คุณเชื่อเรื่องไสยศาสตร์และเรื่องผีกันบ้างไหม?

ไม่แน่ใจว่า สิ่งที่จะเอามาเล่านี่ มันใช่พวกไสยศาสตร์ รึเปล่า...แต่ถ้าไม่ใช่ก็ต้องขอโทษด้วยนะคะ -_-"
กิฟเป็นลูกคนจีน แล้วทางบ้านก็มักจะยึดติดกับธรรมเนียมแบบจีนๆ มาตลอด... (แต่ไม่ได้เคร่งซะทุกเรื่อง)
ปะป๊า เปน แต้จิ๋ว... มะม๊า เป็น จีนแคระ

พวกอาอี๊ (พี่สาวของมะม๊า) จะเชื่อเรื่องโชคลางและการทรงเจ้ามากๆ

ตั้งแต่เด็ก..กิฟมักจะเจออะไรแปลกๆที่บางครั้ง ก็พยายามคิดว่า คิดไปเองมั้ง?

ช่วงที่กิฟอยู่ ประถม..น้องสาวคนเล็กกิฟยังไม่เข้าอนุบาล...
ตอนนั้นอาม่า(ทางฝ่ายปะป๊า) แกอาการเริ่มไม่ดี...3 วันดี 4 วันไข้... ที่น่าแปลกคือ ทุกครั้งที่อาม่ามีอาการทรุดลง... น้องสาวคนเล็กกิฟ ก็จะมีอาการไข้ขึ้นตามไปด้วย..
เพื่อนมะม๊าเลยชวนไปหาคนทรงที่ศาลเจ้าพ่อใกล้บ้าน..คนทรงแกก็บอกว่า ดวงน้องสาวกิฟ ชง กับอาม่า.. ยามใดที่อาม่าเปนอะไร น้องสาวกิฟก็จะเปนตาม... ตอนนั้นแม่กิฟร้องไห้โฮ.. (พิมพ์ว่า "แม่" ดีกว่า สั้นดี แฮะๆ - -") คนทรงแกก็ถามว่า จะยอมยกลูกให้เจ้าพ่อมั้ย? งวดนี้แม่กิฟร้องไห้หนักกว่าเดิม... จนเพื่อนเขาต้องปลอบว่า ไม่ใช่ยกให้แบบนั้น.... แต่หมายถึง ยกให้แต่ในนาม... แล้วคนทรงก็มอบจี้ให้แม่กิฟ บอกให้เอาไปสวมกับสร้อยของน้องคนเล็ก.. ห้ามเอาออกจนกว่าจะอายุถึง 6 ขวบ...

หลังจากนั้น..เวลาที่อาม่าป่วย น้องสาวกิฟก็ไม่เปนอะไร... ไม่นานอาม่าก็เสีย...
ผ่านไป 4 ปี.... แทบจะลืมเรื่องจี้อันนั้นไปแล้ว... หลังจากน้องสาวกิฟอายุครบ 6 ขวบได้ไม่นาน.. จี้อันนั้นก็หายไป..
แปลกใจเหมือนกันว่าหายไปไหน... แต่ก็พยายามมองในแง่ดีว่า... ตัวห่วงมันคงหักหรืออะไรสักอย่าง -_-"

อีกเหตุการณ์นึง คือ.. อาอี๊ แกไปเที่ยวต่างจังหวัดทางเหนือ.. พอกลับมา อยู่ดีๆ แกก็เงยหน้าไม่ได้...หาหมอก็ไม่ดีขึ้น เปนแบบนี้อยู่ร่วมอาทิตย์..
แกเลยไปหาคนทรง...(ทางเมืองกาญจน์) คนทรงก็บอกว่า ดวงของแกไปชงกับผีหัวขาด.. (ตอนได้ยินนี่ รู้สึกสยองยังไงชอบกล)
คนทรงเลยสอนวิธีแก้ให้... หลังจากที่แก้แล้ว อยู่ดีๆ คอของแกก็หาย... ไม่มีอะไรผิดปกติ...

