Gen Y Fanatic
candy1960จากกระแสตอบรับจากกระทู้ Now and Then ทำให้คนเขียนไฟลุกกับtopic วัฒนธรรมความคลั่งไคล้ในยุคเมื่อสิบกว่าปีก่อน
เราจะไม่มานั่งแจกแจงว่าสมัยนั้นนิยมใช้ gadget ตัวไหนในการติด ต่อสื่อสาร
(โอเค เราต้องหยอดเหรียญตู้โทรศัพท์เพื่อกดตัวเลข 3 ตัว แล้วต้องกระซิบบอกข้อความกับโอปะเรเตอร์ หนูๆลองคิดสิว่าจะได้ feelingไหนที่ต้องบอกรักหรือคิดถึงใครโดยมีบุคคลที่ 3 มารับฟังด้วย)
เราจะไม่ฝอยมากว่าคนรุ่นนั้นเค้าอินกับแฟชั่นแบบไหน เพราะแฟชั่นยังไงมันก็ไปๆมาๆ หายไปเดี๋ยวก็เวียนมาฮิทกันใหม่
แต่เราจะมาสาธยายเกี่ยวกับกระแสไอดอล ศิลปิน ดาราของคน Gen Y ว่ามันแปลกแตกต่างจากปัจจุบันยังไง สิ่งใดที่หายไปแล้วยังไม่มีทีท่าว่าจะกลับมาร้อนแรงได้เหมือนเก่า แต่ใครที่ยังอยู่ยงคงกระพันกลายเป็นตัวพ่อตัวแม่ของวงการ ติดตามกันได้เลยจ้ะ
** Gen Y คนที่เกิดปี 2523-2540
Gen Z คนที่เกิดปี 2540 เป็นต้นไป
Discussion (60)
เม้าเรื่องBootylicious เพราะตอนที่ซิงเกิ้ลนี้ออกมาคนเขียนยังเป็นวัยทีน คือไม่รู้ค่ะว่าbooty คืออะไร พยายามหัดร้องท่อนฮุกจนได้... คือสรุปแล้วที่เคยฮัมเพลงนี้มาตลอดคือพูดถึงตรูดล้วนๆ 5555
พอโตแล้วมาฟังเพลงเยอะขึ้น เราก็รู้สึกเสียดายสองสาวมิเชลกับเคลลี่เหมือนกันนะ เพราะพวกเธอก็เสียงดีเหมือนกัน ตัววงนั้นประสบสำเร็จมากมีเพลงฮิตเยอะแล้วสอยรางวัลมาหลายตัว แต่ถ้าได้ดูทั้ง MV และการแสดงสดจะเห็นว่าพวกเธอถูกจัดที่ให้ไว้ให้เด่นกว่านักร้องแบ็คอัพไม่มากนัก ไม่ใช่เพียงแต่บียอนเซ่จะเต้นตรงกลางหรือร้องเพลงนำเท่านั้น แต่เธอจะได้มาร้องเอื้อนโชว์พลังเสียงด้านหน้าในขณะที่สองสาวดูกลืนไปกับแดนเซอร์ แต่จริงๆแล้วเวลาพวกเธอเปล่งเสียงออกมาพร้อมๆกับเต้นนั้น เสียงมีพลังเด่นไม่เพี้ยน เรียกว่าความสามารถไม่แพ้กันเลยค่ะ
เคลลี่นั้นดีหน่อยที่ featuring กับเนลลี่ แร็พเพอร์ดังในเพลง Dilemma จนฮิตเวิ่นเวอ
เพลง R&B จังหวะนิ้งหน่องน่ารักนี้พิสูจน์ได้ชัดเจนว่าเคลลี่มีศักยภาพดีพอจะเป็นศิลปินเดี่ยวได้ ซึ่งเมื่อแยกวงแล้วผลงานของเธอก็ได้รับความนิยมพอสมควรแม้ว่าจะเปรียบเทียบกับดิว่าอย่างควีนบีไม่ได้ ส่วนมิเชลล์นั้นเงียบหายไปเลยค่ะ
ที่ MV เป็นร้านเสริมสวยไงคะ
แล้วก็มีเพลงจับผิดปั๋ว... say my name
วงนี้รวมตัวกันมาตั้งแต่ยังเอ๊าะๆ และเคยเข้าแข่งขันพวก talent show แต่ก็พ่ายแพ้จนลดสมาชิกเหลือเพียง 4 คน โดยมีผู้จัดการเป็นพ่อของบียอนเซ่ ส่วนเรื่องเสื้อผ้านั้นก็มีแม่เธอจัดการ ซึ่งดูไม่น่าแปลกใจว่าเหตุใดการวางตัวตำแหน่งนักร้องนำหรือความโดดเด่นในการแสดงจึงพุ่งไปที่บียอนเซ่เป็นจุดศูนย์กลาง การดันลูกสาวผู้จัดการวงแบบออกหน้าออกตาสร้่างความไม่พอใจให้กับสมาชิกที่เหลือ (ยกเว้นเคลลี่ที่โอเคกับการนำเสนอรูปแบบของวงแบบนี้) ในที่สุดสมาชิกสองคนก็ออกจากวงไปและได้มิเชลล์มาแทน
แต่การได้สมาชิกใหม่ที่ดูกลบมเกลียวกันมากกว่าเดิมนั้นยิ่งสร้างความโด่งดังให้กับ Destiny 's childมากขึ้น เพลง Independent Women Part 1ที่ใช้ประกอบหนังฮิทอย่าง Charlie's Angels นั้นขึ้นอันดับหนึ่งยาวนานถึง 11 สัปดาห์
ยังเน้นบียอนเซ่เหมือนเดิมค่ะ แต่เคลลี่และมิเชลก็ประสานเสียงกันเพราะนะ เพลงมันลงตัวเพราะมี 3 คน