November HAUL!

21 8

     สวัสดีเพื่อน ๆ ชาวจีบันทุกคนค่ะ วันนี้เราจะมา Haul กันเล็กๆ กับของที่ซื้อมาในช่วงนี้นะคะ เนื่องจากช่วงนี้ติดภารกิจในการทำงานและการสอบ จึงขอยังไม่รีวิวลงลึกแบบจริงจังนะคะ เอาเป็นพรีวิว ให้สาว ๆ ได้ส่องเพื่อเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจซื้อกันไปก่อนค่ะ ถ้าอยากได้รีวิวลงลึกตัวไหน  คอมเม้นต์บอกเค้าได้เลยค่ะ

     

     เรามาดูภาพหมู่รวม ๆ กันเลยค่ะ ซึ่งของในนี้ส่วนใหญ่ได้มาจากร้าน Sephora เนื่องจากเค้าเพิ่งมี Black card sale ไป เราก็กลัวจะเสียสิทธิ์ เลยไปสอยมาซะเยอะค่ะ ส่วนอย่างอื่นจากช้อปอื่น ๆ ก็มีค่ะ ติดตามชมกันได้โล้ยยย

   มาเริ่มกันที่งานผิวก่อนค่ะ เจ้าตัวนี้คือ Becca Ever-matte Poreless Priming Perfector เป็น primer ลงก่อนแต่งหน้าค่ะ ตัวนี้โด่งดังมาก และขายดีมากค่ะ ในช้อป Sephora ของหมดตลอดเลยค่ะ พอมีของเลยรีบสอยมา ราคา 1,650 บาท ปริมาณ 40 ml.

     ตัวต่อมาคือ Urban Decay All Nighter Liquid Foundation รองพื้นตัวใหม่ล่าสุดจาก Urban Decay ค่ะ เจ้าตัวนี้ลองใช้แล้วให้ความรู้สึกเป็นรองพื้นเนื้อแมต ปกปิดได้ดี หน้าใสเนียบกริ๊บ ติดทนแต่ไม่หนักหน้า ไม่หนาค่ะ ราคา 1,700 บาท ปริมาณ 30 ml.

     ตัวต่อมาเราก็ยังคงอยู่กันที่งานผิวค่ะ เจ้าตัวนี้ชื่อ Esstée Lauder Double Wear Maximum Cover อันนี้คือรองพื้นที่เราตั้งใจจะซื้ออยู่นานมากค่ะ เพราะปกติใช้เจ้าตัวขวดแก้วอยู่แล้ว ก็รู้สึกรักเจ้าตัวขวดแก้วค่ะเพราะว่าคุมมันได้ดี แต่ยังรู้สึกว่าไม่ได้ปกปิดมากเท่าที่อยากได้ คือเราต้องการรองพื้นที่กริ๊บนิดนึงไว้ทาออกงานได้ค่ะ จึงมาเจอเจ้าตัวนี้ ซึ่งเค้าบอกว่าเจ้าตัวนี้จะทำการปกปิดขั้น Maximum เลย และพอได้ลองเนื้อผลิตภัณฑ์ก็รู้สึกชอบและรักมากเพราะผลิตภัณฑ์ค่อนข้างที่จะมีลักษณะเป็นเนื้อมูส คือลื่น ๆ ฟู ๆและเกลียง่ายมากค่ะ ซึ่งเค้าก็เคลมว่าสามารถใช้กับตัวได้ด้วย แต่เรายังไม่เคยลองนะคะ เลยยังไม่สามรถรีวิวอะไรนอกเหนือนี้ได้ แหะๆ ><'  ราคา 1,450 บาท ปริมาณ 30 ml.

