ไปกันใหญ่! Ye เปิดศึกฉะ Kim แย่งลูกสาวร่วมงานเพลงเกี่ยวข้องกับ Diddy

11 4
พฤติกรรมของแร็พเพอร์เจ้าปัญหายังปั่นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างไม่หยุดยั้ง และดูเหมือนว่า ไม่มีอะไรจะฉุดรั้งเขาไว้ได้อีกแล้ว ล่าสุด Ye ได้โชว์ความพยายามในการช็อคสังคมด้วยการปล่อยผลงานเพลงที่เกี่ยวข้องกับ Puff Diddy โดยประกาศชัดเจนว่า ได้ดึงเอา North ลูกสาววัย 11 ขวบมา featuring ในเพลงนี้ด้วย! การกระทำครั้งนี้ได้สร้างความวิตกให้กับ Kim K อย่างหนักจนต้องพยายา่มทุกวิถีทางเพื่อสกัดกั้นไม่ให้อดีตสามีใช้ชื่อของลูกมาสร้างกระแสอื้อฉาวพัวพันกับผู้ต้องหาอาชญากรรมทางเพศ 

Ye แฉแชทฉะ Kim ยื้อแย่งน้อง North

การเปิดเผยบทสนทนาที่ร้อนระอุกับอดีตภรรยาทาง X  แล้วลบออกทำให้ชาวเน็ทหลายคนหวั่นใจต่อความสุ่มเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นในวันข้างหน้า เพราะในขณะที่  Kim พยายามใช้เหตุผลเข้าเจรจาว่า เธอได้รับความเห็นชอบจาก Ye ในการจดเครื่องหมายการค้าด้วยชื่อของลูกๆตั้งแต่พวกเค้าเกิดมา และเธอจะส่งเอกสารเพื่อสกัดกั้นไม่ให้ลูกสาวปรากฏอยู่ในเพลงที่เกี่ยวข้องกับ Diddy เพราะมีเพียงผู้ปกครองคนเดียวที่จะมีสิทธิ์จัดการ แต่ความพยายามที่จะเปลี่ยนใจพ่อของลูกๆก็ไม่เป็นผล เขาฟาดฟันกลับว่า ให้แก้ไขเรื่องนี้ซะ มิเช่นนั้นเขาจะเปิดศึกกับเธอเต็มตัว และผลที่จะตามมาคือ ไม่ว่าเขาหรือเธอก็จะไม่สามารถฟื้นตัวได้จากการวิวาทแตกหักกันออกสื่อ และยังบีบคั้น Kim ต่อไปว่า หากจะให้เขายอม ก็มาฆ่ากันเลย!

reaction จากสังคมไปในทางเดียวกัน...

พฤติกรรมสวนกระแสโดยไม่แยแสต่อเรื่องบรรทัดฐานสังคมของ Ye ไม่ได้สร้างความแปลกใจให้ผู้คนอีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการแพร่กระจายความเกลียดชังต่อชาว Jewish การแสดงออกว่าเชิดชู Nazi  เหยียบย่ำภรรยาเก่าและประกาศชัดเจนว่า มีอำนาจควบคุมภรรยาใหม่ (และสร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากการเป็นต้นคิดเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ของเธอด้วยการเผยเรือนร่างในชุดกึ่งเปลือยต่อหน้าสาธารณชน) เขาเคยเรียกร้องให้ประธานาธิบดี Trump ปลดปล่อย Diddy และคงไม่น่าแปลกใจว่า วันข้างหน้า Ye จะแสดงวีรกรรมอื้อฉาวออกมาอย่างต่อเนื่อง เพราะแม้จะเจอสังคม cancel พักใหญ่ ก็ยังมีคนกลุ่มหนึ่งที่เห็นดีเห็นงามกับการกระทำของเขา และไม่เห็นถึงความเสียหายในการทำการตลาดแบบ Shock value  

