก็ค้นพบว่า ไตข้างหนึ่งของเขาทำงานผิดปกติ เขาจึงจำเป็นต้องใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังเพื่อรักษาสุขภาพให้ดีอยู่เสมอ แม้แต่การดื่มน้ำก็ต้องคุมปริมาณไม่ให้มากเกินไป แต่แรงกดดันที่มาพร้อมกับความสำเร็จของ One Direction ได้ชักนำเขาให้ไปพึ่งพาเหล้ายา เมื่อดิ่งหนักจนก็เคยวูบคิดจบชีวิตตัวเองเพื่อหลุดพ้นจากความทุกข์ แม้เขาจะยืนยันว่า พยายามจัดระเบียบชีวิตด้วยการตัดขาดจากสิ่งมึนเมา แต่แฟนบางคนคลางแคลงใจว่า Liam อาจจะกลับไปติดสุราอีก หลังจากที่เขาต้องประกาศยกเลิกทัวร์คอนเสิร์ตในอเมริกาใต้เมื่อปีที่แล้วเนื่องจากเจ็บป่วยจากอาการไตติดเชื้อ


บรรดาคนใกล้ตัวของ Liam ต่างยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือให้เขาฟันฝ่าปัญหา mental health ไปให้ได้ ทั้งพ่อแม่ที่ให้กำลังใจอย่างเต็มที่ หรือจะเป็น Harry ที่โทรเข้ามาถามไถ่ด้วยความห่วงใยยามที่เขาต้องการใครสักคน เขายกเครดิตให้ Cheryl Cole แม่ของลูกที่สนับสนุนให้เขาตั้งหลักใหม่ แม้ว่าจะเลิกรากันไปหลายปีแล้ว เมื่อนึกถึงลูกชายเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางใจ เขาจึงตัดสินใจเข้ารับการบำบัด 100 วันเพื่อเลิกสุราและสารเสพติด


การแสดงความเห็นที่ก่อให้เกิดกระแสโจมตีในโลกออนไลน์


ชาวเน็ทเคยมองว่า Liam คือสมาชิก One Direction ผู้มาพร้อมกับดราม่า โดยเฉพาะเมื่อเขาได้แสดงความเห็นพาดพิงอดีตเพื่อนร่วมวง ทั้งความขัดแย้งกับ Zayn และปัญหากับเพื่อนคนอื่นๆ ที่เคยกระทบกระทั่งจนเกือบทำร้ายร่างกายกัน สร้างความไม่พอใจในกลุ่มแฟนๆยังยึดมั่นกับมิตรภาพที่สวยงามของหนุ่มๆ Liam จึงต้องเผชิญกับข้อกล่าวหาเรื่องสร้างกระแสด้วยการขายเรื่องฉาวของวง ยิ่งเมื่อเขาได้เปรียบตัวเลขยอดขายผลงานเดบิวท์ว่า ยอด streaming ระดับพันล้านของเขาแซงหน้าสมาชิกในวงทุกคน กระแสวิพากษ์วิจารณ์ Liam ก็ยิ่งรุนแรงขึ้นจนเขาต้องเก็บตัวเงียบเพื่อเลี่ยงการจ้องโจมตีจากชาวเน็ท

หลังจากที่ตกผลึกความคิดได้ Liam ก็ได้ยอมรับว่า เขาเอาความอัดอั้นตันใจที่เกิดขึ้นจากบางสิ่งบางอย่างไประบายใส่คนอื่น และผลกระทบที่เกิดขึ้นจากคำพูดในครั้งนั้นก็ทำให้เขาลุกมาเปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นคนใหม่ เขายืนยันว่า ในช่วงเวลาอันมืดมิด เพื่อนๆในวงได้อยู่เคียงข้างเขาเสมอ แม้แต่ Zayn ที่เคยไม่ลงรอยกันก็ยังให้กำลังใจ เขาจึงต้องออกมาขอโทษอย่างจริงจัง



แต่ถึงจะยอมรับในในความผิดพลาดในการแสดงความเห็น แต่ Liam ก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการตกเป็นเป้าโจมตีไปได้ เมื่อไม่นานมานี้ที่เขาควงแฟนสาวเข้าร่วมชมคอนเสิร์ตของ Niall ชาวเน็ทได้แชร์คลิปในขณะที่ Liam กำลังเต้นตามเพลงอย่างสนุกสนานท่ามกลางเสียงกรี๊ดของผู้ชมแถวล่างที่ตื่นเต้นดีใจที่ได้เห็น Liam ตัวจริงในงานนี้ แต่หลายคนกลับจิกกัดว่า เขาพยายามเรียกร้องความสนใจกลางงานคอนเสิร์ตของเพื่อน ทั้งแสดงตัวโดดเด่น ทักทายจับมือแฟนๆราวกับเป็นเจ้าของคอนเสิร์ตซะเอง แม้จะมีแฟนๆออกมาปกป้องเขาเต็มที่และชี้ว่า ชาวเน็ทน่าจะยินดีที่ได้เห็นสมาชิก One Direction ให้กำลังใจกันในคอนเสิร์ต แต่เห็นได้ชัดว่าหลายคนยังมองเขาด้วยอคติ