และมาถึงรองพื้นตัวสุดท้าย จาก Drugstore ค่ะ นั่นคือ Maybelline New york รุ่น Fit me! matte poreless เป็นรุ่นที่เค้าปรับปรุงสูตรใหม่ ให้คุมมันมากกว่าเดิม ซึ่งเราเคยใช้ตัวเก่าแล้วรู้สึกว่ามันไม่คุมมันเลย ออกแนวโกลว ๆ มากกว่า แต่ตัวนี้คือคุมมันและปกปิดได้ดีเลยค่ะ แต่อาจจะหาซื้อยากนิดนึงเพราะยังไม่เข้าไทยค่ะ ราคา 420 บาท ปริมาณ 30 ml.

มาต่อกันที่ Concealer กันบ้างค่ะ เจ้าตัวนี้คือ Kat Von D Lock-it Concealer เป็น Concealer ที่ Sephora Thailand เพิ่งนำเข้ามานะคะ บางช้อปก็ยังไม่เข้า เราชอบตัวนี้เพราะแพจเกจค่ะ มันใช้ง่ายและไม่ทำให้ผลิตภัณฑ์ข้างในสกปรก ซึ่งหลังจากได้ลองแล้ว รู้สึกว่าผลิตภัณฑ์มีลักษณะคล้ายเนื้อมูส คือลื่นและเกลี่ยง่ายและติดทน สำหรับการปกปิดอาจจะไม่ได้ดีมากนักสำหรับพวกสิวหรือรอยสิว แต่สำหรับใต้ตาถือว่าโอเคเลยค่ะ เราซื้อมา 2 เบอร์ สำหรับผิวหน้า และใต้ตา แต่ถ้าใครกำลังมองหา Concealer เพื่อปกปิดพวกรอยสิวเราแนะนำว่าให้ข้ามตัวนี้ไปค่ะ ราคา 1,100 บาท ปริมาณ 17 ml.

Concealer ตัวต่อมานี้ เราคิดว่าเป็นที่รู้จักกันดีของสาวๆ กันอยู่แล้ว เพราะชื่อเสียงนางโด่งดังเลื่องชื่อเหมือนกันค่ะ นั่นคือ Nars Radiant Creamy Concealer ตัวนี้ปกปิดได้ดีค่ะ หากใครมองหา Concealer เนื้อครีมที่ใช้ปกปิดข้อบกพร่องต่าง ๆ บนใบหน้า เจ้าตัวนี้ตอบโจทย์มาก ๆ เลยค่ะ แต่เราไม่ค่อยปลื้มเรื่องแพคเกจ แต่ถ้าเป็นคุณภาพถือว่าดีมาก ๆ เลยค่ะ ติดทน ปกปิด ใช้ได้ทั้งใต้ตาและรอยสิวค่ะ ราคา 1,250 บาท ปริมาณ 6 ml.

มาต่อกันที่งานแป้งกันบ้างค่ะ อันนี้คือ Covermark Finishing Powder 5 JQ เจ้าตัวนี้เป็นแป้งฝุ่นใช้ set หลังจากลงรองพื้นค่ะ ตัวนี้คุมมันปานกลางนะคะ ไม่ทำให้มันเพิ่ม เนื้อเนียนใช้ได้เลยค่ะ ตัวนี้เราได้มารีวิวจากแบรนด์นะคะ ทำรีวิวต่างหากไว้ในบล็อค แต่ใช้แล้วชอบจริง เลยเอามา Haul ซะหน่อยค่ะ ราคา 250 บาท ปริมาณ 30 g.

ทาด๊าาา และนี่คือคนสำคัญของ Haul นี้เลยค่ะ คือเรากรี๊ดมาก ตัดสินใจซื้อเร็วมาก เพราะนางเป็น limited ด้วย เจ้าตัวนี้คือ Becca X Jaclyn hill champagne collection face palette เป็นพาเล็ตที่รวมบลัช 3 สี และ ไฮไลต์อีก 2 สี นั่นคือสี Rosé Spritz, Amaretto, Pamplemousse และสีไฮไลต์เป็นสีที่ขายดี 1 สีคือสี champagne pop และสีใหม่คือสี prosecco pop ส่วนบลัชสีสวยทุกสีค่ะ ติดทนด้วย ส่วนเรื่องไฮไลต์ของ Becca นี่ไม่ต้องพูดถึง นางปังเต็มพลังอยู่แล้ว ปัดนิดเดียว เด้งไปถึงปากซอยค่ะ 5555  ราคา 2,450 บาท ปริมาณ 20.4 g.