ปล. ที่เล่ามานี่... ไม่ได้ขอให้เชื่อ แต่มันเปนเรื่องที่เกิดขึ้นกับคนในครอบครัวของกิฟเอง.. จริงๆมันมีล่าสุดกว่านี้อีก เกิดเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว แต่กลัวว่าจะยาวเกิน เลยเอามาเล่าเพียงเท่านี้ค่ะ
โดยส่วนตัวของกิฟเอง...ทุกวันนี้ก็ยังไม่ค่อยอยากจะเชื่อสักเท่าไหร่เลย -_-"

ขอบคุณที่ทนอ่านจนจบนะคะ =]

ปล. ที่เปลี่ยนชื่อเรื่อง  เพราะไปๆมาๆ เรื่องผีเริ่มมามีเอี่ยวด้วย ฮ่าๆ คิดไปเองรึเปล่า ว่ามันเริ่มหลอนขึ้น แต่ละเรื่องเนี่ย - -"

Discussion (43)

 หลอนนะเนี่ย ตอนนี้เราก็เจ็บๆหน้าอกเหมือนกันเหมือนมีคนมาดันตลอดเวลา หายใจไม่ออก หาหมอก็บอกว่า ไม่เป็นอะไร อยากไปหาคนทรงเหมือนกันค่ะแต่ไม่รู้ว่าต้องไปที่ไหน ใครรู้ช่วยบอกทีค่า karajinan@hotmail.com 
-*-   จะหลอนกันไปไหนคีาาา  ขนลุกไปหมดแล้ววว

มีมาเรื่อยๆแฮะ อิอิ =]

เราไม่เคยเห็นเป็นตัวตน หรือรูปร่างที่ชัดเจน  แต่จะเป็นเหตุการณ์แปลกๆหรือความรู้สึกแปลกๆมากกว่าค่ะ

อย่างเมื่อเดือนก่อน..คุณพ่อของเพื่อนเราเสีย
เพื่อนๆในคณะเลยตกลงกันจะไปช่วยงานสวดศพ(ที่ ตจว.)

ตอนขาไปก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นค่ะ
แต่ขากลับนี่สิ...เพื่อนเราคนนึงที่นั่งรถมาด้วยกัน
ไอ้เพื่อนคนนี้ ได้ขึ้นชื่อว่ามีเซ้นส์กะเรื่องพวกนี้ด้วย
มันก็เริ่มทักตั้งแต่ช่วงที่ออกมาจากวัด
(คือว่า..งานสวดจัดที่บ้าน แต่วันเผาจะจัดที่วัดซึ่งอยู่ห่างออกไปจากบ้านประมาณนึง
เพื่อนเราที่คุณพ่อเค้าเสีย เลยพาขับไปดูว่าวัดที่จะจัดงานอยู่ไหน
เพราะมันจะต้องบวชในวันเผาด้วย เลยอาจไม่สะดวกที่จะพาไปในวันจริง)

รถคันที่เราขับไป เลยขอเป็นตัวแทนขับตามไปดู
(เพราะวันเผาต้องมีคนนำทางรถของคณะที่พาเพื่อนๆคนอื่นมาด้วย)
    ตอนแรกที่ขับเข้าไปในวัด(ตอนนั้นเวลาประมาณ 3 ทุ่มกว่าๆ)
ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ แต่วัดใน ตจว.นี่จะสงบมาก มีไฟติดที่ประตูทางเข้าแค่ดวงเดียว
ข้างในจะมืดสนิทเลย..พอออกมาจากวัดเท่านั้นล่ะค่ะ
ไอ้เพื่อนคนนี้มันก็พูดขึ้นมาว่า.."พวกแกเห็นมั้ย?"( แล้วแกเห็นอะไรง่า
)
เพื่อนคนที่เหลือ(นับรวมเราคนขับ ก็ 5 คน) ก็เลยปรามมันว่าอย่าเพิ่งเล่าให้ถึงหอก่อน

