แอ่วเหนือ นอนเต๊นท์ ขี่ช้าง รับฤดูหนาว By Ruk Sherene

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ พบกันอีกแล้วกับรัคชีรีน วันนี้ไม่ได้จะมาสอน How to แต่งหน้าแต่อย่างใดแต่จะมาขอแชร์ประสบการณ์ ตะลอนไปเที่ยวเชียงใหม่แบบสามสาวกับที่พักสุดชิค CAMP Chiangmai และกิจกรรมต่างๆที่น่าสนใจ จะเป็นยังไงบ้างตามมาดูกันเลย

สำหรับในทริปนี้รัคและเพื่อนๆ อีกสองคนได้เตรียมแพลนแบบฉบับเร่งด่วนเพราะเบื่ออากาศร้อนเหลือเกิน อยากไปตั้งแคมป์ผิงไฟ ชิวๆกลางป่าแต่เอ๊ จะให้ไปตั้งแคมป์กันเองคงไม่รอด 5555555555 search หาในเน็ตมีที่พักที่น่าสนใจอยู่ที่นึงราคาไม่แพงสบายๆเราเลยจัดสิครับพี่น้องครับ ไปลุยกัยเลยทำการจองห้องพักไปสองห้อง เพราะพี่ชายของเพื่อนจะตามมาสมทบห้องที่เลือกตอนแรกชั่งใจมากว่าจะเอาแบบไหนดี มันมีห้องอยู่ 3 แบบ1) twin เป็นเตียง2เตียงเล็ก อยู่ใน 1 เต้นท์ ราคา 1,550 บาท พักได้ 2 คน2) double เป็นเตียงใหญ่1 เตียงอยู่ใน1 เต้นท์ ราคาเท่ากัน 1,550 บาท พักได้ 2 คน3) family อันนี้สำหรับครอบครัว ได้ประมาณ 3 คนค่ะ ราคา 1,950 บาทรัคได้ทำการจองไป 2 ห้อง เป็น twin และ double จองใน facebook พิมพ์ว่า CAMP Chiang Maiมันก็จะขึ้นมาให้เห็นเลย นอกจากนี้ก็สามารถจองใน agoda หรือ booking ก็ได้ แต่เท่าที่สังเกตส่วนใหญ่ที่มี promotion จะมีการลดให้เฉพาะใน facebook นะคะ

จองเสร็จก็เดินทาง อิๆ พวกรัคขับรถไปเองส่วนตัวค่ะสถานที่ตั้งอยู่ที่ บ้านแม่ในพัฒนา ต.แม่แรม อ.แม่ริม เทศบาลนครเชียงใหม่หรือใครใช้ Google Map ใน Page facebook ก็มีแชร์เอาไว้น่ะ ขับตามได้เลยโดยพอเราถึงทางแยกสะเมิง ให้เลี้ยวซ้าย เข้ามาประมาณ 6 กิโลเมตรและเลี้ยวเข้าซอยบ้านป่าม่วง ผ่านหน้าวัดอัมพวัน ตามป้าย CAMP Chaing Mai มาแต่ป้ายจะค่อนข้างเล็กนะคะ ค่อยๆดู ใครขับรถกลางคืนต้องสังเกตดีๆตรงเข้ามาจะสังเกตเห็นซอยก่อนถึง At NaTa Chiangmai Chic Viewให้เลี้ยวขวาและตรงเข้ามาก็จะเจอ CAMP Chaing Mai ค่าาาา

