แชร์ประสบการณ์เรียนแต่งหน้าแบบจัดเต็ม กับ Scandinavian Makeup Academy

สวัสดีค่ะ

นี่อาจจะผ่านมาหลายเดือนแล้ว แต่ก็อยากจะเล่าให้ฟัง เกี่ยวกับโรงเรียนสอนแต่งหน้าที่ไพได้ไปเรียนมา

นั่นก็คือ Scandinavian Makeup Acadamy (SMA)

เริ่มเลยเดิมทีไพเองก็เป็นช่างแต่งหน้าอยู่แล้วค่ะ เคยเรียนที่MTI มา1คอร์ส และก็มีประสบการณ์มาจาก Bobbi Brown อีก เกือบ 3 ปีค่ะ แล้วก็ลาออกมาตั้งใจว่าจะเรียนต่อป.โท ระหว่างนั้นก็ทำงานออฟฟิศใกล้ๆบ้านไป (งานออฟฟิศที่ทำก็สนุกไปอีกแบบนะคะ คนละอารมณ์กับงานในห้างเลย ทีแรกตื่นเต้นกับการได้หยุดติดกัน 2 วันมาก ถ้าใครที่ต้องทำงานเสาอาทิตย์หยุด 1 วันจะเข้าใจ)

จนเวลาผ่านมาล่วงเลยเกือบ 1 ปีค่ะ ยังอยู่ที่เดิมค่ะ รู้สึกคันไม้คันมืออยากแต่งหน้าทุกวัน จนกระทั่งเราไปเจอfacebook page ของโรงเรียน ตอนนั้นดีใจ ตื่นเต้นตาโตหัวใจเต้นแรงมาก 55

อันนี้แหละที่ชั้นจะเรียน ตัดสินใจแล้ว ลาออกเลย เดี๋ยวใจเย็นก่อน!

เพราะนี่เป็นการตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่ที่เปลี่ยนชีวิตมากก

เพราะเท่ากับว่าระหว่างนั้นเราจะไม่มีรายได้ ต้องใช้ชีวิตอยู่กับเงินเก็บ และจ๊อบเล็กๆน้อยๆ

เราเลยเข้าไปเยี่ยมชมโรงเรียนก่อนค่ะ โรงเรียนตั้งอยู่บนถนนอโศกนะคะ ตึกกสิกรไทย อยู่ฝั่งตรงข้ามกับมหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วโรฒค่ะ เดินทางไม่ยาก มาทางMRT หรือ BTS ได้

โรงเรียนอยู่ชั้น 4 นะคะ เดินขึ้นทีแรก หอบจะกิน 55 ตอนหลังคือ ดีขึ้น ชินแล้ว? ปล่าว ยังหอบเหมือนเดิม แต่น้อยลง 555

ที่SMA นี่เค้าจะช่วยนักเรียนทำPortfolio ด้วยนะคะ รูปที่เราแต่ง จะมีการถ่ายภาพเก็บเอาไว้ตลอดค่ะ ถ้าวันไหนสอบก็จะมีนางแบบอาชีพมาให้ หรือเราจะหาแบบมาเองก็ได้ค่ะ และก็มีใบCertificated ให้ เอาจริงๆเรารู้สึกว่า certificated ไม่สำคัญเท่าPortfolio เพราะเวลาใครจะจ้างงานเราเค้าต้องขอดู Portfolio ก่อนอยู่แล้วค่ะ แต่Certificateสำหรับเราก็คือ หลักฐานการเรียนจบแบบเป็นทางการ สวยๆ เอาไปตั้งโชว์55

และหลังจบแล้วเค้าจะมีSchool Alumni ไว้เพื่อส่งต่องานให้กับนักเรียนค่ะ ดีมากๆเลย ซึ่งจะมีทั้งงานVolunteer หรืออาสาสมัคร และงานที่ได้เงินจริงๆค่ะ คือสำหรับคนทีไม่มีประสบการณ์มาก่อน มันดีมากๆๆค่ะ เราก็ได้ไปกับโรงเรียนหลายงานเหมือนกัน ได้ไปเจอเพื่อนๆ เจอคนใหม่ๆ ได้ไปแต่งหน้าเก็บผลงานเอามาใส่ในพอร์ตอีก

