แชร์เคล็ดลับดูแลผิวแบบ All Day, All Night ตามสไตล์สาวออฟฟิศ…ที่ไม่อยากหยุดสวย!
melinda_may 17 5สวัสดีพี่ๆ น้องๆ ชาวจีบันทุกคนนะคะ วันนี้เราจะมาแชร์เคล็ดลับการดูแลผิวหน้า รวมถึงสุขภาพ ให้กับใครก็ตามที่…ไม่อยากหยุดสวย! ไม่อยากเหี่ยวก่อนวัยอันควร! ถึงวัยเราจะไปถึงจุดนั้นแล้วก็ตาม 555 แต่เรื่องอายุของเรา…ขอปิดไว้เป็นความลับนิดนึงแล้วกันนะคะ แต่บอกใบ้นิดนึงว่า เราเป็นสาวออฟฟิศที่ทำงานหัวฟูทุกวัน จนไม่มีเวลาเข้าสป้งสปา หรือฟิตเนสเลย แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้หญิง ก็ต้องอย่าหยุดสวย ถึงใครจะบอกว่า “ถ้าไม่สวย…ก็หยุดเถอะ” ก็ตาม แต่เราจะไม่หยุด และจะบำรุงกันต่อไป ไปดูกันดีกว่าค่ะว่ามีอะไรที่เราอยากจะเอามาแชร์บ้าง เรียกได้ว่าเป็นการดูแลแบบ All Day, All Night กันเลยทีเดียว06.00 – 07.00 น.
ปกติเราจะตื่นนอนเวลานี้ตลอด ไม่ว่าจะเป็นวันธรรมดา วันเสาร์อาทิตย์ หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ จะมีตื่นสายบ้างก็ตอนที่เหนื่อยมากๆ ทุกครั้งที่ตื่นเราก็จะดื่มน้ำ 1 แก้ว (ดื่มไปเลยแบบไม่ต้องแปรงฟัน) และก็อาบน้ำ แต่งตัว อัพสวยปกติ ส่วนไอเท็มที่เราใช้แบบที่อยากเอามาแชร์ก็มีประมาณนี้ค่ะ Cetaphil Gentle Skin Cleanser
เราใช้โฟ มล้างหน้าตัวนี้มาหลายปีแล้วค่ะ คิดว่าคงไม่เปลี่ยนใจแล้ว เพราะมันช่วยลดสิวที่หน้าเราได้จริงๆ จำได้เลยว่าแต่ก่อนสิวผด สิวเล็กสิวน้อยเยอะมาก แต่พอใช้ตัวนี้ไปประมาณ 2-3 อาทิตย์มันก็เริ่มลดลง จนตอนนี้ใช้มาหลายปีละ สิวก็แทบไม่มีมากวนใจเลย เนื้อโฟมก็จะเหมือนสบู่เหลว ไม่มีฟอง ล้างเสร็จแล้วหน้าไม่ได้แห้งตึงจนเกินไป แต่จะรู้สึกนุ่มๆ คลีนๆแทนค่ะ
RED Concentrated Serum
ปกติไม่ค่อยได้ใช้ซีรั่มเลยค่ะ เพราะรู้สึกว่ามันแพง และคิดว่าแค่ทา Day Cream ก็น่าจะพอแล้ว แต่ก็มาค้นพบเมื่อไม่กี่เดือนนี้เองว่ามันจำเป็นกับผิวหน้าเราจริงๆ นะ เพราะถึงหน้าจะไม่ค่อยมีสิวก็จริง แต่รูขุมขนอะไรแบบนี้ก็ยังมีอยู่ และการที่เราใช้ซีรั่มก็เป็นการช่วยบำรุง และกระชับไปในตัวด้วย เราเลยเลือกเป็น RED Concentrated Serum ตัวนี้ เพราะราคาไม่แรงมาก และก็ปลื้มกับเนื้อซีรั่มมากๆ คือมันจะเหนียวเล็กๆ ลื่นๆ แต่กลายเป็นว่าซึมเร็วสุดๆ ไม่เสียเวลาสำหรับการลงครีม และรูขุมขนที่เคยกว้าง ตอนนี้ก็ดีขึ้นๆ แล้วด้วย :DRED Day Moisturiser
แต่ก่อนเราใช้ Day Cream อีกตังนึง แต่ตอนนี้เปลี่ยนมาใช้ตัวนี้พร้อมๆ กับซีรั่มค่ะ เพราะเห็นว่ามาเป็นเซต อะไรๆ ก็น่าจะดีกว่าเดิม เนื้อครีมก็ทั่วๆ ไป แต่มันจะนุ่มๆ ซึมเร็วดี ซึ่งชอบตรงนี้ พอมันใช้ร่วมกับ RED Concentrated Serum แล้วเห็นผลชัดขึ้นจริงๆ เพราะหน้าดูกระจ่างใสมาอีกสเต็ป อาจจะไม่ได้ไบรท์เว่อร์ แต่ก็เห็นความเปลี่ยนแปลงเล็กๆ Brilliant UV Shield For Face SPF 50+ PA+++
