สายเนื้อต้องมุง!! พาชิมเนื้อญี่ปุ่นกิโลละ 12,000 บาท ที่ร้าน KRBB!
fateye_slim 26 16สวัสดีค่าสาวๆ เห็นชื่อจั่วหัวก็คงอึ้งกันแล้วใช่ไหมล่ะ! ใช่ค่ะ เราได้มีโอกาสไปกินเนื้อญี่ปุ่นกิโลละเป็นหมื่นที่ร้าน KRBB มาค่ะ ซึ่งเนื้อที่ว่านี้ มีชื่อว่า "Ozaki Beef" กรี้ดดดด เป็นลาภปากยิ่งนัก อ่ะ แต่ก่อนที่จะพาไปดูเนื้อ เพื่อเป็นการไขข้อข้องใจว่านี่มันเนื้อเทพอะไร ทำไมถึงแพงกระเป๋าฉีกขนาดนี้!! เราจึงขอพาสาวๆ ไปทวนความจำกันนี้ดูกับกระทู้เรื่องเนื้อ Ozaki ที่ป้าจีนเคยเขียนไว้เมื่อไม่นานมานี้ค่าา
Ozaki Beef เนื้อวากิวระดับ Top ที่สายเนื้อจะต้องกรีดร้อง!
หรือไม่ มาอ่านย่อใจความกันตรงเน้!
สำหรับคนที่ชอบกินเนื้อคงเคยได้ยินหรือรู้จักเนื้อวากิว 和牛 หรือเนื้อญี่ปุ่น ที่มีชื่อเรียกตามท้องถิ่นเลี้ยง หรือแบรนด์ฟาร์มเช่น เนื้อ Kobe เนื้อ Matsusaka เนื้อ Kagoshima เนื้อ Hida ผ่านหูมากันบ้างเนอะ เนื้อพวกนี้จัดเป็นเนื้อคุณภาพสูงจากญี่ปุ่นมีไขมันแทรกในเนื้อเป็นลายหินอ่อน เรียกได้ว่ายิ่งลายสวยยิ่งแพง ราคาเบาๆ ที่ขายใน supermarket ก็หลักพันปลายๆ ต่อกิโลกรัมขึ้นไปนู่นล่ะ เช่นเดียวกันกับเนื้อ Ozaki ซึ่งเป็นแบรนด์เนื้อวัวญี่ปุ่นที่มีคุณภาพสูงและแพงมากจาก Ozaki Farm ที่หายากมากเพราะทั้งฟาร์มมีวัวที่เลี้ยงแบบดูแลพิเศษแค่ 1,280 ตัว และจะขายแค่วันละตัวเท่านั้น แม้แต่คนญี่ปุ่นเองก็ไม่ได้หากินได้ง่ายๆ ราคาวัวทั้งตัวก็เบาๆ แค่ประมาณตัวละล้านกว่าบาทเท่านั้นเองงงง
ที่ต้องแพงขนาดนี้ เค้ามีที่มาที่ไปนะ เพราะวัวของ Ozaki Farm นี่กินอาหารที่เค้าคิดค้นวิจัยมา 20 ปี ที่แตกต่างจากที่อื่น (ที่เล่าได้) ก็คงจะเป็นกากเบียร์ผสมกับสาหร่ายคอมบุ ธัญพืช 12 ชนิด ชาโคลจากเปลือกข้าวสาร และน้ำสะอาดจากแหล่งน้ำธรรมชาติที่มีแร่ธาตุเหมาะสม เค้าบอกว่า เนื้อวัวแต่ละแห่งรสชาติจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปัจจัยหลักคือ "น้ำ" ส่วนผสมของอาหารที่เค้าว่ามานี่มีผลต่อการย่อยของวัวและเป็นตัวแปรต่อจุดหลอมเหลวไขมัน จะทำให้เนื้อที่ได้มีสัดส่วนของไขมันพอดีไม่มีไขมันส่วนเกิน กว่าเค้าจะลงหลักปักฟาร์มนี้ได้ก็ย้ายที่มา 3 รอบอ่ะจ้า...ที่เล่ามาทั้งหมดให้เราร้องว้าวกันขนาดนี้ สนนราคาของเนื้อ Ozaki จึงเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 15,000 บาท/กก. T_T