โอเค ดีล! ชั้นจะเรียนๆๆๆ

หลักสูตรที่เราลงคือ Full course ค่ะ ระยะเวลา 3 เดือน อ่อ ลืมบอกไปที่นี่เป็นหลักสูตรอินเตอร์นะคะ ชีท ตำราการสอน การสอบทั้งหมดเป็นภาษาอังกฤษค่ะ แต่ไม่ต้องกลัวนะคะว่าจะไม่รู้เรื่อง เพราะที่โรงเรียนมีอาจารย์คนไทยด้วยค่ะ และอาจารย์ส่วนใหญ่เข้าใจภาษาไทยค่ะ นักเรียนก็ส่วนใหญ่เป็นประเทศเพื่อนบ้าน พม่า กัมพูชา อินเดีย อินโดนีเซีย รัสเซีย เวเนซูเอล่า อิหร่าน ว่าไป มาจากทุกมุมจริงๆ

เรานี่วันแรกๆบอกทุกคนเลยว่าภาษาชั้นไม่แข็งแรงนะ อาจจะพูดช้าหน้อย หรือฟังไม่ทันอะไรแบบนี้

ทุกคนก็บอกเหย Dont worry it's ok คือทุกคนภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ 2 กันส่วนใหญ่ค่ะ ก็จะมีสำเนียงแต่ละประเทศต่างกันไป (ตอนหลังหรอหูย เม้ากันกันเป็นภาษาอังกฤษ มันไปอี้ก)

*คำเตือน* รูปเยอะมากกก

โรงเรียนก็จะมี Makeup Kit มาให้สำหรับคนที่เรียนฟูลคอร์ส

ที่เห็นในรูปคือ INEZ palette ประกอบด้วย แป้ง อายชาโดว ลิปสติก บลัชออน คือพิกเม้นดีมากกกก แป้งก็ดีงาม ลิปสีก็ดี สรุปคือดีหมดเลย แต่ชอบลืมใช้ เพราะมันหนัก สำหรับคนที่เรียนฟูลคอร์ส ถ้าคนไหนเรียนfundamental ก็ต้องเตรียมอุปกรณ์มาเองค่ะ และก็มีของส่วนรวมที่ใช้ร่วมกัน ที่ทุกคนต้องช่วยกันดูแลเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย

ถึงที่นี่จะเป็นโรงเรียนสอนแต่งหน้า ก็ใช่ว่าเราจะเรียนกันแบบชิลล์ๆนะคะ เราเรียนแบบเข้มข้นมากค่ะ เหมือนเข้าเรียนใหม่เลย ตำราหนาตึ้บ เข้าเรียน 10.00 เลิกประมาน 17.30 และทุกทีมีกฏค่ะ ห้ามมาสาย ห้ามใช้โทรศัพท์เวลาเรียน มีธุระต้องออกไปคุยน้อกห้อง ห้ามวิ่งในห้อง (555 มีเพื่อนชอบวิ่งโดนดุประจำ) แล้วข้อนี้ที่สำคัญมากคือ รักษาความสะอาด

คือที่นี่เป็นโรงเรียนแต่งหน้าที่แรกที่เรารู้สึกว่า สะอาดมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

การใช้อุปกรณ์ทุกอย่างต้อง ฉีดแอลกอฮอล์ก่อน ต้องใช้พาเลตสแตนเลส กับไม้พาย ห้ามเป่าแปรง แปรงต้องสะอาด