สำหรับครีมกันแดดเราเลือกเป็น Brilliant UV Shield For Face SPF 50+ PA+++ เพราะส่วนตัวเราชอบกันแดดที่เป็นเนื้อ Milk อยู่แล้ว มันจะบางเบา สบายกับผิวมากๆ ไม่ต้องกลัวว่าจะหนักหน้าเลย เพราะว่าซึมเร็วมากจริงๆ เวลาเกลี่ยก็ไม่รู้สึกว่าเป็นคราบด้วย ดีตรงนี้แหละค่ะ ส่วนเรื่องการกันแดด ก็เวิร์คมากๆ เหมือนเกิดมาเพื่อเป็นคู่ปรับกับแดดประเทศไทยอะไรอย่างนั้นเลย ติดทนนานตลอดวัน เติมหน้าได้ปกติไม่มีสะดุดค่ะ
All Day Sun Protection Foundation Powder SPF 50 PA++++
ไอเท็มชิ้นสุดท้ายที่เราใช้ในการเมคอัพก็คือแป้งพัฟตัวนี้เลยค่ะ มันจะเป็นแป้งผสมรองพื้น แถมยังกันแดดได้อีกด้วย SPF 50 PA++++ คือแค่กันแดดคิดว่าอาจจะไม่พอ บวกแป้งไปอีกหนึ่งน่าจะเอาอยู่ ก็อย่างที่รู้ๆ กันว่าแดดประเทศไทยมันเกินเรื่องมากจริงๆ เราชอบตรงที่ทาแล้วเรียบเนียน ปกปิดดี ไม่เป็นคราบระหว่างวัน และก็คุมมันเริ่ดด้วย07.00 - 08.00 น.
ทุกๆ เช้าเราจะกิน “สลัดผักทูน่า” กับ “น้ำส้มคั้นสด” เป็นประจำ แต่ถ้าวันไหนเอียนๆ ก็จะเปลี่ยนบ้างตามอารมณ์ หรืออาจจะเปลี่ยนน้ำสลัดบ้าง เปลี่ยนเป็นน้ำผลไม้อย่างอื่นบ้าง คือเราไม่ค่อยชอบกินพวกข้าวเหนียวหมูปิ้ง หรืออะไรหนักๆ ตอนเช้า เพราะมันจะทำให้เราง่วง 555555 แต่การกินสลัดก็ไม่ใช่ว่าจะไม่อิ่มนะ ถือว่าอิ่มพอสมควรเลย กำลังสบายท้อง แถมขับถ่ายสะดวกด้วย09.00 – 10.00 น.
อันนี้ก็จะเป็นช่วงเวลาในการเดินทางไปทำงานแล้ว จริงๆ ก็เดินทางปกติทั่วไป นั่งบีทีเอสยืนเบียดๆ แต่พอลงจากบีทีเอส เราชอบ “เดินไปออฟฟิศ” มากกว่านั่งวินมอเตอร์ไซด์ หรือการเรียก GrabBike เหมือนเป็นการช่วยย่อยอาหาร บริหารร่างกายไปในตัว เดินแกว่งแขนเบาๆ ไม่รู้จะช่วยลดพุงมั้ย แต่ร่างกายเหมือนได้ออกกำลังกายดี
10.00 – 12.00 น.
ออฟฟิศเราเข้า 10.00 น. ระหว่างทำงานก็ไม่มีเคล็ดลับอะไรมากเลยค่ะ แค่พยายาม “ดื่มน้ำเยอะๆ” แต่พอดื่มเยอะไป ก็จะมีปัญหาเข้าห้องน้ำบ่อย จนหัวหน้าแอบมองแรงใส่เบาๆ แต่มันจะทำให้เรารู้สึกสดชื่นตลอดเวลา และยิ่งอากาศร้อนๆ แห้งๆ แบบนี้ด้วยนะ การดื่มน้ำเยอะๆ มันจำเป็นมากจริงๆ ส่วนใครที่ชอบลืมว่าต้องดื่มน้ำ เรามี Application มาแนะนำค่ะ ชื่อว่า “Aqualert” ลองโหลดมาใช้กันดูได้ค่ะ https://itunes.apple.com/th/app/aqualert-th-rk-kexr-kar-dum-na/id952835359?l=th&mt=8
12.00 – 13.00 น.
ถึงเวลา “พักกลางวัน” แล้วค่ะ ส่วนใหญ่เมนูมื้อกลางวัน เราจะไม่ได้เน้นคลีน หรือจืดมากๆ จะเน้นพวกแกง, ต้ม, สุกี้ หรืออะไรก็ตามที่หลีกเลี่ยงน้ำมันมากที่สุด แต่ก็ต้องอิ่มด้วย! พวกของทอดของมันนี่ไม่แตะเลย ส่วนข้าวก็จะเลือกเป็นข้าวกล้องแทนข้าวขาวทั่วไป เพราะเราจะได้สารอาหารจากข้าวอย่างครบถ้วน อันนี้เราเลือกเป็น “แกงจืดไก่สับเต้าหู้สาหร่าย” กับ “ข้าวกล้อง” สั่งร้านอาหารตามสั่งเจ้าประจำ หรือถ้าใครอยากทำเองก็จัดไปเลย13.00 – 18.00 น.