ซึ่งเนื้อวัวที่เลี้ยงดูมาอย่างดี การจัดการแต่ละส่วนก็ต้องดีเลิศเช่นกัน เค้าจึงต้องมีคนแล่วัวที่เชี่ยวชาญมากๆ ฝึกฝนมาอย่างดีที่สุด เพื่อให้สามารถใช้เนื้อทุกส่วนของวัวได้อย่างมีประโยชน์สูงสุดนั่นเองค่ะ! :)
ร้าน KRBB ที่ Habito Mall คอมมูนิตี้มอลล์แห่งใหม่ย่านอ่อนนุช เป็นร้านเดียวในตอนนี้ที่มีเนื้อ Ozaki ให้ทานค่ะ โดยเค้าเน้นการเป็น showroom ขายเนื้อ ตาม concept "boutique butcher" ซึ่งในช่วงเดบิวท์ร้านตอนนี้ เค้ามีเนื้อสำหรับทำ yakiniku อย่างเดียวค่ะ โดยจัดเป็นเซ็ตไว้ให้แล้วเป็นเนื้อ Ozaki เน้นๆ ปริมาณ 1 กิโลกรัม
อ่ะ เดี๋ยวจะพาไปดูทั้งบรรยากาศร้าน และเจาะลึกเนื้อเซ็ตนี้กันค่ะ ซึ่งอย่างที่บอกเนอะว่าเค้าเน้นทำเป็น showroom เนื้อ เลยไม่ได้มีที่นั่งในร้านมากนัก แต่ถ้าใครอยากทานที่นี่จริงๆ ก็คิดเพิ่มหัวละ 350 บาท พร้อมมีผัก น้ำจิ้ม และเตาย่างสำหรับ yakiniku โดยเฉพาะค่า
ทำไมต้องเอามาทำเป็น yakiniku?
จริงๆ แล้วเนื้อ Ozaki แต่ละส่วนก็เอามาทำอาหารได้แตกต่างกันไป แต่ส่วนนี้ที่ทางร้านเลือกมา เค้าบอกว่าจะไม่เลี่ยน และถึงจะมีมันหนาปึ๊ก แต่ย่างแล้วจะไม่แตกกระเด็นเป๊าะแป๊ะเหมือนที่เราเคยเจอ นอกจากนั้นยังมีการหั่นแบบเฉพาะตัว ทำให้เหมาะกับการทานแบบ yakiniku หรือเนื้อย่างมากที่สุดค่า
โดย set ที่ทางร้านเตรียมไว้ให้ เป็นเนื้อวากิว slice 7 ส่วน โดยควรทานเป็นลำดับจากรสที่เบาที่สุดไปจนถึงเข้มข้นที่สุด (มันที่สุด) เพื่อเพิ่มอรรถรสในการทานค่าาาาา
อ่ะ พร้อมแล้ว ไปเริ่มกันเลย!!
ส่วนที่ 1 KARUBI
ส่วนที่ 1 คารูบิ หรือเนื้อส่วนซี่โครง (Rib Eye) มีส่วนของเนื้อและมันกระจายกันอยู่ครึ่งๆ ก็ย่างแค่พอสุก แล้วจัดการเลยค่ะ! อันนี้ น้ำจิ้มไม่ต้องเลย ใส่เกลือนิดหน่อยจบ! โอ้โหหห แค่ชิ้นแรกก็น้ำตาจะไหลในความชุ่มฉ่ำ แถมตอนย่างก็ไม่มีเป๊าะแป๊ะอย่างที่เค้าว่าจริงๆ เริ่มมาดีแบบนี้ มีลุ้นตัวอื่นๆ เลยยยยยย
ส่วนที่ 2 ZABUTON
ซาบูตง หรือสันคอส่วนบน อันนี้จะมีเนื้อมากกว่าอันแรกหน่อยค่ะ จะรู้สึกหนึบๆ กว่าอันแรกอยู่พอสมควร อันนี้เราก็เลือกทานกับเกลือเหมือนกัน เริ่ดค่ะ!!
