Brangelina Split

วินาทีนี้ หัวข้อข่าวที่เกรียวกราวกันไปทุกทั่ว จากเว็บข่าวจอมแฉ TMZ ไปจนถึงสำนักข่าวชื่อดังอย่าง CNN  เพื่อนๆจีบันย่อมพลาดไม่ได้ มาเกาะกระแสการแยกทางของคู่รักทรงอิทธิพลแห่งฮอลลีวู้ดกันเลยค่ะ

Discussion (42)

รักคู่มารียงกับกิวโยมมากกก ชอบตั้งแต่เค้าเล่นหนังด้วยกันตั้งแต่สมัยวัยรุ่นเรื่อง Love me if you dare ดีใจ๊ ดีใจ ที่เค้ายังคบกันจนถึงป่านนี้
คนฝรั่งเศสนี่ใช้วิธีการแบบติสต์ๆในการพูดนะคะ ทำนองว่าไม่พูดตรงๆ เพราะจะเสียปากเปล่าๆ แต่ถ้ามีปัญญาพอก็จะรู้ว่าฉันจะบอกอะไร
ตอนนี้ แฟนของมารียงก็ออกมาโต้ตอบเสียงจิกกัดจากชาวเน็ทว่าแม่ของลูกเป็นชู้กับแบรด พิทท์  และลูกในท้องของเธอก็ไม่ใช่ลูกของเค้าทำให้เจ้าตัวตัดสินใจออกมาปกป้องเธอค่ะ

"ปกติแล้วผมจะไม่ออกความเห็นความเห็นใดๆกับข่าวลือเกี่ยวกับพวกเรา   ผมจะไม่พูดเรื่องชีวิตส่วนตัวด้วยซ้ำ จนถึงตอนนี้ แต่กระแสจากแทบลอยด์และความงี่เง่าของพวกที่เรียกตัวเองว่าผู้สื่อข่าวและพวกนักเลงคีย์บอร์ดนั้นทำให้ผมต้องออกมาพูดจากใจที่ทั้งรัก นับถือ ภูมิใจ ยกย่องชื่นชมในตัวมาริยงที่ยังแข็งแกร่ง วางตัวได้อย่างชาญฉลาดท่ามกลางการกล่าวหาที่โง่เขลาเหล่านี้ ผมคิดว่าเราควรให้ความสำคัญกับเรื่องสำคัญจริงๆ และมันควรจะปล่อยผ่านกันไปได้แล้ว มันอาจจะยากสำหรับบางคน  แต่ผมอยากจะเห็นอะไรในด้านดีๆ เหมือนอย่างที่มาริยงบอกไว้ ขอให้พวกคุณหูตาสว่าง ทำอะไรที่สร้างสรรค์มากกว่าจะมาจมปลักกับการเผยแพร่เรื่องแย่ๆแบบนี้ออกไปไม่หยุด



คือเราลองไปดูตามสื่ออเมริกันอย่างเวนดี้ วิลเลียมส์หรือสื่อออนไลน์อื่นๆแล้วค่ะ   ทางฝั่งอเมริกันนั้นต่างหาว่ามาริยงยังไงก็น่าสงสัย เพราะไม่ได้"ปฏิเสธ"แบบตรงๆว่าไม่มีอะไรกับแบรด  แล้วเราจึงลองถามความเห็นของเพื่อนฝรั่งเศส (ไม่ได้เป็นปารีเซียงนะ)  แล้วเค้าบอกว่า นี่คือนิสัยของคนฝรั่งเศสเลยค่ะ  ทั้งแฟนกับมารียงเค้ากปฏิเสธข่าวอย่างชัดเจน  เพียงแต่ไม่ใช้คำว่า "ชั้นไม่เคยเป็นชู้กับแบรด พิทท์" หรือใช้ถ้อยคำที่ตรงไปตรงมา  เค้าขีดเส้นใต้ที่มารียงบอกว่า แฟนของเธอคือผู้ชายคนเดียวที่เธอต้องการ และที่แฟนมารียงบอกว่า เรื่องนี้เป็นการกล่าวหาที่งี่เง่าว่านี่แหละการปฏิเสธข่าวสไตล์ฝรั่งเศส เพราะความทะนงตัวที่จะไม่ยอมไปเกลือกกลั้วกับข้อกล่าวหาแม้แต่การใช้คำว่า " นอกใจ" 




มีฝรั่งอังกฤษเล่าให้ฟังว่า  สไตล์ของคนฝรั่งเศสจะเปรียบเทียบได้ประมาณนี้
หากต้องการให้คนส่งน้ำดื่มให้  
คนอเมริกันก็จะบอกว่า ช่วยส่งน้ำหน่อยได้มั้ยด้วยคำสุภาพแบบสั้นๆได้ใจความ ส่วนคนอังกฤษจะขอร้องและขอบคุณด้วยความสุภาพมากเป็นพิเศษ  
แต่คนฝรั่งเศสจะแสดงท่าทางบอกใบ้ให้รู้ว่า "อาหารใส่เกลือมากไปหน่อย รู้สึกคอแห้งขึ้นมาเลย "  
หมายถึงว่า พวกเค้าจะไม่พูดตรงๆว่าต้องการอะไร ในใจคิดอะไรอยู่  การใช้ถ้อยคำของคนฝรั่งเศสจะแตกต่างจากอเมริกันชัดเจน  ทำอะไรต้องมีชั้นเชิงไปหมด สไตล์ไว้ท่าของคนฝรั่งเศสนี้ถูกแซวจากหลายๆชาติ  บอกว่าเย่อหยิ่งวางฟอร์มแตะต้องไม่ได้  แต่ไม่ใช่ว่าจะเข้าใจได้ยากนะคะ บริบทมันก็ชัดเจน 