การดึงเอาลูกสาววัยไร้เดียงสาเข้าไปเกี่ยวข้องกับศิลปินทรงอิทธิพลที่ถูกเจ้าหน้าที่รัฐบุกตรวจค้นบ้านกวาดเอาหลักฐานเพื่อเอาผิด ทั้งยังถูกปฏิเสธการประกันถึง 4 ครั้ง ทำให้ชาวเน็ทหลายฟาดฟันว่า Ye ล้ำเส้นศีลธรรมจรรยาถึงขนาดสร้างตราบาปให้สายเลือดแท้ๆเพื่อสร้างผลประโยชน์ให้กับตัวเอง แม้จะมีการอ้างหลัก "บุคคลต้องถูกสันนิษฐานว่าบริสุทธิ์จนกว่าพิสูจน์ได้ถึงความผิด" แต่หลายฝ่ายมั่นใจว่า Diddy ห่างไกลจากความบริสุทธิ์ดังที่เขาเอ่ยอ้าง ความมั่นใจของอัยการรัฐ รวมถึงภาพวีดีโอที่เป็นหลักฐานว่า Diddy ทำร้ายร่างกายอดีตคนรักอย่างโหดร้ายทารุณ ก็น่าจะทำให้หัวอกคนเป็นพ่อแม่ต้องสั่นคลอนและภาวนาว่า บุตรหลานของพวกเค้าจะไม่ตกเป็นเหยื่อความรุนแรงและการล่วงละเมิดเช่นนั้น และย่อมไม่ต้องการให้เด็กๆเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับผู้ต้องหาคดีทางเพศ
ในทางตรงกันข้าม เพื่อสร้างกระแสให้กับผลงาน Ye กลับไม่สนใจว่า ลูกสาวของเขาจะต้องเติบโตไปพร้อมกับการถูกผูกติดกับชื่อของผู้ต้องสงสัยเรื่องล่วงละเมิดทางเพศ (โดยเฉพาะข้อกล่าวหาเรื่องกระทำชำเราผู้เยาว์)
ชาวเน็ทหลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เข้าใจถึงหัวอก Kim ที่พยายามสกัดกั้นความพยายามของอดีตสามีผู้อื้อฉาวเพื่อปกป้องลูกของเธอจากมลทินนี้ และยังแสดงความหวังว่า Kim จะเดินหน้าเพื่อครอบครองสิทธิ์เลี้ยงดูบุตรไว้ฝ่ายเดียว เพื่อปิดกั้นไม่ให้ Ye ชักนำลูกทั้งสี่คนไปในทางเสื่อมเสีย แม้ที่ผ่านมา Kim จะแสดงท่าทีประนีประนอมในการเลี้ยงดูลูกกับอดีตสามีมาตลอด แม้ว่าเธอจะถูกด้อยค่าและประจานออกสื่อถึงขนาดไหน แต่เมื่อต้องร่วมกิจกรรมพร้อมหน้าพ่อแม่ลูก ก็พยายามรักษาท่าทีที่ปรองดอง ป้องกันไม่ให้เด็กๆเกิดความกระทบกระเทือนใจจากความขัดแย้งของบุพการี

แต่ดูเหมือนว่า ความพยายามของ Kim เพื่อรักษาเส้นทาง co-parenting ให้ปราศจากความ toxic จะต้องพบกับอุปสรรคหนักหน่วง เพราะเด็กๆเริ่มเติบโตจนสามารถเข้าถึง social media และน่าจะรับรู้วีรกรรมอื้อฉาวของพ่อของพวกเค้ากันแล้ว และดูจะเป็นภาระหน้าที่อันน่าหนักใจของ Kim ที่จะชี้แจงให้ลูกๆเข้าใจในสถานการณ์ ทั้งยังต้องกล้ำกลืนฝืนทน ไม่พยายามไม่โต้ตอบยามที่่ Ye แผลงฤทธิ์ฟาดฟันเธอทาง social media 

 

สื่อดังรายงาน Diddy ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่า ถูกYe อัดเสียงสนทนาทางโทรศัพท์เพื่อใช้ประกอบผลงานเพลงใหม่



แหล่งข่าววงในฝ่าย Diddy ได้กระซิบบอก The New York Post ว่า เสียงสนทนาในเพลงดังกล่าวเป็นของจริง ไม่ได้ใช้ AI สร้างขึ้นมา และ Diddy ไม่ได้รับรู้ถึงการอัดเสียงสนทนาที่ Ye นำมาเรียบเรียงเป็นบทเพลง เขาคิดแต่เพียงว่า อีกฝ่ายโทรมาไถ่ถามด้วยความเป็นห่วงตามประสาเพื่อนฝูง และมองว่า ความจริงแล้ว Ye จงใจจะยั่วยุเพื่อสร้างความขัดแย้งกับอดีตภรรยา แต่เขากลับต้องรับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ว่า ฝ่ายอัยการอาจจะนำคำพูดของ Diddy มาโจมตีเขาในการไต่สวนที่ศาลก็เป็นได้ เพราะไม่เพียงแต่ Diddy จะให้กำลังใจ Ye ให้หวนคืนความสำเร็จจากการแสดงดนตรี เขายังเตือนให้เพื่อนแร็พเพอร์ระมัดระวังตัว เพราะมีหลายคนที่จ้องจะทำลายพวกเค้า

"พวกมันทำอะไรไม่ได้หรอก และพวกมันจะไม่ทำ เพราะฉันจะเอาชนะเรื่องนี้ไปให้ได้และจะไปอยู่เคียงข้างนายอีกครั้ง" เสียง Diddy ในเทปได้ให้ความมั่นใจกับ Ye