ส่วนที่ 3 MISUJI
มิซึจิ หรือที่คนไทยเรียกว่าเนื้อใบพาย (Oyster Blade) เพราะหน้าตาเหมือนใบพายยังไงล่ะ! เนื้อส่วนนี้ได้มาจากส่วนของหัวไหล่ค่ะ ย่างแล้วก็ยังคงมีความนุ่ม ชุ่มฉ่ำดีจริงๆ
ส่วนที่ 4 KAINOMI
ไคโนมิ คือเนื้อจากส่วนปลายท้องส่วนบน (Short Rib) ติดสันใน ที่ชื่อว่าไคโนมิ เพราะ "ไค" แปลว่า "หอย" ซึ่งเนื้อส่วนนี้ชำแหละออกมาแล้ว มีหน้าตาคล้ายเปลือกหอยนั่นเอง อันนี้จะมีเนื้อให้เคี้ยวอยู่เยอะ รสชาติเริ่มข้มข้นขึ้นแล้วค่าาา
ส่วนที่ 5 SASAMI
ซาซามิ หรือท้องส่วนล่าง (Flank, Short Plate) โดยท้องวัวจะแบ่งเป็นสองส่วน ซาซามิเป็นส่วนล่าง ซึ่งดีงามมากกกก มีเทกซ์เจอร์ของเนื้อให้เคี้ยว ไม่ถึงกับละลายในปาก แต่นุ่ม และรสเนื้อมาเต็มๆ!
อ่ะ ทานเนื้อกันมาซะแน่นละ ลืมไวน์ไปได้ยังไงงงง ว่าแล้วก็เลยจัดไวน์แดงกันมาทานคู่กับเนื้อ โอ้โหหหห สวรรค์ เข้ากันสุดๆ!!
ส่วนที่ 6 KATA-ROSU
คะตะโรซึ (คะตะโรส) หรือ สันคอส่วนล่าง (Chuck Eye Roll) ก็อย่างที่เรารู้ๆ กันว่าสันคอที่มันเพียบบบบ อันนี้ย่างแล้วละมุนในปากมาก ส่วนนี้ถ้าใครรู้สึกมันเกินไป ทานกับน้ำจิ้มก็เริ่ดค่ะ
ส่วนที่ 7 NAKAOJI
เนื้อส่วนสุดท้ายที่เป็น highlight ก็คือ นากาโอจิ หรือร่องซี่โครง (Rib Finger) ส่วนนี้มันแน่นมากกกก ต้องย่างให้เกรียมหน่อย จะได้กรอบนอกนุ่มและชุ่มใน เป็นการจบคอร์สที่เด็ดมากกก กินหมดแล้ว จิบไวน์แดงตามล้างปากสักนิ้ดดดด โอ้โห น้ำตาไหลล
และนี่คือโฉมหน้าผู้พิชิตเนื้อทั้ง 4 คนค่าาา ต้องบอกก่อนว่า ทั้งเซ็ตนี้คือเนื้อวากิวหั่นและจัดมาพร้อมทาน รวมๆ แล้วหนัก 1 กิโล ซึ่งทางร้านแอบกระซิบเราว่า ทาน 4 คนน่าจะพอดีๆ ส่วนสนนราคานั้นคือ 12,000 บาทค่าาา (ปล. แอบบอกโปร ตอนที่เราไปปลายเดือน ธ.ค. มีโปรเหลือเซ็ทละ 6,000 บาท ตอนนี้ไม่รู้ว่ายังมีโปรนี้อยู่มั้ยนะ)
เดี๋ยว อย่าเพิ่งกรี้ด!!
ที่บอกว่าทาน 4 คน แต่เอาเข้าจริงๆ "จุก" มากกกกค่า ไม่เคยคิดเลยว่าทานเนื้อย่างจะอิ่มขนาดนี้ นี่แบบไม่มีข้าวเสริมด้วยนะจ๊ะ จริงๆ เราเลยคิดว่าทาน 6 คนก็ยังสบายๆ ด้วยซ้ำไป
สำหรับมื้อนี้ ต้องขอขอบคุณหนึ่งใน KRBB ก็คือ B คุณบิ๊ก ที่ชวนเราไปเรียนรู้อีกขั้นของการลิ้มลองเนื้อญี่ปุ่น พร้อมความรู้แบบอัดแน่น ทำให้เราเข้าใจว่า "ของดีนั้นมีที่มาที่ไปอย่างไร และทำไมเราถึงต้องจ่ายราคานี้ ก็เพราะเค้าพิถีพิถันในการเลี้ยงวัว อีกทั้งยังมีวิธีการจัดการเนื้อที่เฉพาะตัวมากๆ"
พูดได้คำเดียวว่า อยากรู้ ต้องมาลองค่ะ
เราเองลองแล้วปลื้มมาก ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้ครอบครัวได้สัมผัสความพิเศษนี้ด้วยเหมือนกัน :)