เม้ามอยส์ เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ที่เซ็ตหน้าให้สวยปัง ทั้งวันแบบไม่ต้องเติม
Mikimena 10 2สวัสดีค่ะ วันนี้จะมาเม้ามอยส์เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ ที่เซ็ตหน้าให้สวยปัง ทั้งวัน แบบไม่ต้องเติมแค่ซับหน้าเบาๆ ก็เป๊ะได้ ขอบอกก่อนว่าจริงๆ คสอ. มีหลายตัวมาก แต่ที่จะเอามาเม้ามอยส์กันคือตัวที่ใช้อยู่ในช่วงนี้ค่ะ ไปดูกันเลยค่ะ ว่าช่วงนี้ใช้อะไรอยู่ แล้วเลิฟมากๆ
หลังจากใช้สกินแคร์แล้ว ประเดิมด้วยตัวแรกเลย คือ COLLECTION PRIMED ANDREADY SMOOTHING MAKE UP PRIMER ตัวนี้เป็นไพรเมอร์ที่ถือว่าไม่แพงมากเพราะมาด้วยขนาดไม่ใหญ่ ราคาอยู่ที่ 300 - 500 บาท แล้วแต่ช่วงโปรซื้อนานแล้วจำราคาตอนซื้อไม่ได้ค่ะ ตัวนี้ช่วยให้รองพื้นติดทนดีค่ะ เป็นเนื้อซิลิโคนใสเกลี่ยง่าย หน้ามันน้อยลง แต่ส่วนตัวว่าพรางรูขุมขนไม่ค่อยดีเท่าไร แต่โดยรวมถือว่าช่วยให้คสอ. ติดทนได้ดีเลยค่ะ
ต่อมาเป็นรองพื้น ตอนนี้สลับกันใช้อยู่ คือ Estee Lauder Double Wear Stay in Place (1750 บาท) กับL'oreal True match liquid foundation (449 บาท)
เอสเต้ เนื้อรองพื้นค่อนข้างหนัก แต่ทาแล้วแห้งเร็ว ต้องเกลี่ยดีๆค่ะ ค่อยๆทาที่ละครั้ง อย่าแต้มเป็นจุด เป็นรองพื้นที่ติดทนมาก อยู่ได้ทั้งวันแบบไม่ต้องใช้ไพรเมอร์ ส่วนตัวจะเกลี่ยบางๆ และทาเพิ่มบริเวณที่มีรอยหรือสีผิวไม่สม่ำเสมอค่ะ ปกปิดดีมาก เคยใช้รองพื้นมาหลายตัว แต่ตัวนี้ต้องยกนิ้วให้เพราะทำให้ไม่เคยเปลี่ยนใจไปใช้ตัวอื่นจนลืมเอสเต้เลยค่ะ
ตัวต่อมาคือลอริอัล ตัวนี้เนื้อรองพื้นเบาดีค่ะ ด้วยความเป็นลิขวิดทำให้เกลี่ยง่าย แห้งเร็วแต่ช้ากว่าเอสเต้ สามารถแต้มทั่วหน้าไว้ได้ เนื้อเบาสบายหน้า การปกปิดปานกลาง เอ้อ แอบมีชิมเมอร์เบาๆ แต่เนื้อแมทนะ ตัวนี้ติดทนอยู่ระดับนึง เวลาใช้เราจะใช้ไพรเมอร์ด้วย แต่บางทีเราจะใช้ตัวนี้ทั้งหน้า และใช้เอเต้เพิ่มตรงบริเวณที่ต้องการปกปิด
รองพื้นทั้งคู่ ถ้าเราไม่ได้เซ็ตด้วยน้ำแร่หรือเซ็ตติ้งสเปรย์ จะมีความมันบริเวณทีโซนอย่างเห็นได้ชัด แต่ว่าไม่ได้เป็นคราบหรือหลุดแต่อย่างใด อาศัยการซับหน้าก็เป๊ะได้ต่อจ้า ราคาต่างกันมาก ลองพิจารณาดูค่ะ ว่าอยากได้แบบไหน
มาต่อกันด้วยแป้ง ตอนนี้มี 2 ตัวที่ใช้สลับกัน คือ Laura Mercier Loose Setting Powder รุ่น Translucent (1590 บาท) กับ 17 Super Fine Foundation Powder Oil Control (200กว่าบาทต่อตลับ แต่ตอนซื้อ 199 บาท 1 แถม 1)