อดีตคู่หมั้นกล่าวหาเรื่องถูกคุกคามตามตื๊อไม่ปล่อย


ความสัมพันธ์ที่ดูหวานชื่นของ Liam และ Kate คนรักสาวคนล่าสุดอาจจะทำให้ชาวเน็ทพบกับความหักมุม เมื่อ Maya Henry คนรักเก่าที่เคยมีความสัมพันธ์จริงจังถึงขั้นหมั้นหมายได้ออกมาแฉว่า ตั้งแต่ที่เลิกรากัน Liam รังควานเธอด้วยการโทรหาและส่งข้อความไม่หยุดหย่อน ทั้งเปลี่ยนเบอร์ไปเรื่อยๆเพื่อให้เธอยอมรับสาย และยังพยายามติดต่อแม่และเพื่อนๆของเธอ เธอยังโจมตีด้วยข้อกล่าวหาหนักว่า Liam ปกปิดพฤติกรรมน่ารังเกียจนี้มาตลอดและขู่เข็ญเธอไม่ให้ไปบอกคนอื่น เพราะจะไม่มีใครหน้าไหนเชื่อถือคำพูดของเธอ ไม่ว่าศิลปินจะทำอะไรลงไป แฟนๆก็จะออกโรงปกป้องเสมอ ซึ่ง Maya ชี้ว่า พวกแฟนๆไม่ได้รู้จักตัวตนของ Liam เหมือนเธอที่เคยอาศัยอยู่กับเขาเป็นปี และยืนยันว่า เธอไม่ได้เปิดโปงเรื่องนี้เพราะต้องการสูบเงินทองจากศิลปินหนุ่ม เพราะเรื่องเงินไม่เคยเป็นปัญหาสำหรับเธออยู่แล้ว (เธอมาจากครอบครัวที่ร่ำรวย)


ระหว่างที่ Maya เดินหน้ากระบวนการทางกฎหมายเพื่อขอคำสั่งจากศาลให้ Liam ยุติพฤติกรรมรังควาน ชาวเน็ทหลายคนได้ตั้งข้อสังเกตว่า การตัดสินใจออกมาเปิดเผยเรื่องฉาวอาจจะเกี่ยวข้องกับการโพรโมทนิยายของเธอ ซึ่งเป็นผลงานที่ที่สร้างจากประสบการณ์ความสัมพันธ์กับศิลปินดังในชีวิตจริง ซึ่งเธอได้ระบุคำเตือนถึงเนื้อหาที่มีประเด็นการใช้ความรุนแรง การทำร้ายตนเอง การใช้สารเสพติดและดื่มสุรา โรคปฏิเสธอาหารและการยุติการตั้งครรภ์ ซึ่งมีการคาดเดาว่า แม้จะเป็นผลงานนิยาย แต่เนื้อหาอาจจะไม่ต่างจากการเปิดโปงด้านมืดของ Liam



แต่เมื่อ Liam จากโลกนี้ไปกะทันหัน Maya กลับกลายเป็นฝ่ายถูกโยนความผิดใส่ ชาวเน็ทหลายคนเข้าไปแดกดันเธอที่ Instagram ว่า สาสมใจแล้วหรือยังเมื่อคำพูดของเธอนำพาให้เกิดความสูญเสีย แต่ในขณะที่มีคนกล่าวโทษ Maya ว่า เธอบีบคั้นให้ Liam หมดหนทางจนอาการป่วยทางใจย่ำแย่ลง แต่ยังมีหลายความเห็นที่โต้กลับว่า Maya ไม่ได้เป็นฝ่ายผิดในเหตุการณ์ครั้งนี้แต่อย่างใด และเธอไม่ใช่ผู้ที่ต้องรับผิดชอบในการกระทำของอดีตคนรัก ชาวเน็ตกลุ่มหนึ่งเป็นห่วงสภาพจิตใจของ Maya จนต้องขอให้เธอปิดกล่องคอมเมนท์เพื่อตัดปัญหาถูกคุกคามจากแฟนของ Liam


candy

candy

ติดตาม Mouth On The Web แล้วอย่าลืม Mouth On The Face นะคะ ^ ^

FULL PROFILE