เปิดกรุ รีวิว Cleaning water+oil ตัวจี๊ด! สำหรับคนผิวผสม แพ้ง่าย ตั้งแต่ถูกยันแพง!!
omyim22515 24 14สวัสดีค่ะเพื่อนๆ วันนี้พิมจะมาเปิดกรุ รีวิวคลีนซิ่ง 5 ตัวด้วยกันนะคะ
สภาพผิว : ผิวผสม มันช่วงทีโซน และผิวแพ้ง่าย
ทุกตัวเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับผิวแพ้ง่ายนะคะ แต่ใช่ว่าจะไม่มีคนแพ้เลย มีค่ะแต่เราต้องเลือกดีๆว่ามีส่วนผสมไหนที่เราแพ้รึเปล่า ดูดีๆก่อนซื้อ ก่อนลองนะจ้ะ
โดยของที่จะมารีวิวนะคะ จะมีเป็น Cleaning Water 4 ตัว และ Cleaning Oil 1 ตัวค่ะ
1. Chanel Eau Douceur Cleaning Water 150 ml.
ราคา 1650 บาท (ราคาเคาเตอร์)
ครั้งแรกที่ได้ลองคือ BA แนะนำ ด้วยความเคลิ้มกับกลิ่น หอมแบบฟุ้งๆอ่อนๆ ลอยไปเลยค่ะ เงินเราลอยไปเลย ตามใจ BA ค่ะจังหวะนั้น (มีส่วนผสมของน้ำหอมนะค่ะ ถ้าใครแพ้น้ำหอมนี่บอกลาได้เลยค่ะ)
จากที่พิมลองใช้เองแล้วชอบนะคะด้วยความละมุนจากความหอมที่ติดอยู่ที่หน้าเราหลังจากเช็ด แล้วก็ ตัวนี้จะแห้งไวไม่เหนอะหน้าแบบตัว bifesta ค่ะ แล้วก็สามารถใช้ได้เวลาแต่งหน้าอ่อนๆนะคะ แต่เวลาใช้ทีนี่เขียมมากค่ะใช้สำลีบางๆค่อยๆเช็ด เจ็บกับราคา T^T
2. Bioderma สีเขียว (สำหรับผิวมัน) 500 ml
ราคาเต็ม 1200 บาท (หากผิดต้องขออภัยค่ะ)
พิมซื้อมาในราคา 2 ขวด 1500 บาทค่ะ ตกขวดล่ะ 750 บาท ถ้ารีบลดรีบพาเพื่อนไปตำกันค่ะ
ตัวนี้พิมเพิ่งลองใช้ได้ไม่นานค่ะ ชอบมากกกกกก เพราะนางหอม(มีส่วนผสมของน้ำหอมอีกแล้วนะคะ ใครแพ้ บอกลาได้เลยค่ะ) เป็นผลิตภัณฑ์ ถูกและดีที่มีอยู่จริง ยอมเลย ตัวนี้ไม่เหนอะหน้า แห้งไว ทุกอย่างดีงาม เริ่ดสุด น้องชาแนลตัวข้างบนยังต้องยอมแพ้เพราะราคาที่ถูกเหลือเกิน
ปล.มีคนเคยใช้แล้วแพ้นะคะ สาวๆต้องลองให้ดีๆน้า
แนะนำแรง!