ลอร่าเป็นแป้งที่ซื้อตามบิวตี้บล็อกเกอร์เลยค่ะ อยากรู้อยากลอง ใช้แล้วก็ถือว่าโอเครเลยนะ แต่ไม่ได้เห็นผลที่เค้าบอกต่อกันมาว่า พลางรูขุมขน และคุมมันได้ดีมากๆ ความเห็นส่วนตัว คือ สีรองพื้นไม่เปลี่ยน หน้าก็ยังมันอยู่ แต่อาจจะไม่มันเท่าแป้งตัวอื่น เนื้อแป้งละเอียดดีค่ะ ไม่หนักหน้า เบาสบาย
อีกตัวคือ 17 ตัวนี้เป็นแป้งพับ เราใช้ทั้ง2สีที่ได้มาเลยค่ะ เนื้อแป้งถือว่าโอเครเลย ถ้าใช้พัพที่ให้มาจะปกปิดได้แน่น หน้าเนียนดี อารมณ์ให้การปกปิดดีกว่าพับฟูๆ แต่ก็ใช้แล้วแต่ความต้องการนะคะ วันไหนที่อยากได้เบาๆก็พัพที่ซื้อมากต่างหากค่ะ ตอนแรกบอกเลย คิดว่ามันจะไม่ได้เพราะราคาถูกและยัง 1 แถม 1 อีก พอได้ลองใช้ ติดใจค่ะ เพราะตัวนี้คุมมันได้ดีเลยทีเดียว ตอนนี้ใช้จนทั้ง 2 ตลับ เห็นพื้นตลับแป้งแล้ว ดีงามมม
ไปต่อลิปค่ะ ตอนนี้ติดใช้ Wet n Wild (120 บาท) กับ ลิปเพนซิลของ Sivanna (15 บาท) ติดทนจริงๆ แต่ใครที่ปากแห้ง ข้ามไปเลยนะคะ เพราะมันเป็นลิปแมท ขนาดทาลิปมันยังดูแมทเลยค่ะ
มาดูที่น้ำแร่ฉีดหน้า บอกก่อนว่าส่วนได้ไม่ได้ใช้ทุกวัน แต่ก่อนจะใช้เวลาต้องแต่งหน้าแน่นๆไปงาน วันปกติก็ไม่ได้ใช้ ก่อนหน้านี้เคย Cute Press Facial Mineral Water Plus Vitamin E ขวดเล็ก ร้อยกว่าบาท ถือว่าดีระดับนึง เซ็ต คสอ. ได้ ให้ความชุ่มชื่นดีค่ะ แต่ใช้หมดแล้วไม่ได้ซื้อต่อเพราะคิดว่าไม่ค่อยจำเป็นเท่าไร เพราะจากไพรเมอร์กับรองพื้นก็โอเครทั้งวันแล้ว
อีกตัวที่เพิ่งได้มา คือ Berryrose Essence Refreshing Spray ราคา 200 กว่าบาท ที่ร้าน Lashe สาขาสยาม จริงๆแล้วตัวนี้เป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า แต่อ่านมาก็สามารถใช้หลังแต่งหน้าได้ เลยใช้ทั้ง 2 แบบเลยตัวนี้ ให้ความชุ่มชื่นระดับนึงค่ะ ไม่เท่ากับคิวเพลส แต่ตัวนี้มันดีตรงที่ว่า เราใช้หลังแต่งหน้าแล้วมันทำให้หน้ามันน้อยลงจนไม่ต้องซับเลย ทำให้ผิวระหว่างวันดูดิวอี้นิดๆ ไม่มันแพล๊บ ชอบตรงนี้มาก และอีกอย่างที่ชอบคือ เราจะใช้หลังล้างหน้าก่อนนอน สังเกตได้หลังใช้คือ รูขุมขนกระชับขึ้น สังเกตจากจากเวลาแต่งหน้าเลยค่ะ เวลามีผิวแพ้หรือจ้ำแดงๆบนหน้า หรือสิวอักเสบแดงๆ หลังสเปรย์ไปก็ลดเร็ว
สำหรับตัวที่เราใช้ประจำทุกวันและอยู่ทนก็มีประมาณนี้ค่ะ ถ้าได้ตัวไหนมา ใช้แล้วติดใจจนใช้ซ้ำๆติดๆกัน จะมาเม้ามอยส์กันใหม่ค่ะ