พอออกจากวัด พวกเราก็เดินทางกลับมหาลัยกันเลย
โดยรถที่ขับไปวันนั้นมีทั้งหมด 5 คัน

บนรถเราก็มีแต่พวกปากมาก แย่งกันพูด และก็เสียงดังตามประสาคนเฮฮา
ขับๆมา พวกเราก็ลืมเรื่องที่ออกมาจากวัดกันไปซะสนิท
ระหว่างทางพวกเราร้องรำทำเพลง สนุกสนาน..(ซึ่งไม่สมควรเลย
)
โดยที่เราไม่รู้หรอกว่าไอ้เพื่อนคนนั้น มันก็สะกิดเพื่อนที่นั่งเบาะหลังด้วยกันเป็นระยะๆ
แต่พวกนั้นมันก็ไม่ยอมเล่าให้เราฟัง(เรามารู้ทีหลังอีกที)
แต่ต้องบอกว่าระหว่างทาง มืดมากกกกก ไม่มีไฟข้างทางเลย
แต่รถเราจะถูกตีไฟสูงใส่มาตลอดทาง
ซึ่งพวกเราก็ยังงงว่า คน 5 คน มันทำให้รถหนักมากขนาดนั้นเหรอ

จนกระทั่งเหลือระยะทางประมาณสิบกว่าโล จะถึงมหาลัย
จู่ๆเพลงบนรถที่เราเปิดซะดัง เพื่อช่วยกันร้อง กลบความมืด
มันก็หยุดเล่นไปซะเฉยๆ ซีดีเด้งออกมาเอง
เราก็เริ่มรู้สึกว่ามันไม่ดีแล้ว มองหน้ากัน แล้วก็ปิดซีดีไปเลย
ซักพัก ฝนก็เริ่มตก และตกแรงขึ้นๆ แต่ภายในรถดันร้อนขึ้นเรื่อยๆ
จนพวกเราทนไม่ไหวต้องเปิดกระจกให้มีอากาศระบายออก
แล้วรถเรามันก็เริ่มงอแง..ไฟหน้าปัดรถ เริ่มค่อยๆมอด ไฟหน้าก็แทบไม่มีแสงออกมา
เราเลยต้องลดความเร็วแล้วค่อยๆขับต่อไปเพื่อหาอู่ซ่อม(เฮ้อ.ตอนนั้น ประมาณ 5ทุ่มครึ่งแระ)
ดีว่าพอเริ่มเข้าตัวเมือง ก็มีไฟบ้าง ไม่งั้นคงโดนรถคันอื่นชนแน่ เพราะไฟรถเราดับไปเลย

จนในที่สุด..เราก็หาอู่ซ่อมได้ เราเลยโทรหาเพื่อนที่เอารถไปอีกคัน ให้มารับพวกเราทั้ง 5 คนที่อู่
จนเรากลับมาถึงหอ ก็ปาไป ตี 1 กว่าๆ
เพื่อนที่อยู่หอเดียวกันคนนึง ต้องเอากุญแจรถลงมาให้ไอ้เพื่อนคนที่มีเซ้นส์
พอเอากุญแจให้เสร็จ ตอนเดินขึ้นหอ มันก็จับมือเราและก็บีบด้วย
มันบอกว่า..มันรู้สึกแปลกๆตั้งแต่เรากะไอ้เพื่อนมีเซ้นส์กลับลงมาจากรถแล้ว
ขนมันลุกขึ้นมาเอง มันเอาแขนให้ดู ขนก็ลุกจริงๆ
..เราก็เริ่มกลัวแล้ว ทั้งๆที่ปกติ ไม่ค่อยกลัวเรื่องพวกนี้เท่าไหร่
มันเลยบอกว่าอย่าเพิ่งเข้าห้องเลย ให้ลงไปเอาน้ำล้างหน้าล้างตาก่อน
ที่จริงมันกะจะหาใบทับทิมมาให้เช็ด แต่ที่หอไม่มีต้นทับทิม
พอล้างเสร็จ เราก็บอก "เค้า" ว่าขอบคุณที่ตามมาคุ้มครอง แต่ไม่ต้องตามเข้าไปถึงในห้องหรอกค่ะ
แค่นี้ก็พอ.. คืนนั้นเราก็ไม่เจอเหตุการณ์อะไรเลย