ต่อจากนี้ก็เป็นเวลาในการทำงานรัวๆ ค่ะ เคล็ดลับไม่ได้มีอะไรมากเลย ก็ทำเหมือนตอน 10.00 – 12.00 น. คือพยายามดื่มน้ำเยอะๆ และไม่กินขนมจุกจิก
18.00 – 19.00 น.
จริงๆ ตอนนี้ยังเป็นเวลาทำงานอยู่ แต่ส่วนใหญ่ก็เหมือนเป็น Free Time รอเวลาแสกนนิ้ว เราก็เลยอาศัยเวลานี้ในการกิน “มื้อเย็น” ค่ะ โดยเราจะเน้นเป็นพวกผัก และโปรตีน อย่างครั้งนี้เราเลือกเป็น “สุกี้ไก่น้ำ” มา ของร้านประจำเหมือนเดิมค่ะ ได้ทั้งสุขภาพ และก็อิ่มท้อง แนะนำอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งใครๆ ก็น่าจะรู้กัน ก็คือ หลังสองทุ่มไม่ควรกินอะไรหนักๆ แล้ว เดี๋ยวหุ่นจะเผละเอา :P19.00 – 20.00 น.
กลับบ้านค่ะ ไม่มีเคล็ดลับอะไร แค่เดินไปขึ้นบีทีเอส แล้วก็ถึงบ้าน :D 20.00 – 21.00 น.
ช่วงเวลานี้เราว่าเหมาะกับการ “ออกกำลังกาย” มากๆ เลยค่ะ แต่เราจะมาแนะนำสำหรับคนที่ไม่มีเวลาไปฟิตเนสนะ นั่นก็คือ “Plank” และ “โยคะหน้าเด็ก” ทั้งสองอย่างใช้เวลารวมกันประมาณ 10 นาทีได้ แต่การ Plank เหนื่อยแบบหอบเลย ต้องพักสักระยะแล้วค่อยทำอย่างอื่นต่อ ส่วนวิธีทำก็ง่ายๆ ยังไงลองเข้าไปดูวิธีทำกันได้ตามลิงค์นี้เลยค่ะ https://goo.gl/FicFJA และ https://goo.gl/4VPwVg 21.00 – 22.00 ไอเท็มที่เราใช้ก็จะคล้ายๆ กับช่วงเช้าเลย คือมี Cetaphil Gentle Skin Cleanser, RED Concentrated Serum แต่จะมีเพิ่มมา 1 ตัวปกติ กับอีก 1 ตัวพิเศษ ไปดูกันค่ะ RED Night Moisturiser
ถ้ามี Day ก็ต้องมี Night เป็นเรื่องปกติ อันนี้เป็น RED Night Moisturiser มันมีข้อดีเหมือนกับ RED Day Moisturiser ตรงที่ซึมเร็ว ไม่ต้องมารอให้แห้งแล้วค่อยนอนเหมือนกับครีมบางตัว แค่ทาๆ เกลี่ยๆ แค่นี้ก็เรียบร้อย ตื่นมาหน้าก็บลิงค์ๆ แล้ว พอใช้เป็นประจำทุกคืน รู้สึกว่าช่วยให้หน้าขาวขึ้น เนียนๆ ใสๆ ชอบมากที่สุดดดดLaneige Water Sleeping Mask
สำหรับ Sleeping Mask ตัวนี้เราใช้แค่ “2 สัปดาห์/ 1 ครั้ง” เป็น Sleeping Mask เนื้อเนียน ทาแล้วเย็นมาก คือเราไม่จำเป็นต้องรอเวลาแล้วล้างออกนะ เพราะแค่ทาๆ เกลี่ยๆ ก็สามารถนอนได้เลย เราชอบของ Laneige เป็นพิเศษ ตรงที่มันไม่รู้สึกเหนอะหนะ เย็นสบาย และพอตื่นมาหน้าก็จะนุ่มๆ เด้งๆ และเพิ่มความกระจ่างใสด้วยนะ
ครบแล้วค่ะสำหรับเคล็ดลับดูแลผิว รวมถึงดูแลสุขภาพด้วย แบบ All Day, All Night ตามสไตล์ของเราเอง ตั้งแต่ไอเท็มที่ใช้ อาหารที่กิน ท่าที่ใช้ในการออกกำลังกาย ซึ่งทั้งหมดเราสามารถทำเองได้ และถ้าทำแบบนี้อย่างสม่ำเสมอ ก็จะมีผลที่น่าพอใจแน่นอนค่ะ แต่ถ้าใครอยากเอาไปปรับเป็นสไตล์ของตัวเองก็แล้วแต่เลยค่ะ ขอแค่ Timeline ไม่เกินไปกว่านี้เป็นอันน่ารัก ยังไงก็ขอบคุณทุกคนมากนะคะที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ ไปแล้วค่ะ :D