Ye ไม่ได้อัดเสียงสนทนาทางโทรศัพท์เป็นครั้งแรก  เขาเคยทำเรื่องแบบเดียวกันกับ Taylor Swift และฝ่าย Kim ก็เป็นฝ่ายสนับสนุนด้วยการปล่อยคลิปเสียงบางส่วนเพื่อหักหน้าคู่อริซุปตาร์จนบรรดา Swities สาปส่งมาแล้ว 


ลือหนัก - Ye ด่าลูกๆของ Jay Z  และ Beyonce อย่างหยาบคายจนอีกฝ่ายอาจจะจัดการโต้กลับด้วยกฎหมาย

Ye ได้ระเบิดความแค้นใจต่อ Jay Z อีกครั้งจนทำหน้าหลายครต้องส่ายหน้า เพราะเขาล้ำเส้นด้วยการเหยียดหยามลูกแฝดแห่งตระกูล Carter อย่างร้ายกาจหยาบคาย แม้จะถูกกดดันให้ลบโพสต์ออก เขายังเผยถึงความผูกใจเจ็บเนิ่นนานหลายปีที่เกิดขึ้นเพราะ Jay-Z และภรรยาซุปตาร์ไม่ตอบรับคำเชิญเข้าร่วมพิธีวิวาห์ของเขาและ Kim และยังเลือก Kendrick Lamar เพื่อการแสดงช่วงพักครึ่งในการแข่งขัน Super Bowl หนำซ้ำยังไม่เชิญพวกเค้าให้เข้าร่วมกิจกรรมใดๆเลย ทั้งๆที่ Jay Z และ Beyonce ควรจะใช้อิทธิลสนับสนุนให้ลูกๆของเขานำเสนอวัฒนธรรมของตัวเอง ไม่ใช่ปล่อยให้ครอบครัว Kardashian เล่นงานเขา เขาจึงขอสาปส่งเพราะในเวลาที่เขาต้องการความช่วยเหลือจากสามีภรรยาคู่นี้กลับถูกเมินเฉย

ชาวเน็ทจำนวนหนึ่งมองว่า การปล่อยระเบิดทาง social media ของ Ye ที่เกิดขึ้นซ้ำซากเป็นสิ่งที่ยืนยันอาการหลอกตัวเองของ Ye เมื่อพิจารณาพฤติกรรมปลุกปั่นให้เกิดความเกลียดชังชาวยิวและอีกสารพัดเรื่องฉาวนั้นทำให้แทบจะไม่เห็นความเป็นไปได้ที่เขาจะได้แสดงที่ Super Bowl  ความเคียดแค้นที่ถูกคนเคยสนิทตัดขาดได้เบียดบังความรู้สึกผิดชอบชั่วดีจนต้องหันมาทำร้ายเด็กๆ 

สามีภรรยา Carter ยังวางท่าทีสงบนิ่งต่อพฤติกรรมน่าสะพรึงของ Ye แต่ Tina Knowles ผู้เป็นยายของน้องแฝดไม่สามารถเฉยได้ไหว เธอโพสต์โดยไม่ระบุชื่อฝ่ายใดว่า

"มันเป็นเรื่องยากเย็นที่จะคิดบวกและวางตัวให้มีระดับในการเผชิญหน้ากับความโง่เขลาและชั่วร้าย แต่ฉันรู้ว่า จะไม่มีอาวุธประหัตประหารใดๆที่จะทำร้ายครอบครัวและตัวได้ นี่ไม่ใช่ศึกของฉัน แต่พระเจ้าจะคอยดูแลเอง"

สื่อดังรายงานว่า Jay Z และ Beyonce ไม่มีทางจะปล่อยวางให้ Ye เหยียดหยามลูกๆของพวกเค้าด้วยถ้อยคำหยาบคาย พวกเค้ากำลังหารือว่า จะจัดการกับสถานการณ์นี้อย่างเป็นส่วนตัวหรือใช้กฎหมายเข้าช่วย




การเปิดตัวอัลบั้ม Bully ของ Ye กำลังตกเป็นที่จับตามองจากสังคม และจุดประเด็นคำถามจากหลายฝ่ายว่า  หรือผู้คนจะปล่อยให้เขากอบโกยความสำเร็จจากการใช้วิธีแพร่กระจายความเกลียดชังเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ?


candy

candy

ติดตาม Mouth On The Web แล้วอย่าลืม Mouth On The Face นะคะ ^ ^

FULL PROFILE

Comment

เขียนความเห็นได้เลยจ้า..

Recent comments ความคิดเห็นล่าสุด