ครั้งแรกที่เห็น โอ๊ยคุณพระ น่ารักมากค่ะแม่คุณ ไฟสลัวๆเรียงกันเป็นเส้น มีแคมป์กองไฟเข้ามาด้านขวามือให้เช็คอินก่อน บรรยากาศค่อนข้างเป็นกันเอง ชิวสุดๆ หันมองไปที่ส่วนกลางมีดนตรี ฉายเหมือนอารมณ์หนังสมัยก่อน มีโต๊ะเก้าอี้สำหรับทานอาหารเย็น ปิ๊งย่างตามใจชอบพอเช็คอินเสร็จ เค้าจะให้กุญแจล้อคเต้น มีไฟฉายจิ๋วให้ด้วย เผื่อตอนกลางคืนอยากเข้าห้องน้ำเพราะห้องน้ำที่มีเป็นห้องน้ำรวมแต่ว่าแยกชายหญิงเป็นสัดเป็นส่วนนะคะถามว่าน่ากลัวมั้ย ตอบได้เต็มปากว่าไม่น่ากลัวเลยคือห้องน้ำมันไม่ได้ไกลเต๊นท์ที่เรานอนอ่ะคะ เล่าไปยาวกลับมาเช็คอินก่อนนะ 555555 รับกุญแจเสร็จก็ไปชมห้องกันเล๊ย

เป็นไงละห้องน่ารักละเส๊ 5555555 รัคกับเพื่อนนนี่ฟินสุดๆกับบรรยากาศ จึงทำการถ่ายรูปเล่นตามประสาคนไม่เคยนอนเต๊นท์ เชิญชมภาพตามอัธยาศัยค่ะ 55555 รั่วๆก็ว่ากันไป

พอขี้เห่อห้องเสร็จแล้วก็หิวสิค่ะ รออะไรรีบวิ่งไปซื้อ ของกินเร็วพลัน5555ที่นี่จะทานแบบเป็นปิ้งย่าง ทางรีสอร์ทอนุญาต ให้นำเครื่องดื่มและอาหารเข้ามาปิ้งกินกันเองได้ตามสบายเลยค่ะ แต่ถ้าใครที่ไม่ได้เตรียมตัวมากมายแบบพวกรัคก็สามารถซื้อทานจากรีสอร์ทได้ ก็จะมีเป็นพวกหมูบาบีคิว ไก่หมัก ไก่บาบีคิว ปูอัดเสียบไม้ เห็ดเสียบไม้ มีมันขายด้วย ไว้สำหรับเอาไปทำมันปิ้ง ราคาไม่แพงค่ะ ส่วนเครื่องดื่มก็มีขายพวกโค้ก แฟนต้า มะนาวโซดา แต่น้ำเปล่าไม่ขาย ให้ฟรีตลอดการพัก จะกินกี่ขวดก็ได้ใจดีสุดดดดด 

ตอนนั่งปิ้งก็เม้ามอย ฟังเพลง โอ้ยคือบรรยากาศชิวมาก ได้ยินเสียงจิ้งหรีดเบาๆ ข้าวมีให้ฟรีนะคะสามารถไปตักทานได้ตลอด พวกน้ำจิ้มก็มีเยอะอยู่

หลังจากทานเสร็จก็เค้าจะเริ่มปิดเพลง ประมาณ 4ทุ่มค่ะ ลืมบอกว่าอาหารเย็นเริ่มประมาณ 6โมงเย็นน้า พวกรัคก็แบบรอมันปิ้งให้มันสุกไง คือมีความไม่รู้เรื่องเอามันปิ้งไปวางไว้บนที่ปิ้งบาบีคิว ถึงว่าปิ้งไป 3 ชมก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะสุก ที่ไหนได้เค้าให้เอาไปใส่ในถ่านอุ่นๆมันถึงจะสุกค่ะท่านผู้โชมมม55555 ก้อเลยเอามันไปทิ้งไว้ในเถ้าถ่านและแยกย้ายกันไปอาบน้ำ

ลักษณะห้องน้ำเป็นสังกะสี แต่สะอาดและแยกเป็นสัดส่วนดีค่ะ เห็นแบบนี้มีน้ำอุ่นน่ะ ตอนแรกรัคก็กังวลกลัวจะไม่มีแต่ก็แอบมีน้ำอุ่นคือดีใจมาก ใครที่ต้องสระผมทุกวัน เค้าก็มีไดร์เป่าผมให้บริการด้วยค่ะอยู่ตรงที่แปรงฟันเลย ส่วนพวกสบู่และแชมพูทางรีสอร์ทจัดให้อยู่แล้วเต้นท์ละ 2 ที่ตามจำนวนคนค่ะ ผ้าเช็ดตัวมีให้ หมวกอาบน้ำมีให้ รองเท้าเข้าห้องน้ำมีให้ ในห้องน้ำมีทิชชู่มีสายฉีด หมดความกังวลค่ะ ณ จุดนี้ ฮ่าๆ พออาบน้ำเสร็จก็กลับเข้าไปดูมันปิ้ง สุกพอดี นั่งกินกันจนถึงเที่ยงคืน อร่อยมากกกกก