3. Softymo white cleansing oil ขนาด 60 ml
เป็น คลีนซิ่งออย ซึ่งตัวออยจะสีเหลืองๆ ที่พอล้างแล้วจะกลายเป็นน้ำนมมีส่วนช่วยให้หน้ากระจ่างใสขึ้น ส่วนตัวพิมรู้สึกว่ามันจะช่วยเรื่องกระจ่างใสเฉพาะตอนล้างแต่ไม่แน่ใจว่าจะช่วยในระยะยาวไหมเพราะว่าพิมไม่ได้ใช้อย่างต่อเนื่องค่ะ แต่ที่ชอบคือเราไม่ต้องเสียเวลาเอาสำลีมาบาดหน้าสามารถใช้นิ้วมือเราล้างได้เลยแต่ก็ต้องล้างดีๆนะคะ ระวังเกิดสิวอุดตัน (อันนี้ไม่มีน้ำหอมนะ ใช้ได้ๆ)
ความรู้สึกหลังล้างคือหน้านุ่มมาก ไม่แห้งเกินไป เป็นอีกตัวที่พิมไปซื้อมาตุนแล้วค่ะ
4. Smooth E extra sensitive ขนาด 80 ml ราคา 155 บาท
ซื้อเพราะพี่โมเมส่วนหนึ่งและชอบความเกร๋ของหัวปั๊มผลิตภัณฑ์ ที่เขาออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานง่ายขึ้น แต่ความจริงแล้วคือถ้าเราไม่ล๊อคหมุนให้ดีๆและตั้งตรงๆ พอเอียงปุ๊ป ตัวน้ำที่อยู่ข้างในที่ไหลออกมาแบบไม่หยุดหย่อนและจริงจังจ้า แต่ตัวผลิตภัณฑ์ให้ความเย็นๆเวลาเช็ดรู้สึกสบายหน้า แต่จะแห้งช้ากว่า ไบโอเดอม่า แต่เร็วกว่า บีเฟสต้า ไม่งงเนอะ คือนางอยู่กึ่งๆอ่ะ เลยเป็นผลิตภัณฑ์ที่ซื้อมาแล้วก็แค่ใช้ให้หมดๆไป เพราะหัวปั๊มนางไม่เหมาะกับคนที่เดินทางอย่างแรงไม่แนะนำค่ะ
5. Bifesta สูตร brightup ขนาด 300 ml ราคา 300++ บาท
เป็นคลีนซิ่งสำหรับมนุษย์ผิวแพ้ง่ายโดยแท้จริง แต่ที่พิมไม่ชอบโดยส่วนตัวคือ เวลาเช็ดเสร็จแล้วมันจะเหนอะหน้าจนต้องเอาทิชชู่มาซับออกไม่ก็ไปล้างหน้าเลย ไม่สามารถทิ้งไว้จนแห้งได้แอบหงุดหงิดนิดนึง แต่ถ้าเทียบกับความคุ้มค่านั้น เกินตัวจริงๆค่ะ เพราะเมื่อใช้หมดแล้วยังมีถุงรีฟิวให้เติมโดยไม่ต้องซื้อขวดใหม่อีกด้วย ถ้าถามความคุ้มค่า พิมแนะนำเจ้า Bifesta นี่แหละค่ะ
ต่อไปพิมจะมาทดสอบการเช็ดเครื่องสำอางค์ของเจ้าผลิตภัณฑ์เหล่านี้กันเลยค่ะ
โดยสิ่งที่พิมใช้เหมือนเวลาแต่งหน้าจริงนะค่ะ
จากซ้ายไปขวานะค่ะ คือ Softymo > Chanel > Bioderma > Bifesta > Smooth E ค่ะ
เรามาเริ่มกันเลยค่ะ
พิมจะกดผลิตภัณฑ์ให้ชุ่มสำลีนะคะ แล้วแปะไว้ประมาน 30 วินาทีค่ะ
หลังจากเช็ดออกเพียงรอบเดียว ผลที่ได้ค่ะ
หลังจากทดสอบจะเห็นได้ว่าคลีนซิ่งไม่สามารถลบอายไลน์เนอร์กับลิปได้ เพราะจริงๆแล้วเขาไม่ได้ถูกผลิตมาเพื่อเช็ดเครื่องสำอางค์เหล่านั้นโดยเฉพาะ พิมแนะนำให้ใช้คู่กันนะคะ ระหว่าง คลีนซิ่งกับเมคอัพรีมูฟเว่อร์ ค่ะ จะสะอาดที่สุดเพื่อประโยชน์แก่ผิวหน้าเราเนอะสาวๆ
สำหรับวันนี้พิมขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้ค่ะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่เพื่อนๆนะคะ ถ้าใครมีข้อสงสัยสามารถถามได้เลยจ้า