Gen Y Fanatic

จากกระแสตอบรับจากกระทู้ Now and Then ทำให้คนเขียนไฟลุกกับtopic วัฒนธรรมความคลั่งไคล้ในยุคเมื่อสิบกว่าปีก่อน

เราจะไม่มานั่งแจกแจงว่าสมัยนั้นนิยมใช้ gadget ตัวไหนในการติด ต่อสื่อสาร

(โอเค เราต้องหยอดเหรียญตู้โทรศัพท์เพื่อกดตัวเลข 3 ตัว แล้วต้องกระซิบบอกข้อความกับโอปะเรเตอร์ หนูๆลองคิดสิว่าจะได้ feelingไหนที่ต้องบอกรักหรือคิดถึงใครโดยมีบุคคลที่ 3 มารับฟังด้วย)

เราจะไม่ฝอยมากว่าคนรุ่นนั้นเค้าอินกับแฟชั่นแบบไหน เพราะแฟชั่นยังไงมันก็ไปๆมาๆ หายไปเดี๋ยวก็เวียนมาฮิทกันใหม่

แต่เราจะมาสาธยายเกี่ยวกับกระแสไอดอล ศิลปิน ดาราของคน Gen Y ว่ามันแปลกแตกต่างจากปัจจุบันยังไง สิ่งใดที่หายไปแล้วยังไม่มีทีท่าว่าจะกลับมาร้อนแรงได้เหมือนเก่า แต่ใครที่ยังอยู่ยงคงกระพันกลายเป็นตัวพ่อตัวแม่ของวงการ ติดตามกันได้เลยจ้ะ

** Gen Y คนที่เกิดปี 2523-2540

Gen Z คนที่เกิดปี 2540 เป็นต้นไป

Discussion (60)

พี่แคนดี้หนูรักทู้นี้มาก ทู้นี้จะไม่ขอปิดแต่จะขอกลับบ้านไปเปิดกลับฟังทุกเพลง นี่ดูบริทไป2เพลงก็จะไม่ได้ทำงานแล้วค่าา 5555+ พี่แคนดีอ่าา !!!! เลิฟมากกก คือรู้จักเกือบหมดเลยอ่ะ ถ้าพูดถึง blink นี่ต้องมี  sum 41 ด้วยนะ ตอนนั้น American Pie นี่ soundtrack เจ๋งๆทั้งนั้น นี่ก็ฟังหลายสายมากกก ทุกวันศุกร์ต้องตัดคอมลัมน์น้าชาติจากข่าวสด ซื้อ forward mag ทุกเดือน เพราะถูกจริตสุด ป่านนี้ยังไม่ทิ้งเลยน่ะคิดดู โอ๊ยยยยยยย คิดถึงยุคนั้นนว่ะ 

มิเชลออกมาเพลงนึงแต่ก็ไม่ได้ดังมาก ส่วนตัวนอกจากเสียงบีที่มีเอกลักษณ์แล้ว เสียงเคลลี่ก็เพราะมาก เสียงมิเชลก็มีสเน่ห์เช่นกัน ถ้าได้อยู่ในมือโปรดิวเซอร์เก่งๆก็น่าจะดันจนดังได้อีกรอบ
เมื่อส่ง Survivorและ Bootylicious ออกมาก็ดังถล่มทลายอีก



เม้าเรื่องBootylicious เพราะตอนที่ซิงเกิ้ลนี้ออกมาคนเขียนยังเป็นวัยทีน คือไม่รู้ค่ะว่าbooty คืออะไร  พยายามหัดร้องท่อนฮุกจนได้... คือสรุปแล้วที่เคยฮัมเพลงนี้มาตลอดคือพูดถึงตรูดล้วนๆ  5555