หรือสอนแม้กระทั่งว่าเราทุกคนต้องมี ลูกอมมิ้น หรือผ้าปิดปากเวลาทำงานทุกครั้ง หรือสุขอนามัยส่วนตัวก็ต้องดูแล (จริงๆเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องดูแลกันอยู่แล้ว แต่ก็มีบางคนหลงลืมบ่อยๆใช่มั้ยคะ)

Everything Keep Clean and Hygienic! ทุกวันก็เปลือยหน้ามาเลยนะคะ ไม่ต้องเสียเวลามาล้าง อีกรอบ เพราะช่วงที่ฝึกรอบบ่ายเราจะจับคู่กันแล้วผลัดกันแต่งหน้าค่ะ พยายามเปลี่ยนคู่บ่อยๆ จะได้ฝึกกับหน้าและผิวหลายๆแบบ

มีกฏอีกข้อนึงคือ ห้ามนักเรียนด้วยกัน วิจารณ์งานของเพื่อนค่ะ เพราะแต่ละคนมีเทคนิคต่างกัน ฝีมือและประสบการณ์ต่างกัน คนที่จะสามารถให้คำแนะนำได้คือ ครูที่สอน และครูผู้ช่วยเท่านั้นค่ะ

ฉะนั้นวันไหนเราเจอเพื่อนเก่ง เราจะสวยและเราจะไม่ล้างหน้าค่ะ 55555

แต่ถ้าเจอในทางตรงกันข้าม ห้ามบ่นว่าไม่สวยเด็ดขาด 55555 แล้วค่อยไปล้างเอา

การสอนก็จะมีการสอนภาคทฤษฎีและทำdemo ในช่วงเช้าค่ะ พอช่วงบ่ายมาก็จะจับคู่กัน ผลัดกันแต่ง

ฝึกกันตั้งแต่เลือกสีรองพื้น อันนี้คู่กับPooja คนอินเดีย คือใต้ตายากมากกก คนอินเดียนี่เค้ามีสีเฉพาะจริงๆนะ

อันนี้คู่กับน้องธิดา เป็นคนกัมพูชาค่ะ

วันนี้คู่กับOlgaสาวรัสเซีย eyeliner +red lips

คนนี้เกิดมาเพื่อเป็นนางแบบจริงๆค่ะ แต่งนิดเดียวก็สวยแล้วอะ

อันนี้แต่งให้เพื่อนชื่อ Baboo ค่ะ เป็นคนอินเดีย

แล้วก็มีสอบค่ะ มีสอบข้อเขียนและปฏิบัติ น้องมิ้งมาเป็นนางแบบให้ Natural day look

Men Makeup/นายแบบหล่อมากคร่าาาา

Smoky eyes คู่กับแอนนา คนกัมพูชา พอสวยแล้วก็เซลฟี่เยอะตามระเบียบ

อันนี้จำไม่ได้ว่าหัวข้ออะไร น่าจะแต่งนักข่าว และก็ฝึกวาดFacechart

ต่อจากนี้จะเริ่มแฟนตาซีขึ้นเรื่อยๆแล้วนะคะ เริ่มด้วยการ บล็อคคิ้ว!!

ดีใจมากคู่กับพี่จ๋าคนไทยด้วยกัน คุยกันรู้เรื่องสุดละ 555

เป็นการแต่งหน้ายุค 1920 ค่ะ อยู่ในคลาสMakeup History

ค้าเรียกว่า Flapper Girls ค่ะยุคGatsby คือเป็นยุคที่ทุกคน สวยและรวยมาก คือมันจะคอนทราสกัน เมคอัพหน้าก็จะเศร้าๆ คิ้วเส้นบางๆตกๆ สีที่ใช้ก็จะเข้มๆ ดาร์คๆ ยังเป็นยุคขาวดำอยู่ด้วย สีที่จะใช้ก็ต้องให้เห็น ไม่งั้นจะดูซีด ผิวก็ต้องขาวกว่าตัวไปอีกกก ปากก็ต้องเป็นheart shape จุ๊บุๆ