มันเป็นเรื่องที่พิสูจน์ไม่ได้ ไม่มีหลักฐานอะไร  แต่กลายเป็นว่ากระทบไปทั้งหมดแม้กระทั่งลูกในท้องของมารียง   การตั้งท้องน่าจะเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างมาก คิดถึงว่ามารียงอายุ 40 แล้วด้วย  กลับกลายเป็นว่าต้องมาถูกสื่อกดดัน ซึ่งเอาจริงๆนะ ถ้าเธอบอกว่า "ชั้นไม่เคยนอนกับแบรด พิทท์" คนที่ฟันธงไปแล้วว่ามีการนอกใจก็คงไม่ฟังอะไรที่เธอพูดอยู่ดี    ไม่ใช่ว่าเข้าข้างฝั่งไหน  แต่ถ้ามีหลักฐานอะไรแล้วมาปล่อยข่าวต่อเราพอจะเข้าใจ  แต่มันมีเพียงรูปเข้าฉากด้วยกันและตัวอย่างฉากรักร้อนแรง ซึ่งหนังเรื่องไหนๆพระนางก็เข้าถึงเนื้อถึงตัวกันหมด   ที่ร้ายกว่านั้นคือผลกระทบต่อลูกเธอที่กำลังลืมตาดูโลก เชื่อเหอะว่าพอลูกโตขึ้นก็จะมีสื่อเอาหน้าลูกเธอไปเทียบกับแบรดเพื่อขายข่าวเม้ามัน  ถึงจะเป็นเด็กไร้เดียงสาก็จะถูกตามล่าไม่สิ้นสุดกันทีนี้  ขนาดแฟนมารียงออกมาปกป้องแล้ว คนในเน็ตก็ยังบอกว่าเขาซื่อเกินไปมั่ง ถูกนอกใจแล้วยังรับเป็นพ่อเด็กมั่ง ...
 
FBI ยืนยันเรื่องการสืบสวนกับ People ซึ่งเราเข้าใจว่าสื่อเจ้านี้เกาะติดกับแหล่งข่าวใกล้ตัวของแบรด (People ดูจะเป็นพันธมิตรกับคนดังมากกว่าแทบลอยด์อื่นๆ คนดังมากมายเลือกที่จะเปิดเผยเรื่องส่วนตัวหรือแถลงการผ่านสื่อเจ้านี้ รวมไปถึงแบรดที่ใช้ People เป็นสื่อกลางจากเรื่องหย่าสุดช็อกนี้ด้วย)
Timeline ที่People และ TMZ รายงานจะสอดคล้องกันค่ะ 
- วันที่ 14 ครอบครัวโจลี่ -พิทท์เดินทางมาจากฝรั่งเศส
- เมื่อเริ่มบิน แบรด-แองจี้มีปากเสียงกัน
- แม็ดด็อกซ์ ลูกชายวัย 15 เข้ามาขวางเพื่อปกป้องแม่และการทะเลาะวิวาทก็เริ่มบานปลาย
- อาจจะมีการพุ่งเข้าใส่กันจนเกิดการปะทะด้วยความตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจ
- แหล่งข่าวของแบรดบอกว่าเขามีอาการมึนเมาตั้งแต่แรก แต่เหตุการณ์ไม่ได้รุนแรงถึงขั้นทำร้ายร่างกายลูกชาย
- ในเอกสารฟ้องหย่า แองจี้ระบุไว้ว่าวันต่อมาจากเหตุทะเลาะบนเครื่องบินเธอก็ตัดสินใจแยกทางกับแบรด


แหล่งข่าวของแบรดระบุว่า
- แบรดไม่เคยใช้ความรุนแรงทางร่างกายกับลูกมาก่อน
- เขามีอาการเมามาตั้งแต่เริ่มบิน
- แม็ดด็อกซ์ไม่ได้ถูกพ่อทำร้ายร่างกาย  เป็นการมีปากเสียงของพ่อลูก แต่เรื่องราวบานปลายไปใหญ่โต
-  แบรดให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในกอาสอบสวนเป็นอย่างดี

ส่วนสื่อที่อ้างว่ามีแหล่งข่าวของแองจี้บอกว่า

- เหตุการณ์นี้ไม่ใช่ครั้งแรก มันมีสิ่งที่สั่งสมจนเธอไม่ามารถรับมือมันไม่ได้ต่อไปจึงต้องขอหย่าเพื่อปกป้องลูกๆ

- ขณะที่ทะเลาะกัน แบรดไม่ได้เมา  แต่มาดื่มจนเมาภายหลัง

 
นอกเรื่อง ลูกของมาริยงน่ารักจังค่ะ