พอโตแล้วมาฟังเพลงเยอะขึ้น เราก็รู้สึกเสียดายสองสาวมิเชลกับเคลลี่เหมือนกันนะ เพราะพวกเธอก็เสียงดีเหมือนกัน  ตัววงนั้นประสบสำเร็จมากมีเพลงฮิตเยอะแล้วสอยรางวัลมาหลายตัว แต่ถ้าได้ดูทั้ง MV และการแสดงสดจะเห็นว่าพวกเธอถูกจัดที่ให้ไว้ให้เด่นกว่านักร้องแบ็คอัพไม่มากนัก ไม่ใช่เพียงแต่บียอนเซ่จะเต้นตรงกลางหรือร้องเพลงนำเท่านั้น  แต่เธอจะได้มาร้องเอื้อนโชว์พลังเสียงด้านหน้าในขณะที่สองสาวดูกลืนไปกับแดนเซอร์  แต่จริงๆแล้วเวลาพวกเธอเปล่งเสียงออกมาพร้อมๆกับเต้นนั้น เสียงมีพลังเด่นไม่เพี้ยน เรียกว่าความสามารถไม่แพ้กันเลยค่ะ



เคลลี่นั้นดีหน่อยที่ featuring กับเนลลี่ แร็พเพอร์ดังในเพลง Dilemma จนฮิตเวิ่นเวอ



เพลง R&B จังหวะนิ้งหน่องน่ารักนี้พิสูจน์ได้ชัดเจนว่าเคลลี่มีศักยภาพดีพอจะเป็นศิลปินเดี่ยวได้  ซึ่งเมื่อแยกวงแล้วผลงานของเธอก็ได้รับความนิยมพอสมควรแม้ว่าจะเปรียบเทียบกับดิว่าอย่างควีนบีไม่ได้  ส่วนมิเชลล์นั้นเงียบหายไปเลยค่ะ
 Destiny 's child วงนี้เปรี้ยงมาตั้งแต่เป็นวัยรุ่น  เราเคยได้ยินเพลงฮิตของพวกเธอตั้งแต่มีสมาชิก 4 คน  จำได้ก็เพลง Bills Bills Bills ค่ะMV ตราตรึงในความทรงจำ บียอนเซ่ยังดูผอมและคิ้วโก่งมาก



ที่ MV เป็นร้านเสริมสวยไงคะ


แล้วก็มีเพลงจับผิดปั๋ว... say my name 



วงนี้รวมตัวกันมาตั้งแต่ยังเอ๊าะๆ และเคยเข้าแข่งขันพวก talent show แต่ก็พ่ายแพ้จนลดสมาชิกเหลือเพียง 4 คน โดยมีผู้จัดการเป็นพ่อของบียอนเซ่ ส่วนเรื่องเสื้อผ้านั้นก็มีแม่เธอจัดการ   ซึ่งดูไม่น่าแปลกใจว่าเหตุใดการวางตัวตำแหน่งนักร้องนำหรือความโดดเด่นในการแสดงจึงพุ่งไปที่บียอนเซ่เป็นจุดศูนย์กลาง การดันลูกสาวผู้จัดการวงแบบออกหน้าออกตาสร้่างความไม่พอใจให้กับสมาชิกที่เหลือ (ยกเว้นเคลลี่ที่โอเคกับการนำเสนอรูปแบบของวงแบบนี้)  ในที่สุดสมาชิกสองคนก็ออกจากวงไปและได้มิเชลล์มาแทน


 
แต่การได้สมาชิกใหม่ที่ดูกลบมเกลียวกันมากกว่าเดิมนั้นยิ่งสร้างความโด่งดังให้กับ Destiny 's childมากขึ้น เพลง Independent Women Part 1ที่ใช้ประกอบหนังฮิทอย่าง Charlie's Angels นั้นขึ้นอันดับหนึ่งยาวนานถึง 11 สัปดาห์


ยังเน้นบียอนเซ่เหมือนเดิมค่ะ แต่เคลลี่และมิเชลก็ประสานเสียงกันเพราะนะ เพลงมันลงตัวเพราะมี 3 คน



 
เด๋วๆทำไมเรารู้จักเกือบหมดเลยหล่ะ ยิ่งมาฝั่งร็อกนี่ความจำไหลลื่นมาก บ่งบอกอายุจริงๆ 555555