แต่ไอ้เพื่อนมีเซ้นส์มันเจอ!!!!
มันบอกว่าคืนนั้น มันนอนไม่ได้เลย มากวนทั้งคืน
เล่าไม่เล่าละกันนะว่ามันเจออะไร ....สยอง


พวกเราเลยตกลงกันว่า..ไปเอารถที่ซ่อมเสร็จแล้วจะไปหาหลวงพ่อที่วัด
เรา 5 คน ก็เลยได้สายสิญญ์ หลวงพ่อทำพิธีปัดเป่า แล้วก็เป่ารถให้ด้วย
(เพราะเรากะว่าวันเผา เราก็จะขับรถคันนี้ไปอีก)

หลวงพ่อ..ท่านบอกว่า ที่เค้าตามมา เพราะเค้ามาช่วยคุ้มครอง เห็นเป็นลูกเป็นหลาน
ถ้าเค้าไม่ตามมา รถอาจจะดับไปตั้งนานแล้ว นี่เค้าประคองรถมาให้จนถึงอู่ซ่อม
แล้วหลวงพ่อท่านอยู่ๆก็เตือนเราว่า อย่าทำตัวสนุกสนาน เฮฮา มากนัก เวลาไปงานศพ
เพราะมันไม่สำรวม และถือเป็นการไม่ให้เกียรติเจ้าที่เจ้าทาง เค้าจะโมโหเอาได้
พวกเรา 5 คน..ก็เงียบเลยทีเดียว คงไม่กล้าเฮฮากันอีกแล้ว

แต่พอถึงวันเผา..รถเราก็หลงทางอีกจนได้ หลงไปอีกจังหวัดนึงเลย
เพราะเราหาป้ายเลี้ยวไม่เจอ ทั้งๆที่ป้ายมันก็ออกจะใหญ่
เสียเวลาไปเกือบ 2 ชั่วโมง เหะๆ

แต่ในที่สุดพวกเราก็เดินทางกลับมาได้อย่างปลอดภัย แม้ว่าขากลับ
ฝนจะตก(อีกแล้ว) จนมองไม่เห็นถนน ต้องขับเกาะเส้นแบ่งกลางถนนตลอด

นี่ก็เป็นประสบการณ์เล็กๆน้อยๆ ที่เราเจอ มันคงไม่น่ากลัวอย่างเรื่องที่เพื่อนๆได้เล่าไว้
แต่เราว่าของอย่างนี้ ไม่เชื่อ..อย่าลบหลู่ดีกว่านะคะ
หลอน ...
เชื่อนะค่ะ (ส่วนตัว)
เคยเห็นอ่ะ  บ่อยด้วย ...  เห็นเรื่อย ๆ
แบบ  เห็น  เลยนะ  ไม่ใช่อะไรแวบ ๆ หรือ  เสียงไร  หรือ  กลิ่นไร  อ่ะ 

เห็นกันเป็นตัว ๆ ... 
เหมือนถ้าช่วงนั้นจูนติดมาก - น้อยแค่ไหน   ก็เจอกัน .. -*-

เพื่อน ๆ ที่อยู่ใกล้ ๆ เรายังบอกเลยว่า ..
มะค่อยอย่างอยู่ติด ๆ เรา เพราะ จะได้รับพลังแบบนี้ด้วย
คือ  จะเห็นตามไปด้วย ..  หรือไม่ก็จะเห็นใครบางคน(รึป่าว)อยู่กะเรา