ต่อกันที่งานปากค่ะ อันนี้คือ Lipstick อันเลอค่า จาก Tom Ford ค่ะ คุณภาพคงเป็นที่รู้จักกันอยู่แล้ว ว่าสีแน่นติดทนขนาดไหน แต่ราคาแอบโหดนิดนึง แต่ในชีวิตมันต้องมีนางสักแท่งค่ะ5555 อันนี้คือสี Hush Hush ค่ะ เป็นสีชมพูที่ติ่งส้มเล็ก ๆ ซึ่งเราเป็นคนชอบสีโทนนี้อยู่แล้ว ปลื้มมาก ราคา 1,900 บาท ปริมาณ 3 g.

งานปากตัวต่อมา คือ Kat Von D Lip matte เป็นลิปแมตไซต์เล็ก ที่มาคู่กันค่ะ สีน่ารักมาก จะทาเดี่ยวๆก็ได้ ทาคู่กันแบบ ombré คือทาสีเข้มขอบปาก และทาสีอ่อนข้างใน ก็เก๋ไปอีกแบบค่ะ ราคา 800 บาท ปริมาณ 3x2 ml.

ปิดท้ายงานปากกันด้วย ลิปมันเปลี่ยนสีจาก Kailyumei Lipstick Bright Surplus จุดเด่นคือนางเป็นลิปที่มีดอกไม้และทองคำเปลวอยู่ข้างใน ซึ่งสวยงามมากค่ะ กลิ่นหอม เค้ามีสีให้เลือก ทาแล้วเปลี่ยนไปเป็นสีนั้นๆเลย เป็นสีระเรื่อๆ ดูสดใส เหมาะกับวัยเรียนมาก ๆ ค่ะ แต่อาจจะหาซื้อยากกันซักหน่อย ต้องพรีตามร้านค่ะ ราคา 390 บาท ปริมาณ 3.8 g.

ปิดท้ายการ Haul ด้วย สีทาเล็บจาก Etude ค่ะ หลังจากเค้ากลับมาเปิดช้อปในเมืองไทยอีกครั้ง มีของดึงดูดเงินในกระเป๋าเยอะอยู่พอสมควรเลยค่ะ ซึ่งสีทาเล็บรุ่นนี้เค้าทำมาได้ดีมากๆ คือทาง่าย แห้งเร็ว และที่สำคัญติดทนค่ะ เราทาแบบไม่ทา top coat อยู่ได้ประมาณ 3 วัน ซึ่งถือว่าค่อนข้างนาน สำหรับยาทาเล็บยี่ห้อเกาหลีที่ราคาเท่านี้ค่ะ อันนี้เราซื้อเองส่วนนึงและได้มาเป็นของขวัญอีกส่วนหนึ่ง สีที่ร้านเยอะมากค่ะ ตาลาย สวยทุกสีเลย ราคา 85-135 บาท ปริมาณ ml.และขวดที่เห็บลับๆ สีฟ้า ๆ คือยาล้างเล็บค่ะ กลิ่นหอมมาก และล้างออกง่ายค่ะ เค้ามี 2 สูตร คือ 1. สีชมพู จะอ่อนโยน 2. สีฟ้า สำหรับล้างพวกกลิตเตอร์ค่ะ ราคา 65 บาท ปริมาณ  100 ml.

จบไปแล้วนะคะสำหรับ Haul เล็กๆ Haul แรกของเรา สาว ๆ มีอะไรแนะนำเค้าก็ comment บอกได้เลยนะคะ สำหรับวันนี้ขอบคุณที่ตามอ่าน ตามส่องกันน้าาา หวังว่าจะถูกใจกันนะคะ วันนี้ไปแล้ว บ๊ายบายย


jellicious

jellicious

FULL PROFILE