หนังท้องตึงหนังตาหย่อน เตรียมตัวนอนค่ะ อากาศเย็นวัดอุณหภูมิได้ที่ 18-20 องศา ณ วันที่ 8 ธค. หัวถึงหมอนหลับทันที สงสัยจะเม้าเยอะมีความเพลีย55555 พอตื่นเช้ามา ก็เดินถ่ายรูปนิดหน่อย (มั้ง)555555555 และก็ทานข้าว ซึ่งข้าวเช้ามีตั้งแต่ 7โมงเช้าถึงประมาณ 10โมงค่ะ จะเป็นบุฟเฟ่อาหารเช้าง่ายๆ มีพวกชา กาแฟ นม ข้าวเนียว หมูปิ้ง ไก่ทอด ไข่ลวก กล้วยน้ำว้า กล้วยหอม และส้ม อ่อ มีขนมไทยด้วย อร่อยมากๆเป็นขนมใส่ไส้ ข้าวต้มมัดจิ๋วและขนมข้าวซอยตัด

ทานอาหารเช้าเสร็จเหลือบไปเห็นโปรแกรมที่ทางรีสอร์ทจัดไว้ค่ะ เป็นกิจกรรมต่างๆมีขี่จับตั๊กแตน เอ้ยไม่ใช่!!!! ขี่ช้างชมธรรมชาติ/ มีไปถ่ายรูปกับเสือพร้อมกับทานอาหารกลางวันที่คุ้มเสือ และกิจกรรมผจญภัยตามฐานต่างๆประมาณ 32 ฐาน..... ซึ่งคิดว่ารัคและเพื่อนๆจะเลือกอะไรละครับ ก็เลือกขี่ช้างสิ5555555อยากได้ธรรมชาติ ป่ะเดี๋ยวพาไปดูว่าเป็นไง

ซึ่งถ้าเราซื้อแพคเกจถ้าเราจ่ายเงินค่าห้องไปแล้วเราสามารถจ่ายเพิ่มให้ทางรีสอร์ทได้เลยค่ะ แต่ว่าอาจจะต้องมีรถขับหน่อยนะเพราะต้องขับรถไปเอง ระยะทางจาก CAMP ไปขี่ข้างที่โป่งแยง ประมาณ 15 กิโลเมตร เป็นเส้นทางขึ้นดอยค่ะ เลี้ยวกันมันส์ โค้งกระจาย ฮ่าๆ 

ถึงแล้วจ้าาาาา มีน้องช้างรออยู่ น่าร้าก แกว่งงวงทักทายด้วย กวานช้างพูดเก่งมาก มีสอนภาษา

กระเหรี่ยงกับพม่าให้ด้วยนะ55555 เวลาที่ใช้ในการขี่ช้างประมาณ 1 ชม.ค่ะ ก็จะเดินไปชมทิวทัศน์ที่สวยงามและมีพาไปที่น้ำตกเล็กๆ ให้ช้างได้เล่นน้ำหน่อยๆ ส่วนเราก็สามารถขอให้หวานช้างลงไปถ่ายรูปให้เรากับน้องช้างได้ค่ะ ฮ่าๆ พอเสร็จแล้วก็สามารถซื้ออ้อยมาให้อาหารช้างได้

เป็นอันเสร็จสิ้น หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์ในการวางแผนการเดินทางให้เพื่อนๆหลายๆคน

ถ้ามีคำถามสามารถสอบถามได้ ขอบคุณสำหรับการติดตามและรับชมนะคะ บ๊ายบาย